Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
ตุลาคม 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
30 ตุลาคม 2555
O ห้วงเหมันตะสมัย O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
Ernesto Cortazar - 9 Lives Of Innocence
O ผีเสื้อปีกบอบบางลอยร่างร่อน-
ล้อมเกสรมาลย์อยู่แต่ตรู่สาง
เมื่อหมอกเช้าแทรกตัวอยู่ทั่วทาง
และน้ำค้างวางหยด .. รอ-รดริน
O ลวดลายปีกบอบบางในสางตรู่
แทรกตัวสู่หวานหอมไม่ยอมสิ้น
ให้รสรื่นรมย์นี้ .. ปลุกชีวิน-
เพื่อโบกบินแนบยาม .. ให้งามล้น
O ดอกไม้หอม, แสงฉาย, ปีก-ลายพราง-
ค่อยค่อยคลี่ปีกกว้างก่อนคว้างหล่น-
ลงแทรกกลีบดอกมาลย์เอาหวานปรน-
เปรอตัวตนสำราญกลางม่านใบ
O เห็นน้ำค้างวางหยาด .. อยู่ดาษดื่น
ลมเช้าชื่นโรยริ้วก็พลิ้วไหว
ประหนึ่งเพชร-เม็ดน้ำ .. นั้นร่ำไร
รอแสงไล้โลมต้อง .. ก่อนล่องลอย
O รวยรวยรสมาศไม้ที่ในสวน
กลิ่นหอมอวลอบเร้าความเหงาหงอย
รื่นคันธารสหนอ .. เหมือนรอคอย-
บางรูปรอย .. ให้ถวิลแต่กลิ่นมาลย์
O คำนึงด้วยเจตจินต์ .. ที่ยินยอม-
ถูกกักกุมรุมล้อมด้วยหอมหวาน
ที่ทั้งใจไหวสั่นแต่วันวาน
เมื่อใครผ่านหวานหอมเข้าล้อมลน
O งามจริตรูปละม่อมพรั่งพร้อมค่า
ยิ่งช่อชั้นพวงผกา .. แห่งป่าฝน
ที่เสียดยอดพลอดยามให้ตามยล
ตราบดิ้นรนด้วยใจ .. คอยไขว่คว้า
O นับการก้าวยกย่าง .. บนทางฝัน
ช่างเต็มเปี่ยมมุ่งมั่น .. การฟันฝ่า-
อุปสรรคทั้งปวง .. ให้ร่วงคา-
อยู่ใต้ฝ่าเท้าย่ำ .. ที่ดำเนิน
O นับสิบร้อยพันหมื่นการตื่นหลับ
ล้วนลำดับรอยอุทธัจ .. ความขัดเขิน
ที่ค่อยโหมหวนระลอกเข้าหยอกเอิน
ด้วยท่าทีสะทกสะเทิ้น.. ทั้งเมิน-เมียง
O ละเมียดรส .. ผกากรองละล่องกลิ่น
หอมตรึงจินตนาการนั้น-ปานเสียง-
กระซิบแผ่วผ่านถ้อยมาร้อยเรียง-
ความซาบซึ้งให้ประเดียงประดังใจ
O กลีบเรียวบางดอกดวง .. บ้างร่วงหล่น
พร้อมกับห้วงใจคน .. ที่วนไหว
ละครั้งที่งดงามของความนัย
ผ่านโลมไล้ลูบอก .. พาวกย้อน
O หยาดน้ำค้างเคยเห็น .. ก็เร้นหาย
ยังแต่สายสวาดิชู้สุดรู้ผ่อน
ในคำนึงเงียบเหงา .. เหมือนเว้าวอน-
ความออดอ้อนพร้องพร่ำ .. อยู่ค่ำเช้า
O รูปชาติภพอบร่ำในคำนึง
คล้ายภาพซึ่งสาบสูญแต่พู้นเก่า
ย้อนเผยรูปรอยยิ้ม .. อันพริ้มเพรา
จำหลักเงาเรียวรูป .. โลมลูบทรวง
O นับแต่วันเดือนปีเท่าที่เห็น
ก็ยากเร้นรูปงามที่ลามล่วง
ราวอดีตบุญบาป .. มาทาบทวง-
ผ่านฤทธิ์หน่วงเหนี่ยวเร้า .. ให้เฝ้ารอ
O ถ้วนปวงความอ่อนโยนและอ่อนหวาน
ต่างฤๅเมื่อดอกมาลย์ .. เบ่งบานช่อ ?
