Group Blog
 
 
ธันวาคม 2563
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 ธันวาคม 2563
 
All Blogs
 

สัมผัสอักษร


Ernesto Cortazar - Waiting For You

.
.
.
การเขียนกลอนแบบสัมผัสอักษรปรากฎอย่างโดดเด่น
ในงานเขียนของเจ้าฟ้ากุ้ง ..


.. ปางพี่มาดหมายสมานสุมาลย์สมร .. ม
ดังหมายดวงหมายเดือนดารากร .. ด
อันลอยพึ้นอัมพรโพยมพราย ..พ

แม้นพี่เหิรเดินได้ในเวหาส .. ห
ถึงจะมาดก็ไม่เสียซึ่งแรงหมาย ..ม
มิได้ชมก็พอได้ดำเนิรชาย ..ช
เมียงหมายรัศมีพิมานมอง .. ม

นี่สุดหมายที่จะมาดสุมาลย์สมาน .. ม
สุดหาญที่จะเหิรเวหาสห้อง .. ห
สุดคิดที่จะเข้าเคียงประคอง .. ค
สุดสนองใจสนิทเสน่ห์กัน ..น


123 45 678
นี่คือกลอนแปด .. และการเล่นสัมผัสอักษรจะทำที่ตัวที่ 3-5-8 ..

เคยเล่นอยู่ 2-3 บท ..
.
.
O ช่างเนิ่นนานหนักหนา .. แต่ครานั้น .. น
ก่อนรูปฉันทาชาติจะขาดช่วง .. ช ฉ
นับภาพซึ่งสุมใส่อยู่ในทรวง .. ซ ส
ล้วน – รูปพวงดวงพักตร์จำหลักพร้อม .. พ

O ค่อยเบือนเหลียวสบลักษณ์ .. รูปพักตร์ล้ำ .. ล
มือกุมกำเรียวก้อย .. เอ่ยถ้อยกล่อม .. ก
หยาดน้ำตาร่วงตก .. ห้วงอกตรอม- .. ต
ก็แวดล้อมกาลลาด้วยอาลัย .. ล

O ฝ่าลานทุ่งรุ้งทองลอยล่องถึง .. ท ถ
ธารดาวซึ่งทอส่องความผ่องใส .. ซ ส
รอบวงกัปหมุนกาล .. ตราบนานไกล- ..ก
จนบรรจบรูปใจ .. เช่นในจันทร์ .. จ


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2013&date=02&group=11&gblog=448


ส่วนสัมผัสสระ ในวรรค เริ่มปรากฏโดดเด่นในงานสุนทรภู่
ยุคต้นรัตนโกสินทร์นี่เอง .. สมัยพระยาตรังยังเล่นสัมผัสอักษร
เหมือนสมัยอยุธยาอยู่เลย..

ก็ต้องนับว่า สุนทรภู่เป็นอีกกวีหนึ่งที่สร้างลีลาของตนเอง หรือมีอัตลักษณ์
.
.
.




 

Create Date : 06 ธันวาคม 2563
0 comments
Last Update : 6 ธันวาคม 2563 13:03:21 น.
Counter : 2401 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.