ลืมพูดถึงซูชิอ่า....



งอน.... Star Sport ตัดมาให้ดู Bansai Move แค่ทีเดียวเองอ่ะ

vettel ยังแรงต่อเนื่องจริงๆ ตอนเว็บเบอร์บี้กับอลองโซ่ลุ้นสุดๆ ดีใจที่เว็บเบอร์ได้ที่ 2 อีกคนที่น่าชมเชยคือโคบายาซิสตาร์ทที่ 23 แต่จบอันดับ 10

Turkish GP ปีนี้ถือว่าสนุกมากเลยครับ เพราะอย่างที่เจ้าของบ้านได้บอกไว้ว่ามีการแซงกันเยอะกว่าปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน เรื่องที่น่าสนใจในระหว่าง race ก็เยอะมากด้วย

- ชัยชนะของ S.Vettel ก็มีลักษณะคล้ายกับ 2 สนามแรก คือ ทำได้ดีตั้งแต่เริ่ม และทิ้งห่างชาวบ้านอย่างรวดเร็วจนแทบไม่โดนกดดันอะไรเลย

- ส่วนการต่อสู้กันระหว่าง M.Webber กับ F.Alonso ก็น่าสนใจเหมือนกัน รถ Ferrari เองก็ยังคงแข็งแกร่งในช่วง Race เหมือนเดิม โดยเฉพาะช่วงต้นที่น้ำหนักรถค่อนข้างเยอะ ซึ่งรถของ Alonso ไม่ได้เป็นรองรถของ M.Webber เลย แต่ในช่วงท้ายที่ M.Webber แซงไปได้ แล้ว Alonso ไม่สามารถจะไปกดดันได้เหมือนช่วงแรก อาจจะเป็นเพราะรถของ Ferrari ที่ดูจะยังสู้รถของทีมหัวแถวทีมอื่นๆในสภาพที่น้ำหนักรถน้อยๆ และอาจจะรวมไปถึงความสดของยางด้วย เพราะยางชุดสุดท้ายที่ Alonso ใช้ เป็นยางที่เค้าใช้มาแล้วใน Q1 แต่ยางของ Webber น่าจะเป็นยางใหม่ที่เค้าไม่ได้ใช้เลย

- ทางด้านเพื่อนร่วมทีมของ F.Alonso เองก็ถือว่าน่าจะเป็น 1 ในคนที่โชคร้ายที่สุดใน race นี้ หลังจากเริ่มต้น race ได้อย่างยอดเยี่ยมจนสามารถแซง Hamilton ขึ้นมาได้ ก็โดน Hamilton แซงกลับในพิท แถมการเข้าพิทครั้งที่ 3 และ 4 ก็มีปัญหาอีก และ F.Massa เองมักจะโชคร้ายที่ต้องขับไล่ชาวบ้านเค้าตลอดเมื่อออกจากพิท ทำให้เค้าแทบจะไม่ได้ขับแบบโล่งๆเลย ซึ่งตามที่ผมสังเกต รถของ Ferrari มักจะใช้เวลาเข้าพิทมากกว่ารถของทีมนำทีมอื่นๆเสมอ โดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1 วินาทีต่อการเข้าพิท 1 ครั้ง ซึ่งทาง Ferrari เองต้องเร่งปรับปรุงในจุดนี้เป็นการด่วน เพราะปัญหานี้เป็นมีตั้งแต่สนามแรกของปีนี้แล้ว

- ทางด้าน McLaren เองก็คงผิดหวังไม่น้อย L.Hamilton เองก็ไปพลาดในรอบแรก ทำให้เสียอันดับไปเยอะมาก เมื่อรวมกับปัญหาในการเข้าพิทอีก ทำให้เค้าถูกทิ้งห่างไปเยอะเกินกว่าที่จะสร้างความกดดันอะไรให้กับอันดับ 2 และ 3 ส่วนทางด้าน Button เองก็เลือกใช้การเข้าพิทที่น้อยกว่าชาวบ้าน ทำให้เค้าไม่สามารถทำเวลาสู้กับรถที่สภาพยางดีกว่าได้

