O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O

Giovanni Marradi - Nostalgie
O แล้วเล่า..ความเรื่อเรื้องที่เบื้องหน้า ค่อยก่อรูปรมยา..รับ-ราศี แล้วเล่า..ปริศนาในตามี ค่อยค่อยคลี่คลายล้อม..ให้ยอมต้ว O เหมือนความหมายลอบเร้นบีบเค้นให้- ความอ่อนไหวโหมระลอกเข้าหยอกยั่ว เหมือนทุกมองสบนั้น..แววสั่นรัว- จะกระเพื่อมโลมทั่วทั้งหัวใจ O จันทร์ทรงเพ็ญงามเรื้องที่เบื้องหน้า สุดสายตาอาจเคลื่อนกลบเกลื่อนไหว ยิ้มในแววตานั้น-บีบคั้นใคร จึงผ่านนัยให้ตระหนักพะวักพะวน O ทุกครั้งสายตาเลื่อนแล้วเบือนสบ แต่งชาติภพหยัดหยั่งทุกครั้งหน ทุกครั้งหัวใจชายก็ว่าย-วน ด้วยอับจนหลีกหลบ..กรรทบนั้น O หยาดเพชรร่วงหล่นแล้ว..ในแววตา ที่เหมือนว่าความหมาย..พร่างพรายสั่น หยาดเอาความอ่อนหวานส่งผ่านกัน สืบสัมพันธ์แฝงเร้น..ขึ้น - เป็น, มี O จันทร์เพ็ญควร-ลอยดวงบนสรวงฟ้า กลับเหมือนว่าลอยดวงกลางทรวงนี่ ทุก-กรรทบ..ภพชาติจึงวาดวี- แฝงท่วงทีอาวรณ์..แอบซ่อนนัย O โอ งามราวจะตามมาลามล่วง กดทับทรวงบีบเค้น..เกินเร้นไหว โอ นั่นแววตายั่ว..บีบหัวใจ ฤๅ-หวังสั่นรัวให้ เสียง-ได้ยิน ? O ท่ามกลางเสียงหลากหลายที่รายรอบ แว่วเสียงสอบถามใจ..เหมือนไม่สิ้น ว่าเยี่ยงไรรมย์รื่น..ถ้วนผืนดิน เหมือนรวยรินกล่อมเห่ห้วงเวลา O อก-กลางเสียง..ถามตอบอยู่รอบตัว กลับสั่นรัวเหลือทีกับทีท่า- ของรูปลักษณ์นวลลออ..เมื่อต่อตา- ใครเล่าถูกล่ามคา..แววตานั้น O สบตาแล้ว..สบอีกสุดหลีกหลบ วางชาติภพรอสาป, แวววาบสั่น- ก็วาบแววรำร่าย..ที่ปลายวัน- เหนี่ยวรอบฉันทารส..ให้ทดลอง O ราวโค้งรุ้งพุ่งลงที่ตรงหน้า เพื่อ-ไขว่คว้า..ใฝ่เฝ้า..เป็นเจ้าของ รอเพียงแววตอบรับการจับจอง โลกทั้งผองย่อมวาง..ให้ย่างเท้า O หล่นลงแล้วดาวร่วงจากสรวงสูง มาจับจูงภาพฝันจากวันเก่า มีดวงใจสั่นรัว..กับยั่วเย้า- จากรูปเงาในตาเบื้องหน้านั้น O หล่นลงแล้วดาวสรวง..สองดวงที่- รำบัดสีฉาบทรวง..ทุกช่วงสั่น เยื่อใยเอย คลี่สายเมื่อปลายวัน ม้วนรัดขวัญโอบแล้ว..ผ่านแววตา O ยิ้มรับแววชม้อยชม้ายเมียง ทั้งความเอียงอายล้อมละม่อมหน้า นวลแก้มอิ่มเนียนนั้น..เพียงหันมา- ก็ตรึงล่ามปรารถนา..แววตา-คอย O จันทร์ทรงเพ็ญแสงวาม..ในท่ามกลาง- หยาดเพชรวางบทแล้ว..อย่างแผ่วค่อย ระลอกความอ่อนหวานก็ผ่านรอย- พาหัวใจเฝ้าคอย..ชม้อยชม้าย O โอ งามหรือจะลามทั้งสามโลก เข้าแทรกโศกอาดูร..จนสูญหาย พักตร์ละม่อม..เสน่หา..แววตาชาย- หรืออาจคลายโอบรัด..เอาตัดรอน ? O หล่นลงแล้วดาวช่วง..สองดวงนั่น พร้อมแววสั่นวาบสู่..เกินรู้ซ่อน หล่นลงบนทีท่า..ความอาวรณ์- ของหัวใจสั่นคลอน..เกินถอนตัว O หล่นลงแล้วเรื่อรุ้ง..จากคุ้งฟ้า ลงต่อตั้งปรารถนากลางฟ้าหลัว งามไหนหนอพะนอขวัญ..ให้สั่นรัว- แล้วหยอกยั่วจับวาง..ลงกลางใจ !
Create Date : 13 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2566 8:04:08 น. |
|
2 comments
|
Counter : 4163 Pageviews. |
 |
|
|
ดายุคะ..
มินตราก็ยังโปรดฉันท์มากกว่า กลอนอยู่ดีนะ
คำในกลอน ดูจะเป็น"ภาษาพูด"มากไป..
ฉันท์ยังมีอะไรก็มิทราบที่เพียง"แย้ม"แต่ก็ชัดเจน
O สืบสร้างระหว่างรหัสะเนตร
ระอุเจตะกำจาย
วาบอุ่นเพราะสุนทริยะสยาย
ฤดิ ถ่ายสิทอดถึง
ช่วงนี้ ตามตึก ตามต้นไม้ มีแววระยิบระยับของ"หยาดเพชร"จากแสงไฟวิทยาศาสตร์..
สวยงามจนปรารถนาจะให้ใครใครมาเดินเคียงข้าง..
คริสมัสต์ เป็นช่วงปลายปีที่..วัดความสำเร็จของชีวิตในแต่ละปีได้..
"เปรียบเธอเพชรงามน้ำหนึ่ง.."จึงเป็นรางวัลในชีวิตที่งดงามมาก..ในช่วงบรรยากาศปลายปีเช่นนี้..