Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 
15 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
2010 Season Finale: Sebastian Vettel - F1 World Champion

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ตามข้อแม้ที่ว่า "ต้องชนะสนามนี้ โดยเฟอร์นันโด อลอนโซ่จบไม่สูงกว่าอันดับ 5"

แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก...เกินกว่าที่จะเป็นไปได้


สรุป 3 อันดับบนโพเดียม
1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:39:36.837
2. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) +10.1 secs
3. เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) +11.0 secs
ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด: ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 1:41.274 - รอบที่ 47

- เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ของเฟอร์รารี่ จบอันดับที่ 7 ได้เพิ่มเพียง 6 คะแนน จึงพลาดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย
- มาร์ก เว็บเบอร์ ก็พลาดตำแหน่งแชมป์โลกจากการจบในอันดับที่ 8





เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์โลกปี 2010




จากอันดับของการแข่งขัน ทำให้ในที่สุดหนุ่มน้อยจากเยอรมันสามารถแซงขึ้นไปเป็นผู้นำในคะแนนสะสมได้เป็นครั้งแรกของฤดูกาล และทำให้เขาเป็นแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยวัย 23 ปี 134 วัน ถือเป็นแชมป์โลกลำดับที่ 32 นอกจากนี้เขายังเป็นนักขับชาวเยอรมันคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์โลกฟอร์มูล่าวันต่อจากมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ซึ่งทำไว้ครั้งสุดท้ายเมื่อ 6 ปีก่อน

สำหรับ 2 คันของแม็คลาเรนผลงานดีทั้งคู่ โดยเฉพาะบัตตันที่แซงอลอนโซ่ได้ตั้งแต่ออกตัว ทำให้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยน แต่ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผลการแข่งขันออกมาเป็นแบบนี้มาจากอุบัติเหตุรอบแรกเมื่อชูมัคเกอร์รถหมุนแล้วคาอยู่กลางแทร็ค วิตันโตนิโอ ลิอุซซี่ ที่มาจากท้ายแถวหลบไม่ทัน ทำให้รถของเขาเสยเฉียดศีรษะของชูมี่ไปนิดเดียวเท่านั้น เซฟตี้คาร์จึงต้องออกมานำหน้ารถผู้นำและเป็นจังหวะที่หลายคน รวมทั้งวิทาลี เปตรอฟ และนิโค รอสเบิร์ก ได้เข้าไปเปลี่ยนยางตั้งแต่ช่วงนั้น ซึ่งออกผลเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินแชมป์โลกช่วงท้าย

ในรอบที่ 11 เว็บเบอร์เข้าพิทไปเปลี่ยนยาง หลังจากนั้นอลอนโซ่ก็เข้าพิทบ้างในรอบที่ 14 แต่ทั้งสองคนออกจากพิทมาแล้วตกอยู่ในกลุ่มกลางที่มีการจราจรหนาแน่น อลอนโซ่ออกมาตามหลังเปตรอฟขณะที่เว็บเบอร์ตามอลอนโซ่อีกทีหนึ่ง ด้วยการขับที่ยอดเยี่ยมของเปตรอฟและสภาพสนามที่แซงได้ยาก ทำให้อลอนโซ่ต้องเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 7 และเว็บเบอร์ตามเข้ามาเป็นอันดับที่ 8 ด้านรอสเบิร์กเองก็ใช้ความได้เปรียบในการเข้าพิทแต่เนิ่นๆ ทำให้ได้อันดับที่ 4 อีกคนที่มีส่วนสำคัญของเกมวันนี้คือ โรเบิร์ต คูบิซ่า ซึ่งเขาดึงให้แฮมิลตันเสียเวลาในการตามผู้นำไปมากทีเดียวก่อนที่เขาจะเข้าพิทในช่วงท้ายของการแข่งขันและจบได้อันดับที่ 5





ชูมี่ดีใจกับเซ็บหลังคว้าแชมป์โลก




หลังการแข่งขัน อลอนโซ่ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของทีมในเรื่องกลยุทธ์ เฟอร์รารี่เรียกเขาเข้าไปเปลี่ยนยางหลังจากเห็นว่าคู่แข่งที่ใกล้ที่สุดอย่างเว็บเบอร์เปลี่ยนยางก่อนหน้านี้เพื่อหวังว่าออกมาเขาจะอยู่หน้านักขับออสซี่ได้ แต่นั่นไม่เพียงพอ มันกลับทำให้เขาติดอยู่หลังเปตรอฟที่เข้าพิทไปตั้งแต่ช่วงต้น รวมไปถึงรอสเบิร์กที่ผลของการเข้าพิทเร็วทำให้เขาอยู่หน้าอลอนโซ่ด้วย ส่วนเว็บเบอร์ก็กล่าวแสดงความยินดีกับเพื่อนร่วมทีมจากใจจริง เขาเองก็เป็นผู้ที่ใช้กลยุทธ์เข้าพิทเร็วแต่ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน เขากล่าวว่าไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้และจะกลับมาสู้ใหม่ในปีหน้า



