O รูปเอย .. O

ลาวดวงดอกไม้
O คล้ายว่าแดดทอดสู่ .. ไม่สู้ร้อน เมื่อเนตรคล้ายชายค้อน .. เหลือบย้อนหา นิ่ง, เงียบงัน - แฝงเร้นความเย็นชา หากเหมือนว่าลอบเร้น .. บีบเค้นใจ O ค่อยค่อยเยื้อง .. ค่อยค่อยย่าง .. อยู่กลางแถว เนตรผ่องแผ้วลอบชาย .. ก็คล้ายไหว- ตามการเพ่งพิศโลม .. รูปโฉมใคร งามแจ่มใส .. ยิ่งนักรูปพักตร์นั้น O นุ่งห่มดำ .. ทองลออ-รอบคอระหง จำหลักวงรอบแขน-ห้อมแหนขวัญ- ด้วยตุ้มหูแต่งประดับ .. แบบรับกัน แล้วค่อยผันพักตร์พริ้มมาพิมพ์ใจ O อ่อนหวานถึงปานนั้น .. เจ้าขวัญน้อย เมื่อชม้อยเนตรพลัน-ที่สั่นไหว- ย่อมเป็นอกวาบหวามด้วยความนัย อกของใครคนหนึ่ง .. ที่อึงอล O ใต้ท่วงทีงำเงียบ .. พักตร์เรียบเฉย คล้ายเอื้อนเอ่ยต่อกัน .. นับพันหน ความรู้สึกในอก .. พลอยวก-วน สุดฝ่าพ้นรูปลักษณ์ .. ที่ดักทาง O หรือ .. ผ่านล่วงลงมาจากฟ้าสูง จึงเหมือนยูงอกแอ่นรำแพนหาง เหลื่อมลายขนงดงามอยู่ท่ามกลาง- เงียบงันอ้างว้างในห้วงใจชาย O สะท้อนความอาลัย .. ที่ในทรวง พร้อมร่างรุ้งแสงสรวง .. แผ่ช่วง-ฉาย สะท้อนเพียงวูบวับ .. ก่อนลับ-วาย คือเนตรผายปริศนา .. ให้คา-คง O อ่อนไหวถึงปานนั้น .. ดวงขวัญเอ๋ย หวั่นลับเลยรูปยูง อันสูงส่ง หลัง-พระลบบำราศ .. ค่อยหยาดลง หยาดรูปรอย .. ลุ่มหลงสู่ดวงใจ O มีความหมายปรากฏ .. ในบทบาท- เรื้องลีลาศแววระยับ .. ออกขับไข แปรอบอุ่นลามล่วงเป็นห่วงใย ก็โดยนัยน์อาวรณ์ .. เจ้าอ่อนน้อย O ลมแผ่วโผยอ่อนพลิ้ว .. โลมริ้วแก้ว อ่อนเอนตามเจ้าแล้ว .. จากแผ่วค่อย- จนรอบความทดท้อเคยรอคอย คล้ายอ่อนเอนเงียบหงอย .. ด้วยน้อยใจ O สะท้อนรูปฝ่าแดด .. ผ่านแวดล้อม พักตร์ละม่อมแววตา .. คล้าย-ปราศรัย สะท้อนผ่านท่วงทีอันมีนัย ผูกคล้องไว้ยึดมั่น .. เป็นพันธนา O เช้าชื่นนั้นน้ำค้าง .. เคยวางหยาด จนโอภาสเรื้องลออทอดทอหา บริสุทธิ์และสะอาด .. บำราศลา- เพื่อแฝงฝังคุณค่าให้อาวรณ์ O เรื่อรุ้งของดวงโคม .. เมื่อโลมหล้า ก็งามเต็มคุณค่าเกินกว่า-ซ่อน จึงโชติช่วงดวงอุทัย .. เหมือนไฟฟอน ลงแทรกซ้อนทับทรวงด้วยห่วงใย O รอคอยมานับนาน .. แต่ผ่านพลบ จึงบรรจบบริบท .. งาม, สดใส ดูเอาเถิดตระการตา .. ยิ่งกว่าใด ประชุมรูป-นามให้ .. หัวใจยอม O แต่รับทราบ-งามล้ำแห่งลำแสง อุ่นก็แฝงกำลังเข้าหลั่งหลอม ที่ว่าหวานมธุรส .. ยาก-อดออม เหมือนรายล้อมมธุรส .. เกินอดใจ O ล่องลอยผ่านฟ้าคราม .. สู่งามรูป ลมแผ่วผ่านโลมลูบ .. จิตวูบไหว สบชม้อยชม้ายมา .. ครั้งคราใด ก็อาวรณ์อาลัยเฝ้าไขว่คว้า O คล้ายว่าร้อนสรวงบนจะพ้นผ่าน เมื่อเนตรคราญเหมือนคอย-ชม้อยหา นิ่ง, เงียบงัน - แฝงเร้นความเย็นชา หากแววตามุ่งหมาย .. นั้นฉายทอ O หรือว่าเหล่าทิพแถนทั้งแดนสรวง จะรับรู้ความปวง .. เคยบวงขอ จึงเมตตาอำนวย .. จนช่วยยอ- รูปลออหยั่งร่างลงกลางใจ O หรือว่า .. ปวงทิพแถนทั้งแดนฟ้า รับพรรณนาสื่อผ่าน .. สุดต้านไหว มาร่วมพร้องคุณค่าความอาลัย ร่วมจารบทพิสมัย .. พิมพ์ใจคน O รูปพักตร์เอยเผยแล้ว .. หากแล้วล่วง- ถ้อยคำที่บำบวงฝากห้วงหน จะผูกล่ามเจตจินต์ .. ให้ดิ้นรน เกินกว่าใจจะหลุดพ้นแล้ว .. คนดี O ต่อแต่นี้คือวาระ .. เฝ้าละห้อย ของดวงใจดวงน้อยเฝ้าคอยพี่ ขอ .. อาวรณ์อาลัย .. เงื่อนไมตรี อย่าได้ลี้เลือนกัน .. ตราบวันวาย !
Create Date : 08 ธันวาคม 2559 |
Last Update : 13 เมษายน 2566 18:12:21 น. |
|
2 comments
|
Counter : 4154 Pageviews. |
 |
|
|
คุยกันแต่ในเฟส ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมบล็อก นารีปราโมช ซะนานเลย พี่กายก็คือพี่กาย กี่ปีก็เหมือนเดิม หล่อกว่าเดิมนิสสสนุง ._ .