Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 
27 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
เก็บสถิติจากบราซิล

มาถึงสถิติหน้าสุดท้ายของปีกันแล้วนะคะ...

เซบาสเตียน เวทเทล คว้าแชมป์โลกมาครองได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันในสนามอินเตอร์ลากอส ทำให้เขาเป็นเพียงนักขับคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ฟอร์มูล่าวันที่เคยได้แชมป์โลกติดต่อกันสามปีขึ้นไป ต่อจากฮวน มานูเอล ฟานจิโอ (1954-1957) และมิชาเอล ชูมัคเกอร์ (2000-2004) นอกจากนั้น เขายังทำลายสถิติเป็นแชมป์โลกสามสมัยที่อายุน้อยที่สุด ซึ่งเจ้าของเดิมคือ ไอร์ตัน เซนน่า ทำไว้เมื่ออายุ 31 ปี 7 เดือน 13 วัน ส่วนเมื่อวันอาทิตย์ เวทเทลทำได้ขณะมีอายุ 25 ปี 4 เดือน 22 วัน

ยังมีอีกสถิติหนึ่งที่น่าสนใจในการเป็นแชมป์ของเวทเทลครั้งนี้ เมื่อเขาเป็นนักขับแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันคนแรกที่ไม่สามารถชนะการแข่งขันในสนามแถบยุโรปเลยสักสนามเดียว โดยชัยชนะในปีนี้ของเขามาจากการไปเยือนบาห์เรน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี และอินเดีย ยิ่งไปกว่านั้น หากลองเทียบดีๆ จะเห็นว่าการคว้าแชมป์ปี 2012 ของเขาคล้ายกับเมื่อปี 2010 อย่างมาก เขาต้องต่อสู้กับคู่แข่งคนเดิมในสนามสุดท้าย จำนวนชัยชนะที่เขาทำได้
ในฤดูกาลทั้งหมด 5 ครั้งก็เท่ากับปี 2010 และมีคะแนนสะสมมากกว่าอันดับที่ 2 อยู่ 3 คะแนน ในขณะที่เมื่อสองปีก่อนเขาทำได้มากกว่ารองแชมป์ 4 คะแนน









เรามาดูสรุปตัวเลขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคว้าแชมป์ของเวทเทลกันค่ะ

- เวทเทลชนะมาทั้งหมด 5 สนามในปีนี้ ซึ่งนับเป็นจำนวนน้อยที่สุดที่แชมป์โลกทำได้นับตั้งแต่ปี 1990 โดยเมื่อปี 1989 อแลง พรอสต์ แชมป์ในปีดังกล่าวได้ชัยชนะ 4 สนาม

- เร้ดบูลเป็นทีมที่ได้ตำแหน่งโพลมากที่สุดในปีนี้ด้วยจำนวน 8 ครั้งเท่ากับแม็คลาเรน ซึ่งตั้งแต่ปี 1996 ทีมใดได้ตำแหน่งโพลมากที่สุดในฤดูกาล นักขับของทีมนั้นจะเป็นแชมป์เสมอ

- ในปีนี้เวทเทลแข่งจบบนโพเดียมทั้งหมด 10 ครั้ง และเขาสตาร์ทนอกกริด 3 อันดับแรกเพียง 4 ครั้งเท่านั้น


ความสำเร็จของอลอนโซ่ได้มาเป็นตัวเลข

ถึงแม้จะพลาดการได้แชมป์สมัยที่ 3 ไปอย่างฉิวเฉียด แต่เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ขอยกให้ฤดูกาล 2012 เป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดในอาชีพของเขา ซึ่งสิ่งที่เขารู้สึกสามารถสะท้อนลงไปในสถิติบางอย่างที่เกิดขึ้นค่ะ โดยเฉพาะเมื่อเป็นที่รู้กันดีว่ารถเฟอร์รารี่ไม่ใช่รถเร็วที่สุดในกริด

- ในปีนี้อลอนโซ่ได้ชัยชนะทั้งหมด 3 ครั้ง โดยนักขับคนล่าสุดที่ชนะ 3 ครั้งและเป็นแชมป์โลก ได้แก่ เนลสัน ปิเกต์ เมื่อปี 1987 ซึ่งเป็นปีที่มีการแข่งขัน 16 สนาม

- อลอนโซ่ได้ตำแหน่งโพลเพียง 2 ครั้งในฤดูกาลนี้และเป็นสภาพสนามเปียกทั้งคู่ ซึ่งแชมป์โลกคนสุดท้ายที่ได้โพลแค่ 2 ครั้งคือ อแลง พรอสต์ ในปี 1989

- นับจนถึงบราซิล เฟอร์รารี่ไม่ได้โพลมาแล้ว 10 สนามติดต่อกัน โดยทีมที่ไม่ได้โพลติดต่อกันยาวนานเช่นนั้นแต่นักขับได้เป็นแชมป์คือทีมบราบัมในปี 1983 เมื่อพวกเขาไม่ได้โพลเลยใน 11 สนามแรก แต่เนลสัน ปิเกต์ ได้เป็นแชมป์ปีนั้นไปครอง

- การที่อลอนโซ่แข่งจบบนโพเดียม 10 ครั้งจากการสตาร์ทนอกกริด 3 อันดับแรก ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความช้าของรถเฟอร์รารี่ในรอบควอลิฟาย และนี่ยังเป็นสถิติใหม่แซงผลงานที่พรอสต์เคยทำไว้เมื่อปี 1986 ในการขึ้นโพเดียม 9 ครั้งจากการสตาร์ทอันดับที่ 4 หรือต่ำกว่า

- เฟอร์รารี่ไม่สามารถทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในการแข่งขันหรือ fastest lap ได้สักสนามในปีนี้ ซึ่งเป็นปีแรกนับตั้งแต่ปี 1994 ที่พวกเขาทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดไม่ได้เลยสักครั้งเดียว โดยแชมป์โลกคนสุดท้ายที่ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดไม่ได้เลยตลอดฤดูกาล ได้แก่ เกเก้ รอสเบิร์ก ของวิลเลียมส์ ในปี 1982

- สนามนี้เป็นสนามแรกนับตั้งแต่โคเรียน กรังด์ปรีซ์ 2010 ที่เราได้เห็นนักขับเฟอร์รารี่ทั้งสองคนอยู่บนโพเดียมพร้อมกัน ในขณะที่นักขับเร้ดบูลพารถทั้งสองคันจบบนโพเดียมด้วยกัน 3 ครั้งในปีนี้ และ 9 ครั้งในปี 2011





สำหรับสถิติอื่นที่น่าสนใจจากสนามบราซิลมีดังต่อไปนี้ค่ะ

รอบควอลิฟาย

- ลูอิส แฮมิลตัน ทำได้ตำแหน่งโพลเป็นครั้งที่ 26 ของตนเอง ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนโพลที่มิก้า ฮัคคิเน่น ทำได้ขณะเป็นนักขับแม็คลาเรนเช่นกัน ทั้งสองคนช่วยกันคว้าโพลให้กับทีมรวม 52 ครั้งจากทั้งหมด 155 ครั้ง หรือคิดเป็น 1 ใน 3 โดยครั้งนี้เป็นโพลที่อินเตอร์ลากอสในรอบ 12 ปีของแม็คลาเรน หลังจากฮัคคิเน่นทำไว้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2000

- เจนสัน บัตตัน ออกตัวจากกริดที่ 2 เป็นครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้และทุกครั้งจะมีแฮมิลตันเคียงข้างในแถวหน้า แต่หากแฮมิลตันทำได้ในกริดที่ 2 ทุกครั้งเขากลับสตาร์ทคู่กับเซบาสเตียน เวทเทล

- ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 62 ในประวัติศาสตร์ที่แม็คลาเรนล็อกกริดแถวหน้าไว้ได้ ก่อนหน้านี้พวกเขาทำสถิติ 61 ครั้งร่วมกับวิลเลียมส์

- เร้ดบูลไม่ได้สตาร์ทจากแถวหน้าเลยสักคันเป็นครั้งแรกใน 5 สนาม โดยในปีนี้พวกเขาล็อกแถวหน้าไว้ได้ 3 ครั้ง

