Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
 
10 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
เก็บสถิติจากบริติช กรังด์ปรีซ์

นักขับออสเตรเลียในฟอร์มูล่าวันอาจมีไม่มาก แต่ก็นับว่าแต่ละคนคุณภาพคับแก้วนะคะ

ชัยชนะของมาร์ก เว็บเบอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานับเป็นชัยชนะครั้งที่ 2 ของเขาที่ซิลเวอร์สโตน และเป็นครั้งที่ 9 ในอาชีพนักขับฟอร์มูล่าวัน ตามหลังอลัน โจนส์ นักขับออสซี่รุ่นพี่อีกเพียง 3 ครั้งและขาดอีก 5 ครั้งก็จะเทียบเท่าจำนวนชัยชนะของแจ็ก บราบัม แชมป์โลก 3 สมัย ซึ่งเป็นนักขับที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของออสเตรเลีย

ชัยชนะครั้งนี้ของเว็บเบอร์ยังเป็นโพเดียมครั้งที่ 32 ของตัวเขาเอง ทำให้เขามีสถิติขึ้นโพเดียมมากที่สุดในบรรดานักขับออสเตรเลียนด้วยกัน แซงหน้าจำนวนโพเดียมของบราบัมที่ทำไว้ 31 ครั้ง และด้วยจำนวนโพเดียมของเว็บเบอร์ตอนนี้ ซึ่งทำได้เท่ากับจิม คลาร์ก ฌาคส์ ลัฟฟิต และฌอง อเลซี่ นับเป็นจำนวนโพเดียมมากที่สุดลำดับที่ 26 ของฟอร์มูล่าวันค่ะ

อีกสถิติที่น่าสนใจจากการเข้าเส้นชัยของเว็บเบอร์ครั้งนี้เป็นการจบการแข่งขันสนามที่ 50 ติดต่อกันของเขาโดยไม่มีปัญหาทางเทคนิคใดๆ เลย ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดอันดับที่ 3 ในฟอร์มูล่าวัน และหากในเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าเขาสามารถจบการแข่งขันได้อีกก็จะทำให้เขาขยับสถิติขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 แซงหน้าสถิติของลูอิส แฮมิลตันที่ทำไว้ร่วมกัน โดยของแฮมิลตันนั้น เขาจบการแข่งขันติดต่อกันนับตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรกที่ออสเตรเลีย 2007 จนกระทั่งบราซิล 2009





มาร์ก เว็บเบอร์ ประสบความสำเร็จที่ซิลเวอร์สโตนมาตลอดแม้แต่ในซีรีส์อื่นๆ




ยังมีสถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายดังต่อไปนี้ค่ะ

รอบควอลิฟาย

- หลังจากเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ว่างเว้นจากตำแหน่งโพลมานานนับตั้งครั้งสุดท้ายในสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2010 การได้โพลที่ซิลเวอร์สโตนครั้งนี้ของเขาเป็นการสิ้นสุดการรอคอยถึง 31 สนาม ซึ่งเป็นการไม่ได้โพลติดต่อกันยาวนานที่สุดในการเป็นนักขับฟอร์มูล่าวันของเขา โดยก่อนหน้านั้นเคยทำสถิติเดียวกันนี้นับตั้งแต่เบลเยียม 2007 ถึงเยอรมัน 2009 โพลนี้ยังเป็นโพลที่ 21 ของเขา ทำให้มีสถิติจำนวนโพลมากที่สุดเป็นอันดับที่ 11 ในฟอร์มูล่าวันเท่ากับแฮมิลตัน และเป็นโพลที่หยุดโอกาสเร้ดบูลที่จะทำสถิติได้โพลเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันที่ซิลเวอร์สโตน แต่ที่สำคัญที่สุดคือเป็นโพลของเครื่องยนต์เฟอร์รารี่ครั้งแรกในปีนี้ เพราะสนามก่อนหน้านี้มีแต่ทีมที่ใช้เครื่องของเมอร์เซเดสและเรโนลต์เท่านั้นที่ทำได้ โดยมีจำนวน 3 และ 5 สนามตามลำดับ

- อลอนโซ่และเว็บเบอร์เพิ่งจะเคยสตาร์ทจากแถวหน้าด้วยกันเป็นครั้งที่ 2 เท่านั้น สำหรับครั้งแรกเกิดขึ้นในรายการโมนาโค กรังด์ปรีซ์ ปี 2006

- นับตั้งแต่เซบาสเตียน เวทเทล มาอยู่กับเร้ดบูลเมื่อปี 2009 ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ได้ออกตัวจากแถวหน้าในการแข่งขันที่นี่

- เฟลิเป้ มาสซ่า ควอลิฟายได้กริดที่ 5 นับเป็นผลงานการควอลิฟายที่ดีที่สุดของเขาในฤดูกาลนับจนถึงขณะนี้

