Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 
5 เมษายน 2554
 
All Blogs
 

Malaysian Grand Prix 2011

ขอนำเข้าสู่สนามที่ 2 ของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันเร็วหน่อยนะคะ อย่างที่หลายคนทราบแล้ว คนเขียนจะไปตามเก็บบรรยากาศมาฝากจากเซปัง เพราะฉะนั้นเปิดหัวเรื่องสำหรับสุดสัปดาห์นี้เลยดีกว่า...









รายละเอียดการแข่งขันและข้อมูลสนาม
สนามที่ 2
วันแข่งขัน : อาทิตย์ที่ 10 เม.ย. 54 (รอบจัดอันดับ เสาร์ที่ 9)
เวลาแข่งขัน (ไทย) : 15.00 น.
ชื่อสนาม : Sepang International Circuit
จำนวนรอบแข่งขัน : 56 รอบ
ความยาวของสนาม : 5.543 กม.
ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด : 310.408 กม.
ความเร็วสูงสุด: 297 กม./ชม.
อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อ 1 รอบ: 65%
ดาวน์ฟอร์ซ: สูง
อัตราการใช้ยาง: ปานกลาง
อัตราการใช้เบรก: ต่ำ
แรง G สูงสุด: 3.96
สถิติสนามต่อ 1 รอบ : 1:34.223 (ฮวน พาโบล มอนโตย่า / วิลเลียมส์ - 2004)
พยากรณ์อากาศวันแข่ง : มีพายุฝน อุณหภูมิ 23/31 องศา

ผู้ชนะมาเลเชียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2010 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล)
2009 - เจนสัน บัตตัน (บรอว์น จีพี)
2008 - คิมี่ ไรค์โคเน่น (เฟอร์รารี่)

โพลโพซิชั่น (Pole Position) 3 ปีหลังสุด
2010 - มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 1:49.327
2009 - เจนสัน บัตตัน (บรอว์น จีพี) 1:35.181
2008 - เฟลิเป้ มาสซ่า (เฟอร์รารี่) 1:35.748


ในสนามนี้นักขับจะได้รับยางเพิ่มพิเศษ 2 ชุดเพื่อจุดประสงค์ในการทดสอบยางฮาร์ดชนิดใหม่ของปิเรลลี่ โดยจะสามารถใช้ในระหว่างการซ้อมวันศุกร์ ส่วนในเรื่องการเข้าพิต คาดกันว่าด้วยความร้อนสูงของสนาม เราอาจได้เห็นถึง 4 ครั้งค่ะ


****************************************


ก่อนจะไปถึงเซปัง ไปติดตามการปรับปรุงสนามซิลเวอร์สโตนกันสักนิดนะคะ

การปรับปรุงเริ่มขึ้นระยะหนึ่งแล้ว โดยบ่อกรวดหลายส่วนถูกเปลี่ยนเป็นบริเวณกว้างสำหรับแฟนๆ ซึ่งจะมีจอทีวียักษ์ไว้ให้บริการด้วย อารมณ์จะเหมือนกับ "เฮนแมนฮิลล์" ของวิมเบิลดันเลยค่ะ อันที่จริงช่วงหลังๆ สนามซิลเวอร์สโตนพัฒนาการให้บริการกับแฟนๆ มากขึ้นหลายอย่าง ตัวอย่างหนึ่งคือเรื่องจอทีวีขนาดใหญ่ รวมแล้วทั่วสนามตอนนี้มี 27 จอ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะอยู่ที่ข้างสนามนะคะ ด้านหลังของที่นั่งแกรนด์สแตนด์ก็มีเช่นกัน ค่าเข้าชมส่วนนี้ก็จะไม่แพงมากนัก





ซิลเวอร์สโตนกำลังปรับปรุง




ในการปรับปรุงส่วนอื่นๆ ที่ชัดเจนคือเรื่องอาคารพิตที่จะมีขนาดใหญ่กว่าเดิม 30% และปรับรูปแบบแกรนด์สแตนในมุมต่างๆ ค่ะ ดูเหมือนจะรองรับผู้ชมได้มากขึ้นและที่นั่งที่ทำใหม่ก็มีหลังคากันทั้งนั้น แต่ที่น่าท้าทายสำหรับนักแข่งที่สุดเห็นจะเป็น "พิตเลน" ซึ่งออกแบบใหม่ให้มีระดับต่ำกว่าแทร็ค (เหมือนที่อาบูดาบีมั้ยน้อ?) แถมมีโค้งขวามาให้ลองฝีมืออีก 1 โค้งระหว่างเข้าพิต คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ทีมบอสของเร้ดบูลได้ไปเยี่ยมชมการก่อสร้างเมื่อวานนี้และกล่าวถึงเรื่องพิตใหม่นี้ว่าสิ่งสำคัญคือเรื่องการสื่อสาร เพราะโค้งทางเข้าพิตอาจบังให้ทีมไม่เห็นว่านักแข่งกำลังจะถึงพิตแล้ว

การปรับปรุงสนามซิลเวอร์สโตนครั้งนี้ใช้งบประมาณทั้งหมด 27 ล้านปอนด์ โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ค่ะ






*ข้อมูลจาก formula1.com และ autosport.com/f1
ภาพจาก webhush.com และ autosport.com/f1




 

Create Date : 05 เมษายน 2554
13 comments
Last Update : 5 เมษายน 2554 15:30:50 น.
Counter : 1477 Pageviews.

