เก็บสถิติจากอาบูดาบี
ชัยชนะของคิมี่ ไรค์โคเน่น เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในอาบูดาบีนับเป็นชัยชนะลำดับที่ 19 ของเขาในฟอร์มูล่าวัน และเป็นชัยชนะแรกของเขาหลังจากเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ 2009 ค่ะ นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้ชนะคนที่ 8 และมาจากทีมที่ 6 ในฤดูกาลนี้ โดยครั้งสุดท้ายที่มีจำนวนผู้ชนะเช่นนี้คือในปี 2003 และครั้งสุดท้ายที่มีจำนวนทีมผู้ชนะเท่านี้คือปี 1983
ขณะนี้ไรค์โคเน่นจึงชนะมาแล้วกับ 3 ทีม ได้แก่ แม็คลาเรน เฟอร์รารี่ และโลตัส เช่นเดียวกับเจนสัน บัตตัน ที่ชนะมากับทั้งฮอนด้า บรอว์น และแม็คลาเรน รวมถึงเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ก็ชนะกับทีม 3 ทีมคือ เรโนลต์ แม็คลาเรน และเฟอร์รารี่ แต่เจ้าของสถิติในเรื่องนี้เป็นของสเตอร์ลิ่ง มอสส์ เขาชนะให้กับทีมทั้งหมด 5 ทีม ตั้งแต่เมอร์เซเดส มาเซราติ แวนวอลล์ คูเปอร์ และโลตัส
สำหรับโลตัส นี่คือชัยชนะครั้งที่ 80 ของพวกเขา โดยครั้งล่าสุดที่โลตัสชนะคือดีทรอยต์ กรังด์ปรีซ์ 1987 ด้วยการขับของไอร์ตัน เซนน่า และเป็นครั้งล่าสุดของทีมจากเอนสโตนนับจากชัยชนะของอลอนโซ่ที่ญี่ปุ่นปี 2008 ในขณะยังใช้ชื่อทีมว่า "เรโนลต์" ค่ะ
จากพิตเลนถึงโพเดียม
อีกเรื่องหนึ่งที่พูดถึงมากไม่แพ้กันคือการได้ขึ้นโพเดียมของเซบาสเตียน เวทเทล หลังออกตัวจากพิตเลน โดยเขาเป็นนักขับคนแรกต่อจากยาร์โน่ ทรูลี่ ในออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ 2009 ที่สามารถทำได้เช่นนี้ ส่วนนักขับคนอื่นที่มีผลงานที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่ รูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ (แคนาดา 2005 / อันดับที่ 3) คิมี่ ไรค์โคเน่น (ออสเตรเลีย 2003 / อันดับที่ 3) ไนเจล แมนเซลล์ (ฝรั่งเศส / อันดับที่ 2) และอแลง พรอสต์ (เซาธ์แอฟริกา 1984 / อันดับที่ 2)
ในการแข่งขันที่อาบูดาบี เวทเทลขึ้นมาถึงอันดับที่ 2 ก่อนที่เขาต้องเข้าพิตครั้งสุดท้ายค่ะ โดยต้องแซงมา 21 ตำแหน่งเพื่อให้ถึงตรงนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปีที่มาเลเซีย เซอร์จิโอ เปเรซ ก็เคยไต่อันดับหลังจากตกลงไปอันดับที่ 23 ในรอบแรกๆ และขึ้นมาเป็นผู้นำอยู่ช่วงหนึ่ง
ส่วนเรื่องจำนวนของการไต่อันดับขึ้นมามากที่สุดในระหว่างการแข่งขัน สถิติเป็นของปีเตอร์ เรฟสัน โดยในรายการยูเอส กรังด์ปรีซ์ 1972 เขาตกไปอยู่อันดับที่ 31 หลังชนกับเคลย์ เรกัซโซนี่ ตอนสตาร์ท และไล่ขึ้นมาจนถึงอันดับที่ 6 แต่สุดท้ายเขาต้องออกจากการแข่งขัน อีกครั้งหนึ่งเป็นผลงานของเดมอน ฮิลล์ ในโปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ 1993 เขาจบในอันดับที่ 3 จากการออกตัวจากอันดับที่ 26 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายของกริด ในบางรอบเขาไต่ขึ้นมาถึงอันดับที่ 2 ดังนั้นเขาจึงไล่อันดับมาทั้งหมด 24 อันดับด้วยกัน คนสตาร์ทแถวหน้าหายเกลี้ยง
