Bloggang.com : finishline : Barcelona Test Part 2 # Day 2

Barcelona Test Part 2 # Day 2

เร้ดบูลทำผลงานได้ดีทั้งทีมพี่ทีมน้องค่ะ...

1. Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) 1m21.865s (112)
2. Sebastien Buemi (Toro Rosso-Ferrari) 1m22.396s / + 0.531s (120)
3. Vitaly Petrov (Renault) 1m22.670s / + 0.805s (116)
4. Lewis Hamilton (McLaren-Mercedes) 1m22.888s / + 1.023s (57)
5. Felipe Massa (Ferrari) 1m23.324s / + 1.459s (101)
6. Paul di Resta (Force India-Mercedes) 1m24.334s / + 2.469s (118)
7. Kamui Kobayashi (Sauber-Ferrari) 1m24.436s / + 2.571s (107)
8. Nico Rosberg (Mercedes) 1m25.807s / + 3.942s (100)
9. Jarno Trulli (Lotus-Renault) 1m26.090s / + 4.225s (98)
10. Pastor Maldonado (Williams-Cosworth) 1m26.989s / + 5.124s (29)
11. Jerome D'Ambrosio (Virgin-Cosworth) 1m28.982s / + 7.117s (64)

เวลาที่ทำได้เร็วที่สุดของทั้งเซบาสเตียน เวทเทล และเซบาสเตียน บูเอมี่เกิดจากการจำลองวิ่งช่วงควอลิฟายในตอนเช้าค่ะ และเมื่อวิ่งในระยะยาวขึ้นในช่วงบ่าย รถเร้ดบูลทีมพี่ก็จะอยู่ในเขต 1.28 นาที ส่วนเวลาอันดับที่ 3 เป็นของเรโนลต์ซึ่งมีโปรแกรมการซ้อมคล้ายๆ กัน

แม็คลาเรนทำเวลาเร็วเป็นอันดับที่ 4 นะคะ แต่ไม่วายเจอปัญหาทั้งเรื่องไฮโดรลิกและท่อไอเสีย ทำให้ทีมต้องตัดแผนจำลองการแข่งขันออกไป เฟอร์รารี่โดยเฟลิเป้ มาสซ่า ทำเวลาได้เป็นอันดับที่ 5 โดยมาพร้อมกับท่อไอเสียใหม่และการเปลี่ยนแปลงทางแอโรไดนามิกส์ ตามข่าวบอกว่าผลลัพธ์ของเฟอร์รารี่น่าทึ่งเกินกว่าที่เห็นจากอันดับนะคะ เพราะเมื่อวานนี้ทีมม้าลำพองไมได้จำลองแบบควอลิฟายเลย และในการวิ่งระยะยาวก็ได้เวลาที่พอๆ กับของเร้ดบูลที่วิ่งในจำนวนรอบที่ใกล้เคียงกัน

พอล ดิ เรสต้า กับฟอร์ซอินเดียได้ขึ้นไปอยู่ในท็อปทรีช่วงเช้าค่ะ เช่นเดียวกันคือเวลาที่ได้มาจากการวิ่งแบบควอลิฟาย โดยพบปัญหานิดหน่อยเรื่องความดันเชื้อเพลิง ตามมาด้วยคามูอิ โคบายาชิ ของเซาเบอร์ ด้านเมอร์เซเดสมากับท่อไอเสียใหม่และมีการอัพเกรดตัวถังเช่นกัน ผลงานการวิ่งระยะ 10 รอบได้เวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.27 นาที

โลตัสของยาร์โน่ ทรูลี่ มาในอันดับที่ 9 ค่ะ ถัดมาเป็นเวลาของปาสเตอร์ มัลโดนาโด ที่วิ่งได้เพียงน้อยนิดเพราะเจอปัญหา KERS กินเวลาไปเต็มๆ ปิดท้ายด้วยเวลาของเจอโรม ดัมโบรซิโอ ของเวอร์จิ้นที่มีปัญหาเช่นกันกับระบบไฟฟ้า

**********************************

จากการทดสอบช่วงก่อนเปิดฤดูกาลที่ผ่านมา นักขับฟอร์มูล่าวันมีความกังวลใน 2 เรื่องหลักๆ ค่ะ เรื่องแรกเป็นสิ่งที่ได้ยินบ่อยๆ คือเรื่องการสึกหรอเร็วของยางปิเรลลี่ และอีกเรื่องคือการใช้ปีกหลังปรับได้

จากการประชุมของตัวแทนสมาคมนักขับกรังด์ปรีซ์ (GPDA) กับชาร์ลี ไวติ้ง ผู้อำนวยการการแข่งขันฟอร์มูล่าวันเมื่อคืนนี้ เรื่องที่ถกกันนานหน่อยก็เป็นเรื่องยางที่สึกมาก โดยเฉพาะยาร์โน่ ทรูลี่ บอกว่าเมื่อผ่านไปสัก 10-15 รอบ อาจทำให้รถช้าลงไปถึง 5 วินาที อย่างไรก็ตามบรรดานักขับอยากขอให้ปิเรลลี่เร่งปรับปรุงปัญหานี้ เพราะจากประสบการณ์ของพวกเขาถึงตอนนี้ยืนยันว่าคงต้องเข้าพิตไม่น้อยกว่า 3 ครั้งเมื่ออยู่ในการแข่งขันจริง โดยนักขับยินดีที่จะช่วยปิเรลลี่ปรับปรุงยางค่ะ