สรุปคะแนนสะสมประเภทนักขับประจำปี 2010 (ตำแหน่ง/นักขับ/คะแนน)
1 Sebastian Vettel 256
2 Fernando Alonso 252
3 Mark Webber 242
4 Lewis Hamilton 240
5 Jenson Button 214
6 Felipe Massa 144
7 Nico Rosberg 142
8 Robert Kubica 136
9 Michael Schumacher 72
10 Rubens Barrichello 47
11 Adrian Sutil 47
12 Kamui Kobayashi 32
13 Vitaly Petrov 27
14 Nico Hülkenberg 22
15 Vitantonio Liuzzi 21
16 Sébastien Buemi 8
17 Pedro de la Rosa 6
18 Nick Heidfeld 6
19 Jaime Alguersuari 5

สรุปคะแนนสะสมประเภททีมประจำปี 2010 (ตำแหน่ง/ทีม/คะแนน)
1 Red Bull/Renault 498
2 McLaren/Mercedes 454
3 Ferrari 396
4 Mercedes 214
5 Renault 163
6 Williams/Cosworth 69
7 Force India/Mercedes 68
8 BMW Sauber/Ferrari 44
9 Toro Rosso/Ferrari 13



**************************************



ปิดฉากกันไปแล้วสำหรับการแข่งขันฟอร์มูล่าวันปี 2010 สำหรับเราก็เป็นอีกปีหนึ่งที่ได้อย่างหวัง สำหรับแฟนๆ ของคนหรือทีมที่ไม่ได้แชมป์ปีนี้ ปีหน้าและปีต่อๆ ไปก็ยังมีให้ลุ้นนะคะ เหนืออื่นใดคนเขียนขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนจากใจจริงที่ช่วยทำให้การเชียร์ฟอร์มูล่าวันในปีนี้ของเรามีสีสัน เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านคอมเมนต์ ได้พูดคุยกับทุกคนผ่านบล็อกนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ ที่เราเปิดบล็อกนี้ทั้งที่เมื่อก่อนอย่างจะเขียนนานแล้วแต่ไม่กล้าด้วยกลัวว่าตัวเองจะความรู้น้อยเกินกว่าจะเขียนอะไรๆ เกี่ยวกับฟอร์มูล่าวันได้หมด

แต่ที่สุดแล้วเราตัดสินใจเขียนเพราะเราอยากใช้ "ใจ" เขียนมากกว่าค่ะ ใจของคนที่รักฟอร์มูล่าวันและอยากแชร์ความรู้สึกร่วมกับคนคอเดียวกัน ยังไงก็ขอขอบคุณอีกครั้งและหวังว่าปิดฤดูกาลเราจะยังได้คุยกันเรื่อยๆ นะคะ เราเองก็จะยังอัพเดทข่าวคราว ควันหลง หรือความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ ส่วนการแข่งขันฟอร์มูล่าวันปี 2011 จะเริ่มขึ้นวันที่ 13 มีนาคม ในรายการบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ค่ะ

แล้วมาลุ้นด้วยกันอีกนะคะ^^






*ข้อมูลจาก formula1.com / autosport.com/f1 / en.wikipedia.org
ภาพจาก sebastian-vettel.org / formel1.de



Create Date : 15 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2553 11:12:16 น. 34 comments
Counter : 1416 Pageviews.

 
สนามนี้ เข้าพิทผิด จนวืด.... ไปหลายรายอยู่นะเนี่ย


โดย: hstgz IP: 202.122.130.31 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:29:28 น.  

 
ยินดีกับเวทเทลด้วยครับ ปีหน้าสู้กันใหม่


โดย: Samudi knight IP: 115.87.149.196 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:00:15 น.  

 
สนามนี้กลยุทธ์พิทของเฟอผิดพลาดมหาศาลเลยครับ

ที่เวบเบอร์เข้าพิทเร็วไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ แอบไปสะกิดกำแพงเล็ก ๆ ล้อเลยเริ่มออกอาการไม่น่าไว้วางใจ ทีมเลยเรียกเข้าพิทเร็ว

แต่เฟอกลัวว่าเวบเบอร์พอเข้าพิทแล้วจะสามารถแซงจากกลุ่มที่วิ่งด้วยกันออกไปได้เลยส่งมาซซ่าไปดักแต่ไม่ทัน

หลังจากนั้นส่งโซ่ตามไปปิดหน้าน้ามาร์คอีกคันกะว่ายังไงอันดับก็เหนือกว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนโซ่จะเข้าอย่างน้อยอันดับที่ 4 ซึ่งเพียงพอต่อการคว้าแชมป์โลก