- ฟอร์ซอินเดียควอลิฟายได้ในท็อป 10 ทั้งสองคันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเป็นการควอลิฟายในสภาพสนามเปียกเช่นเดียวกัน

- ในสนามสั่งลาของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ เขาไม่สามารถควอลิฟายได้ใน 10 อันดับแรก นับเป็นครั้งแรกของเขาในการควอลิฟายที่อินเตอร์ลากอสตลอด 18 ครั้งที่ผ่านมา

- พาสเตอร์ มัลโดนาโด โดนปรับกริด 10 อันดับในสนามสุดท้าย ทำให้ปีนี้เขามีสถิติเสียอันดับสตาร์ทไปทั้งสิ้น 48 อันดับ

- โรแมง โกรส์ฌอง ควอลิฟายไม่ผ่าน Q1 เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้


การแข่งขัน

- เจนสัน บัตตัน ชนะการแข่งขันเป็นครั้งที่ 15 ในฟอร์มูล่าวัน โดยสนามนี้นับเป็นแห่งที่ 12 ที่เขาเคยชนะ ทั้งยังเป็นชัยชนะแรกของแม็คลาเรนในสนามแห่งนี้นับจากผลงานครั้งล่าสุดของคิมี่ ไรค์โคเน่น เมื่อปี 2005 ทำให้ขณะนี้แม็คลาเรนมีสถิติเทียบเท่าเฟอร์รารี่ในการเป็นทีมที่ชนะในสนามนี้มากที่สุดด้วยจำนวน 8 ครั้ง

- บราซิเลียน กรังด์ปรีซ์ ในปีนี้นำการแข่งขันโดยผู้ที่ไม่เคยนำในสนามนี้มาก่อน ทั้งบัตตันและลูอิส แฮมิลตัน รวมทั้งผู้ที่ไม่เคยนำการแข่งขันสนามใดเลยคือ นิโค ฮูลเคนเบิร์ก โดยนักขับเยอรมันเป็นคนที่ 13 ที่นำการแข่งขันในปีนี้ เป็นจำนวนเท่ากับเมื่อปี 2009

- อาถรรพณ์หลังชัยชนะเกิดขึ้นอีกครั้งกับแฮมิลตัน ทุกครั้งหลังชัยชนะ 5 ครั้งหลังสุดเขาจะไม่จบการแข่งขัน นับตั้งแต่หลังอาบูดาบี 2011 และปีนี้หลังจบจากแคนาดา ฮังการี อิตาลี และอเมริกา โดยเกิดจากอุบัติเหตุ 3 ครั้งและปัญหาจากเกียร์บ็อกซ์ 2 ครั้ง

- เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ขึ้นโพเดียมครั้งที่ 86 ซึ่งอีก 20 ครั้งเขาก็จะตามทันสถิติอันดับที่ 2 ของอแลง พรอสต์ ที่ 106 ครั้ง ส่วนสถิติสูงสุดเป็นของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ จำนวน 155 ครั้ง

- เฟลิเป้ มาสซ่า ลงแข่งเป็นครั้งที่ 120 ให้กับเฟอร์รารี่และครั้งนี้ยังเป็นครั้งที่ 100 ที่เขาจบการแข่งขันแบบมีคะแนนด้วย นับเป็นสถิติเท่ากับเนลสัน ปิเกต์ ผู้ที่เป็นพิธีกรรับเชิญบนโพเดียมเมื่อวันอาทิตย์นั่นเอง โดยอยู่ในอันดับที่ 8 ของสถิติตลอดกาล

- มาร์ก เว็บเบอร์ เป็น "มิสเตอร์นัมเบอร์ 4" อย่างแท้จริงในฤดูกาลนี้เมื่อเขาเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 4 อีกครั้ง เขาได้อันดับที่ 4 ในฟอร์มูล่าวันมารวมแล้ว 15 ครั้ง แต่ยังตามสถิติสูงสุดที่มีแกร์ฮาร์ด แบร์เกอร์ เป็นเจ้าของด้วยจำนวน 26 ครั้ง