ทั้งลามล่วงรุมเร้าพะเน้าพะนอ
เช่นรูปเยาว์แอบออ .. ร่ำรอทรวง
O ถ้วนสิ้นความอ่อนโยนและอ่อนหวาน
จึงค่อยซ่านซึ้งให้ .. อาลัย-หวง-
เข้าโอบล้อมห้อมห่มอารมณ์ปวง
ด้วยความห่วงใยล้ำ .. อยู่ค่ำเช้า
O น้ำค้างเร้นหยาดหยด .. ไปหมดแล้ว
เหลือลมแผ่วกอดเกี่ยวความเปลี่ยวเปล่า
ประหนึ่งเพชร-แสงปลาบ .. นั้นวาบเงา
เมื่อรูปเยาว์หล่นคว้าง .. ลงกลางใจ
O น้ำค้างสิ้นรูปรอย .. รูปรอยเจ้า-
ก็ผ่านเร้ารุมขวัญจนสั่นไหว
วงรอบความเสน่หา .. แรงอาลัย-
ก็โอบล้อมเอาไว้ .. สุดคลายคลอน
O ถ้วนสิ้นความคำนึง.. ส่งถึงอยู่
กอปรแรงชู้อาลัยเกินไถ่ถอน
เหมือนคำบวงพระเจ้า .. เคยเฝ้าวอน-
ค่อยผ่านตอนย้อนดังอีกครั้งแล้ว
O จงกลกรรณิเกศแก้ว - - - กรองมาลย์
ตามประทีปอธิษฐาน - - - ประเทียบถ้อย
จนรอบสุริยะกาล - - - เคลื่อนผ่าน นั้นแม่
อ้อมอกอุ่นจักคล้อย - - - เคลื่อนห้อมโอบขวัญ ฯ
O บูชาอัญชลิตเบื้อง - - - สรวงบน
สวมสอดบุษบาดล - - - ดอกสร้อย
หอมรูปรสเสาวคนธ์ - - - ควรอบ ร่ำแม่
ควร-ศัพท์เสียงร่ำร้อย - - - ผ่านรู้ปรารมภ์ ฯ
O โคมทองประทีปแก้ว - - - ชัชวาล
แต่งกอปรกรองอธิษฐาน - - - ทิพไท้
พึงดลจิตรูปคราญ - - - ครวญแต่ ถวิลนา
ถวิลแต่อกเรียมให้ - - - โอบเนื้อพะนอถนอม.
Create Date : 30 ตุลาคม 2555
Last Update : 16 เมษายน 2566 10:55:58 น.
5 comments
Counter : 4206 Pageviews.
Share
Tweet
สดายุ..
ครั้งนี้ เครื่องสาย ไพเราะ และซอด้วง โอดครวญ ซะ..มิมี..
"รักของข้าดั่งบัวบังใบ บังมิให้ใครเห็น
เฝ้าครวญหวนทุกเช้าเย็นตรอมตรม...
สุดหัก..สุดหาย..หัวใจมิวายระทม
สุดตรอมตรม.. ใจยิ่งคิดให้โหยหา
ต้องบังรักไว้..ไม่กล้าบอกใคร..."
แพ้ ซอด้วง แล้วล่ะท่านกวี...
โดย: บุษบามินตรา IP: 87.173.29.248 วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:3:12:52 น.
"บุษบัน .. แห่งเหมันตะสมัย"
เป็นญาติโกโหติกา สายไหนกับ บุษบามินตรา ไหม
เพราะ มินตรา ไม่รู้จักคำว่า"บุษบัน" รู้จักแต่ บุษบาที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน หรือ บุษกร ..บุษยา..
แล้วข้ามไปรู้จักนายบุศ คู่กับ ตำแหน่งนายเฉลียว ซึ่งเป็นตำแหน่งที่"แม้นจะตายไปก็พูดไม่ได้"...
โดย: บุษบามินตรา IP: 87.173.29.248 วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:3:21:55 น.
มินตรา
บุษบา คือ ดอกไม้
บุษบัน ก็แผลงคำเอาจากบุษบาอีกที เพื่อให้รับกับ เหมันต์ .. จาก พวงผกาแห่งป่าฝน ก็มาเป็น บุษบันแห่งเหมันตะสมัย .. ดังนี้แล
เพราะมันปลายฝนต้นหนาวแล้ว
และ เพราะดวงตาคมงามที่กำลังมองเหลือบมาแบบนั้นในรูปข้างบนแท้ๆเทียว .. จึงนึกถึงเพลงบังใบ ที่ไม่ได้เปิดนานแล้วได้
ใหม่ ดาวิกา ดวงตาสวยงามจริงๆ ..
เห็นด้วยไหม ?
O แววในตาชม้อยชม้าย .. นั้น-คล้ายเต้น-
อย่างแฝงเร้นแอบซ่อนความอ่อนไหว
แก้มเนียนเนื้อนั้นเล่า .. ก็เร้าใจ-
คล้ายรอให้ชาติภพ .. บรรจบลง
55
โดย:
สดายุ...
วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:6:31:52 น.
O ละเมียดรส .. ผกากรองละล่องกลิ่น
หอมตรึงจินตนาการนั้น-ปานเสียง-
กระซิบแผ่วผ่านถ้อยมาร้อยเรียง-
ความซาบซึ้งให้ประเดียงประดังใจ...
ตัวอักษร ที่มีทั้ง กลิ่น และอารมณ์..
วิวัฒนาการแห่งมนุษยชาติ..
โดย: บุษบามินตรา IP: 87.173.18.159 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:41:38 น.
สดายุ..
กลิ่นอันหอมหวานทั้งจากดอกไม้หอม..จากคำร้อยกรอง และ อารมณ์ อ่อนไหว ..ห่วงใย..อาลัยหา..นะคะ
ภาษาไทยนี่ ไม่กระชับเลย..กลิ้งไปมาบนใบบัว..
พริ้ว..เฉกเช่นคำของกวีไทย...555
โดย: บุษบามินตรา IP: 87.173.18.159 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:17:26:00 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สดายุ..
ครั้งนี้ เครื่องสาย ไพเราะ และซอด้วง โอดครวญ ซะ..มิมี..
"รักของข้าดั่งบัวบังใบ บังมิให้ใครเห็น
เฝ้าครวญหวนทุกเช้าเย็นตรอมตรม...
สุดหัก..สุดหาย..หัวใจมิวายระทม
สุดตรอมตรม.. ใจยิ่งคิดให้โหยหา
ต้องบังรักไว้..ไม่กล้าบอกใคร..."
แพ้ ซอด้วง แล้วล่ะท่านกวี...