O นิราศลำปาง... O
VIDEO O และแล้วโลกดั่งคล้าย - - - รอคอย ให้เรื่อรังสีทะยอย - - - เยี่ยมฟ้า เลื่อนมืดหม่นเงียบหงอย - - - เหงาผ่าน พ้นเนอ พร้อมคีตครวญแว่วช้า - - - ร่วมเชื้อเชิญสูรย์ ฯ O ตราบเมื่อชายฟ้าเลื่อน, - - - ลมบน- ก็เลื่อนสาย-วกวน - - - แวดล้อม หอมรื่นกลิ่นเสาวคน - - - ธรสจู่ จบนา จึงบัดนั้นพรั่งพร้อม - - - รื่น, ริ้วระลอกลม ฯ O จากเรือนมุ่งจบน้อม - - - วันทนา- องค์พุทธในมรรคา - - - เคี่ยวเค้น- ล่มเท็จล่มทุกขา - - - ครวญตัด สิ้นแฮ ล่มอัตตาแฝงเร้น - - - หมดสิ้นสูญสลาย ฯ O เพ่งพักตร์ผู้ผ่านพ้น - - - ภัยมาร คล้ายดั่งคอยล่มลาญ - - - โลกให้- ชนผู้ทุกข์ทรมาน - - - มอมจิต ถ้วน-อยากมีอยากได้ - - - ดับสิ้นดับสูญ ฯ O เห็นเนื้อทองอร่ามเรื้อง - - - องค์พระ แทนรูปผู้สัจจะ - - - ผ่านแจ้ง สรรพเสียงวิสาสะ - - - แทรกอยู่ นั้นนา คล้ายมิจฉาจิตแว้ง - - - วกข้องทุกขัง ฯพระธาตุลำปางหลวง - ลำปาง O เข้าสายสุริยะแปล้ - - - ปลาบสรวง พระธาตุลำปางหลวง - - - เหลื่อมสะท้อน พร้อมก้าวย่าง, คำบวง - - - บอกเจต นาเฮย เวียนรอบให้แดดร้อน - - - ดับร้อนสูญสลาย ฯ O ธูปเทียนส่งกลิ่นฟุ้ง - - - ฝ่าสมัย กร-กบ, คอค้อม, ใจ - - - จับ-สร้าง- หนึ่งคน, หนึ่งความ, ใน - - - หนึ่งโลก กี่โลกเกิดดับร้าง - - - หว่างถ้อยสื่อธรรม ฯ O โอภาสสุริยะเรื้อง - - - โรยทาง ผลักมืดมัวสลัวลาง - - - เลื่อนพ้น เมื่อแสงส่องผ่านกลาง - - - อากาศ ล้วนฝุ่น-ลอยตราบล้น - - - ออกพ้นลำแสง ฯ O ทั้งยอดปรางค์, ช่อฟ้า - - - ฝากรูป รอจิตใจ, เทียน, ธูป - - - เทียบตั้ง บุญกรรมแต่งไว้ลูบ - - - โลมอก ใดเล่าอาจฉุดรั้ง - - - ล่มทิ้งมิจฉาพิถี ฯ O ยอดพระธาตุเหยียดชี้ - - - ชูทาง ให้ฝ่าหล่มหลุมขวาง - - - ขวาก-พ้น ธรรมแท้เทียบไว้ถาง - - - ถากมิจ ฉาแล แล้ว-ฝุ่นลอยมากล้น - - - ยากล้นลำแสง ฯ O เรื่อยเรื่อยรถเลียบท้อง - - - ทางถนน สองฟากทางผู้คน - - - เคลื่อนคล้อย มุ่งกอปรกิจดิ้นรน - - - รองรับ ชีพนา ตาพิศเพ่ง, ใจละห้อย - - - ห่วงด้วยนางเดียว ฯ O พักตราไตรเตรียบสร้อย - - - เสาวคนธ์ หอมกว่าหอมมาลย์บน - - - แมกไม้ เผยรูปอิริยาปรน - - - เปรอจิต เปล่งปลั่งแววเนตรไว้ - - - แวดล้อมประนอมคะนึง ฯ O นึก-รูปเคยเอ่ยอ้อน - - - ออกแสดง ครวญคร่ำร่ำความแสลง - - - สลดเศร้า ยามบำราศรูปแพง - - - ทองพี่ นุชแม่ เบิกบทรำพันเฝ้า - - - ฝากรู้แรงถวิล ฯ O โอบองค์กับอกพร้อง - - - รำพัน เชยรูปพักตร์ถนอมขวัญ - - - นิ่ง, ช้า อยู่เดียวแค่เพียงวัน - - - วายรูป นะแม่ จักกลับย้อนคืนหน้า - - - โอบเนื้ออุ่นนวล ฯสี่แยกห้าเชียง - ลำปาง O ถึงทางแยกตั้งชื่อ - - - ห้าเชียง จากประวัติเคยเคียง - - - เกี่ยวข้อง- ร่วมเหง้า, บัดนี้เพียง - - - แยกแผ่น ดินนา ศัพท์สำเนียงยังฟ้อง - - - ว่าใกล้เคียงกัน ฯ O ฟ้าคราม, แดดจับห้วง - - - หนหาว ขับผ่านเส้นทางยาว - - - คดโค้ง รถใหญ่, รถเล็ก, ราว - - - น้ำหลาก สายแล บนเที่ยวทางลิบโหล้ง - - - ลิ่วพ้นผ่านหาย ฯ O ขึ้นสูง, ลงต่ำ, เลี้ยว - - - วกวน เห็นยอดไม้เยี่ยงปฎล - - - ประดับข้าง ปลายปีกนกคลี่บน - - - ลมโบก ว่อนเวย ก่อนหรุบปีกร่อนคว้าง - - - ลิ่วคว้างเลือนหาย ฯ O ลงจากเขาเข้าเขต - - - ลำพูน เมื่อแดดสายบริบูรณ์ - - - บท, พร้อม- แก่นหลักศรัทธาปูน - - - เสาปัก ใจเนอ องค์พระธาตุ-รอน้อม - - - จิตน้อมวันทนา ฯ O ยอดปรางค์เปล่งปลั่งใต้ - - - ดวงวัน ทองเหลื่อมแสงเฉิดฉัน, - - - ช่อฟ้า- ก็เหยียดรูปเคียงกัน - - - ใกล้อยู่ ยลยิ่งสูรย์ส่องหล้า - - - ส่องล้อมใจชน ฯพระธาตุหริภุญชัย - ลำพูน O อยู่รอหยัดรูปโน้ม - - - นำใจ พระธาตุหริภุญชัย - - - บ่งชี้- แก่นธรรมผ่านยุคสมัย - - - สืบต่อ นานนา ทางหนึ่งเดียว, ทางนี้ - - - ช่วยพ้นกิเลสเผา ฯ O ควรเห็น-ชนแน่น-น้อม - - - นมัสการ กุมธูปเทียนช่อมาลย์ - - - มั่น-พร้อม- ศรัทธาจิต, สังขาร - - - คอยดับ สิ้นเนอ เอาแก่นธรรมเข้าล้อม - - - ล่มเชื้อมิจฉา ฯ O กลับเห็น-ชนแน่น-น้อม - - - นฤมิต เอาศรัทธาเป็นสิทธิ์ - - - แต่ง-สร้าง บุญกรรม, ชาติภพ, คิด - - - ครวญอยู่ เปลือกกระพี้จับอ้าง - - - แอบอ้างเป็นธรรม ฯ O โวหาร, ภาพพจน์-คล้อย - - - คลาขบวน กลางธูปเทียนควันอวล - - - เอ่ยซ้อง- ขอทิพเทพ, ชักชวน - - - ท่านช่วย มืดมิดใต้แดด, พร้อง - - - พร่ำสร้างสิ่งประสงค์ ฯ O ที่เดิมเดียว, นึกย้อน - - - ยามสมัย- โคลงนิราศหริภุญชัย - - - แต่งครั้ง- ต้นกรุงอยุธยา, ใน - - - ยามจาก นางเฮย กราบพระธาตุ, สม-ตั้ง - - - จิตไว้คอยหวัง ฯ ... ศุภสารเรียงร่ำถ้อย - - คราวคราน หริภุญชัยเชษฐ์สถาน - - ธาตุตั้ง สาระพัดเขตขาพาล - - พังด่ำ บนเทอญ ยามม่อนมั่วรสยั้ง - - จุ่งตั้งสดับสาร ฯ ... สงสารทุกข์แต่งตั้ง - - อื่นฉงน นิราศสัตวชน - - กล่าวได้ จักริร่ำยุบล - - บำราศ นุชนี เป็นคะโลงหื้อให้ - - โลกแจ้งใจคะนึง ฯ ... ดวงเดียวดูยิ่งฟ้า - - อัปศร เป็นปิ่นกามาวจร - - เจื่องเจ้า บุญบาปแต่ปางก่อน - - ทักทำ นายนี แสนชาติยังยั้งเฝ้า - - จึ่งล้วนลุคะนึง ฯ ... ดวงเดียวอาสาศเสี้ยง - - ภัทรกัป ทั้งสี่สรรเพ็ชญ์ลับ - - ล่วงแล้ว อาไรยมีทันผับ - - วรศาส นาแฮ เจียนจุ่งละน้องแก้ว - - ก่อนแล้วดุสิดา ฯ O โคลงโบราณพร่ำถ้อย - - - ถวิลถึง- รูปอ่อนน้อยผู้ตรึง - - - ติดให้- ห้วงจิตนึกคำนึง - - - น้อมสู่ กรองพากย์เขียนฝากไว้ - - - หว่างละห้อยคอยหวน ฯ O นึก-พากย์เอ่ยอ้างดับ - - - อาดูร เมื่อเดชบำราศพูน - - - เพียบพร้อม ตระกองโอบรูปผอูน - - - เอนแอบ อกอุ่น, สองแขน-อ้อม - - - กอดรั้งปลอบประโลม ฯ O ใครหนอกระซิบซ้ำ - - - สั่งความ ว่าจักขอติดตาม - - - กราบไหว้- องค์พระธาตุทั่วคาม - - - แคว้นเขต ก่อนจบจุมพิตให้ - - - ห่วงเนื้อคะนึงนวล ฯ O พิมพ์ดวง, ผินพักตร์เชื้อ - - - เชิญใจ พร้อมเนตรรูปเรียวไหว - - - วุ่นว้า รับเถิดสั่นระทึก, ใน - - - ห้วงอก เมื่อปากจบนิ่งช้า - - - ร่วมเชื้อเชิญโฉม ฯ O สั่งสารเสาวณิตสร้อย - - - สายสมร โอบนิ่มเนื้อกุมกร - - - กล่าวย้ำ บำบวงภิวาทวอน - - - หว่างโสต ว่า-รักพี่ลึกล้ำ - - - ตราบสิ้นลมสลาย ฯ O กราบน้อมพระธาตุด้วย - - - ดวงใจ รำลึกย้อนกลับไป - - - เมื่อครั้ง- กำหนดที่ทางใน - - - สมัยหนึ่ง หล่อพระธาตุขึ้นตั้ง - - - คู่บ้านคู่เมือง ฯ ...ราชธิดาแห่งกรุงละโว้... O รูปพักตร์งามเด่นล้ำ - - - เลอสมร เนตรแล่นแววเว้าวอน - - - เลศไว้ รูปขนงดุจคันศร - - - ยามเหนี่ยว สายเนอ นาสิกโด่ง, โอษฐ์ไซร้ - - - สบแล้วยากเลือน ฯ O ทนต์เรียบขาวสะอาดแม้น - - - ไข่มุก ยามยาตรราวจะปลุก - - - ปลอบไห้ ดั่งหงส์ย่างกรายรุก - - - รอบถิ่น กายกรุ่นกลิ่นบัวไซร้ - - - สยบสิ้นถ้วนหอม ฯ O ตำนานมุขปาฐะอ้าง - - - อิงการณ์ ว่า-ที่สมภพคราญ - - - คาบนั้น หนองดู่, ป่าซางสถาน - - - คามถิ่น อยู่เขตลำพูน, ครั้น - - - อุบัติแล้วสามเดือน O นกยักษ์โฉบสู่ฟ้า - - - ไป่บี ฑาเฮย ผ่าน-สบจิตฤๅษี - - - สื่อให้- นกปล่อยร่าง, พัดวี - - - วาดรับ รูปเนอ แล้วชุบเลี้ยงเอาไว้ - - - ศาสตร์สิ้นระบิล-สอน ฯ O ครั้นเมื่ออายุได้ - - - สิบสาม ปีแล สำเร็จศาสตร์ครบตาม - - - ที่ได้- ฤๅษีผู้ชุบเลี้ยง-ทราม - - - วัย, สั่ง สอนแฮ หลังตรวจสอบชะตาให้ - - - จึ่งรู้วาสนา ฯ O ว่า-บุตรผู้ชุบเลี้ยง - - - เลิศบา รมีเฮย ดวงจักเป็นกษัตริยา - - - เยิ่ยงผู้- เพ็ญบุญที่จะสถา- - - ปนาคู่ เมืองแล จำส่งกรุงละโว้, รู้ - - - ระเบียบบ้านระเบียบเมือง ฯ O แพถูกเนรมิตขึ้น - - - ลอยสา ครเฮย ส่งบุตรผู้ปัญญา - - - ยิ่งแก้ว หมู่ลิงแห่งพญากา - - - กะปก ป้องแล ตราบลุเขตละโว้, แล้ว - - - ธิราชเจ้าจึ่งเห็น ฯ O ราชาเมืองละโว้สั่ง - - - แกล้วชัก- แพที่ลอยพร้อม-พักตร์ - - - ผ่องแผ้ว แต่ไป่อาจรู้หัก - - - ให้ขยับ เขยื้อนนา แจ้งแก่พระทัยแล้ว - - - อาจแล้วด้วยพระองค์ ฯ O เมื่อหัตถาธิราชเจ้า - - - จับดึง แพกลับลอยจนถึง - - - ท่าน้ำ ฝูงชนเพ่งติดตรึง - - - ต่อเหตุ การณ์เนอ แซ่-พระบารมีมากล้ำ - - - กว่าล้ำเลิศไหน ฯ O จากโฉมงามล้ำเลื่อง - - - ลือไป เป็นที่ปองอาลัย - - - ยิ่งแล้ว จึงหนุ่มจากเมืองไกล - - - หวังเกี่ยว ข้องแฮ ตราบผิดหวัง, ทัพแกล้ว - - - ยกล้อมชิงนาง ฯ O ออกศึกคุมทัพเข้า - - - ต่อตี- ชายชาติจากโกสัมพี - - - อริผู้- กำแหง, หั่นไมตรี - - - ตราบขาด ดาบประดาบ, เชิงสู้ - - - ยากสู้ดาบสาว ฯ O ชายชาติประดาบแพ้ - - - นงพาล ย่อมรับความทรมาน - - - หม่นเศร้า ขัตติยะมานะการณ์ - - - จึงก่อ มรณังนา ดาบเชือดศอ, เลือดเคล้า - - - คลุกเปื้อนชีพปลง ฯ O หลังกำราบเศิกเสี้ยน - - - สิ้นความ จึงอภิเษกด้วย-ราม - - - ราชเจ้า เริ่มการณ์พระนางจาม - - - เทวีนั่ง เมืองนา เคียงคู่องค์เหนือเกล้า - - - ที่ละโว้เวียงวัง ฯ O ตราบสยุมพรเสร็จสิ้น - - - จึ่งลี- ลาศสู่เมืองสวามี - - - เพื่อให้- ปรับปรุงรับไพรี - - - ข้าศึก เป็นปึกแผ่นเอาไว้ - - - ตราบพร้อมเหมาะสม ฯ ...เสด็จไปหริภุญไชย... O หลังฤๅษีเสกบ้าน - - - สร้างเมือง ถ้วนจำเป็นบรรเทือง - - - ครบถ้วน ความร่มรื่นรุ่งเรือง - - - อาจร่วม อยู่เนอ หากประมุขแต่ล้วน - - - คิดให้ชนเกษม ฯ O แจ่มแจ้งด้วยจิตรู้, - - - ฤๅษี- เพียงพระนางจามเทวี - - - ระบุไว้- เชิญขึ้นปกครองบุรี - - - ท่านก่อ สร้างนา ขอราชแห่งละโว้, ให้ - - - เอ่ยถ้อยสนับสนุน ฯ O