ไฟเหลือง-ไฟเขียว...เสียวแชมป์หลุดมือ!
เจ้าของบล็อกกลับมาประจำการแล้วค่ะ ^^ เนื่องจากลาพักร้อนไปเลยไม่ได้ร่วมวงเกาะติดข่าวเขย่าขวัญแฟนๆ เซบาสเตียน เวทเทล และเร้ดบูล ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แชมป์โลกสมัยที่ 3 ยังอยู่ในมือเจ้าเซ็บเพราะทุกคำถามมีคำตอบออกมาจากเอฟไอเอ เป็นอันว่าสิ่งที่โลกสงสัยจะได้หายข้องใจเสียที ทุกคนคงจำได้ว่าหลังจบการแข่งขันใหม่ๆ ก็มีข้อกังขามาครั้งหนึ่งแล้ว เนื่องจากรายการวิเคราะห์วิจารณ์หลังแข่งของสกายสปอร์ตรีเพลย์จังหวะที่เวทเทลแซงคามูอิ โคบายาชิ อาจเป็นการแซงภายใต้ธงเหลือง แต่ความจริงคือเป็นธงเหลือง-แดง อันหมายถึงเป็นการเตือนให้นักขับระมัดระวังสภาพแทร็คลื่น เพราะตอนนั้นฝนเริ่มเทหนาเม็ดลงมาอีก ซึ่งก็ไม่ได้มีกฎว่าห้ามแซงภายใต้ธงประเภทนั้น แต่หลังจากนั้นมีอีกจังหวะหนึ่งที่ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ใครที่ไม่ได้เข้ามาติดตามข่าวที่เพื่อนๆ ของเราช่วยกันสืบหารายละเอียดและวิเคราะห์ในบล็อกก่อนหน้า เรามาย้อนดูประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาพร้อมกันเลยค่ะ เรื่องของเรื่องเริ่มจากการที่มีแฟนฟอร์มูล่าวัน (ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นแฟนชาวสเปนนั่นเอง) โพสต์คลิปบนยูทูบซึ่งแสดงจังหวะที่เวทเทลแซงฌอง-เอริก แวนญ์ ของโตโร รอสโซ่ ในรอบที่ 4 ที่ดูเหมือนก้ำกึ่งว่าจะอยู่ในช่วงธงเหลืองหรือไม่ ถ้ายังไม่พ้นโซนธงเหลืองจริง เวทเทลจะต้องถูกลงโทษหลังแข่งโดยถูกบวกเวลาเพิ่มเข้าไปกับเวลาที่ทำได้ในการแข่งขันอีก 20 วินาที ซึ่งนั่นจะทำให้เขาหล่นไปจบการแข่งขันในอันดับที่ 8 มีผลให้เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ได้คะแนนสะสมมากกว่าและได้แชมป์ปีนี้ไปครองแทนVIDEO คลิปจากยูทูบโดยคุณ juxter23 ข่าวนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งหลังจากเฟอร์รารี่ได้เห็นคลิปดังกล่าวก็เริ่มนำมาวิเคราะห์กันภายในว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด โดยถ้าหากเวทเทลแซงไม่ถูกต้องจริง พวกเขาจะมีเวลายื่นประท้วงจนถึงวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน นอกจากนั้น เฟอร์รารี่ยังส่งจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรขอความกระจ่างจากเอฟไอเอด้วย แต่ระหว่างนั้นได้มีหลายฝ่าย ทั้งบุคลากรของเอฟไอเอและสื่อหลักๆ ทบทวนวิเคราะห์จากหลักฐานที่ปรากฏและรายงานการแข่งขันของกรรมการในสนามอินเตอร์ลากอส ต่อมาจึงมีการยืนยันตรงกันว่าจังหวะแซงของเวทเทลอยู่ภายใต้กฎกติกา ผู้สื่อข่าวฟอร์มูล่าวันของเว็บไซต์ออโต้สปอร์ตรายงานว่าโฆษกของเอฟไอเอยืนยันแล้วว่าในระหว่างการแข่งขันไม่ได้รับรายงานจากกรรมการข้างสนามว่ามีการแซงกันภายใต้ธงเหลืองแต่อย่างใด ซึ่งปกติจะมีรายงานทันทีหากมีนักขับฝ่าฝืนกฎข้อนี้ และที่สำคัญ หลังการตรวจสอบและวิเคราะห์รายละเอียดแล้วพบว่าเวทเทลแซงแวนญ์ในขณะที่เป็นธงเขียว ซึ่งหมายถึงการแข่งขันกลับเข้าสู่ปกติ สามารถแซงได้ แผงไฟที่ติดตั้งไว้รอบสนามซึ่งเอฟไอเอใช้มามากกว่า 5 ปี มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้นักขับมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น