- หากไม่นับการที่แฮมิลตันโดนปรับกริด 5 อันดับที่เซี่ยงไฮ้และต้องออกจากกริดสุดท้ายที่คาตาลุนย่า ครั้งนี้เป็นการควอลิฟายที่แย่ที่สุดของเขานับตั้งแต่เปิดฤดูกาล และเป็นครั้งแรกที่เขาควอลิฟายหลุดจากท็อป 3 ในการแข่งขันที่ซิลเวอร์สโตน

- นิโค รอสเบิร์ก ไม่ผ่านเข้า Q3 เป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยทำได้เพียงอันดับที่ 11

- เจนสัน บัตตัน หลุดไปตั้งแต่ Q1 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ในการแข่งขันสนามสุดท้ายให้กับฮอนด้าที่บราซิล 2008 แต่ครั้งนั้นยังมีเรื่องดีที่เขาได้โพลติดต่อกัน 2 สนามต่อมา


การแข่งขัน

- ชัยชนะของเว็บเบอร์จากการออกตัวจากกริดที่ 2 ถือเป็นเทรนด์ต่อเนื่องที่ออกจะแปลกสำหรับซิลเวอร์สโตน โดยเมื่อย้อนไประหว่างปี 1991-94 ผู้ชนะยังมาจากตำแหน่งโพลทุกปี แต่นับตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา ผู้ชนะจะมาจากตำแหน่งกริดที่แตกต่างจากปีก่อนเสมอ ซึ่งสับเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่ภายในกริด 5 อันดับแรก ส่วนผู้ชนะปีนี้ก็มาจากกริดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดนั่นคือกริดที่ 2 โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ส่วนผู้ที่ได้โพลแล้วชนะเกิดขึ้นเพียง 4 ครั้งเท่านั้น

- ผลการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ยังคล้ายคลึงกับเมื่อปี 1987 ซึ่งผู้ชนะได้นำการแข่งขันไม่กี่รอบจากการแซงในช่วงสุดท้าย ในปีดังกล่าวเป็นชัยชนะของไนเจล แมนเซลล์ ซึ่งเข้าพิตเปลี่ยนยางเมื่อถึงครึ่งทางของการแข่งขันและสามารถแซงเนลสัน ปิเกต์ เพื่อนร่วมทีมวิลเลียมส์ของเขาที่ไม่ได้เปลี่ยนยางเลย โดยแซงได้ขณะเหลือการแข่งขันอีกเพียง 3 รอบ

- การจับคู่กันของเว็บเบอร์และเวทเทลทำให้เร้ดบูลได้ชัยชนะรวมแล้ว 30 ครั้ง นับเป็นสถิติอันดับที่ 2 ของคู่นักขับที่ทำได้ เทียบเท่ากับคู่หูคู่ดังของแม็คลาเรนอย่างมิก้า ฮัคคิเน่น กับเดวิด คูลธาร์ด สำหรับสถิติสูงสุดเป็นผลงานจากคู่ในตำนานเฟอร์รารี่ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ กับรูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ ด้วยจำนวนชัยชนะรวม 58 ครั้ง

- โพเดียมคู่ของเร้ดบูลเมื่อวันอาทิตย์เพิ่งจะเป็นครั้งแรกของทีมจากออสเตรียในฤดูกาลนี้ ค่อนข้างตรงกันข้ามกับผลงานของพวกเขาเมื่อปีที่แล้วซึ่งตลอดทั้งปีสองนักขับของทีมขึ้นโพเดียมพร้อมกัน 9 ครั้ง แต่หากนับสถิติโพเดียมของเร้ดบูลเฉพาะสนามนี้นับตั้งแต่ปี 2009 ที่เว็บเบอร์และเวทเทลจับคู่กัน นักขับของทีมได้โพเดียมรวมกันถึง 7 จากโอกาสสูงสุด 8 โพเดียม

- มาสซ่าจบการแข่งขันในอันดับที่ 4 นับเป็นผลการแข่งขันที่ดีที่สุดของเขาใน 2 ฤดูกาลล่าสุด โดยตลอดปี 2011 เขาได้อันดับที่ดีที่สุดคืออันดับที่ 5 ส่วนครั้งสุดท้ายที่ทำได้ดีกว่านี้คือการได้อันดับที่ 3 ในโคเรียน กรังด์ปรีซ์ 2010 หรือ 30 สนามมาแล้ว! และที่บังเอิญคือรายการนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เฟอร์รารี่ทั้งสองคันจบใน 4 อันดับแรก (วันนั้นอลอนโซ่เป็นผู้ชนะ) ก่อนจะถึงเมื่อวันอาทิตย์

- โรแมง โกรส์ฌอง จบในอันดับที่ 6 แม้จะตกไปอยู่ในอันดับที่ 22 ในช่วงแรกของการแข่งขัน เท่ากับว่าในปีนี้เมื่อใดก็ตามที่เขาจบการแข่งขันก็จะอยู่ระหว่างอันดับที่ 2-6 เสมอ แต่เมื่อพูดถึงการออกจากการแข่งขัน ในปีนี้เขาไม่จบการแข่งขันมาแล้ว 4 ครั้ง จึงนับเป็นนักขับที่ลงแข่งขันได้ระยะทางน้อยที่สุด