- นิโค ฮูลเคนเบิร์ก จบการแข่งขันในอันดับที่ 5 นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ของฟอร์ซอินเดีย น่าเสียดายที่เขาไม่ชนะทั้งที่นำการแข่งขันมากที่สุดจำนวน 30 รอบ ในขณะที่บัตตันนำ 28 รอบ และแฮมิลตันนำ 13 รอบ

- ชูมัคเกอร์คว้าแต้มจากการแข่งขันให้เมอร์เซเดสได้ในรอบ 5 สนามด้วยการจบในอันดับที่ 7





- อันดับที่ 8 ของฌอง-เอริก แวนญ์ เป็นเพียงครั้งที่ 3 ของโตโร รอสโซ ที่เก็บคะแนนได้จากสนามนี้ หลังจากอันดับที่ 4 ของเซบาสเตียน เวทเทล เมื่อปี 2008 และอันดับที่ 7 ของเซบาสเตียน บูเอมี่ ในปี 2009 นอกจากนั้น แวนญ์ยังทำได้เท่ากับผลงานที่ดีที่สุดของเขาก่อนหน้านี้ในมาเลเซีย เบลเยียม และเกาหลี

- คิมี่ ไรค์โคเน่น มาเสียสถิติลงแข่งขันครบทุกรอบในฤดูกาลเอาในสนามนี้ เพราะเมื่อวันอาทิตย์เขาเข้าเส้นชัยโดยตามหลังผู้ชนะ 1 รอบ อย่างไรก็ตาม เขาได้ทำสถิติใหม่ด้วยการจบการแข่งขันด้วยระยะทาง 6,081 กิโลเมตรและจบการแข่งขันครบ 20 สนาม ซึ่งนักขับคนสุดท้ายที่จบการแข่งขันทุกสนามในฤดูกาล ได้แก่ นิค ไฮด์เฟลด์ เมื่อปี 2008

- จากอุบัติเหตุของพอล ดิ เรสต้า ในรอบรองสุดท้าย ทำให้วิทาลี เปตรอฟ ขึ้นมาจบการแข่งขันในอันดับที่ 11 ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นผลการแข่งขันที่ดีที่สุดของแคเทอร์แฮม แต่ยังเป็นผลงานที่ดีที่สุดในบรรดาทีมน้องใหม่ ได้แก่ แคเทอร์แฮม มารุสเซีย และเอชอาร์ที ยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยให้แคเทอร์แฮมได้อันดับที่ 10 ของการแข่งขันประเภททีมอีกด้วย

- ชาร์ลส์ พิค ของมารุสเซียจบในอันดับที่ 12 นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาในฟอร์มูล่าวันจนถึงปัจจุบัน และเขายังจบฤดูกาลแรกของตนเองโดยไม่ออกจากการแข่งขันเนื่องจากอุบัติเหตุเลยแม้แต่สนามเดียว

- นิโค รอสเบิร์ก ทำสถิติไม่ได้คะแนนจากการแข่งขันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 คือ 6 สนามติดต่อกัน โดยในปีดังกล่าวเขาไม่ได้แต้มตั้งแต่โมนาโคถึงฮังการี

- วิลเลียมส์โชคไม่ดีในสนามนี้เมื่อรถทั้งสองคันไม่จบการแข่งขันตั้งแต่รอบแรก ซึ่งทีมเจอเหตุการณ์เช่นนี้เป็นเพียงครั้งที่ 3 เท่านั้น ก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นในสนามแห่งนี้มาแล้วเมื่อปี 2006 กับทั้งรอสเบิร์กและเว็บเบอร์ และย้อนไปครั้งแรกในยูเอส กรังด์ปรีซ์ ปี 2005 จากไฮด์เฟลด์และเว็บเบอร์ อย่างไรก็ตาม ในยูเอส กรังด์ปรีซ์ ปี 1975 วิลเลียมส์ทั้งสองคันที่ขับโดยเลลล่า ลอมบาร์ดี้ กับฌาคส์ แลฟไฟต์ ไม่ได้สตาร์ทการแข่งขัน

- เซอร์จิโอ เปเรซ อำลาเซาเบอร์ไปโดยทำคะแนนไม่ได้ใน 6 สนามสุดท้าย โดยนับตั้งแต่โพเดียมครั้งล่าสุดของเขาที่มอนซ่า เขาก็เกิดอุบัติเหตุไม่ว่าในช่วงฝึกซ้อมหรือการแข่งขันทุกสนามต่อจากนั้น










*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1


Create Date : 27 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2555 22:10:41 น. 34 comments
Counter : 1822 Pageviews.