- ส่วนทาง Mercedes เองก็คงจะผิดหวังเหมือนกัน เพราะความเร็วในช่วงต้น race ดูจะสู้รถของพวกทีมหัวแถวไม่ได้เลย แต่ในช่วงปลาย race ดูจะแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งค่อนข้างจะตรงข้ามกับกรณีของ Ferrari ทางด้าน M.Schmacher ก็ยังคงขับแบบดุดันตามเดิม ซึ่งก็ได้ส่งผลกระทบให้เค้าต้องเข้าพิทไปเปลี่ยนปีกหน้าตั้งแต่รอบแรก ทำให้เค้าหลุดออกจากการลุ้นแย่งตำแหน่งดีๆไปเลย

- ทางด้าน Renault เองก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ถ้าจะมีก็การที่ Petrov กับ Heidfeld เกือบจะชนกันเอง ซึ่ง Quick Nick เองก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเค้าไม่ค่อยพอใจ Petrov มากนัก

- สำหรับผู้ที่ทำตำแหน่งขึ้นมาได้เยอะ ก็มี K.Kobayashi ที่สามารถคว้า 1 คะแนนได้ จากการ start จากตำแหน่งสุดท้าย รวมไปถึง S.Buemi ที่สามารถเข้าเส้นชัยเป็นที่ 9 จากการออก start จากตำแหน่งที่ 16 ซึ่งทาง Buemi เองก็ให้สัมภาษณ์ว่า เค้าน่าจะรักษาอันดับที่ 7 ไว้ได้ ถ้ารถของเค้าไม่มีปัญหาในช่วงท้าย race จนโดน Renault 2 คันแซงไปได้ ซึ่งปัญหานั้น เค้าก็ได้บอกว่ารถของเค้านั้นสั่นสะเทือนมากจนตัวเค้าเองแทบจะจับพวงมาลัยไว้ไม่อยู่ และเค้าคิดว่า ปัญหาไม่ได้เกิดจากการสึกของยาง ซึ่งทาง STR คงต้องไปตรวจสอบกันอีกที

โดยสรุป RBR ก็ยังคงแข็งแกร่ง ส่วนทีมที่ตามมาก็ดูจะมีช่องว่างระหว่างทีมน้อยลง ทีมระดับกลางตารางก็ยังคงสูสี Team Lotus เองก็พยายามจะลดช่องว่างระหว่างพวกเค้ากับทีมระดับกลางตาราง ส่วนทาง HRT และ Virgin ก็ดูจะสูสีกันมากขึ้น ต้องคอยดูกันที่ Barcelona ว่าจะมีใครสามารถพลิกฟอร์มของตัวเองได้บ้าง เพราะ Barcelona ถือว่าเป็นสนามที่ทุกทีมมีข้อมูลกันเยอะ เพราะตอนต้นฤดูกาลก็มาทดสอบรถกันที่นี่

แถมข่าวกันเล็กน้อยนะครับ ทางด้าน J.Todt ได้ให้สัมภาษณ์ว่า อาจจะมีการอนุญาติให้มีการทดสอบรถระหว่างฤดูกาลได้ในอนาคต ซึ่งเค้าหวังว่าน่าจะเป็นปี 2012 หรือ 2013 โดยจะเป็นการทดสอบรถแบบจำกัดจำนวนครั้งและช่วงเวลา (อาจจะเป็นปีละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 2-3 วัน) เพราะแต่ละทีมจะได้โอกาสปรับปรุงรถได้มากขึ้น รวมไปถึงการให้โอกาสกับนักแข่งดาวรุ่งด้วย

ส่วนทางด้านเรื่องเครื่องยนต์ที่จะเปลี่ยนในปี 2013 J.Todt ยังยืนยันว่าเค้าเองอยากจะให้เปลี่ยน ถึงแม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากหลายๆคน รวมไปถึงลุง Bernie ด้วย

หากเซ็บน้อยไม่พลาดสนามที่จีนก็ฟาดไป 100 คะแนนเต็ม อิอิ ส่วนน้าชูถ้าปีกไม่โดนเกี่ยวคงจะได้อันดับดีกว่านี้นะคะ

ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ

อิอิ ทักทายนะจ่ะ ถ้าไปเยี่ยมบล็อกเราช่วยจิ๊กอะไรข้างขวา ที่มันอยู่ล่างข้อความแนะนำนตัวให้เราด้วยนะ จิ๊กสองจิ๊กห้ามเกินนี้จ่ะ ถ้าเข้าอีกก็จิ๊กอีกเนอะ อิอิ

