Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
10 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
โหมโรงฟอร์มูล่าวันปี 2012

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันชิงแชมป์โลกปี 2012 สนามแรกที่ประเทศออสเตรเลียในวันที่ 16-18 มีนาคม ที่จะถึงนี้นะคะ โดยฤดูกาลนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นการรวมตัวของนักขับระดับแชมป์โลกจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีการแข่งขันมา นั่นก็คือ 6 คนด้วยกัน หรือคิดเป็นหนึ่งในสี่ของนักขับทั้งหมดที่ลงแข่งขัน ซึ่งพวกเขามีจำนวนตำแหน่งแชมป์โลกรวมกันถึง 14 ครั้ง ด้วยกัน

6 คนที่ว่านั้น ได้แก่

- มิชาเอล ชูมัคเกอร์ แชมป์ปี 1994-1995, 2000-2004

- เฟอร์นันโด อลอนโซ่ แชมป์ปี 2005-2006

- คิมี่ ไรค์โคเน่น แชมป์ปี 2007

- ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์ปี 2008

- เจนสัน บัตตัน แชมป์ปี 2009

- เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์ปี 2010-2011

เวทเทล แชมป์คนปัจจุบันจากเร้ดบูลกำลังไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันของตนเอง ซึ่งในประวัติศาสตร์ของฟอร์มูล่าวันมีเพียงฮวน มานูเอล ฟานจิโอ และชูมัคเกอร์เท่านั้นที่ทำได้ เช่นเดียวกับอลอนโซ่ที่แม้ฟอร์มของรถเฟอร์รารี่ยังไม่เฉียบคมในสายตาใครๆ แต่เป็นที่รู้กันดีว่านักขับคนนี้มีความสามารถล้ำหน้ารถเสมอ ด้านชูมัคเกอร์กับเมอร์เซเดสครั้งนี้ดูดีกว่าครั้งไหนๆ เขายังอยากแสดงให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข

การหวนคืนสู่สนามในรอบ 2 ปีของคิมี่ ไรค์โคเน่น ในฐานะนักขับโลตัส จากการทดสอบที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาจะกลับมาไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 2 ให้กับตัวเอง เช่นเดียวกันกับสองนักขับของแม็คลาเรน ลูอิส แฮมิลตัน ที่รับรองว่าในปีนี้จะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่คืนให้ได้ และเจนสัน บัตตัน ซึ่งกำลังอยู่ในวัยฉกรรจ์ของการเป็นนักขับ มีพร้อมทั้งประสบการณ์ ความเชียวชาญ และความสุขุม





คลิปจากยูทูบโดยคุณ Ikeraldai




ส่วนนักขับที่เหลือเรียกได้ว่าเป็นการผลัดใบเข้ายุคใหม่เสียแล้วเมื่อนักขับรุ่นเก๋าแทบจะไม่มีเหลือ นอกจากนั้นยังเป็นการกลับมาของยุค "เรอเนสซองส์" ในปีนี้มีนักขับฝรั่งเศสอยู่ถึง 3 คน ได้แก่ โรแมง โกรส์ฌอง ของโลตัส ฌอง-เอริก แวนญ์ ของโตโร รอสโซ และชาร์ลส์ พิค ของมารุสเซีย ในขณะที่เป็นเรื่องน่าเศร้าของชาวอิตาเลียนที่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่จะไม่มีนักขับจากประเทศของตนในสนามเลย


รายชื่อและหมายเลขของนักขับประจำทีมต่างๆ

เร้ดบูล
1. เซบาสเตียน เวทเทล (เยอรมัน / 24 ปี)
2. มาร์ก เว็บเบอร์ (ออสเตรเลีย / 35 ปี)

แม็คลาเรน
3. เจนสัน บัตตัน (สหราชอาณาจักร / 32 ปี)
4. ลูอิส แฮมิลตัน (สหราชอาณาจักร / 27 ปี)

เฟอร์รารี่
5. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (สเปน / 30 ปี)
6. เฟลิเป้ มาสซ่า (บราซิล / 30 ปี)

เมอร์เซเดส
7. มิชาเอล ชูมัคเกอร์ (เยอรมัน / 43 ปี)
8. นิโค รอสเบิร์ก (เยอรมัน / 26 ปี)

โลตัส
9. คิมี่ ไรค์โคเน่น (ฟินแลนด์ / 32 ปี)
10. โรแมง โกรส์ฌอง (ฝรั่งเศส / 25 ปี)

ฟอร์ซอินเดีย
11. พอล ดิ เรสต้า (สหราชอาณาจักร / 25 ปี)
12. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก (เยอรมัน / 24 ปี)