ปรากฏว่าเฟอคิดว่าจะแซงรถที่เข้าพิทไปก่อนตั้งแต่รอบแรก ๆ อย่าง เปตรอฟ กับ รอสเบิร์ก ได้ ในความเป็นจริงกลับทำไม่ได้ตามที่ประมาณการณ์ไว้

อย่างที่รู้ ๆ กันครับสนามนี้แซงยาก จุดแซงหลัก ๆ มีอยู่ 2 จุดเท่านั้น และดิฟฟิวเซอร์ก็มีผลทำให้แซงยาก นอกจากนั้นโซ่เองก็ไม่ใช่คนที่ถนัดเรื่องการไล่แซงด้วย

โซ่ถ้าให้วิ่งนำจะนำขาด วิ่งเร็วครับ แต่บทเป็นผู้ไล่โซ่ไม่ใช่ผู้ไล่ที่ดีนัก จังหวะแซงโซ่มักจะแซงไม่ขาดแถมตะบันยางซะหมดก่อน (ดูช่วงท้าย ๆ ที่หลุดโค้งออกไปหลายรอบนั่นแหละครับยางหมด)

คนที่เป็นผู้ไล่ที่ดีเท่าที่สังเกตดู เก่ง ๆ ก็จะมีดิไอซ์แมนกับเจ้าแฮมนี่แหละครับ

สรุปเฟอไปให้น้ำหนักกับการกดดันน้ามาร์คมากเกินไป ปรากฏว่ากระทิงไม่ใช้ทีมออเดอร์เหมือนเฟอ เจ้าเซบเลยสบายตัว แถมเป็นชัยชนะที่มาจากความสามารถของตัวเองล้วน ๆ ไม่ได้มีใครซัพพอร์ทด้วย อันนี้ต้องชมเลยครับ



โดย: fascinator IP: 10.17.33.147, 124.122.228.227 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:04:46 น.  

 
ขอบคุณมากครับ


เมื่อวานกะถูกไปบางเรื่องอยู่เหมือนกันคือ Button น่าจะผ่าน Alonso ได้ไม่ยากในโค้งแรก ซึ่งก็จริง แต่ที่ไม่คาดคิดก็คือจะมีอุบัติเหตุขนาด SC ต้องออก (เพราะ run-off ที่นี่กว้างมาก) นั่นเป็นอีก 1 ตัวแปรสำคัญเลยเนอะ แต่สุดท้ายแล้ว แชมป์ครั้งนี้ มันเหนือความคาดหมายจริงๆ กองเชียร์ก็แอบหวังมาตลอด แต่ไม่คิดว่ามันจะมาพร้อมๆกันขนาดนี้ เมื่อวานก็บ้าไปเยอะแล้ว วันนี้



หรือนี่จะเป็นการเปิดยุคแห่งการล่าแชมป์ F1 ของนักขับจากเยอรมัน?


โดย: runtaro IP: 124.121.174.225 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:08:16 น.  

 
ตามคุณ fascinator ว่าเลยครับ

คิดไว้อยู่แล้ว ว่าทำไมเข้า pit เร็ว เร็วเกินไปหรือป่าว เพราะในขณะนั้น alonso สามารถทำเวลาได้อีก ยางก็ยังไม่หมดสภาพ จราจรก้อว่าง ห่างกับ Button ไม่กี่วินาที เห็น pit Ferrari ผิดพลาดมา 2-3 สนามแล้ว ในปีนี้ ผิดกับ pit ของ Red bull ปีนี้แทบไม่มีข้อผิดพลาดเลย (ชอบ pit Red bull ที่สนาม Suzuka ที่สุด)

ผมเชื่อในความสามารถของ Alonso ปีหน้าลุ้นกันต่อไปครับ


โดย: desmond IP: 27.131.172.2 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:19:03 น.  

 
เราอ่านมาซะตั้งนาน

ขอขอบคุณเจ้าของ Blog Finishline และท่านอื่นๆ ด้วยครับ
ที่หาข้อมูลดีดี มาให้อ่าน ได้รับฟัง

ส่วนตอนนี้กำลังรอดูรถทุกทีมในปีหน้าอยู่ ว่าแต่ละทีมจะพัฒนารถออกมาให้เปนแบบไหนกัน Renault จะใช้ชื่อ RB7 รือป่าว Ferrari F11


โดย: desmond IP: 27.131.172.2 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:25:51 น.  