- เป็นครั้งแรกของปีนี้ที่มิชาเอล ชูมัคเกอร์ จบการแข่งขัน 2 สนามติดต่อกันได้สำเร็จ โดยเขาสามารถเก็บคะแนนได้ 21 คะแนนจาก 2 สนามล่าสุด

- หนึ่งปีเต็มมาแล้วที่นักขับเฟอร์รารี่ไม่สามารถทำสถิติเวลาต่อรอบเร็วที่สุดจากสนามใดๆ ได้ โดยครั้งล่าสุดเป็นอลอนโซ่ที่ทำไว้จากการแข่งขันที่อังกฤษเมื่อปีที่แล้ว





มิชาเอล ชูมัคเกอร์ จบการแข่งขัน 2 สนามติดต่อกันเป็นครั้งแรกในปีนี้




- จากสถิติการขึ้นโพเดียมของแม็คลาเรนเท่าที่ผ่านมาในปีนี้ พวกเขาได้ 5 โพเดียมจาก 3 สนามแรก แต่ 6 สนามต่อมามีเพียงแฮมิลตันที่ได้ขึ้นโพเดียมจากชัยชนะที่แคนาดา แสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งความยากลำบากที่แม็คลาเรนกำลังเผชิญในตอนนี้

- ถ้ามีการมอบรางวัล "มหาโหด" คงต้องยกให้พาสเตอร์ มัลโดนาโด เพราะนับจากชัยชนะของเขาที่สเปน เขามีอุบัติเหตุในทุกสนามต่อจากนั้น โดยที่โมนาโคเขาชนกับเซอร์จิโอ เปเรซ ในช่วงฝึกซ้อมและชนกับเปโดร เด ลา โรซ่า ตอนออกตัว จากนั้นที่แคนาดาเขาชนกำแพงก่อนที่ต่อมาในบาเลนเซียเขาชนกับแฮมิลตัน และล่าสุดที่ซิลเวอร์สโตนกับเปเรซอีกครั้ง

- เฮกกิ โควาไลเน่น จบการแข่งขันบริติช กรังด์ปรีซ์ โดยไม่มีคะแนน และเป็นสนามที่ 50 ติดต่อกันแล้วที่เขาไม่ได้คะแนนจากการแข่งขันเลยนับตั้งแต่สิงคโปร์ 2009 ขณะยังเป็นนักขับของแม็คลาเรน ส่วนรายต่อไปที่จะมีสถิติเท่ากับโควาไลเน่นคือทิโม กล็อค หากใน 3 สนามต่อจากนี้เขายังไม่ได้คะแนนจากการแข่งขัน

- พอล ดิ เรสต้า ออกจากการแข่งขันตั้งแต่ช่วงต้น นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาลงแข่งฟอร์มูล่าวันที่ไม่สามารถผ่านครึ่งทางของการแข่งขันได้







*ข้อมูลจาก autosport.com/f1
ภาพจาก nextgen-auto.com


Create Date : 10 กรกฎาคม 2555
Last Update : 10 กรกฎาคม 2555 18:31:57 น. 6 comments
Counter : 1466 Pageviews.

 
เผื่อใครยังไม่ทราบ...

มาร์ก เว็บเบอร์ ต่อสัญญากับเร้ดบูลออกไปอีก 1 ปีแล้วนะคะ

และเอฟไอเอก็ออกกฎห้ามใช้ DRS ขณะมีธงเหลืองโบกในโซน DRS แล้ว อันสืบเนื่องจากกรณีของเวทเทลและมาสซ่าที่สเปน และของลุงชูที่บาเลนเซียค่ะ


โดย: finishline วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:35:31 น.  

 
ขอบคุณครับ อ่านเพลินจนเลยเวลานอนเลยจ้า


โดย: ชัยจ้า IP: 125.26.79.250 วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:18:54 น.  

 
ตาชูจบ 2 สนามติด ห้าๆๆๆ


โดย: runtaro IP: 101.108.107.1 วันที่: 11 กรกฎาคม 2555 เวลา:7:44:11 น.  

 
ขอบคุณครับผม


โดย: ตั้ว IP: 183.89.88.72 วันที่: 11 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:18:51 น.  

 
อ่านเพลินจริงๆ ค่ะกับข่าวคราวมากมาย
แต่ก็ยังต้องอกหักกับแมคลาเลนต่อไปค่ะ
สู้ต่อไปนะแม็คลาเลน 555


โดย: pinuma IP: 118.172.208.160 วันที่: 11 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:00:17 น.  

 
ขอบคุณมากๆครับ


โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 118.173.204.97 วันที่: 11 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:42:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.