เซาเบอร์
14. คามูอิ โคบายาชิ (ญี่ปุ่น / 25 ปี)
15. เซอร์จิโอ เปเรซ (เม็กซิโก / 22 ปี)

โตโร รอสโซ
16. แดเนียล ริคเคียร์โด้ (ออสเตรเลีย / 22 ปี)
17. ฌอง-เอริก แวนญ์ (ฝรั่งเศส / 21 ปี)

วิลเลียมส์
18. พาสเตอร์ มัลโดนาโด (เวเนซูเอล่า / 27 ปี)
19. บรูโน่ เซนน่า (บราซิล / 28 ปี)

แคเทอร์แฮม
20. เฮกกิ โควาไลเน่น (ฟินแลนด์ / 30 ปี)
21. วิทาลี เปตรอฟ (รัสเซีย / 27 ปี)

เอชอาร์ที
22. เปโดร เดอ ลา โรซ่า (สเปน / 41 ปี)
23. นาเรน คาร์ธิเคยัน (อินเดีย / 35 ปี)

มารุสเซีย
24. ทิโม่ กล็อค (เยอรมัน / 29 ปี)
25. ชาร์ลส์ พิค (ฝรั่งเศส / 22 ปี)

*ดูรูปภาพนักขับได้ที่ //www.formula1.com/teams_and_drivers/drivers/


กฎกติกาสำคัญที่มีผลในปีนี้

- DRS และ KERS ยังอยู่ต่อมาจากปี 2011

- ห้ามใช้ "โบลว์นดิฟฟิวเซอร์" หรือการใช้ประโยชน์จากไอเสียในการส่งผ่านไปยังตัวดิฟฟิวเซอร์ด้านท้ายรถเพื่อผลทางด้านอากาศพลศาสตร์ให้ท้ายรถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ทีมจึงต้องปรับตำแหน่งท่อไอเสียให้ขึ้นมาด้านบน รวมถึงการจำกัดการทำเอนจิ้นแม็ปปิ้งไม่ให้ส่งผลกับรถเช่นเดียวกับโบลว์นดิฟฟิวเซอร์แม้ขณะนักขับไม่ได้เหยียบคันเร่ง

- ต้องลดความสูงของจมูกรถ โดยส่วนหน้าของรถอนุญาตสูงสุดได้ 625 มม. แต่ส่วนปลายสุดจะต้องลดลงมาเป็น 550 มม. นั่นคือเหตุผลที่ทีมส่วนใหญ่ต้องมีการทำจมูกรถให้หักลาดลงมาอย่างที่เห็นกันไปแล้ว ยกเว้นแม็คลาเรนและมารุสเซีย





เทรนด์จมูกรถของปีนี้




- หากเกิดการแซงกันในโค้ง อนุญาตให้รถที่ป้องกันตำแหน่งของตนอยู่เปลี่ยนทิศทางได้เพียงครั้งเดียว

- หากเซฟตี้คาร์ถูกปล่อยออกมานำการแข่งขัน รถที่โดนน็อกรอบสามารถถอนตำแหน่งตนเองไม่ให้ถูกน็อกรอบได้ เพื่อไม่ให้รถในกลุ่มผู้นำต้องมาติดขัดจากรถที่วิ่งคนละรอบโดยไม่จำเป็น

- ห้ามใช้แก๊สฮีเลียมในวีลกันหรือปืนถอดน็อตล้อ ส่งผลให้พิตสต็อปจะช้าลงไปเล็กน้อย

- การกลับมาของการทดสอบระหว่างฤดูกาลเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี แต่เป็นการกำหนดอย่างเป็นทางการโดยเอฟไอเอในช่วงเดือนพฤษภาคมที่สนามมูเจลโล่ ประเทศอิตาลี

การปรับเปลี่ยนกฎล่าสุด ประกาศเมื่อ 9 มีนาคม 2012

- กรรมการสามารถยกเลิกการใช้ปีกหลังปรับได้หรือ DRS หากเมื่อใดที่เห็นว่าสภาวะการมองเห็นแย่ลงขณะเป็นการแข่งขันในสภาพสนามเปียก ทั้งนี้เป็นเหตุผลด้านความปลอดภัยจากความแตกต่างเรื่องความเร็วระหว่างรถแต่ละคันที่มีมาก

- หากการซ้อมวันศุกร์ทั้งช่วงเช้าและบ่ายเป็น "สภาพสนามเปียก" ทีมจะได้รับอนุญาตให้ยกยางสำหรับแทร็คแห้ง 1 ชุดไปใช้ในวันเสาร์ได้ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ทีมลงวิ่งมากขึ้นในวันเสาร์