 
ง่ะ คุณ finishline ใจร้ายนะ ไม่ลงชื่อ 3 ทีมน้องใหม่ อย่าง Lotus, Virgin แล้วก็ HRT ถึงพวกเค้าจะกินไข่ต้มก็เหอะ ^^'


ปีหน้ายังมีอะไรให้ติดตามอีกเยอะเหมือนกัน ทั้ง
- ตลาดนักขับที่ยังไม่วาย ตอนนี้ นิโค ฮัลเคนเบิร์กก็ออกจาก Williams แล้ว แต่ไม่รู้จะไปลงที่ไหน ปีนี้คว้า Pole มาได้ แต่มาสไตล์ไม่พวกกระเป๋ามาด้วย(มั่นใจสุดๆ) ก็เลยต้องดูกันต่อไป
- Ferrari ที่ตอนแรกน่าจะเก็บคู่เดิมไว้ (Alonso - Massa) เราอาจจะได้เห็น Massa ไปอยู่ทีมอื่นก็เป็นไปได้
- Robert Kubica ที่มีรายละเอียดสัญญากับ Renault ค่อนข้างจะซับซ้อน (แต่ไม่อยากให้ไป Ferrari เลยวุ้ย แหะๆ)
- Mark Webber ซึ่งก็น่าจะอยู่กับทีมต่อไป แต่ก็มีกระแสลือกันว่า Daniel Ricciardo ที่จะเริ่มทดสอบรถในรอบขับนักซิ่งวัยกระเตาะ อาจจะก้าวขึ้นมาทีมชุดใหญ่??
- ที่นั่งของ Force India ที่ยังไม่แน่นอนทั้ง 2 ที่
- Toro Rosso ที่น้องชายในสายเลือดของ RBR ที่ปีนี้เงียบเอามากๆ ไม่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรรึเปล่า?
- ยักษ์หลับอย่าง Mercedes GP จะกลับมาแย่งแชมป์กับทีมใหญ่อีก 3 ทีมได้เต็มตัวมั้ย

-สถานการณ์ของทีม Renault ที่อาจจะมีเจ้าของใหม่เข้ามาอีก (เหมือนทางทีมอยากถอยออกไปส่งเครื่องยนต์อย่างเดียว)

ไหนจะการขยับตัวของทีมใหม่
- ทั้งการก้าวมาเป็นลูกน้องของ RBR ของ Lotus Racing
- การฟื้นชีฟอีกครั้งของ HRT หลังจากได้มหาเศรษฐีชาติเดียวกัน และเหมือนจะได้รถ TF10 มาจาก Toyota
- การไหลเข้ามาของเงินรัสเซีย จากค่ายรถ Marussia ซุปเปอร์คาร์จากเมืองหมีขาว (เห็นข่าวบอกเป็น deal ระยะยาว และอาจจะเข้ามาครองทีมเต็มตัว เปลี่ยนเป็นทีมของรัสเซียเลย)

น่าติดตามว่าสามทีมนี้ จะขยับเข้ามาติดทีมกลางตารางได้แ่ค่ไหน


อีกอย่างก็จะเป็นเรื่องกฏใหม่ไม่ว่าจะเป็น
- ไม่มี double diffuser
- ไม่มี F-Duct
- การกลับมาของ KERS (ที่ทำเอาทีมใหญ่อย่าง BMW หง๋ายเก๋งไปแล้ว)


โอ้ย..แค่คิดก็สนุกแล้ว (หรือว่าผมบ้าคนเดียว ฮ่าๆ) รัก F1 วุ้ยย


โดย: runtaro IP: 124.121.174.225 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:31:39 น.  

 
ไม่ได้ใจร้ายนะคะคุณ runtaro

แบบว่าก๊อปมาจาก autosport อ่ะ มันลงแค่นั้น - -'


โดย: finishline วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:16:18 น.  

 
ถามคุณ fascinator หน่อยครับว่า pull rods suspension ที่ด้านหลังของรถ RB6 มีข้อได้เปรียบอย่างอื่นนอกเหนือจาก CG ที่ต่ำกว่า Push rods หรือเปล่าครับ


โดย: CRP IP: 203.188.44.182 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:46:27 น.  

 
ปีหน้า ผมอยากเห็นเจ้าหนูซูชิ ได้รถแรง ไว้ไล่แซงชาวบ้านครับ


โดย: hstgz IP: 202.122.130.31 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:08:51 น.  

 
สงสารน้ามาร์กครับ ปีหน้าเอาใหม่นะครับ


โดย: Editor IP: 180.180.50.250 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:18:16:13 น.  

 
เป็นฤดูกาลที่สนุกค่ะ ถึงเราจะได้ดูแค่ตั้งแต่สนามที่เบลเยี่ยมก็เถอะ (แบบว่าไปอยู่หอตลอด ไม่ค่อยได้ติดตามทั้งข่าวทั้งการแข่งขันเลย)

ขอบคุณคุณ finishline มากๆค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ ให้เราได้แวะเข้ามาดูได้ตลอด แล้วก็ขอบคุณแฟนๆ F1 ทุกท่านด้วยค่ะที่มีข้อวิเคราะห์วิจารณ์ทำเอาซะเราติดงอมแงม (เพื่อนๆเราไม่มีคนดูเลยค่ะ F1 เนี่ย ต้องบ้าอยู่คนเดียว -_-)

