|
Barcelona Test # Day 2
เป็นอีกวันที่หลายทีมได้ทำการจำลองการแข่งขันจริง เป็นผลให้แต่ละคนเพิ่มไมเลจให้รถได้มากมายเลยค่ะ และเซบาสเตียน เวทเทล ก็เป็นผู้ที่ทำเวลาดีที่สุดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
1. Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) 1m23.315s (104 laps)
2. Jaime Alguersuari (Toro Rosso-Ferrari) 1m23.519s / + 0.204 (97)
3. Fernando Alonso (Ferrari) 1m23.978s / + 0.663 (90)
4. Rubens Barrichello (Williams-Cosworth) 1m24.008s / + 0.693 (118)
5. Nick Heidfeld (Renault) 1m24.242s / + 0.927 (41)
6. Kamui Kobayashi (Sauber-Ferrari) 1m24.243s / + 0.928 (125)
7. Nico Rosberg (Mercedes) 1m24.730s / + 1.415 (131)
8. Jenson Button (McLaren-Mercedes) 1m24.923s / + 1.608 (54)
9. Paul Di Resta (Force India-Mercedes) 1m25.194s / + 1.879 (80)
10. Heikki Kovalainen (Lotus-Renault) 1m26.421s / + 3.106 (58)
11. Vitaly Petrov (Renault) 1m26.884s / + 3.569 (61)
12. Vitantonio Liuzzi (HRT-Coswrorth) 1m27.044s / + 3.729 (70)
13. Timo Glock (Virgin-Cosworth) 1m27.242s / + 3.927 (66)
14. Ricardo Teixeira (Lotus-Renault) 1m31.584s / + 8.269 (26)
รายละเอียดวันนี้ขอเน้นพวก "บิ๊กโฟร์" กันหน่อยนะคะ
หลังจากเมื่อวันแรกผิดแผนไปเนื่องจากรถมีปัญหา ทำให้ทดสอบไม่เต็มที่ มาเมื่อวานนี้เร้ดบูลค่อนข้างสบายขึ้นค่ะ สามารถทำการจำลองสุดสัปดาห์ของการแข่งขัน คือในช่วงซ้อมรอบที่ 3 การควอลิฟาย และการแข่งจริง รวมทั้งฝึกซ้อมการเข้าพิตและการสตาร์ทได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยเวลาที่เวทเทลทำได้เป็นผลงานตั้งแต่ครึ่งวันเช้า ด้านเฟอร์รารี่มีปัญหากับเรื่องไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ทำให้เสียเวลาไป แต่เฟอร์นันโด อลอนโซ่ก็ยังวิ่งทดสอบได้ถึง 90 รอบ ทำให้ได้ข้อมูลโดยเฉพาะเรื่องยางมาเก็บไว้อีกเยอะ
เร้ดบูลซ้อมพิตสต็อป
มาดูเมอร์เซเดส จีพี กันค่ะ ทีมประสบความสำเร็จกับการวิ่งจำลองการแข่งขันจริงเป็นวันที่ 2 โดยนิโค รอสเบิร์ก เป็นผู้ขับ นอกจากนั้นยังได้ทำความคุ้นเคยกับ KERS มากขึ้น รวมทั้งดูในเรื่องของการเปรียบเทียบการเซ็ตอัพในแบบต่างๆ และประเมินระบบแอโรไดนามิกส์ ส่วนแม็คลาเรน เป็นอีกวันที่ยังไม่สามารถทำเวลาขึ้นไปบนสุดของเวลารวมได้ เพราะเจอปัญหากับระบบไฮโดรลิกซึ่งทำให้กินเวลาการซ้อมไปมาก และยังลำบากในการเซ็ตปีกหน้ากับยางที่ต่างชนิดและจำนวนน้ำมันที่ต่างกัน แต่เจนสัน บัตตัน ก็ยังมองโลกในแง่ดีค่ะ หวังว่าใน 2 วันสุดท้ายที่เป็นคิวของลูอิส แฮมิลตัน ทีมจะปลอดปัญหาและวิ่งได้ตามแผนที่วางไว้
เท่าที่การทดสอบผ่านมา นักข่าวให้เครดิตเฟอร์รารี่และเร้ดบูลว่าเร็วพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่เฟอร์รารี่ดูมีภาษีเรื่องความสม่ำเสมอมากกว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาสงสัยกันคือเรื่องความเร็วของแม็คลาเรนนี่ล่ะค่ะ อย่างเมื่อวานในเว็บไซต์บีบีซีเขาเขียนไว้ว่า "ดูเหมือนแม็คลาเรนจะยังช้ากว่าเร้ดบูลอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทดสอบในโปรแกรมที่คล้ายกัน เราไม่รู้หรอกว่าแต่ละทีมใช้ยางประเภทไหนกัน แต่เวทเทลทำเวลาได้เร็วกว่าบัตตันทั้งๆ ที่รถหนักกว่าด้วยปริมาณน้ำมันที่มากอยู่ในช่วงต้นของการจำลองการแข่งจริง" ส่วนเมอร์เซเดสยังโดนแซวเรื่อยๆ ค่ะว่าทำรถปี 2011 มาก็นานกว่าใครเพื่อน ทำไมป่านนี้ยังวิ่งช้าอยู่เลย!?!
ปิดท้ายที่ความคืบหน้าการจัดการแข่งขันที่บาห์เรน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เพิ่มเติมค่ะ แต่ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษออกมาเตือน "ไม่ให้เดินทางไปบาห์เรน เว้นแต่ที่จำเป็นจริงๆ" นั่นก็แสดงว่าสถานการณ์ยังเข้มข้น ถ้าหากไม่ได้มีการทดสอบรอบสุดท้ายและการแข่งขันสนามเปิดฤดูกาลที่ซาคีร์ ทีมต่างๆ ก็กำลังดูความเป็นไปได้ในการหาสนามแทน และโดยไม่นับรวมการทดสอบครั้งสุดท้ายนั้น หากตารางการแข่งขันต้องข้ามไปก็มีตัวเลือกว่าจะมีการทดสอบพิเศษเป็นช่วงที่ 5 ดีหรือไม่ แต่ทีมเล็กๆ อาจมีปัญหากับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อีกมุมมองหนึ่งที่เป็นไปได้คือไม่ทดสอบที่บาห์เรนแต่ยังมีการแข่งขันอยู่หากสถานการณ์ที่นั่นค่อยๆ สงบลง
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอเอฟไอเอและเบอร์นี่ เอ็กเคิลสโตน ออกมาตัดสินใจล่ะค่ะ
*ข้อมูลจาก formula1.com / news.bbc.co.uk / autosport.com/f1
ภาพจาก news.bbc.co.uk
| Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
3 comments |
| Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2554 8:04:53 น. |
| Counter : 1381 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [
Ferrari และ Red Bull ก็น่าจะเป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์โลกแน่นอนอ่ะนะ
ส่วน McLAREN (Ron Dennis ไม่อยู่คุมแล้ว จะพร้อมแค่ไหน season ที่แล้วก็เหลือเชื่อว่า แชมป์โลก ปี 2008 2009 ขับด้วยกัน แล้วไม่ติด Top 3 ทั้งคู่เลย )
แต่ได้ข่าว hamilton จ้าง trainer ฝีมือเทพ( ที่เคยดูและ นักกีฬาอังกฤษ ที่แข่ง Olympic)
มาคุมเลยอ่ะนะครับ เพื่อเรียกความฟิต ให้ออกมาแบบสุดๆ ก่อนจะไปจับพวงมาลัย F1