เป็นการเสริมกับธงที่กรรมการสนามใช้โบกตามธรรมดา โดยในสนามอินเตอร์ลากอสมีกรรมการประจำข้างสนาม 22 ตำแหน่ง แต่มีแผงไฟ 16 แผง ซึ่งสัญญาณไฟเตือนเหล่านั้นจะปรากฎในที่นั่งนักขับด้วย เพราะฉะนั้นบางครั้งในสนามจะมีการคร่อมกันระหว่างกรรมการและแผงไฟ เนื่องจากแต่ละตำแหน่งของกรรมการกับแผงไฟห่างกัน 350 เมตร ทำให้แผงไฟอาจเปลี่ยนสีไม่ทัน ทั้งนี้ ชาร์ลี ไวติ้ง ผู้อำนวยการการแข่งขันของเอฟไอเอกล่าวไว้ตั้งแต่เริ่มนำระบบไฟมาใช้เมื่อหลายปีก่อนว่าหากมีจังหวะต่อเนื่องของธงกับสัญญาณไฟเช่นนี้ ให้ถือตามธงที่โบกก่อน ในกรณีของเวทเทล บริเวณที่เป็น "โซนสีเหลือง" เริ่มจากแผงไฟแสดงสีเหลืองบริเวณก่อนเข้าโค้ง 3 และสิ้นสุดที่ประมาณ 150 เมตรก่อนโค้ง 4 ซึ่งแผงไฟสีเหลืองแรกจะมีกรรมการยืนถัดมาอีก 100 เมตร จังหวะที่เขาแซงรถโตโร รอสโซ นั้น กรรมการในจุดดังกล่าวได้โบกธงเขียวแล้วพร้อมกับแผงไฟที่โค้ง 4 ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวในจังหวะต่อมา ดังนั้นการแซงของเวทเทลจึงถูกต้องอย่างแน่นอน โดยเพื่อให้เป็นการกระจ่างทั้งต่อเฟอร์รารี่และแฟนฟอร์มูล่าวันทั่วโลก วันนี้เอฟไอได้ออกประกาศเป็นลายลักษณ์อักษร ยืนยันว่าการแซงของเวทเทลไม่ได้เป็นการฝ่าฝืนกฎการแข่งขันแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นก็ได้ส่งจดหมายไปถึงเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการตามคำขอของทีมม้าลำพองด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกอย่างก็สรุปได้แล้วจากตรงนี้ พร้อมกับการแข่งขันของปี 2012 ได้จบลงอย่างสมบูรณ์สวยงามค่ะ ********************************************* แถมท้ายด้วยข่าวการวางตัวนักขับของทีมวิลเลียมส์ในปีหน้านะคะ ขณะนี้พวกเขาประกาศรายชื่อนักขับตัวจริงเป็นพาสเตอร์ มัลโดนาโด คู่กับวาลท์เทรี่ บอตทาส นักขับฟินน์วัย 23 ปี แชมป์จีพีทรี ปี 2011 ซึ่งเป็นนักขับสำรองของวิลเลียมส์เองและลงซ้อมวันศุกร์ใน 15 จาก 20 สนามของฤดูกาลนี้ นั่นหมายความว่าบรูโน่ เซนน่า ได้หลุดจากที่นั่งของทีมแล้ว และนี่คือสรุปการวางตัวนักขับของทีมต่างๆ จนถึงปัจจุบันค่ะ Red Bull-Renault: Sebastian Vettel, Mark Webber Ferrari: Fernando Alonso, Felipe Massa McLaren-Mercedes: Jenson Button, Sergio Perez Lotus-Renault: Kimi Raikkonen, Romain Grosjean* Mercedes: Lewis Hamilton, Nico Rosberg Sauber-Ferrari: Nico Hulkenberg, Esteban Gutierrez Force India-Mercedes: Paul di Resta, (?) Williams-Renault: Pastor Maldonado, Valtteri Bottas Toro Rosso-Ferrari: Daniel Ricciardo, Jean-Eric Vergne Caterham-Renault: Charles Pic, (?) Marussia-Cosworth: Timo Glock, Max Chilton* HRT-Cosworth**: Pedro de la Rosa, (?) * ยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ ** ยังไม่ยืนยันการลงแข่งขันในฤดูกาล 2013 *ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ nextgen-auto.com
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2555 19:43:35 น.
20 comments
Counter : 1874 Pageviews.