ตอนแม็คราเลนผลัดกันแซง หัวใจแทบจะวาย
สนามนี้มาซซ่าเป็นอะไรหว่า ทั้งที่ควรจะทำได้ดีกว่านี้นะเนี่ย

ขอบคุณสำหรับข่าวนะคะ ^^

เมื่อวาน แอบเสียวตอนไอ้เซ็ปมันไล่น็อครอบ รถของซูทิลกับเปเรซในรอบสุดท้าย ที่กำลังขับเคี่ยวกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ...โอย ท่านผู้นำก็จะเข้าไปมีเอี่ยวซะงั้น นั่งเกร็งเลยตู


หลังจาก McLaren วิ่งด้วยยุทธวิธีที่ดีในจีน มาสนามนี้ ผิดพลาดเยอะจริงๆแหละ ถ้าวิ่งอีก 2 รอบนะ JB โดน Nick สอยอันดับ 6 ไปแน่ๆ หุๆ แต่จริงๆ Renault น่าจะจับนักขับไปเทศนาหน่อยนะ Petrov มันบู๊แหลกจริงๆ - -" ส่วน Mercedes ยังขาดนู่นขาดนี่อยู่เหมือนเดิม


เมื่อเช้า อ่านบทสัมภาษณ์ของเจ้าโคบายาชิ มันแสบจริงๆนะเออ ออกอันดับ 23 แต่ไปสัญญากับลุงปีเตอร์ว่า จะเก็บแต้มมาให้ได้ 555+


จะว่าไปแล้ว...ขนาดสนามที่ใช้ยาง Hard กับ Soft ยังเปลี่ยนยางไปซะ 4 ครั้ง นึกไปถึงสนามที่จะใช้ยาง Soft กับ Supper Soft อย่างโมนาโคหรือ Montreal ที่แคนนาดา เหงื่อตกเลยตู... แต่ก็ต้องขอบคุณ Pirelli อ่ะนะ ที่ทำให้แต่ละสนามสนุกมากๆ เอิ๊กๆ


อ้อ...คุณ SamuDi Knight ไปมาเลย์มาเป็นไงมั่งหน่อ สนุกมั้ย ^^'

2013 อย่าเปลี่ยนเครื่องเลยครับ อยากฟังเสียง NA ต่อไป

สนามนี้เปลี่ยนยาง 4 ครั้งเพราะเจ้าโค้ง 8 ตัวดีกินยางทำให้รถเสียสมดุลครับ

//www.youtube.com/watch?v=OrpYIq0NbFM&playnext=1&list=PL7E5CD5AC3785BFCC
ลองเอาเสียงเครื่อง turbo 12 สูบสมัยก่อนมาให้ฟังดูครับ

ใจจริงผมอยากให้มีการเติมน้ำมันกลับมาใช้อีกครั้งนึงนะครับเพราะผมว่ามันเป็นการสร้างโอกาสแซงกันได้อย่างดีเลย ส่วนยางเนี่ยผมว่าPirelliยังตามBristolอยู่พอสมควรเลย แต่ผมว่ามันก็ช่วยสร้างความสนุกให้กับการแข่งขันมากขึ้นทีเดียว

ยางรถแข่งในปัจจุบันพูดได้เลยว่า Pirelli เป็นยางที่ดีเป็นอันดับ 2 รองจาก Hoosier ครับ

เพราะอะไรถึงบอกว่าpirelliดีที่2รองจากhoosier

มีเติมน้ำมัน ผมก็ชอบนะ เพราะมันมีปัจจัยเรื่องน้ำหนักของรถ เข้ามาเกี่ยวของด้วย สนุกเพิ่มขึ้นอีก เสียดายเหมือนกัน ...