 
เสร็จสิ้นภารกิจรายงานข่าวตลอด 20 สนามของปีนี้แล้ว เจ้าของบ้านขออนุญาตลาพักร้อนนะคะ เราคงจะเจอกันอีกทีวันเสาร์...ขอขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ


โดย: finishline วันที่: 27 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:13:16 น.  

 
(^_*)


โดย: W IP: 115.87.104.237 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2555 เวลา:23:20:45 น.  

 
ขอบคุณครับผมมมมมมมมมม


โดย: ตั้ว IP: 223.27.241.73 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:0:57:37 น.  

 
เอามาฝากครับ ตัดมาจาก BBC Sports
//www.youtube.com/watch?v=yYl1O2kLgAE&feature=youtu.be

ไม่รู้จะโดนลบหรือเปล่า


โดย: มงคล IP: 223.204.242.115 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:07:33 น.  

 
อีกคลิปครับ ผมชอบการตัดต่อของเขามาก เพลงก็เพราะครับ
//www.youtube.com/watch?v=Qnm50O3Y4UE&feature=youtu.be


โดย: มงคล IP: 223.204.242.115 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:51:15 น.  

 
เหมือนว่าจะมีทีมบางทีมมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ด้วยน่ะในปี 2014 (ทีมกระทิงเล็กนั้นเอง)

2013 2014
Ferrari Ferrari Ferrari
Sauber Ferrari Ferrari
Toro Rosso Ferrari Renault
Red Bull Renault Renault
Lotus Renault Renault
Williams Renault Renault
Caterham Renault Renault
Mercedes Mercedes Mercedes
McLaren Mercedes Mercedes
Force India Mercedes ??
Marussia Cosworth ??
HRT Cosworth ??


โดย: Editor IP: 49.49.27.39 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:4:18:57 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: runtaro IP: 203.149.46.131 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:28:24 น.  

 
คลิปที่สองของคุณ มงคล ชอบมากครับ ขอบคุณครับ


โดย: โอ๊ต IP: 203.147.42.66 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:35:24 น.  

 
คือได้ยินข่าวว่าเฟอร์รารี่จะยื่นประท้วงเอฟไอเอ เรื่องเซบาสเตียนแซงรถโทโร รอสโซ่ผิดกฏ ให้ลงโทษปรับเวลา แล้วอลองโซ่จะเป็นแชมป์แทน จิงป่าวคะ


โดย: มาใหม่ IP: 182.53.240.146 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:25:04 น.  

 
//www.speedhunters.com/2012/11/once-twice-three-times-a-champion/

รวมภาพเซ็บที่บราซิลครับ


โดย: โอ๊ต IP: 203.147.42.66 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:06:32 น.  

 
@มาใหม่ ยังไม่เห็นจากข่าวสื่อหลักนะครับ


ถ้าจริงก็เอ่อนะ -..-


โดย: runtaro IP: 203.149.46.131 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:20:48 น.  

 
@ คุณ มาใหม่

ไม่มีข่าวใด ๆ ที่เป็นทางการออกมา รวมทั้งขณะนี้เลยเวลายื่นประท้วงไปแล้วครับ


โดย: Fascinator IP: 124.122.109.249 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:23:07 น.  

 
fas คุง เยี่ยมาก อิอิ

ว่าแต่เอ็งซื้อตั๋ว ROC ยังฟะ -*-


โดย: runtaro IP: 203.149.46.131 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:44:38 น.  

