Starsports

ถ่ายทอดรอบ Qualifying เวลา 11.50 น. ครับ
ส่วน Practice 1 Practice 2 Practice 3
จะนำมาถ่ายทอดก่อนการแข่งขันจริงครับ ขออภัยด้วยครับแจ้งลวกๆๆ ไปหน่อย

Red Bull มาแรงจริงๆครับ โดยเฉพาะ Sector แรกที่ต้องอาศัย Downforce ที่ดี Red Bull ทั้ง 2 คัน ทำได้ดีมาก

สำหรับคนอื่นๆที่ทำได้ดีก็มี Kubica ที่ได้ที่ 3 และก็มีหลายๆคนที่หลุดออกจาก track รวมไปถึง Kubica ด้วย (ของหาดูยากนะเนี่ย)ส่วน 2 ferrari ก็ทำได้ดี

แต่ทีมที่น่าจะลำบากก็คงจะเป็น McLaren ทั้ง Lewis ที่เอารถไปชน กับ Jenson ที่หลุดจาก track ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรมาก เพราะ McLaren ไม่เคยมีผลการแข่งขันดีๆ ในสนามที่ต้องการ Downforce สูงเลย ผลงานดีๆส่วนใหญ่ก็อยู่ในสนามที่ Downforce ต่ำอย่าง Montreal, Spa และ Monza

แต่ก็เหมือนกับที่หลายๆคนได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เวลาช่วง P1 กับ P2 คงจะไม่สามารถบอกอะไรได้มากนัก และฝนก็น่าจะตกในช่วง QP ทำให้อันดับ start ในวันอาทิตย์สามารถออกมาในรูปแบบใดก็ได้

ถ้าสภาพอาการปกติ ขอทายว่า Red Bull 2 คันจะยึดแถวแรก ตามมาด้วย Ferrari 2 คัน, Kubica น่าจะแทรกอยู่ตรงกลางระหว่าง McLaren 2 คัน และ Petrov น่าจะเบียดเข้า Q3 โดยสู้กับ Rookie อีกคนอย่าง Hulkenberg อย่างสูสี

(ถ้าทายทั้งหมดนี่ถูก จะมีคนมาขอ 3 ตัวบนงวดหน้ารึเปล่าเนี่ย อิอิ)

FERRARI ไม่ได้แชมป์ที่ญี่ปุ่นมานานแล้ว
ปีนี้จะขอไปละกัน

ผมมองว่าปีนี้รถ McLaren เซต downforce มาดีนะครับ ถ้าเป็นปีที่แล้วน่ะใช่ McLaren เซต downforce ต่ำทำให้เจอสนามโค้งสาดแรง ๆ ไม่ไหว แต่ปีนี้รถ McLaren เซต downforce มาสูงแต่ใช้ระบบ F-duct ช่วยลด downforce ตอนช่วงทางตรงแทน สนาม downforce สูงปีนี้ ทั้ง Barcelona , Turkey , Silverstone McLaren นั้นมีผลงานดีทั้งสิ้น

ในจำนวน 5 สนามสุดท้ายตั้งแต่สิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นสนามที่ไม่เข้าทาง McLaren ที่สุดแต่เข้าทาง Ferrari มากที่สุดครับ

ในขณะที่สนามนี้ผังสนามพอจะเข้าทาง McLaren บ้างถึงปานกลางแต่มันไม่เข้าทาง Ferrari อย่างที่สุดครับเพราะ Ferrari ไม่ชอบสนามที่มีโค้งเร็วต่อเนื่อง

Ferrari เป็นทีมที่มีสมรรถนะเครื่องยนต์สูงครับแต่มันมีจุดอ่อนในโค้งนี่แหละครับ แรงบิดมหาศาลจากเครื่องยนต์ Ferrari ทำให้เวลารถ Fer สาดเข้าโค้งยาว ๆ จะควบคุมกำลังเครื่องยนต์ยากครับ นักแข่งต้องเท้านิ่งมาก ๆ เพื่อควบคุมไม่ให้เครื่องยนต์รีดแรงบิดออกมาในขณะอยู่กลางโค้ง เพราะถ้ารีดกำลังเครื่องออกมาในขณะอยู่กลางโค้งรถสามารถที่จะหลุดไลน์ได้ทันทีครับ

ลองสังเกตดูสนามที่มีโค้งยาวอย่าง Barcelona , Turkey , Silverstone ครับ Fer จะมีผลงานอยู่หลัง Mc

ในขณะที่สนามโค้งสั้นความเร็วต่ำ Fer จะเหนือกว่า Mc ครับ เช่น Monaco , Bahrain

หรือลองสังเกตดูรอบเครื่องเวลานักแข่งเปลี่ยนเกียร์ก่อนเข้าโค้งดูครับ

Ferrari จะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเครื่อง 11000-13000 rpm

McLaren จะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเครื่อง 15000-16000 rpm

Renault จะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเครื่อง 16000-17000 rpm

การที่ Fer เปลี่ยนเกียร์ที่รอบเครื่องต่ำก็เพื่อลดแรงบิดของเครื่องลงนี่แหละครับ

แต่ในครั้งนี้ต้องขอเก็บข้อมูลเพิ่มซักหน่อยเพราะมี Flexi-Front Wing ของ Fer เป็นตัวแปรเพิ่มครับ

Red Bull เท่านั้น หุๆ

เช่นเคย แถม Kubica กับ Heidfeld มาด้วย ^^'

ใช่อย่างที่คุณ fascinator บอกละครับ McLaren เองก็มีผลงานดีๆในสนามที่มี Downforce สูงบ้าง พอดีว่าช่วงตั้งแต่ Barcelona ถึง Silverstone มันเป็นช่วงที่ผมไม่ค่อยอยากจำเท่าไหร่ (ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าเชียร์ทีมอะไรอยู่ อิอิ)

