เร้ดบูลไขข้อสงสัยหลังจากจบการแข่งขันว่าพวกเขาไม่ใช้ KERS เลยตลอดเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากทดลองใช้เมื่อวันศุกร์แล้วไม่ราบรื่น เสี่ยงที่จะมีปัญหาระหว่างการแข่งขัน ไม่ใช่เหตุผลว่า "หาปุ่ม KERS ไม่เจอ" ของเวทเทลที่บอกกับนักข่าวเมื่อวันเสาร์หรอกค่ะ แต่ขณะที่คันหนึ่งชนะ อีกคันของมาร์ก เว็บเบอร์ กลับมีปัญหามาตั้งแต่วันควอลิฟายเมื่อเปรียบเทียบเวลาระหว่างทั้งสองคันนั้นห่างกันอย่างน่าประหลาดใจ นอกจากนั้นเว็บเบอร์ยังต้องเข้าพิตถึง 3 ครั้งขณะที่เวทเทลเข้า 2 ครั้ง ด้านแม็คลาเรนสนามนี้ก็ดีทั้งสองคันเลย ลูอิส แฮมิลตัน สามารถบริหารยางได้ดีกว่าคันหน้าในช่วงต้นของการแข่งขันด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายที่ตอนท้ายไม่สามารถทำเวลาได้ใกล้เวทเทลมากนักเนื่องจากมีปัญหากับพื้นรถ จึงต้องประคองเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2 และเจนสัน บัตตัน มีจังหวะเบียดกับเฟลิเป้ มาสซ่า ในช่วงต้นเป็นผลให้เขาโดนโทษแบบขับผ่าน (drive-through penalty) ด้วยข้อหาขับเกินเขตแทร็ค นั่นจึงทำให้โอกาสของบัตตันในสนามนี้หมดลงไปทันทีสำหรับเรโนลต์ เมื่อวานเป็นวันที่พวกเขามีความสุขมากเมื่อวิทาลี เปตรอฟ ซึ่งขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 4 เมื่อออกตัวพ้นโค้งแรก และสามารถจบการแข่งขันในอันดับสุดท้ายบนโพเดียมได้สำเร็จ นี่เป็นโพเดียมแรกของเปตรอฟในการขับฟอร์มูล่าวันและยังเป็นชาวรัสเซียคนแรกที่ได้ขึ้นโพเดียมด้วย โดยทุกคนในทีมขอมอบความสุขนี้ให้กับโรเบิร์ต คูบิซ่า ที่คาดว่าน่าจะเชียร์อยู่ที่หน้าจอนั่นแหละค่ะ แต่มากกว่าความสำเร็จของเปตรอฟก็เป็นความสำเร็จของทีมเซาเบอร์ ซึ่งทั้งเซอร์จิโอ เปเรซ ดาวรุ่งเม็กซิกัน และคามูอิ โคบายาชิ จบได้ในอันดับที่ 7 และ 8 ตามลำดับ แถมเปเรซเข้าพิตเพียงแค่ครั้งเดียว น่าเสียดายอย่างมากที่ทั้งสองคนต้องถูกริบผลการแข่งขัน เนื่องจากปีกหลังของรถเซาเบอร์ออกแบบไม่ถูกต้องตามกฎการแข่งขัน จึงทำให้อันดับเลื่อนขึ้นมา ฟอร์ซอินเดียของอาเดรียน ซูทิล และพอล ดิ เรสต้า จึงได้คะแนนแรกของฤดูกาลไปตัวเก็งคนอื่นๆ แทบหายไปจากจอภาพ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ซึ่งบ่นว่ารถเกาะถนนไม่ดีมาตั้งแต่วันเสาร์ เมื่อวานก็ยังทำความเร็วได้ไม่ดีโดยเฉพาะเมื่อใช้ยางฮาร์ด แต่ตอนท้ายได้เข้ากล้องเมื่อไล่เปตรอฟ 2-3 รอบสุดท้าย ทำให้คิดถึงวันเก่าๆ ที่อาบูดาบี ส่วนเมอร์เซเดส จีพี เก็บของกลับบ้านแต่วันและไม่มีคะแนนเลยเมื่อรถทั้งสองคันต้องออกจากการแข่งขัน มิชาเอล ชูมัคเกอร์ จอดก่อนหลังจากที่ช่วงต้นกระแทกกับเฮมี่ อัลเกอร์ชัวรี่ ของโตโร รอสโซ แม้จะเข้าพิตไปใส่ยางหลังขวาใหม่หลังจากที่หลุดไปตอนชนแต่ออกมาก็ยังไม่ดี ส่วนนิโค รอสเบิร์ก โดนรูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ กระแทกข้าง ทำให้เครื่องยนต์พังต้องออกจากการแข่งขันตามกันไปสำหรับของใหม่ที่ได้ใช้เป็นครั้งแรกของฤดูกาล เริ่มจาก KERS ดูเหมือนว่าแม็คลาเรนจะชอบใจและชอบใช้มากกว่าทีมไหนๆ เพราะถนัดมาตั้งแต่ปี 2009 ส่วนเจ้าปีกหลังหรือ DRS (Drag Reduction System) ก็เฉลี่ยใช้กันคนละครั้งสองครั้งโดยไม่มีปัญหาใดๆ และเรื่องยางปิเรลลี่ เท่าที่เราดูยางซอฟต์จะใช้ได้ประมาณ 10-12 รอบ ส่วนยางฮาร์ดใช้ดีๆ ก็ได้ถึง 20 กว่ารอบ เมื่อวานใครที่บริหารยางได้ดี (อย่างเช่นเปเรซของเซาเบอร์) ก็ไม่ต้องเข้าพิตมากมายอย่างที่กลัวกันแต่แรก นักแข่งดูพอใจกับสถานการณ์โดยรวมค่ะสรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 1 ประเภทนักขับ1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 25 คะแนน2. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 18 คะแนน3. วิทาลี เปตรอฟ (เรโนลต์) 15 คะแนน4. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 12 คะแนน5. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 10 คะแนนอันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด //www.formula1.com/results/driver/2011/ประเภททีม1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 35 คะแนน2. แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส 26 คะแนน3. เฟอร์รารี่ 18 คะแนน4. เรโนลต์ 15 คะแนน5. เอสทีอาร์-เฟอร์รารี่ (โตโร รอสโซ) 4 คะแนนอันดับคะแนนสะสมประเภททีมทั้งหมด //www.formula1.com/results/team/สนามหน้าเจอกันที่เซปัง มาเลเซีย วันที่ 8-10 เมษายน ซึ่งคราวนี้เจ้าของบ้านจะรับหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวจำเป็น ไปเก็บบรรยากาศที่สนามมาให้ทุกๆ คนได้ชมกัน ที่เราลุ้นคือเรื่องของการใช้ยางเพราะเซปังนั้นแทร็คร้อนของจริง บวกกับฝนที่พร้อมเทมาได้ทุกวันตั้งแต่วันซ้อมจนถึงวันแข่ง อดใจรออีก 2 สัปดาห์นะคะ*ข้อมูลจาก formula1.comภาพจาก formel1.de