เซบาสเตียน เวทเทล ยืนบนโพเดียมสูงสุดที่สิงคโปร์อีกครั้ง
ไฮไลท์
- หลังสัญญาณไฟแดง 5 ดวงดับลง ลูอิส แฮมิลตัน ผู้ที่ได้โพลออกตัวนำห่างในทันที โดยมีเซบาสเตียน เวทเทล ที่แซงขึ้นมาอันดับที่ 2 วิ่งตามไม่ห่าง ผ่านไปสักระยะทำให้เห็นว่าสองคันแรกน่าจะเป็นคู่ท้าชิงสำหรับตำแหน่งผู้ชนะวันนี้ที่สุด ซึ่งโดยรวมรถแม็คลาเรนทำได้ดีกว่า นอกจากแฮมิลตันจะนำแบบลอยลำแล้ว ยังมีเจนสัน บัตตัน อยู่อันดับที่ 3 ตามมาในระยะที่มองเห็นได้
- แต่แล้วในรอบที่ 22 รถแม็คลาเรนของแฮมิลตันก็ต้องจอดกลางแทร็คหลังจากประสบปัญหากับเกียร์บ็อกซ์ ส้มจึงหล่นใส่เวทเทล โดยบัตตันยังไล่กดดันผู้นำคนใหม่อย่างสม่ำเสมอ ตามมาด้วยพาสเตอร์ มัลโดนาโด ที่เสียอันดับตอนสตาร์ท แต่ยังวิ่งทำเวลาได้ดีและมีลุ้นโพเดียม สำหรับเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ผู้นำในคะแนนสะสมยังวิ่งเกาะกลุ่มตามมาเรื่อยๆ โดยที่รถเฟอร์รารี่ในสนามนี้ไม่โดดเด่นนัก
- ถ้าไม่มีเซฟตี้คาร์ก็ไม่ใช่สิงคโปร์ เซฟตี้คาร์ออกมาครั้งแรกในรอบที่ 30 หลังจากนาเรน คาร์ธิเคยัน ขับไปกระแทกกำแพงในอุโมงค์ลอดใต้แกรนด์สแตน เมื่อเซฟตี้คาร์กลับเข้าพิตไปแล้วเพื่อปล่อยให้การแข่งขันดำเนินตามปกติ ปรากฏว่ามีจังหวะหวาดเสียวจากกลุ่มผู้นำเมื่อเจนสัน บัตตัน หักรถหลบท้ายรถเร้ดบูลของเวทเทลอย่างกระชั้นชิดจนล้อล็อก หลังจากเวทเทลเร่งเครื่องและเบรกกะทันหันในโค้งเพื่อวอร์มเบรกก่อนผ่านเส้นสตาร์ท ซึ่งกรรมการได้เรียกนักขับทั้งสองคนไปสอบสวนหลังการแข่งขันด้วย นอกจากนั้นในจังหวะเซฟตี้คาร์วิ่งอยู่นี้ รถของมัลโดนาโดเริ่มมีปัญหาและทีมงานวิลเลียมส์วิทยุมาให้เขาเก็บรถเข้าพิตในที่สุดเนื่องจากปัญหาของระบบไฮโดรลิก โอกาสที่เขาจะได้ลุ้นโพเดียมอันดับที่ 3 จึงต้องหลุดลอยไป
- การแข่งขันเริ่มต่อได้เพียงรอบเดียว เซฟตี้คาร์ก็ต้องออกมาอีกครั้งหลังจากมิชาเอล ชูมัคเกอร์ เบรกรถไม่อยู่ พุ่งเข้าชนท้ายรถโตโร รอสโซ ของฌอง-เอริก แวนญ์ อย่างจัง เศษชิ้นส่วนของรถแตกกระจัดกระจายเต็มแทร็ค แต่ไม่นานการแข่งขันก็เริ่มต่อได้อีกครั้ง
- หลังจากผ่านช่วงเซฟตี้คาร์ครั้งที่ 2 การแข่งขันยังเหลืออีกหลายรอบ แต่ระยะเวลาที่วิ่งมาทั้งหมดใกล้ครบ 2 ชั่วโมงเต็มที ซึ่งตามกฎการแข่งขันในปัจจุบัน การแข่งขันสามารถยุติลงได้เมื่อครบ 2 ชั่วโมงแล้ว ดังนั้นธงตราหมากรุกจึงโบกให้แก่ผู้นำหลังครบเวลาแม้จะยังเหลือการแข่งขันอีก 2 รอบก็ตาม
สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 14
ประเภทนักขับ
1. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 194 คะแนน
2. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 165 คะแนน
3. คิมี่ ไรค์โคเน่น (โลตัส) 149 คะแนน
4. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 142 คะแนน
5. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 132 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด //www.formula1.com/results/driver/2012/
ประเภททีม
1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 297 คะแนน
2. แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส 261 คะแนน
3. เฟอร์รารี่ 245 คะแนน
4. โลตัส-เรโนลต์ 231 คะแนน
5. เมอร์เซเดส 136 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภททีมทั้งหมด //www.formula1.com/results/team/2012/
เสน่ห์ของฟอร์มูล่าวันก็คือความเปลี่ยนแปลงในทุกๆ วินาที ซึ่งวันนี้เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ถึงเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีนะคะ อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าเรามาลุ้นกันต่อ คราวนี้จะบินขึ้นเหนือไปยังสนามซูซูกะ สนามสุดคลาสสิกของเอเชีย แฟนๆ ติดตามได้ในรายการเจแปนีส กรังด์ปรีซ์ วันที่ 5-7 ตุลาคมค่ะ
*****************************************
การพิจารณากรณีต่างๆ หลังการแข่งขันที่กรรมการประกาศแล้ว
- มิชาเอล ชูมัคเกอร์ รับโทษปรับกริด 10 อันดับในสนามหน้าที่ญี่ปุ่น จากกรณีเบรกไม่อยู่จนไปชนท้ายรถของฌอง-เอริก แวนญ์
- กรรมการตรวจสอบข้อมูลทางเทคนิคที่ส่งออกมาจากรถเร้ดบูลของเซบาสเตียน เวทเทล แล้วและตัดสินไม่ลงโทษผู้ชนะวันนี้ กรณีเบรกกะทันหันเพื่อวอร์มเบรกในช่วงเซฟตี้คาร์ครั้งแรกจนเกือบทำให้เจนสัน บัตตัน ที่ตามมาชนท้าย
- มาร์ก เว็บเบอร์ รับโทษแบบขับผ่าน (drive-through penalty) หลังการแข่งขัน เท่ากับต้องถูกบวกเวลาเพิ่ม 20 วินาทีเข้ากับเวลาแข่งขันที่ทำได้จากกรณีตัดโค้งแซงคามูอิ โคบายาชิ ส่งผลให้เขาถูกปรับอันดับจบการแข่งขันเป็นอันดับที่ 11 และต้องคืน 1 คะแนนที่ได้รับ โดยเซอร์จิโอ เปเรซ ถูกเลื่อนขึ้นมาจบในอันดับที่ 10 แทน (คะแนนสะสมของเว็บเบอร์ที่ลงไว้ข้างต้นปรับปรุงแล้วหลังการรับโทษค่ะ)
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ formula1.com
ภาพจาก formel1.de