แต่ชัยชนะที่ Singapore ของ Ferrari เอง ผมว่า ความสามารถเฉพาะของตัว Alonso เองก็มีส่วนสูงนะครับ ถึงแม้ว่า Ferrari เองจะบอกว่าได้มีการ update รถไปพอสมควร ดังนั้น ผมเองก็ยังเชื่อว่า Red Bull น่าจะยังได้เปรียบในการแย่งแชมป์ทั้ง 2 ประเภท โดยที่อีกคนที่น่ากลัวมากคือ Lewis เพราะผลงานส่วนตัวใน Interlagos กับ Abu Dhabi ก็เยี่ยมมาก

แต่สำหรับสนามนี้ สภาพอากาศน่าจะมีผลพอสมควร ถ้าฝนตกลงมา อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยิ่งในช่วง QP ถ้าออกไปในช่วงที่ Track ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดี ใครก็สามารถไม่ผ่าน Q1 ได้ เผลอๆ 3ทีมน้องใหม่อาจจะ Surprise ผ่านเข้าไปใน Q2, Q3 ได้ อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว (แต่อาจจะยกเว้น HRT ไว้ซักทีม เพราะพัฒนาการในตัวรถน้อยจริงๆ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะยังไม่เคยมี Update ใหญ่ตั้งแต่เปิดฤดูกาลเลย)

ถ้าจะมองถึงม้ามืดที่อาจจะสร้าง Surprise ได้ ผมขอมองไปที่ Rubinho เพราะฟอร์มค่อนข้างจะสม่ำเสมอ รถก็ดู OK ถึงแม้อาจจะไม่ได้ลุ้นถึงชนะ แต่ถ้าอะไรมันเป็นใจซะหน่อย+ดวงอีกเยอะๆ อาจจะได้ลุ้นถึงขึ้น Podium ได้

อีกคนคือ Jenson เพราะเคยทำผลงานได้ดีในสภาพที่กึ่งเปียกกึ่งแห้งตอนต้นฤดูกาล และ Style การขับที่ Smooth และแม่นยำ น่าจะเหมาะกับ Suzuka ถ้า set รถได้อย่างที่ Jenson ต้องการ

แต่ถึงยังไง 2 Red Bull น่าจะแย่งที่ 1 กันเอง

อาทิตย์นี้เชียร์ทั้ง2โซ่ให้ทำผลงานได้ดีๆ
ทั้งลอเรนโซ่ และอลอนโซ่ ^^

คุณคนผ่านทาง เชียร์ 2 "โซ่" ของสเปนเลย อิอิ

ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนสำหรับข้อมูลต่างๆ ด้วยค่ะ นับวันบล็อกนี้จะข้อมูลแน่นขึ้น ถือว่าอนุเคราะห์เจ้าของบล็อกตาดำๆ แล้วกันนะคะ

เคยสังเกตไหมครับหมวกกันน็อคของนายเซ็บของเรานี่เปลี่ยนหมวกกันน็อคบ่อยๆ สำหรับนายเซ็บแล้วนะครับ มีหมวกกันน็อคแล้วทั้งหมด 4 ใบ ส่วนน่ามาร์กแล้วมีใบเดียวทั้งปีครับ

นายเซ็บใบที่
1 ใบนี้เปลี่ยนไปมากับใบที่สองบ่อยๆๆ
//www.hulashare.com/images/58082098341283908623.jpg
2 ใบนี้เปลี่ยนไปมากับใบแรกๆๆบ่อยๆๆ
//www.hulashare.com/images/75594398079091439844.jpg
3 ใบนี้ใส่ครั้งเดียวครับที่ สิงค์โปร์
//www.hulashare.com/images/24115249578668040036.jpg
4 ส่วนใบนี้ใหม่ล่าสุดครับ
//www.hulashare.com/images/82436066688478375921.jpg


ส่วนน่ามาร์ก ใบเดียวครับเรียกกันได้ว่า ใบเดียวทั่งปี

//www.hulashare.com/images/59742598724258996425.jpg

วัยรุ่นก็แบบนี้แหละ เปลี่ยนลายไปเรื่อยๆ ตามความสดใส ฮ่าๆๆ

แต่ลายที่ญี่ปุ่นเนี่ย น่ารักเชียว ฮิๆๆ

55555

ใช่ค่ะ เซ็บน้อยจอมเปลี่ยนดีไซน์หมวก เป็นสีสันอย่างหนึ่งของตัวเขาค่ะ

เซ็บใช้บริการ Jens Munser Design ซึ่งเป็นดีไซเนอร์ของเยอรมัน นักขับเยอรมันส่วนใหญ่ก็ให้ที่นี่ดีไซน์ให้ค่ะ ทั้งชูมัคเกอร์ รอสเบิร์ก ซูทิล ไฮด์เฟลด์ อย่างเว็บเบอร์ก็รู้สึกว่าให้ที่นี่ทำเหมือนกัน

ลองเข้าไปดูได้ที่ //www.jmd.de ค่ะ ส่วนขั้นตอนการทำดูได้ที่นี่เลย //givesyouwings.wordpress.com/2010/02/09/how-are-red-bulls-helmets-painted/

F1 ปีนี้สนุกสงสัยลุ้นกันสนามสุดท้ายว่าใครจะได้แชมป์โลก
ผมขอเชียร์ทีมไทย(กระทิงแดง)ครับ กำลังดูQualify session ขอpole positionแล้วกัน เดี๋ยวลุ้นแข่งตอนบ่าย สนามนี้ขอแชมป์ถ้าไม่ชนกันเองก่อน