ฤดูกาลหน้าฟ้าใหม่มาลุ้นอีกนะคะ ^^

นึกว่า Webber จะเลิกขับแล้วซะอีกนะเนี่ยยย สงสัยจะเอาแชมป์โลกให้ได้ก่อนรีไทร์แหงมๆ

ปล.เมื่อวานน้าเบสแกพากย์แล้วบอกว่าทีม Red Bull จะมีเซอร์ไพร์สให้แฟนๆชาวไทย ไอ่เรานี่ลุกขึ้นมานั่งผึ่งเลย อะไรว๊าๆๆ นี่ถ้า Vettel กะ Webber มา จะตามติดยิ่งกว่าแฟนๆ K-pop เลยทีเดียว ฮี่ฮี่


โดย: Oum-imm IP: 124.121.57.173 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:16:34 น.  

 

ดีใจด้วยครับ จขบ.
Vettel ปีหน้าได้ขับเบอร์ " 1 " แล้ววววว
--------
แฟนๆ Alonso ได้แชมป์ Fastst Lap แล้วนะครับ
( * ทีแรกเห็นประกาศเป็น hamilton เราแทบช็อค แต่ตอนนี้เปลี่ยนผลแล้ว )
ไม่มีใครจำ ไม่มีใครถามถึงก็เหอะ แต่ก็ดีใจนะ จบแบบไม่มือเปล่าอ่ะ มีถ้วยมาปลอบใจได้บ้าง ^^
----------
เอ่อ น้า Mark เห็นบ่นน้อยใจกับ Red Bull ว่าดูแลไม่เท่าเทียมกัน
มาตั้งแต่ ช่วงกลาง season แล้ว ( น่าสงสาร บอกทีม ทีมก็บอกไม่จริง จนต้องไปบอกออกสื่ออีกหลายรอบเลย -_- )

ถ้างั้น มา FERRARI สิครับ เคยเห็นตกเป็นข่าวว่า FER จะดึงตัวมาอยู่นะ
ถ้าเอาจริงๆไม่น่ายาก อายุเยอะก็ไม่เกี่ยว เพราะน่าจะแข่งต่อได้อีก 3-4 ปีอ่ะ


โดย: JUNE IP: 113.53.195.217 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:34:51 น.  

 
ตอบคุณ CRP

ในทางทฤษฎีถือว่าประสิทธิภาพในการซับแรงของ Pull Rod กับ push rod ไม่มีความแตกต่างกันครับ

เรื่องของ CG Pull Rod กับ Push Rod ก็ไม่แตกต่างกันมากเพราะ suspension ไม่ใช่น้ำหนักตัวหลักของรถ

ที่จะมีผลต่างกันระหว่าง Pull กับ Push คือ การจัดวาง Component หรือ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของช่วงล่างและส่วนประกอบอื่น ๆ ที่มีผลจากการย้ายตำแหน่งของช่วงล่างครับ

ก็คือในทางประสิทธิภาพมันไม่ต่างกัน แต่ในเรื่องของการเสริมประสิทธิภาพให้กับชิ้นส่วนอื่น ๆ มันต่างกันครับ ซึ่งความแตกต่างจะเป็นไปในด้านบวกหรือลบขึ้นอยู่กับความสามารถของวิศวกรแล้วล่ะครับ

แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ การจัดวางตำแหน่งและทิศทางของ Damper นี่แหละครับ


โดย: fascinator IP: 124.121.247.89 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:43:49 น.  

 
หวัดดีทุกคนคับ (^.~)

ดีใจกับเจ้าเซ็บน้อย และทีมเร้ดบูลด้วยเด้อ เป็นปีที่สนุกพลิกไปพลิกมาจริงๆ

และเสียใจและเสียดายแทนอลอนโซ่ด้วย เมื่อวานก็เต็มที่แล้ว ปีหน้าฟ้าใหม่ล่ะกันครับ

...

พี่ finishline คับ แชมป์มีเรื่องรบกวนอีกแล้ว แฮ่ๆ ^^"

ข่าว Rossi อ่า : Rossi has shoulder operation : ตามลิ้งค์นี้เลยคับ

//www.motogp.com/en/news/2010/rossi+on+surgery+in+cattolica

เข้ารับการผ่าตัดไหล่ที่เจ็บแล้วใช่มั๊ยนี่ !!

อยากรู้ ๆ o.O


โดย: Champ IP: 110.168.66.78 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:50:47 น.  

