Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
สิงหาคม 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
29 สิงหาคม 2557
O สร้อยดอกโศก .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O สร้อยดอกโศก .. O
พญาโศก
.. เพลงยาวพระนิพนธ์เจ้าฟ้ากุ้ง ..
ฝากสารสุจริตขนิษฐา
ฝากจิตที่สนิทสนองมา
ฝากหน้ามาให้ดูช่วยชูนวล
ด้วยหมายมั่นอยู่ในวันได้พบพักตร์
จำเริญรักยังไม่วายหายหวล
แสนสนิทนั้นยังคิดไม่ขาดครวญ
เมื่อวันจวนที่จรไปจากชาย
เจ้ายอกรอภิวาทขึ้นพาดพักตร์
ดังใครผลักตกไม้ฤทัยหาย
แต่ตลึงแลหน้าจนตาลาย
ดั่งสายกายนี้จะยืดจะยาวตาม
แล้วก็หยุดยืนคิดพิศวง
จะตามส่งก็ยังพรั่นขยั้นขาม
เพราะเกรงภัยที่ผู้ใหญ่พยายาม
จะลวนลามจึงเสงี่ยมสงวนใจ
แล้วเจียมตัวด้วยว่าตัวเหมือนหิ่งห้อย
จะรื้อรอยไปแบ่งพระสุริไส
ก็เหมือนหนังเมื่อยังไม่ออกไป
หรือจะไปเชิดชี้ประชันงาน
ทั้งเภรีปีพาทย์ก็ขัดสน
ทั้งไร้คนเจรจาจะว่าขาน
ดั่งเชิดชื่อให้เขาลือด้วยลายพาล
ประมาณเถิดมิใช่จะเกียจกัน
ใช่จะน้อยเสน่ห์บำรุงถนอม
เจ้าก็ย่อมแจ้งจริงทุกสิ่งสรรพ์
ถ้าสมบูรณ์สมบัติเท่าทัดกัน
หรือจะพลันหิริโอตป์ลอายกาย
เมื่อมีแต่สุจริตกับพิศวาส
ฤๅอาจรักเพลินให้เกินหมาย
แล้วตกต่ำก็จำจะเจียนตาย
ใครจะเห็นว่าเป็นชายภักดีดี
เมื่อไรจำเริญในเกียรติยศ
จะปรากฏเกียรคติศัพท์เสน่ห์พี่
สงวนศักดิ์รักษาแต่อินทรีย์
ไว้หใดเถิดจะมาดจะหมายฝั่ง
เจ้าก็ใช่ดรุณเพิ่งรุ่นเริ่ม
พอจะเพิ่มเพียรจำที่คำหลัง
ให้จำเริญความสวัสดิ์ในสัจจัง
อย่าหวังใจเอาใจออกจากกัน
จึงจะควรสมาคมสมสู่
ที่พลัดคูรสรักภิรมย์ขวัญ
ถ้ารู้รักรู้สงวนให้ควรกัน
จะร่วมวันพิศวาสไม่คลาดคลาย
จะร่วมร้อนน่วมรสเจริญพักตร์
จะร่วมรักมิให้ร้างหมางสลาย
จนสูญสิ้นดินฟ้าชีวาวาย
มิได้คลายคาดคิดประคองครอง
เอ็นดูด้วยอย่าให้ม้วยไมตรีมิตร ที่
ปล้ำคิดควรความนี้ตามหมอง
แสนถวิลสุดสิ้นที่ตรึกตรอง
จงดูลักษณ์ที่จำลองนี้เถิดเอยฯ
.. พระนิพนธ์เจ้าฟ้าสังวาลทรงตอบ ..