 
@ พี่ runtaro

ยังเลยครับพี่

จริง ๆ แล้วผมซื้อไม่เป็น ไม่เคยซื้อผ่าน Thai ticket อิอิอิ


โดย: Fascinator IP: 124.122.109.249 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:23:07 น.  

 
สงสัยจะเป็นจังหวะนี้ที่เป็นจังหวะประเด็น *-*
//www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=MZHaBuaA9oQ

จากคลิปสังเกตได้ว่ามีสัญญาณไฟทั้งหมด 3 จุด ซึ่ง 2 จุดแรกนั้นเป็นไฟเหลืองคือ ห้ามแซง แต่ในจุดสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงสุดทางตรงนั้นได้เป็นไฟเขียวเรียบร้อยรวมทั้งรถ STR ได้ชลอความเร็วลงซึ่งอาจมองว่ารถมีปัญหาได้เหมือนกันหรือรถ STR อาจจะเห็นสัญญาณไฟเขียวแล้วจึงได้หลบให้ Vettel แซงครับ

ฉะนั้นถ้ายังประท้วงย้อนหลังได้จริงผมมองว่า ฟังไม่ขึ้น ครับ


โดย: Fascinator IP: 124.122.109.249 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:34:33 น.  

 
ขอบคุณมากเลยค่ะ
ได้คำตอบแล้วรู้สึกโล่งใจบอกไม่ถูก ^^
เป็นการประท้วง ที่ถ้าเกิดมีขึ้นมาจริงๆ เราคิดว่าทั้งเซบาสเตียนและเฟอร์นันโดก็คงไม่มีใครรู้สึกดี ไปเริ่มใหม่ปีหน้ากันดีกว่า


โดย: มาใหม่ IP: 182.53.241.108 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:40:56 น.  

 
เอ็งก็เดินไปที่เซ็นทรัล ไปที่เคาเตอร์ ยากอะไร มันลีลาไปงั้น 5555+


โดย: runtaro IP: 203.149.46.131 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:17:49:59 น.  

 
เออ !! พูดถึง FASTEST Lap
ต้องยกให้ Ferrari กับ McLAREN นะครับ

แม้ปีนี้จะไม่ได้ครองตำแหน่งแชมป์ รถที่ทำเวลาเร็วที่สุด

Kimi Raikkonen [ McLAREN 2005 ] - 10 FASTEST Lap
Kimi Raikkonen [ Ferrari 2008 ] - 10 FASTEST Lap

* ยากที่ใครจะทำลายลงนะครับ คนเดียวทำไว้ 2 ค่าย
+ สถิติเร็วความเร็วสูงสุดใน F1
( ที่ทำได้ในสนามแข่ง ก็เป็นของ McLAREN ปี 2005 นะครับ เกือบ 380 km/H ที่สนาม Monza ครับ )

ขอให้กลับมาได้เถอะ 2 ค่ายนี้ แต่ก็นะ อยู่ที่คนขับด้วยจะรีดออกมาได้แค่ไหน

ผมว่า 2005 เร็วสุดแล้วล่ะ Mc อ่ะ คนออกแบบก็เป็นลุง นิวอี้ ( ที่อยู่ Red Bullในปัจจุบัน )


โดย: JUNE-RED IP: 182.52.123.18 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:19:21:13 น.  

 
ปีนี้ เพลงปิดรายการ f1 เป็นไงบ้างอ่ะครับ แบบปีที่แล้วไม่เอานะ ไม่ปลื้มมม ชอบของ 2010 เจ๋งดี


โดย: พัฒน์ IP: 223.204.137.243 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:19:43 น.  