 
ผ่านไปอีก 1 ปีที่สนุกมากๆ มีช่วงพลิกผันกันหลายจุดมาก ทำให้ได้ลุ้นถึงสนามสุดท้าย สำหรับสิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ (เท่าที่นึกออก) เช่น

- ระบบคิดคะแนนแบบใหม่ ทำให้พลิกผันได้มากกว่าเดิม แค่ชนะติดๆกันหรือไม่มีแต้มซัก 2-3 สนาม สถานการณ์ก็พลิกได้เลย

- การเปลี่ยนแปลงของทีม ทั้งทีมเก่าที่เลิกไป และทีมใหม่ที่เข้ามา รวมไปถึงนักแข่งหน้าใหม่ๆที่เข้ามา

- การแบนการเติมน้ำมันระหว่าง Race ซึ่งส่งผลกระทบไปในหลายๆด้าน เช่น

* การที่ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันที่จะต้อง start race ตั้งแต่ Q3 ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะในปีที่แล้ว ผู้ที่ได้ pole ในหลายๆสนามคือรถคันที่เบาที่สุด
* การที่ขนาดของรถต้องใหญ่ขึ้น เพื่อให้สามารถจุน้ำมันได้พอทั้ง race ทำให้การแซงกันเป็นสิ่งที่ยากขึ้นไปอีก รวมไปถึงการวางแผนต่างๆ และ pit strategy ที่ถือได้ว่าเป็นอีก 1 เสน่ห์ของ F1 เพราะส่วนใหญ่ก็ pit กันแค่ครั้งเดียว (ยกเว้นที่ Montreal ที่มีปัญหาเรื่องยางกันทุกคัน) ซึ่งในหลายๆสนาม ดูแค่โค้งแรกก็พอจะรู้แล้วว่าอันดับตอนจบ race จะเป็นยังไง

โดยส่วนตัว เห็นด้วยการแบนการเติมน้ำมัน ถึงแม้ว่าจะมีข้อเสียอยู่หลายๆด้าน โดยเฉพาะการลดการเปลี่ยนแปลงอันดับระหว่าง Race แต่ภาพที่ Kimi โดนไฟลุกท่วมหน้า เนื่องจากโดนละอองน้ำมันจาก Reel ที่หลุดติดรถของ McLaren (น่าจะเป็น Heikki ที่ Interlagos ถ้าจำไม่ผิด) ยังเป็นภาพที่ดูทีไรก็ยังสยองทุกที รวมไปถึงการที่ Reel หลุดติดไปกับรถตอนเข้า pit ในอีกหลายๆครั้ง คิดไปแล้วยังไงก็ดีกว่า

F1 ในปีหน้าแล้วปีต่อๆไป คงต้องพยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้เกิดการแซงกันมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็น Adjustable Front/Rear wing, KERS หรืออย่างอื่น เพื่อที่จะทำให้การแข่งขันสนุกมากขึ้น (หรือลุ้นให้มีฝนตกทุกสนาม 55+)

สำหรับสถานการณ์นักขับ ทีมใหญ่ๆก็ยังมีสัญญากับนักขับของตัวเองอยู่ทั้งนั้น พวกบรรดาทีมขนาดกลาง+เล็ก อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร โดยเฉพาะนักแข่งที่มี Sponser ติดตัวมา จะได้เปรียบมาก อย่างเช่น Sergio Perez ที่ได้ไปขับ Sauber และอีกหลายๆคนที่มีข่าว เช่น Pastor Maldonado ซึ่งคิดว่าน่าจะได้ที่นั่งซักที่ในปีหน้า

แต่ในปีถัดไป รวมไปถึงอีก 2 ปีข้างหน้า เป็นอะไรที่น่าลุ้นมากกว่า เพราะ Alonso จะหมดสัญญา และ Ferrari คงต้องหานักขับระดับเดียวกันมาทดแทนแน่ๆ เท่าที่เห็น ก็คงมีอยู่ไม่กี่คนที่เป็นไปได้

แอบคิดไว้ในใจว่า Line-up ของ Ferrari ในฤดูกาล 2013 จะเป็น Vettel กับ Kubica ถ้าได้คู่นี้มาจริง น่าจะเป็นคู่ที่เยี่ยมยอดแน่ๆ

แต่มองอีกมุมนึง Kubica อาจจะไม่เหมาะกับการต้องรับบทมือ 2 ก็ได้ เพราะฝีมือระดับ Kubica เป็นมือ 1 ของทีมอื่นๆได้สบาย ถ้าเป็น Hamilton+Kubica ที่ McLaren หรือ Vettel+Kubica ที่ Red Bull ก็คงเป็นอะไรที่น่ากลัวมากจริงๆ

ที่สำคัญ จะมีอีกหลายๆคนที่มีผลกระทบต่อเนื่องกับไปด้วย แต่ถึงยังไง นักขับที่มีประสบการณ์จะได้เปรียบนักขับหน้าใหม่พอสมควร เนื่องจากการที่ไม่สามารถซ้อมระหว่าง Season ได้มากเหมือนเมื่อก่อน ทำให้โอกาสเรียนรู้รถที่ซับซ้อนอย่าง F1 เป็นเรื่องที่ยากขึ้นสำหรับนักขับหน้าใหม่

ไว้สถานการณ์นิ่งกว่านี้ (น่าจะเป็นช่วงหลังจากต้นปีหน้าไปแล้ว) ตลาดนักขับน่าจะนิ่งขึ้น อะไรๆอาจจะชัดเจนมากขึ้น


โดย: Thomaskung IP: 115.87.188.111 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:12:49 น.  