สารศรีนุสรเสน่หา
จำเริญจิตที่ได้สนิทสนองมา
ด้วยจินตนาเนืองนิจไม่วายวัน
ถึงเชษฐาองค์อิศราราช
ประเวศอาสน์เยื้องวังบวรสวรรค์
สงวนศักดิ์สุจริตไม่ผิดธรรม์
ถวัลยราชดำรงธเรษตรี
สมพักตรวรอรรคอิศเรศร์
สมเศวตฉัตรเฉลิมศรี
สมวงศ์องค์เอกนารี
สมศรีสุภาพพร้อมเพรากาย
งามพจน์งามรสสุนทรสนอง
ไม่มีสองสุดเสน่ห์ถนอมหมาย
เสาวนาสาราภิปรายระบาย
ให้ทราบสายเสน่ห์แจ้งแสดงการ
แจ่มจิตที่สนิทสนองพักตร์
จำเริญรักมิได้วายหายสมาน
แต่จำจนสู้ทนทรมาน
ก็บันดาลเสื่อมาเศร้าทุเลาครวญ
ดั่งได้ยลวิมลพักตร์พี่
เสาวนีย์ไพเราะเสนาะหวน
สำราญรื่นชื่นชมภิรมย์ชวน
เอาสารสงวนแนบไว้ในอุรา
ซึ่งประสาทโอสถดังรสทิพ
มายกหยิบทุกษ์เทวษถวิลหา
ได้จำเริญเรียนประสิทธิวิทยา
รักษาอารมณ์แล้วข่มใจ
รสสุคนธ์ยลรูปเทียนสนอง
ปลงปองเคารพสมสมัย
จงจิตบูชิตเป็นเนืองใน
แจ่มใสโสมนับประนมกร
อิ่มอาบมิตรภาพจรรยา
ดั่งเชษฐานั่งแนบสโมสร
ด้วยเดชะเมตตาสถาวร
ระงับร้อนโรคเร้าระทมกรม
พระคุณปูนเปรียบสุเมรุมาศ
พสุธาอากาศไม่สาสม
สุดสนองที่จะต้องในอารมณ์
ให้ชมคุณที่การุณนุชชาย
ก็ตั้งจิตจงรักภักดีพี่
น้องจึงมีความร้อนห่อนเหือดหาย
สุดสกนธ์แต่ทนระกำกาย
เพียงจะวายวางชีพทุกทิวา
แต่ยินข่าวที่เขากล่าวประมาทพี่
พลอยทวีความเทวษด้วยเชษฐา
เคยงามพักตร์วรลักษณ์จำเริญตา
ก็นับวันแต่ถ้าจะอับประมาณ
จะขุ่นคล้ำช้ำใจอยู่ในอก
แสนวิตกอนิจาน่าสงสาร
เสียเนื้อที่เป็นเชื้ออนงค์นาน
มาพ้องพานอุปวาทประมาทกัน
เคยสมบูรณ์ในจุลจักรพรรดิ์
ภิรมย์สวัสดิ์วีรราชจำเริญขวัญ
สงวนศักดิ์บริรักษ์ไม่วายวัน
ก็สารพรรณจะนิราศแรมไกล
ดั่งดวงเดือนเลื่อนลับพโยมหน
เคยวิมลกระจ่างสว่างไสว
....................
กลอนสองบทนี้ แม้จะขาดความไพเราะในเรื่องสัมผัสไปบ้าง แต่ก็นับว่าดีที่สุดของกลอนในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในเรื่องสัมผัสในนั้นมามีขึ้นโดยท่านสุนทรภู่เป็นเจ้าตำรับสมัยกรุงรัตน โกสินทร์จะเทียบกับเชิงกลอนของสุนทรภู่นั้นเทียบกันไม่ได้
แต่กลอนสองบทที่ยกมานั้นก็สมกับเพลงยาวของคนชั้นสูงในราชวงศ์ ทั้งท่านก็เป็นผู้เชี่ยวชาญกวีโดยแท้จริงและแสดงให้เห็นความสามารถของเจ้าฟ้ากุ้งด้วยว่าไม่ได้หลักแหลมแต่ในเชิง กาพย์ ฉันท์ แม้กลอนสุภาพก็แต่งได้ไพเราะเช่นเดียวกัน
เพราะความที่แต่งบทกวีไพเราะจึงทำให้ประสบเคราะห์กรรมถึงชีวิต จึงย่อมจะมีเพศตรงข้ามติดรสกวีจนทำให้เกิดความรักความพิศวาสขึ้นจะลงโทษเจ้าฟ้าสังวาลว่าประพฤติพระองค์ไม่สมควรก็ไม่ถนัดนักเพราะเป็นโลกีย์วิสัยที่ชอบพอสิ่งใดแล้วก็อาจเคลิบเคลิ้มไปตามอารมณ์ได้โดยง่าย
ต่างมีฝีปากเชิงกวีด้วยกันเขียนตอบโต้กันเล่นเพื่อความเพลิดเพลินอวดฝีปาก กันเมื่อโต้ตอบกันบ่อยๆเข้าจึงเกิดเป็นคดีขึ้นเพราะต่างติดรสของความเป็นกวี ของกันและกัน
Create Date : 29 สิงหาคม 2557
Last Update : 16 เมษายน 2566 11:34:54 น.
0 comments
Counter : 2616 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.