 

โย่ว...ไปกันๆ อิอิ

น่าจะมีคนมากระชับพื้นที่แถวนี้ ฝาก fas คุง คอยจัดการด้วยนะ 555+

 

โดย: runtaro IP: 172.30.50.63, 202.183.217.251 5 เมษายน 2554 18:58:52 น.  

 

กระชับพื้นที่เสร็จต่อด้วย.........กระชับวงล้อม อิอิ

 

โดย: editor IP: 118.172.99.168 5 เมษายน 2554 19:09:34 น.  

 

ฮ่าๆๆ เข้าไปดูพยากรณ์อากาศในหน้าเว็บ F1 แล้วเซ็งจริงๆ ฝนมาเต็มทั้ง 3 วันเลย -*-


งานนี้ เตรียมตัวไปลุยฝนเต็มๆ

 

โดย: runtaro IP: 124.122.213.9 5 เมษายน 2554 21:42:24 น.  

 

มืดอีกแล้ว... สงสัยจะได้เปลี่ยนยางตาม pirelli คาดการณ์แล้วล่ะครับ เพราะได้เปลี่ยนเป็นยาง wet สลับ inter สลับ dry แน่ - -"

 

โดย: fascinator IP: 124.121.223.71 5 เมษายน 2554 21:51:55 น.  

 


ถ้าฝนตกก็ตัวใครตัวมันเลย
( ฝนมา ผมเชื่อว่าไม่มีใครได้เปรียบอ่ะ อยู่ที่ความถนัดของนักขับเองเลย + กับการแก้สถานการณ์ของทีมด้วย )

 

โดย: JUNE IP: 125.27.153.58 5 เมษายน 2554 22:04:59 น.  

 

ในบรรดานักขับคิดว่าคุณคิดว่าใครขับรถในสภาพอากาศที่มีฝนตกได้ดีมากที่สุด.....

 

โดย: editor IP: 118.172.38.244 5 เมษายน 2554 22:57:03 น.  

 

ฝนเหรอครับ เออ ผมคิดถึง น้าชู เจ้าแฮม และเจ้าโซ่ ครับ ส่วน Vettel ผมว่าถนนเปียกเนี่ยไม่ค่อยนะครับ

 

โดย: saraph IP: 58.8.98.201 5 เมษายน 2554 23:14:06 น.  

 

เรื่องความถนัด ตอนฝนมา
นึกถึง ปี 2007 ที่ Nurburgring ครับ

ช่วงกลาง แห้งๆอยู่ massa นำ ส่วน alonso ไล่ไม่เข้าครับ
แล้วช่วงท้ายฝนมาครับ ทั้งคู่ เปลี่ยนยาง แล้ว alonso ทำความเร็วสูงมาก ( นึกว่า track แห้งมั้งนั่น )
มาจี้ massa ครับ , massa ฝนมาแล้ว เป็นเต่าไปเลย ฟัดกันไปสักพักก็เสร็จ alonso ครับ

* massa ช้ามากครับ พอฝนลง block alonso โดย บัง line ไปเรื่อยๆ
แต่สุดท้าย alonso แซงวงนอก massa เอาไม่อยู่ รถถูกันเล็กน้อย

หลังแข่งจบ massa มาด่า alonso เฉยเลย
ดูแล้วก็ฮาครับ 555 massa แกไม่ยอมรับท่าเดียวเลย ว่าฝนมาแล้วสู้ไม่ได้จริงๆ

[ ปีนั้น อยู่คนละทีมกัน alonso= McLAREN / massa = FERRARI]

 

โดย: JUNE IP: 125.27.147.145 5 เมษายน 2554 23:35:58 น.  

 

ฝนมาก็ โซ่ เซบ แฮม น้ามาร์คกับเจ้าปุ่มก็อาจจะมาร่วมก๊วนด้วยบ้าง

 

โดย: fascinator IP: 10.17.35.147, 124.122.29.128 6 เมษายน 2554 7:21:16 น.  