 
การไม่ให้เติมน้ำมันในช่วงก่ีเข้าพิทของวันแข่งขันเนี่ย หมดสนุกไปเยอะเลย เพราะไม่มีอนาคอนดาให้เราดู (ฮา....)


โดย: hstgz IP: 125.24.162.198 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:58:02 น.  

 
เข้ามาแอบอ่าน Blog Finishline มานานแล้วค่ะ
ต้องขอขอบคุณจริงๆ ที่มีข่าวของ F1 มาให้ได้รับทราบตลอดทุกสนามเลย ขอบคุณมากเลยค่ะ หวังว่าการแข่งขันฟอร์มูล่าวันปี 2011 ก็จะมีข่าวคราวอัปเดตมาฝากอีกนะค่ะ
จริงๆ แล้วเป็นแฟนคลับอีตาแฮมค่ะ ต้องคอยลุ้นกับ he ทุกสนามเลยค่ะแบบว่ากลัวหลุดเองอะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ อิอิ
แล้วพบกันฤดูกาลหน้าค่ะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: บ้านอยู่ภูอังลัง IP: 125.26.207.65 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:02:25 น.  

 
แหม เมื่อวานน้าเบสแกพากย์ มั่วมาก ผิดๆ ถูกๆ วิเคราะห์ ผิดเพียบ ฟังขัดใจมาก ๆ

แต่มันสนุกตรงลุ้นว่า Alonso จะไล่ขึ้นมาได้มั้ย หลังจากยุทธวิธีพลาด

แล้วกลับมาเจอกัน 2011 นะครับเพื่อนๆ F1


โดย: akker IP: 223.207.183.147 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:32:47 น.  

 
ใจผมล่ะอยากให้ Vettel ต่อสัญญากับ RBR ออกไปอีกซัก 3 ปีซะจริงๆ อยากให้อยู่กับทีมนานๆ ได้แชมป์เยอะๆ ฮ่าๆๆ (เริ่มโลภ)


แต่เห็นด้วยว่า Kubica เนี่ย ฝีมือสู้กับพวกชั้นนำได้เลย ...เมื่อไหร่จะได้รถได้ลุ้นแชมป์กลับมาอีกหนอ


โดย: runtaro IP: 124.122.236.144 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:12:46 น.  

 
ตอบคุณ Champ

ใช่ครับ Rossi ไปรับการผ่าตัดเรียบร้อยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คาดว่าจะใช้เวลารักษาตัวราว ๆ 3 เดือน

สำหรับ F1 ผมอยากให้มีการเติมน้ำมันควบคู่ไปกับการเปลี่ยนยางนะครับ เปลี่ยนยางอย่างเดียวมันมีตัวแปรเดียวในพิททำให้เดาผลการแข่งง่ายไป

ส่วนนักแข่ง Pastor Maldonado เหมือนจะได้ที่กับทีม Williams แล้วล่ะครับ

Webber เองก็คงไม่คิดจะออกจาก Red Bull แน่ ๆ ครับ ถึงมันจะอึดอัดอยู่บ้างแต่มันก็เป็นรถไฟขบวนสุดท้ายของน้ามาร์คแล้วเหมือนกัน


โดย: fascinator IP: 124.121.247.89 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:44:56 น.  

 
หวัดดีค่ะทุกคน

คุณ fascinator มาช่วยไขข้อข้องใจน้อง Champ ละ ขอบคุณน้องด้วยที่นำข่าวมาฝาก พี่ยอมรับเลยค่ะว่าอาทิตย์นี้ยุ่งๆ กับ F1 อย่างเดียวเลย แต่ก็คิดอยู่ว่า Vale ของพวกเราต้องไปผ่าตัดเร็วๆ นี้แหละ ช้ากว่านี้เดี๋ยวหายไม่ทันซ้อม


โดย: finishline วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:44:06 น.  

 
ยังดีใจไม่หายเลย นี่แหละครับ F1 อะไรๆก็เกิดขึ้นได้
ก่อนสตาร์ท โอกาส Vettel จบที่ 1 มันง่ายมากกว่า เป็นแชมป์โลกซะอีก เพราะดูจาก Alonso สตาร์ท จาก อันดับ 3 ใครจะไปนึกว่าตอนจบจะหลุดไปได้ถึงที่ 7 ช่วงแข่งขัน นอกจากจะลุ้นให้ Vettel นำตลอดแล้ว ยังลุ้นให้ที่2-ที่5 ขับให้จนจบ แล้วยังลุ้นให้ Webber แซง Alonso ให้ได้ ( ยังแอบเซ็งอีกนะ ทำไม Webber ไม่ช่วย Vettel บ้างนะ )
ยิ่งตอน Kubica เข้าพิท บีบหัวใจสุดๆ ว่าจะออกมารักษาตำแหน่งได้ไหม
สุดท้าย ตัวเลือกสุดท้ายที่เราคิดว่า Vettel จะเป็นแชมป์ก็เกิดขึ้นได้ ประหลาดใจจริง...

