วิเคราะห์กฎใหม่ปี 2011: ของเขาดีจริง
ยางปิเรลลี่ ปีกหลังปรับได้หรือ DRS และ KERS เป็นความเปลี่ยนแปลงหลักๆ สำหรับการแข่งขันฟอร์มูล่าวันปีนี้ ซึ่งหลังผ่านมาจนเกือบครึ่งฤดูกาล ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้วิเคราะห์ตัวเลขที่น่าสนใจที่ยืนยันได้ว่าสิ่งเหล่านั้นช่วยให้การแข่งขันมีสีสันขึ้นได้จริงๆ ค่ะ
***********************************
ใน 9 สนามแรกของฤดูกาลมีการแซงกันทั้งสิ้น 623 ครั้ง โดยคิดรวมทั้งรถของทีมที่เร็วที่สุดซึ่งแซงรถของ 3 ทีมที่ช้าที่สุด แต่ไม่นับรวมการแซงในรอบแรกหรือการแซงรถที่เกิดความเสียหาย และเมื่อหักจำนวนที่รถเร็วแซงรถที่ช้าที่สุดออก DRS ช่วยทำให้เกิดการแซงคิดเป็น 29 เปอร์เซ็นต์ของการแซงในปีนี้ โดยเฉพาะสนามที่ DRS ช่วยให้เกิดการแซงมากกว่าปกติ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ อิสตันบูล บาร์เซโลน่า และบาเลนเซีย
อย่างไรก็ตาม ผลของ DRS แปรเปลี่ยนไปตามแต่ละสนาม อย่างที่โมนาโคซึ่งใช้ได้ที่ทางตรงหน้าพิตระยะสั้นๆ หรือทางตรงเวลลิงตันที่ซิลเวอร์สโตนมีจำนวนแซงรวมกันแล้วแค่ 8 ครั้งเท่านั้น ในทางกลับกัน สนามที่ขึ้นชื่อว่าแซงยากอย่างอิสตันบูล แต่มีโซนที่ใช้ DRS ได้เป็นทางตรงยาวด้านหลังสู่โค้ง 12 ทำให้เกิดการแซงกันถึง 50 ครั้ง นับว่ามากที่สุดเมื่อคิดจากแต่ละสนาม
นั่นก็แสดงให้เห็นว่า DRS ก็ไม่ได้มีผลกับการแข่งขันมากเกินไป ตัวอย่างเช่นที่สนามซิลเวอร์สโตน มีการแซงโดยใช้ DRS เพียง 6 ครั้ง แต่ตลอดการแข่งขันมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดจนกระทั่งเข้าเส้นชัย ขณะที่อิสตันบูลซึ่งได้กล่าวมาแล้วว่ามีการใช้ DRS แซงกันถึง 50 ครั้ง แต่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย
เมื่อหันไปดูยางปิเรลลี่ ผลการวิเคราะห์ก็คล้ายๆ กัน เฉลี่ยแล้วการแซงกันจำนวน 54 เปอร์เซ็นต์เกิดจากรถที่มีความต่างกันในการใช้ยางไม่น้อยกว่า 5 รอบ โดยไม่เกี่ยวว่าจะใช้ DRS ช่วยหรือไม่ ในสนามที่ใช้ยางเปลืองอย่างบาร์เซโลน่า จำนวนการแซงของรถที่มีความต่างของการใช้ยาง 5 รอบขึ้นมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย โดยเพิ่มเป็น 69 เปอร์เซนต์ แต่ที่แคนาดาและซิลเวอร์สโตนซึ่งมีอัตราการใช้ยางใกล้กัน แต่ส่งผลในเรื่องนี้น้อยกว่า
จากสถิติดังกล่าวจึงบอกได้ว่าแม้ DRS และยางปิเรลลี่จะส่งผลให้เกิดการแซงมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้มีความสำคัญมากหรือเป็นตัวตัดสินจนเกินไป การแซงปกติยังคงมีอยู่ แถมยังเรียกว่ามีจำนวนมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าลักษณะเฉพาะของแต่ละสนามมีอิทธิพลอย่างยิ่งกับการแซง อย่างที่ตุรกีและจีนซึ่งมีทางตรงยาวทำให้เกิดการแซงกันมากมาย ขณะที่สนามแคบๆ อย่างโมนาโคแทบไม่มีโอกาสให้แซงกันได้ หรืออย่างสนามที่ไม่ค่อยไหลลื่นอย่างบาเลนเซีย สิ่งต่างๆ ที่มาใหม่ในปีนี้กลับช่วยให้โชว์สนุกขึ้นได้ แต่ก็ไม่น่าประทับใจอยู่ดี เทียบไม่ได้กับสนามแคนาดาซึ่งมีทั้งการแซงกันมากมายและยังตื่นเต้นตลอดการแข่งขัน
สรุปได้ว่าความหลากหลายคือกุญแจสำคัญสำหรับอนาคตของฟอร์มูล่าวัน และสำหรับตอนนี้สามารถกล่าวได้ว่ากฎใหม่ที่มีเข้ามาในปีนี้นับเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1
Create Date : 20 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 20 กรกฎาคม 2554 11:43:14 น. |
|
6 comments
|
Counter : 913 Pageviews. |
|
|