- มีการปรับเปลี่ยนกฎการรักษาเวลา (เคอร์ฟิว) ของบุคลากรทีมต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าบุคลากรเหล่านั้นจะมีเวลาพักผ่อนอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งฤดูกาล โดยไม่ต้องคำนึงถึงเวลาของช่วงซ้อมในการแข่งขันบางรายการ
*คุณผู้อ่านอาจงง ขอคนเขียนขยายความนะคะ สืบเนื่องจากการที่บางทีมเข้าใจเวลาเคอร์ฟิวผิดในการแข่งขันรายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ เมื่อปีที่แล้ว อย่างที่เราเสนอข่าวไว้ว่า "ก่อนเข้าสู่ช่วงควอลิฟายมีเรื่องให้ถกประเด็นกันเล็กน้อยระหว่างเอฟไอเอกับ 3 ทีม ได้แก่ เร้ดบูล เมอร์เซเดส และเวอร์จิ้น อันเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่การตลาดของทั้งสามทีมดังกล่าวอยู่ในสนามในช่วงที่เอฟไอเอทำการ "เคอร์ฟิว" ไว้สำหรับ "บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับตัวรถ" โดยสำหรับไนท์เรซ เวลาที่ห้ามไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องของทีมทุกคนเข้ามาในสนามได้คือ 9.30-16.00 น. หรือจนถึง 3 ชั่วโมงก่อนการซ้อมรอบสุดท้าย ซึ่งจากกฎที่เอฟไอเออนุญาตให้ฤดูกาลหนึ่ง ทีมสามารถฝ่าเคอร์ฟิวได้ 4 ครั้ง และตีความว่าเจ้าหน้าที่การตลาดก็เป็น "บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับตัวรถ" เมอร์เซเดสจึงต้องรับการฝ่าเคอร์ฟิวเป็นครั้งแรกของฤดูกาล เวอร์จิ้นถือเป็นครั้งที่ 2 ในขณะที่เร้ดบูลถึงกับเป็นครั้งที่ 3" แต่หลังจากนั้นทุกทีมได้รับคืนสิทธิ์ไม่ถูกปรับเป็นการฝ่าเวลาเคอร์ฟิวหลังจากกรรมการเอฟไอเอได้พูดคุยในรายละเอียดกับทุกทีมเป็นที่เรียบร้อย แต่พวกเขาก็อยากให้เอฟไอเอทำความเข้าใจกับทุกทีมทีมให้กระจ่างถึงการตีความกฏข้อนี้ คราวนี้ที่มีการปรับเปลี่ยนจึงมาจากเรื่องนี้ค่ะ


ข้อมูลยางปิเรลลี่

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=f1star&month=01-2012&date=25&group=1&gblog=552


สนามใหม่

สนามใหม่แกะกล่องของสหรัฐอเมริกา "เซอร์กิตออฟดิอเมริกาส์" ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส จะพร้อมต้อนรับการแข่งขันฟอร์มูล่าวันปลายปีนี้ พร้อมด้วยการกลับมาของบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วต้องยกเลิกการเป็นเจ้าภาพสนามแรกของปีจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในประเทศ ทำให้ปีนี้นับเป็นปีแรกที่ฟอร์มูล่าวันจะมีการแข่งขันถึง 20 สนาม


ปฏิทินการแข่งขัน

1 ออสเตรเลีย (อัลเบิร์ต พาร์ก) 16-18 มี.ค.
2 มาเลเซีย (เซปัง) 23-25 มี.ค.
3 จีน (เซี่ยงไฮ้) 13-15 เม.ย.
4 บาห์เรน (ซาคีร์/บีไอซี) 20-22 เม.ย.
5 สเปน (คาตาลุนย่า) 11-13 พ.ค.
6 โมนาโค (โมนาโค) 24-27 พ.ค.
7 แคนาดา (ฌิลส์ วิลเนิฟ) 8-10 มิ.ย.
8 ยุโรป (บาเลนเซีย) 22-24 มิ.ย.
9 อังกฤษ (ซิลเวอร์สโตน) 6-8 ก.ค.
10 เยอรมัน (ฮ็อคเคนไฮม์) 20-22 ก.ค.
11 ฮังการี (ฮังกาโรริง) 27-29 ก.ค.
12 เบลเยียม (สปา-ฟรองโคชองป์) 31 ส.ค.- 2 ก.ย.
13 อิตาลี (มอนซ่า) 7-9 ก.ย.
14 สิงคโปร์ (สิงคโปร์) 21-23 ก.ย.
15 ญี่ปุ่น (ซูซูกะ) 5-7 ต.ค.
16 เกาหลี (ยองอัม/เคไอซี) 12-14 ต.ค.
17 อินเดีย (เดลี) 26-28 ต.ค.
18 อาบู ดาบี (ยาสมารีน่า) 2-4 พ.ย.
19 สหรัฐอเมริกา (เซอร์กิตออฟดิอเมริกาส์) 16-18 พ.ย.
20 บราซิล (อินเตอร์ลากอส) 23-25 พ.ย.