 
ประเด็นข้างบน ยังเป็นกระแสกันอยู่เลย ตูล่ะกลุ้ม


เท่าที่อ่านดูคือการอุทธรณ์ผลการแข่งขันแต่ละสนาม จะทำได้หลังประกาศผลอย่างเป็นทางการ 30 นาที


แต่แฟนเฟอร์ ไปอ้างกฏที่ว่า ผลของทุกสนาม จะสามารถอุทธรณ์ได้ถึง 30 พฤศจิกายน (กฏของปีนี้) ก็เลยนะ

ถ้าดูจากวีดีโออันนี้
//www.crash.net/f1/video/186542/1/the_move_that_could_cost_a_world_title.html

เซ็บมันแซงจังหวะที่ไฟเหลืองกระพริบดับไป แต่ยังไม่เขียว ซึ่งก็แปลว่าผิด


แต่ถ้าดูจากรูปนี้แล้ว
//s7.directupload.net/images/121128/xq7wq2yp.gif

จะสังเกตว่า มาร์แชลที่อยู่ด้านซ้ายมือโบกธงแล้ว ซึ่งไม่ใช่ธงเหลืองแน่ๆ ไม่เขียวก็น้ำเงิน นั่นแปลว่าทำไมเซ็บมันถึงแซงเวิร์นจ์ขึ้นไป


ไม่ใช่พรุ่งนี้ เจอข่าว FIA ปรับแชมป์นะ -..-


โดย: runtaro IP: 203.149.46.131 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา:17:41:30 น.  

 
รอดูว่า FIA จะบรรยายสรุปยังไงครับ ถ้าปรับก็มีผลเยอะน่ะครับ ไม่เฉพาะแค่แชมป์โลกเปลี่ยน แต่นั่นหมายถึงการทำงานของกรรมการสนามยังคงบกพร่องด้วย


โดย: Fascinator IP: 124.120.130.117 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:21:15 น.  

 
จากข่าวนี้ น่าจะจบนะ autosport ก็ลงแระ

//motorsport.bettor.com/no-case-to-answer-in-vettel-overtaking-controversy-say-fia/news/1362852

FIA ก็อ้างเหมือนที่พี่บอก


แง่มๆ ตูอยากไปดู ROC แบบชิลๆเว้ยยยยยยยยยยยยยย

ปล. เซ็ง autosport ว่ะครับ ให้อ่านข่าวได้เดือนละ 50 ครั้งเนี่ยนะ (สงสัยต้องไปเคลียร์ cookies)


โดย: runtaro IP: 203.149.46.131 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:29:17 น.  

 
จขบ สิครับไปชิลละ กลับมาเห็นข่าวจะเป็นลมไปมั้ยเนี่ย อิอิ


โดย: Fascinator IP: 124.120.130.117 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:33:07 น.  

 
เออจริง ถ้ากลับมาเจอข่าวริบแชมป์นะ นึกภาพออกเลยว่าเจ๊จะวีนแตกแค่ไหน 5555555555555+


แต่เห็นด้วยว่าน่าจะเป็นลมมากกว่า ห้า ห้า


โดย: runtaro IP: 203.149.46.131 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:40:40 น.  

 

ข่าวริบแชมป์

เออ ให้จบลงที่ Brazil เถอะนะครับ Ferrari
เราชอบ alonso แต่ก็ไม่อยากได้แชมป์โลกแบบนี้ เหมือนมาโวยที่ปลายเหตุยังไงไม่รู้ !!

* เมื่อปี 2007 Mc ก็ออกมาประท้วงให้ hamilton เพราะ BMW ใช้ น้ำมันเย็น
แต่ก็ไม่เป็นผลอยู่ดีครับ


โดย: JUNE-RED IP: 182.52.120.174 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:17:06 น.  

 
เอาลิงค์มาฝากเพื่อความสบายใจ แต่หลายคนอาจจะรู้ข่าวแล้วก็ได้โนะ เอาเป็นว่าน่าจะได้ข้อสรุปแล้ว //www.autosport.com/news/report.php/id/104644


โดย: มาใหม่ แต่ชักจะมาบ่อย อิๆ IP: 182.53.254.176 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:41:12 น.  

 
Fer อยู่บนหัว RB อยู่ในใจ


โดย: W IP: 124.120.193.236 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:47:46 น.  

 
อืม..ม แต่ทำไมอ่านต่อ เหมือนว่า เฟอรารี่ยังไม่จบ ยังต้องการคำตอบจาก FIA อยู่ครับ อันนี้ล่าสุด

Ferrari wants clarification from the FIA over Sebastian Vettel's overtaking move on Jean-Eric Vergne at the Brazilian Grand Prix.