ถ้ามีเติมน้ำมันก็มี "อนาคอนดา" ให้เราได้ดูอีกอ่ะจิ

เพราะอะไรถึงบอกว่าpirelliดีที่2รองจากhoosier

------------------------------------------

ที่ไหนมีการแข่งขัน ที่นั่นมันจะต้องมีการจัดอันดับเพื่อหาสิ่งที่เรียกว่า "ดีที่สุด" ครับ

ในการทดสอบหายางที่ดีที่สุด วิธีที่ง่ายที่สุดเลยคือใส่ยางแล้วลงไปวิ่งในสนาม

มันก็มีอยู่หลาย ๆ รายการที่มีการทดสอบนอกรอบหรือไม่เป็นทางการทำนองนี้อยู่

และจากการลองวิ่งด้วยยางหลากหลายยี่ห้อในสภาพแวดล้อมที่เหมือน ๆ กัน ขาซิ่งส่วนใหญ่ยกให้ Hoosier เป็นยางที่ดีที่สุด เนื่องด้วยอาจจะตอบสนองต่อความต้องการของขาซิ่งได้ดีที่สุดหรืออะไรก็แล้วแต่ รองลงมาพวกเค้าเทใจให้ Pirelli ครับ

ที่ไหนมีการแข่งขัน ที่นั่นมันจะต้องมีการจัดอันดับเพื่อหาสิ่งที่เรียกว่า "ดีที่สุด" ครับ

ในการทดสอบหายางที่ดีที่สุด วิธีที่ง่ายที่สุดเลยคือใส่ยางแล้วลงไปวิ่งในสนาม

มันก็มีอยู่หลาย ๆ รายการที่มีการทดสอบนอกรอบหรือไม่เป็นทางการทำนองนี้อยู่

และจากการลองวิ่งด้วยยางหลากหลายยี่ห้อในสภาพแวดล้อมที่เหมือน ๆ กัน ขาซิ่งส่วนใหญ่ยกให้ Hoosier เป็นยางที่ดีที่สุด เนื่องด้วยอาจจะตอบสนองต่อความต้องการของขาซิ่งได้ดีที่สุดหรืออะไรก็แล้วแต่ รองลงมาพวกเค้าเทใจให้ Pirelli ครับ

----------

มีข้อมูลจากไหน ขอข้อมูลหน่อยได้มั้ยหรือยกตัวอย่างมาก็ได้ เพราะผมไม่คิดอย่างนั้น

ข้อมูลที่ผมมีมันไม่เป็นทางการ อย่างเช่นลิ้งนี้ //www.fstotal.com/component/poll/23-what-slicks-you-would-prefer-for-your-own-car มีการลองโหวตเล่น ๆ

แต่อย่างหนึ่งที่ผมเชื่อคือ ยางที่ดีไม่ใช่ว่าต้องมี technical design ที่ดีที่สุด แต่ควรจะตอบสนองต่อความต้องการของนักแข่งได้ดีด้วยเช่นกัน

ขอข้อมูลแลกเปลี่ยนด้วยครับ

ข้อมูล base on FSAE อย่างเดียวคงจะไม่ค่อยถูกต้องซักเท่าไหร่นักนะครับผมว่า เห็นด้วยที่บอกว่ายางที่ดีต้องตอบสนองความต้องการของนักขับได้ดี technical designก็เพื่อจะให้ยางตอบสนองนักขับมิใช่หรือ บริบทของมอเตอร์สปอร์ตก็มีหลากหลาย ผมหมายถึงมีการแข่งหลายseries แต่ละseries ก็มี homologated tyre 1ยี่ห้อแต่ละseries ผมจะไม่โต้แย้งว่าในFSAE hoosier อาจจะดีกว่า AVON แต่ใน Formula 3 AVONก็ได้รับการยอมรับ และยังมี Kumho Cooper และอื่นอีกในF3 seriesอื่นอีก หรือในle mansใช้michelin ซึ่งก็ค่อนข้างยากต่อการเปรียบเทียบ ข้ามยี่ห้อ ผมไม่มีข้อมูลใดเป็นทางการเพียงแต่เป็นความคิดเห็นของผมที่ไม่เห็นด้วยที่เหมาว่า Hoosier ดีที่สุดจากบริบทของFSAEเพียงอย่างเดียว

ยกตัวอย่างจาก FSAE อย่างเดียวแต่จากรายการอื่นไม่สามารถดึงข้อมูลมาได้ครับเพราะไม่มีการบันทึกเอาไว้

สรุปผมไม่สามารถหาข้อมูลเป็นทางการมาได้ผมจะไม่โต้แย้งความเห็นของคุณเช่นกันครับ