วันทดสอบระหว่างฤดูกาล: 1-3 พ.ค. - สนามมูเจลโล่ อิตาลี







*ข้อมูลจาก formula1.com และ nextgen-auto.com
ภาพจาก autosport.com/f1


Create Date : 10 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 12:07:17 น. 13 comments
Counter : 1874 Pageviews.

 
ใกล้เปิดฤดูกาลแล้ว มาช่วยกันทำโพลหน่อยเร้ว...

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=f1star&group=5


โดย: finishline วันที่: 10 มีนาคม 2555 เวลา:16:41:20 น.  

 
ดูจากผลเทส แต่ละทีมให้ความเห็นออกมาเป็น "แง่บวก" หมดทุกทีม ดูเหมือนว่าปีนี้แต่ละทีมน่าจะสูสีกันมากขึ้น *-*


โดย: fascinator IP: 124.120.195.161 วันที่: 10 มีนาคม 2555 เวลา:16:52:01 น.  

 
มันรู้สึกว่า "ฤดูกาลนี้ต้องสนุกแน่" มาตั้งแต่ตอนทดสอบรถเลยหละ


โดย: finishline วันที่: 10 มีนาคม 2555 เวลา:16:57:47 น.  

 
ผมว่าปีหน้าอาจจะมีสถิติใหม่นะ

นักขับแชมป์โลก 7 คน มาแข่งในปี 2013 ที่น่ากลัวคือ Mark Webber ครับในปีนี้


โดย: VR46 IP: 58.8.96.118 วันที่: 10 มีนาคม 2555 เวลา:17:27:37 น.  

 
kimi กะ hulkenberg สู้ๆ


โดย: พัฒน์ IP: 49.49.97.238 วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:1:22:39 น.  

 
อย่าลืมช่วยแปะลิงค์ชมการแข่งบนอินเตอร์เน็ตให้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ


โดย: ชัยจ้า IP: 101.51.10.227 วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:8:16:18 น.  

 
บรรยากาศคุ้นเคยเริ่มกลับมาแล้ว

ขอบคุณสำหรับข่าวครับ


โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 101.109.69.86 วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:9:23:47 น.  

 
ขอบคุณข่าวครับ


โดย: Dead Man IP: 113.53.8.93 วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:11:05:17 น.  

 
ต้องขอแรงเพื่อนๆ ช่วยกันแนะนำลิงค์ชม F1 โดยเฉพาะที่มีถ่ายทอดวันซ้อมด้วยนะคะ ลิงค์เมื่อปีที่แล้วท่าทางจะเข้าไม่ได้ซะหลายอัน

ขอบคุณล่วงหน้าค่าาา


โดย: finishline วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:11:59:12 น.  

 
แปะลิงค์ไว้อันนึงแล้วนะคะ ด้านขวามือข้างล่าง Profile น่ะค่ะ อันนี้คงได้ดูนะเพราะเขาขึ้นโปรแกรมที่ออสเตรเลียมาแล้ว (เนื่องจากเว็บเป็นของรัสเซีย เวลาที่ขึ้นคือเวลารัสเซียนะคะ ให้ดูตามเวลาประเทศไทยค่ะ)


โดย: finishline วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:12:04:51 น.  

 
รู้สึกว่าผมจะมีปัญหากับลิ้งที่ จขบ แปะไว้อ่าครับ ต้องรบกวนขอลิ้งสแปร์ ^^"


โดย: fascinator IP: 124.122.107.33 วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:14:25:16 น.  

 
เดี๋ยวรอลิงค์เพิ่มเติมจากท่านอื่นด้วยแล้วกันนะคะ


โดย: finishline วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:14:30:59 น.  

 
อีก 6 วัน หุๆ


โดย: runtaro IP: 172.30.50.37, 202.183.217.251 วันที่: 12 มีนาคม 2555 เวลา:9:27:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.