ล่าสุดเอฟไอเอปรับกฎให้มีการทดสอบยางระหว่างฤดูกาลอย่างที่เราเล่าให้ทุกคนทราบแล้วเมื่อวาน ที่น่าสนใจคือนักขับไม่ได้ห่วงอะไรตอนแข่งนักหรอกค่ะ กลับห่วงตอนซ้อมช่วง Free Practice มากกว่า เพราะว่าถ้ายางที่ให้ทดสอบยังหมดเร็วอยู่อย่างนี้จะพาลให้วิ่งซ้อมได้น้อยรอบเสียเปล่าๆ

แทรกนิดหนึ่งนะคะเรื่องนักขับทดสอบปิเรลลี่ ตอนนี้เปโดร เดอ ลา โรซ่า ขอลากลับไปอยู่กับแม็คลาเรนบ้านเดิม ซึ่งปิเรลลี่จะประกาศหานักขับทดสอบคนใหม่เร็วๆ นี้

อีกเรื่องที่เป็นความกังวลของการใช้ปุ่มปีกหลังปรับได้ โดยเฉพาะปีนี้มี KERS เข้ามาด้วย เนื่องจากว่านักขับต้องวุ่นวายมากกับสารพัดปุ่มไฟหลากสีบนพวงมาลัย พวกเขาจึงอยากให้เอฟไอเอลองหาทางปรับกฎเพื่อผลเรื่องความปลอดภัย

พวกนักขับบอกว่าที่ประชุมกับเอฟไอเอนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์จะวิจารณ์อะไรนะคะ เพราะรู้ว่าทุกฝ่ายทำงานอย่างหนักอยู่แล้ว แต่ที่ออกมาให้ความเห็นเพราะอยากแชร์ประสบการณ์ที่ได้รับมาตลอดช่วงทดสอบเพื่อที่ว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง

*ข้อมูลจาก autosport.com/f1

Create Date : 10 มีนาคม 2554

Last Update : 10 มีนาคม 2554 10:33:48 น.

7 comments

Counter : 1213 Pageviews.

สงกะสัย Ferrari จะงานหนักปีนี้ คริ..คริ

โดย: *SUPRA*

วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:11:22:15 น.

ขอบคุณสำหรับข่าวครับ

ผมว่า Ferrari เนี่ย แกร่งแน่ นักขับก็เก่ง รถก็ดีแต่หัววัน น่าจะเบียดกับกระทิงแดงไปตลอด

แต่ถ้าเกิด STR เป็นตัวป่วนของจริงนี่ฮาแน่ เพราะ Renault ปีนี้ รถแรงใช่ย่อย ข้างหน้า คงสลับกันขึ้นมาเยอะกว่าปีที่แล้วอีก

โดย: runtaro IP: 119.46.166.101 วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:13:10:31 น.

ดูเหมือน Red Bull จะยังเก็บทีเด็ดไว้อยู่นะครับเพราะเวลาที่เร็วที่สุดของ Vettel ไม่ได้มาจากการวิ่งจำลองการ qualify หรือก็คือ Red Bull ยังเร็วได้อีก (เยอะ)

แต่ก็ไม่น่าแปลกใจครับเพราะที่นี่ สนามโค้งความเร็วสูง สนามของ Red Bull

โดย: fascinator IP: 10.17.35.147, 124.122.62.240 วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:16:08:38 น.

เวลาช่วงเช้าวันนี้ครับ

Driver Car Time Laps
1. Sergio Perez Sauber C30 1:21.761 48
2. Felipe Massa Ferrari 150 1:22.092 56
3. Mark Webber Red Bull RB7 1:22.466 53
4. Rubens Barrichello Williams FW33 1:22.637 61
5. Vitaly Petrov Renault R31 1:24.233 24
6. Adrian Sutil Force India VJM04 1:24.334 30
7. Jaime Alguersuari Toro Rosso STR6 1:24.779 50
8. Michael Schumacher Mercedes W02 1:25.779 47
9. Jerome d'Ambrosio Virgin MVR-02 1:29.410 14
10. Jarno Trulli Lotus T128 1:34.485 6

โดย: fascinator IP: 124.122.118.16 วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:20:27:22 น.

Red Bull VS Ferrari คอยดูกันต่อไปค่ะ อิอิ

โดย: JJ Hour IP: 110.49.234.219 วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:23:30:34 น.

fas คุง ถ้าเอา 20 สนามของปีนี้ วัดกันที่ลักษณะของแทรค

รถ High หรือ Low down force อันไหนที่จะได้เปรียบกว่ากัน อันนี้มองที่ปัจจัยเดียวเลยนะ เท่าที่พี่มอง ปีที่แล้ว ถ้า RBR ไม่โยนแต้มทิ้งเอง คะแนนมันจะขาดกว่านี้เยอะเหมือนกันนะ

โดย: runtaro IP: 119.46.166.101 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:9:57:45 น.

High down force เป็นคำตอบครับเพราะสนามแข่งไม่ได้มีแต่ทางตรง ยังไง๊ยังไงก็ต้องสาดโค้งกันให้เร็วอยู่ดี

โดย: fascinator IP: 10.17.35.147, 124.122.30.177 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:10:09:04 น.