Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2553
 
13 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Monaco Grand Prix 2010

เข้าสู่การแข่งขันสนามที่ 6 ของปี โมนาโค กรังด์ปรีซ์ ยังมีมนต์เสน่ห์เสมอ...


วิวมุมสูงของสนามโมนาโค กรังด์ปรีซ์

สำหรับรายละเอียดสนามมีดังนี้ค่ะ

วันแข่งขัน : อาทิตย์ที่ 16 พ.ค. 53 (รอบจัดอันดับ เสาร์ที่ 15 พ.ค.)
เวลาแข่ง (ไทย) : 19.00 น.
ชื่อสนาม : Circuit de Monaco
จำนวนรอบแข่งขัน : 78 รอบ
ความยาวของสนาม : 3.340 กม.
ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด : 260.520 กม.
สถิติสนามต่อ 1 รอบ : 1:14.439 (Michael Schumacher - 2004)
พยากรณ์อากาศวันแข่ง : มีเมฆเป็นบางส่วน อุณหภูมิ 13-18 องศา

ทีมต่างๆ ทำงานแข่งกับเวลากันยกใหญ่ เพราะมันกระชั้นเหลือเกินหลังจากเพิ่งจบไปจากสแปนิช กรังด์ปรีซ์ เที่ยวนี้ย้ายมาฝึกซ้อมกันในวันพฤหัสบดีทั้ง 2 ช่วง ส่วนช่วงซ้อมสุดท้ายยังเป็นวันเสาร์ก่อนควอลิฟายเหมือนเดิม เจ้าของบล็อกอดดูวันควอลิฟายด้วยล่ะค่ะ เหตุเพราะจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวทะเล (ฟังดูเป็นลูกกตัญญูมาก:P) แต่วันอาทิตย์จะรีบกลับมาให้ทันก่อน 1 ทุ่มเพื่อดูถ่ายทอดสดตอนแข่งจริงให้ได้

เมื่อวานเราอ่านเจอข่าวว่าทีมต่างๆ ต้องการที่จะกลับมาใช้ KERS ในฤดูกาลหน้า หลังจากใช้ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

KERS หรือ Kinetic Energy Recovery Systems ในความเข้าใจของเราคือเป็นเครื่องเก็บพลังงานที่เกิดขึ้นจากการเบรกที่ปกติจะถูกทิ้งให้สูญเปล่าไป แล้วเปลี่ยนมาเป็นพลังเพิ่มให้รถโดยเฉพาะเวลาวิ่งทางตรง หน้าตาของ KERS ก็คล้ายๆ แบตเตอรี่นั่นแหละค่ะ น้ำหนักราวๆ 30 กก. เมื่อปี 2009 FIA หรือสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ ผู้ควบคุมการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน คงจะกลัวทีมต่างๆ มีเวลาว่างมากเกินไป จึงให้ทีมทดลองใช้โดยไม่ได้บังคับ ใครจะเลือกใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ จะใช้ตลอดหรือใช้บางสนามก็ได้เหมือนกัน

ทีมใหญ่ๆ อย่างแม็คลาเรนหรือเร้ดบูลเลือกที่จะลองใช้แบบมีบ้างไม่มีบ้าง สำหรับเร้ดบูลตอนหลังค้นพบว่าตัวเองไม่เหมาะกับ KERS แถมบางสนามใส่ไว้ก็ใช้ไม่ได้ เหมือนแบกก้อนหินถ่วงรถไว้ซะงั้น เลยเลิกใช้ไปเลย ส่วนแม็คลาเรน เราขอชมเชยสุดๆ เพราะตอนแรกเขาประสบปัญหามากมาย KERS สำหรับเขาไม่เวิร์กเช่นกัน แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้จนในที่สุดก็ได้โพเดียมอันดับที่ 1 ด้วยรถที่มี KERS เมื่อล่วงเข้าสู่ครึ่งฤดูกาลหลังไปแล้ว ซึ่งพวกเขาให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเขาได้คำตอบแล้วว่าทำอย่างไรรถที่ติด KERS ถึงชนะได้