 

สภาพอากาศคงเป็น 1 ในปัจจัยที่สำคัญเลยละครับ

ถ้าฝนไม่ตก ทั้งรถและยางจะเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยเจอแน่ๆครับ ซึ่งปัญหาต่างๆอาจจะเกิดตามมาได้

แต่ถ้าฝนตก อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่างเช่นช่วง Qua'ly ปีที่แล้ว รถ Ferrari ทั้ง 2 คัน และ Hamilton ไม่ผ่าน Q1 เพราะโดนฝนเล่นงาน ส่วนแชมป์โลกปี 2009 ก็รถพังในช่วง Q1 หลังจากทำเวลาที่ดีพอจะผ่าน Q1 แต่ก็ไม่ได้วิ่งใน Q2 อยู่ดี

สำหรับคนที่น่าจับตามอง ผมขอมองไปที่ Nico Rosberg เพราะผลงานที่ผ่านมาในสนามนี้ค่อนข้างดี แถมเค้าเองก็ให้สัมภาษณ์ว่าเค้าชอบสนามนี้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว แต่จากสถานการณ์ของทีมในปัจจุบัน ถ้ารักษาตำแหน่งเดิมจากปีที่แล้วได้ (อันดับที่3) ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

ในส่วนของทีมที่น่าจะชนะ RBR ก็ยังเป็นทีมเต็งตามเดิม แต่ช่องว่างกับทีมอื่นๆน่าจะลดลง ยิ่งถ้ารถของ RBR ยังไม่มี KERS ก็คงต้องลุ้นกันหน่อย เพราะทางตรงที่นี่ค่อนข้างยาว และมีทางตรงทั้งก่อนโค้งสุดท้ายและหลังโค้งสุดท้าย

KERS กับ DRS น่าจะเป็นปัจจัยให้มีการแซงเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ต้องรอดูกันอีกทีว่าช่วงที่จะกำหนดให้ใช้ DRS คือช่วงไหน จะเป็นทางตรงก่อนโค้งสุดท้ายซึ่งยาวกว่า หรือจะเป็นช่วง start/finish อย่างที่ Australia

สำหรับคนขับทางฝนเก่ง ผมคิดว่า M.Schumacher คือคนที่เก่งที่สุดเท่าที่ผมเคยดูมาครับ ถ้าพูดถึงคำว่า Rainmeister ผมก็นึกถึง Schumacher ก่อนเป็นคนแรก แต่คนในยุคก่อนหน้านั้นอย่าง Jackie Stewart หรือ Aryton Senna ผมเกิดไม่ทันได้ดูครับ อีกคนนึงที่ผมคิดว่าฝีมือเยี่ยมในทางฝนคือ แชมป์โลกปี 2009 Jenson Button

 

โดย: Thomaskung IP: 58.11.38.194 6 เมษายน 2554 7:42:07 น.  

 

@คุณ saraph

แฟน "เซ็บน้อย" ขอประท้วงได้รึป่าวคะ อิอิ
พ่อคนนี้แหละตัวดีในทางเปียกคนหนึ่งเลยค่ะ...

Chinese GP 2007 - ได้ที่ 4 (โตโร รอสโซ)
Italian GP 2008 - โพล / ชนะ (โตโร รอสโซ)
Brazilian GP 2008 - ได้ที่ 4 (โตโร รอสโซ) -- อันนี้มาสซ่ากับแฮมิลตันคงจำแม่น
Chinese GP 2009 - ชนะ (1-2 แรกของเร้ดบูลด้วย)
Brazilian GP 2009 - ได้ที่ 4 หลังสตาร์ทจากที่ 15

แล้วยังมีประเภท "เกือบ" อย่าง Japanese GP 2007 ที่ถึงแม้ไปชนท้ายพี่มาร์กขณะอยู่ที่ 3 (แต่เขาว่ากันว่าต้นเหตุมาจากแฮม) แต่ก็ทำสถิติเป็นนักขับที่อายุน้อยที่สุดที่นำการแข่งขันอย่างน้อย 1 รอบ แล้วก็ Korean GP 2010 ถ้าเครื่องไม่ระเบิดเสียก่อนคงชนะไปแล้ว

เคล็ดลับที่เซ็บขับทางเปียกได้ดีเพราะตอนหัดขับคาร์ท เขาใช้แต่ยาง slick ขับตอนฝนตกค่ะ เพราะยางฝนมันแพง พ่อไม่ซื้อให้

ใช่ค่ะ...แต่ถึงอย่างไร rainman ในดวงใจต้องยกให้ "ตาชู" ส่วนพวกครึ่งบกครึ่งน้ำเรายกให้คุณลุงรูเบนส์ค่ะ

 

โดย: finishline 6 เมษายน 2554 8:15:52 น.  

 

สนามเปียกเนี่ย มันต้อง Glock กับ Trulli เลยครับ พาเจ้า Toyota TF108 ทำแฟนๆ Massa น้ำตาตกมาแล้ว อิอิ

 

โดย: runtaro IP: 124.121.173.194 6 เมษายน 2554 8:36:31 น.  

 

แต่ที่เซปังเป็นแทร็คที่เจ้าโซ่ถนัดมากที่สุดแทร็คหนึ่ง

 

โดย: fascinator IP: 10.17.35.147, 124.121.194.231 6 เมษายน 2554 10:37:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.