ในครั้งนี้ ทั้งลูอิส แฮมิลตัน และมาร์ก เว็บเบอร์ ผู้ที่ออกตัวจากตำแหน่งโพลและกริดที่ 2 ไม่จบการแข่งขัน ซึ่งนี่เป็นครั้งที่ 2 ของฤดูกาลนี้ที่นักขับที่ออกตัวจากแถวหน้าไม่จบการแข่งขันทั้งคู่ ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นที่สิงคโปร์ โดยแฮมิลตันและพาสเตอร์ มัลโดนาโด ต้องออกจากการแข่งขันไป และหากย้อนไปในปี 2000 มีคู่หน้าที่ไม่จบการแข่งขันถึง 3 สนามด้วยกัน ได้แก่ ออสเตรเลีย (มิก้า ฮัคคิเน่น และเดวิด คูลธาร์ด -- แม็คลาเรนทั้งสองคัน) บราซิล (มิก้า ฮัคคิเน่น และเดวิด คูลธาร์ด) และโมนาโค (มิชาเอล ชูมัคเกอร์ และยาร์โน่ ทรูลี่)
เป็นที่น่าสังเกตว่าในการแข่งขันที่อาบูดาบี ผู้ที่ได้ตำแหน่งโพลไม่จบการแข่งขันมาแล้วถึง 3 ใน 4 ครั้ง (แฮมิลตัน - 2009 2012 / เวทเทล 2011)
ยังมีสถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
รอบควอลิฟาย
- ลูอิส แฮมิลตัน ควอลิฟายได้ตำแหน่งโพลเป็นครั้งที่ 25 ของตนเอง และเขาเป็นนักขับคนเดียวที่สตาร์ทจากแถวหน้าทุกครั้งที่แข่งขันในสนามนี้
- มาร์ก เว็บเบอร์ ออกตัวจากแถวหน้าเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันแล้ว โดยครั้งล่าสุดที่เขาทำได้คือตั้งแต่ออสเตรเลีย-ตุรกี 2010 เมื่อควอลิฟายได้แถวหน้า 6 สนามติดต่อกัน ซึ่ง 4 ใน 6 ครั้งนั้นคือโพล และสถิตินั้นเทียบเท่ากับผลงานของคิมี่ ไรค์โคเน่น และแกร์ฮาร์ด แบร์เกอร์ อยู่ในอันดับที่ 20 ของผู้ที่สตาร์ทแถวหน้าติดต่อกันมากที่สุด
- ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่แฮมิลตันกับเว็บเบอร์ออกตัวจากแถวหน้าคู่กันโดยที่นักขับอังกฤษได้ตำแหน่งดีกว่า ก่อนหน้านี้ 3 ครั้งซึ่งทั้งสองคนออกคู่กัน เว็บเบอร์เป็นฝ่ายได้โพล แต่ทั้ง 3 ครั้งนั้นแฮมิลตันเป็นผู้ชนะ ทั้งตุรกี 2010 เบลเยี่ยม 2010 และเยอรมัน 2011 - ไรค์โคเน่นยังไม่ได้ออกตัวจากแถวหน้าเลยนับตั้งแต่เขาหวนกลับมาแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ครั้งล่าสุดที่เขาทำได้คือโมนาโค 2009 ในกริดที่ 2 ซึ่งเป็นการสตาร์ทแถวหน้าเพียงครั้งเดียวของเฟอร์รารี่ในปีนั้น - สนามนี้ เซบาสเตียน เวทเทล ได้ออกตัวในตำแหน่งที่แย่ที่สุด โดยก่อนหน้านี้เขาเคยสตาร์ทจากกริดที่ 20 ในฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ 2007 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 เท่านั้นที่เขาไม่ได้ออกตัวในท็อป 10 นับตั้งแต่ลงแข่งให้กับเร้ดบูลตั้งแต่ปี 2009 รวม 72 สนาม
การแข่งขัน