โดย: akker IP: 223.204.177.48 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:56:25 น.  

 
เอ ขอถามหน่อยนะครับ ทีมที่ได้แชมป์ประเภทนักขับ กับทีมผู้ผลิต ได้รางวัลยังไงครับ ตัวเงินนะครับ อยากรู้ข้อมูลนะครับ


โดย: eee IP: 182.53.51.90 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:50:36 น.  

 
นานๆทีที่ตูจะคิดตรงกับลุงเบอร์นี่ โอ้...

@eee เดี๋ยวรอ fas คุงมาตอบ

เท่าที่รู้ เงินรางวัลประเภททีมอ่ะเยอะเลยล่ะ แต่ปีนี้จะมีสองทีมบ๊วยที่ไม่ได้ตังค์ (มั้ง)


โดย: runtaro IP: 203.149.46.131 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:52:25 น.  

 
" Personally I think it's not really like Ferrari to do this. I think they badly wanted to win. But if you want to go back and see what Ferrari have done down the years... " Bernie Ecclestone

นั่นดิครับ อ่านบอร์ดนอก อื่นๆ ใส่ เฟอร์กันเละเบย

เงินรางวัลหาม่ายเจอ เจอแต่ค่าเหนื่อยปี 2012

Drivers:

1. Fernando Alonso Ferrari €30m
2. Lewis Hamilton McLaren-Mercedes €16m
= Jenson Button McLaren-Mercedes €16m
4. Sebastian Vettel Red Bull Racing €10m
= Mark Webber Red Bull Racing €10m
= Felipe Massa Ferrari €10m
= Nico Rosberg Mercedes €10m
8. Michael Schumacher Mercedes €8m
9. Kimi Raikkonen Lotus F1 Team €5m
10. Heikki Kovalainen Caterham F1 Team €4m
11. Timo Glock Marussia F1 Team €3m
12. Kamui Kobayashi Sauber €1m
= Romain Grosjean Lotus F1 Team €1m
14. Nico Hulkenberg Force India F1 €500,000
= Sergio Perez Sauber €500,000
= Vitaly Petrov Caterham F1 Team €500,000
= Pedro de la Rosa HRT €500,000
18. Pastor Maldonado Williams €400,000
= Daniel Ricciardo Scuderia Toro Rosso €400,000
= Jean-Eric Vergne Scuderia Toro Rosso€400,000
21. Bruno Senna Williams €250,000
= Narain Karthikeyan HRT €250,000
23. Paul di Resta Force India F1 €200,000
24. Charles Pic Marussia €150,000

ถึงว่าทำไม alonso ถึงโทษรถจัง 30 ล้าน 5 ปี ไม่เคยได้แชมป์เลย


โดย: akker IP: 180.183.170.54 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2555 เวลา:11:22:25 น.  

 
//www.fia.com/news/fia-formula-one-statement

ประกาศิตจากท่าน FIA

จบข่าวโรงเรียนม้าแดง


ปิดฤดูกาลอย่างสมบูรณ์


โดย: runtaro IP: 203.149.46.131 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:01:29 น.  

 
ขอบคุณลูกบ้านทุกท่านสำหรับข่าวคราวต่างๆ ที่นำมาโพสต์นะคะ

ความจริงเราก็มีโอกาสอ่านเรื่อยๆ แหละค่ะ แต่ไม่สะดวกพิมพ์ตอบ เรื่องเซ็บนี่แรกๆ จิตตกเหมือนกัน แต่พออ่านเรื่อยๆ บวกกับที่หลายคนวิเคราะห์ออกมา (คนแรกที่ทำให้พออุ่นในคือ fas คุง อิอิ) ก็ค่อยคลายความกังวล จนถึงตอนนี้ก็สบายใจแล้วหลังเอฟไอเอออกมาคอนเฟิร์ม :D


โดย: finishline วันที่: 30 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:04:31 น.  

 
เหอะๆๆ ยอมรับเถอะครับว่าสู้ไม่ได้ fer


โดย: romeo2011 IP: 118.172.64.145 วันที่: 1 ธันวาคม 2555 เวลา:1:31:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.