ตอนแข่งขัน ได้ยินน้าเบส บอกว่า ใครที่สนใจ F1 ไปพบพูดคุยกับน้าแกได้ที่งานมอร์เตอร์โชว์ เมืองทอง ที่บูท โทโทล แต่ใครจะไป ให้ SMS ไปจองคิวก่อนนะครับ ที่เบอร์ ( แอบจดไว้ ) 0816955454 มีเสื้อแจกด้วยนะ
ในนี้ใครจะบ้างไปบ้างครับ


โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 110.164.226.88 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:50:14 น.  

 
"The first time Sebastian has led the championship is at the last race of the year, but arguably it's the only time you need to lead it" - Christian Horner

ชอบจัง


โดย: CRP IP: 203.188.44.41 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:59:02 น.  

 
ตกลงเรื่องไปคุยกับน้าเบส ต้องเริ่มส่ง sms วันไหนครับ น่าจะเป็นช่วงงานรึเปล่า? งานนี้มีรถ F1 ของ Renault มา น่าจะเป็นเจ้า R29 ไม่ไปได้ไงล่ะครับพี่น้อง 555+


จริงๆ ผมก็อยากให้มีการเติมน้ำมันเหมือนลุงสตีฟนะ แต่ตอนนี้ก็รอไปก่อนก็ได้ เพราะเห็นบอกว่าค่าใช้จ่ายมันเยอะเหลือเกิน รอให้เศรษฐกิจดีขึ้นกว่านี้ก่อน หรือไม่ก็หาอะไรอีกอย่างมาทำให้ตัวแปรในการเปลี่ยนผลเพิ่มขึ้น ก็น่าจะีดีเนอะ


โดย: runtaro IP: 124.121.171.224 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:35:13 น.  

 
ไม่อยากคุยกับน้าเบสเท่าไหร่ครับ รู้สึกว่าแกก็ไม่ได้รู้เยอะกว่าเราๆท่านๆหรอก แต่แกพากย์สนุกดีเท่านั้น

อยากคุยกับคุณ fascinator หรือไม่ก็ลุงสตีฟตัวจริงเลยก็ดี แหะ แหะ


โดย: CRP IP: 203.188.44.41 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:41:28 น.  

 
ช่าย...อยากคุยกับคุณ fascinator ตัวจริงเลย

งั้นเราให้คุณ fascinator เปิดเวทีเฉพาะกิจดีมั้ย 555


โดย: finishline วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:09:33 น.  

 
=[]=!!!


โดย: fascinator IP: 124.120.11.82 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:42:16 น.  

 
Thank หลายๆค๊าบ คุณ fascinator ก่ะพี่ finishline :)

ดีใจมากที่ Vale ตัดสินใจผ่าตัดให้เรียบร้อยไป ทีนี้ก็เหลือต้องมาลุ้นกันล่ะ ว่าจะหายขาดรึป่าว กลับมาฟิตเต็มสูบได้เหมือนเดิมรึป่าว..

...

คิดเหมือนคุณ CRP เหมือนกันคับ น้าเบสบางทีก็บอกข้อมูลผิดบ้างถูกบ้าง ... แต่ส่วนตัวผม ผมชอบน้าเบสพากษ์นะ สนุกและได้อรรถรสดี ^^

ปล. ผมไม่ค่อยได้คุยเรื่อง F1 เท่าไหร่ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ คงไม่ว่ากันเด๊อ ^^'


โดย: Champ IP: 110.168.64.54 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:46:03 น.  

 
แต่ผมฟังน้าเบสพากย์ทีจะหลับเอา -0-

วันก่อนได้ยินแว๊บ ๆ ว่า Nissan Supra *0*


โดย: fascinator IP: 124.120.11.82 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:19:28 น.  

 
Webber ก็ช่วย Vettel แล้วนี่ ก็ล่อเสือออกจากถ่ำไง

ล่อเข้า pit 5555+


โดย: Editor IP: 118.172.100.152 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:13:52 น.  

 
หือ! Nissan Supra o.O'


โดย: Champ IP: 124.120.130.235 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:15:20 น.  

 
จริงของคุณ Editor นะคะ

ถึงแม้จะล่อแบบไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ ;)


โดย: finishline วันที่: 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:41:47 น.  

 
ติดตามอ่านโดยตลอด ขอบคุณสำหรับสรุปปิดท้าย final race นะครับ คุณ finishline


โดย: Nat IP: 125.24.22.10 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:19:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.