- เซบาสเตียน เวทเทล ได้โพเดียมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 45 อยู่ในอันดับที่ 15 ของผู้ที่ได้จำนวนโพเดียมมากที่สุดร่วมกับคาร์ลอส รอยท์แมนน์
- แม็คลาเรนทำสถิติใหม่ด้วยการจบแบบมีคะแนนเป็นสนามที่ 56 ติดต่อกัน
- วิลเลียมส์จบแบบมีคะแนนทั้งสองคันเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ต่อจากที่เคยทำได้ที่จีน โดยพาสเตอร์ มัลโดนาโด มีผลงานที่ดีที่สุดรองจากชัยชนะของเขาในสเปน และก่อนหน้านี้วิลเลียมส์เคยมีคะแนนจากอาบูดาบีเพียงปี 2009 เท่านั้น
- โพเดียมครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คิมี่ ไรค์โคเน่น เฟอร์นันโด อลอนโซ่ และเวทเทล อยู่ในลำดับดังกล่าว โดยไรค์โคเน่นกับอลอนโซ่เคยขึ้นโพเดียมด้วยกัน 30 ครั้ง และเวทเทลกับอลอนโซ่เคยขึ้นโพเดียมด้วยกัน 19 ครั้ง
- เฟอร์รารี่ไม่สามารถทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดได้เลยในการแข่งขัน 28 สนามหลังสุด โดยอลอนโซ่ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดเป็นอันดับที่ 2 จากการแข่งขันที่อาบูดาบีและเกาหลี ในขณะที่เฟลิเป้ มาสซ่า ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในอินเดีย
- ทั้งมาร์ก เว็บเบอร์ และอลอนโซ่ ทำสถิติลงแข่งขันมาแล้วทั้งหมด 194 ครั้ง เท่ากับมิเกเล่ อัลโบเรโต้ ในอันดับที่ 13 ของสถิตินักขับที่ลงแข่งขันมากที่สุด - จนถึงตอนนี้ ลูอิส แฮมิลตัน ไม่ได้ขึ้นโพเดียม 5 สนามติดต่อกันแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ยาวนานที่สุดของเขานับตั้งแต่ว่างเว้นจากโพเดียมในการแข่งขันที่ฮังการีถึงญี่ปุ่นปีที่แล้ว ตลอดการเป็นนักขับฟอร์มูล่าวัน แฮมิลตันต้องออกจากการแข่งขันด้วยปัญหาด้านเทคนิค 6 ครั้ง โดยเกิดขึ้นในปีนี้ถึง 3 ครั้ง
- ถึงอย่างไรการแข่งขันที่อาบูดาบีปีนี้ก็ยังมีความหมายกับแม็คลาเรน เนื่องจากแฮมิลตันนำการแข่งขัน 19 รอบแรก ทำให้แม็คลาเรนเป็นทีมที่สองที่นำการแข่งขันในฟอร์มูล่าวันมากกว่า 50,000 กิโลเมตร โดยขณะนี้พวกเขาทำได้ทั้งสิ้น 50,051 กิโลเมตร ส่วนทีมแรกที่ผ่านตัวเลขดังกล่าวคือเฟอร์รารี่ ซึ่งนับถึงตอนนี้ได้นำการแข่งขันมาแล้วรวม 70,549 กิโลเมตร
- เมอร์เซเดสไม่มีคะแนนเป็นสนามที่ 4 ติดต่อกัน นับเป็นผลงานที่แย่ที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่กลับมาแข่งขันฟอร์มูล่าวันในปี 2010 โดยที่นิโค รอสเบิร์ก ต้องออกจากการแข่งขันเป็นสนามที่ 3 ใน 4 สนามหลังสุดเนื่องจากอุบัติเหตุ
*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2555 19:55:02 น. |
|
18 comments
|
Counter : 1880 Pageviews. |
|
|
|
ถ้าใครเจอข่าวด่วนหรือข่าวอะไรที่น่าสนใจ รบกวนช่วยส่งข่าวด้วยนะคะ เพราะ 2 วันนี้โอกาสเช็คข่าวของเราอาจจะน้อยหน่อย...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