แต่สำหรับเฟอร์รารี่ มันเป็นฝันร้ายเอาเลยหละ พวกเขาควานหาชัยชนะไม่ได้เลยเมื่อครึ่งฤดูกาลแรก ท้อขนาดที่ว่าประกาศหยุดพัฒนารถของปี 2009 หันไปมุ่งเน้นกับรถปี 2010 แทน เพราะพวกเขาเป็นรถประเภทติด KERS แล้วถอดออกไม่ได้ ต้องทนใช้ไปจนจบ อย่างไรก็ตาม พอมาถึงครึ่งฤดูกาลหลัง ชีวิตกลับดีขึ้น ไม่รู้ว่าค้นอะไรเจอหรือเพราะความตั้งใจจะเอาชนะอุปสรรคให้ได้ของคิมี่ ไรค์โคเน่น ทำให้เขาเริ่มขึ้นโพเดียมได้บ้าง และได้ชัยชนะครั้งแรกและครั้งเดียวของฤดูกาล รวมทั้งเป็นชัยชนะครั้งสุดท้ายกับเฟอร์รารี่ ที่สนามสปา ฟรองโคชองป์ ประเทศเบลเยี่ยม แต่จนแล้วจนรอด KERS ก็ไม่กระเตื้องอีก สนามสุดท้ายที่อาบูดาบี เฟอร์รารี่หล่นไปจาก 10 อันดับแรกอีกครั้ง


คิมี่ ไรค์โคเน่น (กลาง) ชัยชนะเดียวของเฟอร์รารี่ที่เบลเยี่ยมเมื่อปีที่แล้ว

ดูจากประวัติ KERS ไม่น่าประทับใจเลยใช่มั้ยคะ ก็ขนาดทีมต่างๆ ลงความเห็นกันก่อนเปิดฤดูกาลไปแล้วว่า "ไม่เอา KERS!" แล้วทำไมปีหน้าจะกลับมาใช้ KERS อีกล่ะ? หรือว่าเจอ "สูตรการทำ" ที่ลงตัวแล้ว? โดยวิลเลียมส์กับเมอร์เซเดส จีพี แสดงตัวชัดเจนว่าอยากกลับมาใช้ KERS ขณะที่เฟอร์รารี่ยังสยองกับผลงานตัวเองเมื่อปีที่แล้วไม่หาย แถมเรโนลต์ก็ขอเป็นลูกคู่ส่ายหน้าไม่เอาด้วยเหมือนกัน

ถึงอย่างไร นี่ก็ยังเป็นแค่ความเห็นชั่วคราวก่อนนะคะ ยังไม่ได้ตกลงปลงใจแต่อย่างใด การแข่งขันของปีนี้ยังเดินทางไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำ พวกเขายังมีเวลาอีกพอสมควรที่จะคิดไตร่ตรองให้ดีว่าคุ้มกับที่จะเอากลับมาทำหรือเปล่า อย่าให้เหมือนปี 2009 ที่ KERS ทำให้รถฟอร์มูล่าวันทั้งหลายเหมือนเรือบรรทุกทราย ลอยอ้อยอิ่งอยู่กลางน้ำอย่างไรอย่างนั้นก็แล้วกัน!

*******************************

บางส่วนจาก Press Conference - พุธที่ 12 พ.ค.

เซบาสเตียน บูเอมี่ (โตโร รอสโซ๋): จากสนามที่แล้ว ผมว่าเราไม่ได้แย่นักเมื่อคิดถึงว่าเราเป็นทีมเล็ก ก็หวังว่ารถจะดีที่สนามนี้เช่นกัน

โรเบิร์ต คูบิซ่า (เรโนลต์): ผมชอบสตรีทเซอร์กิต ซึ่งผมมักจะทำผลงานได้ดีที่นี่รวมทั้งสตรีทเซอร์กิตอื่นๆ ด้วย ผมสนุกกับการขับที่นี่ หวังว่าสนามนี้จะสนุกสนานเช่นกัน

เฟลิเป้ มาสซ่า (เฟอร์รารี่): สนามนี้เป็นสนามที่ยากเสมอและเราสามารถสูญเสียเวลาได้ง่ายมากไม่ว่าจะเข้าโค้งไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นนักขับต้องทำให้ดีขึ้นในทุกรายละเอียด แล้วยังต้องดูเรื่องของอากาศเพราะถ้าฝนตกก็แจ็กพ็อตเลย อย่างไรก็ตามผมก็หวังว่าจะทำผลงานที่นี่ให้ดี



*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ formula1.com
ภาพจาก automobilsport.com


ปล. เจ้าของบล็อกขอหนีไปเที่ยว 3 วัน เจอกันใหม่วันจันทร์นะคะ


Create Date : 13 พฤษภาคม 2553
Last Update : 13 พฤษภาคม 2553 13:01:16 น. 1 comments
Counter : 1391 Pageviews.

 
ทักทายตอนบ่ายๆ จ้า อิอิ ^__^


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:41:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.