จึงเสด็จคืนกลับบ้าน - - - เมืองนอน เข้าปกครองประชากร - - - แต่นั้น กรุณาเมตตาสอน - - - เสมอแก่ ภูมิแล ป้อง-เบียดเบียน, บีบคั้น - - - ชีพล้วนสุขเขษม ฯ O สืบทอดสายเลือดไว้ - - - ครองลำ พูนแฮ สืบศรัทธาพุทธธรรม - - - สถิตไว้ สืบจารีตร่วมบำ - - - รุงจิต ชนเนอ สืบช่วงภพชาติให้ - - - คู่ล้านนาเหนือ ฯ O จวบสามศตวรรษพ้น - - - ผ่านยาม อาทิตยราชโดยนาม - - - ธิราชไท้- จัดสร้างพระเจดีย์ตาม - - - แต่นิมิต สบนา บรรจุพระเกศธาตุไว้ - - - อยู่ค้ำศรัทธาชน ฯ O ปาฏิหารย์พระธาตุได้ - - - ออกแสดง- ในนิมิต, เผยรูปแผลง - - - เลื่อนพ้น- ดินสามศอก, ดุจแฝง - - - ฝากสื่อ ราชเนอ จึง-โกศทองงามล้น - - - จัดให้ครอบ-องค์ ฯ O กำหนดในพื้นที่ - - - วังประทับ ที่นิมิตกำชับ - - - บอก-ไท้ เจดีย์ครอบ, ลำดับ - - - จากโกศ ทองนา เผยรูป-รับศรัทธาไว้ - - - ชั่วฟ้าดินสลาย ฯ O กราบไหว้พระธาตุน้อม - - - นำใจ รำลึกรูปอาลัย - - - อ่อนเนื้อ- ที่เหงาเงียบอยู่ใน - - - ห้องหับ หวัง-คาบยามผ่านเอื้อ - - - จักเอื้อนัยธรรม ฯ O อีกเช้า, ลมร่ำล้อ - - - ล้อมลน, เมื่อแดดส่องฟ้าจน - - - แจ่มแจ้ง พลิ้วแผ่วลูบมาลย์บน - - - ก้านกิ่ง พฤกษ์นา เมื่ออกใจวกแว้ง - - - สู่เวิ้งนิวรณ์ถวิล ฯ O เช้านั้น-มาลย์, กับ, ข้าว - - - ถือรอ เอื้อมใส่บาตรผู้ขอ - - - อ่อนน้อม สำรวมจิตโน้มคอ - - - ก้มต่ำ รูปหนึ่ง, โสตหนึ่งพร้อม - - - กล่าวถ้อย, สดับธรรม ฯ O เสร็จสิ้นโปรดสัตว์ผู้ - - - ยังเพลิน โลกแฮ สาธุการจำเริญ - - - ร่ำอ้าง ทางพระ, พระดำเนิน - - - ตรงแน่ว ทางโลก, โลกจักล้าง - - - ทุกข์ร้อนฤๅสลาย ฯ O จีวรปลิวปัดล้อ - - - ริ้วลม พร้อมปัดปลิวเส้นผม - - - หนึ่งผู้ ขันข้าว, อีกเนตรคม - - - คอยอยู่ คอยพระ, คอยตา-รู้ - - - รูปเนื้อรอยนวล ฯ O ของถวายจีบจับเอื้อม - - - เอาวาง นาสิกเสี้ยวนวลปราง - - - โผล่-เร้น พระจำพรากสู่ทาง - - - ควรที่ พระนา ตาหนึ่งจักพราก, เว้น - - - ว่าง, พ้นรูปไฉน ฯ O งามภาคงามพักตร์พ้น - - - พรรณนา งามท่วงทีอิริยา - - - อ่อนช้อย รูปเอยแทรกลงตา - - - สุดต่อ ต้านเนอ สุดต่อต้านเนตรชม้อย - - - ลอบชม้ายชายเมิน ฯ O รอคอยวันพระหน้า - - - คงนาน คิดมาดหมายร่นกาล - - - กุดสั้น ให้ธรรมวกล่มลาญ - - - ร้อนรุ่ม อกเนอ ที่-เนตรคมคู่นั้น - - - วาบน้ำผกายหนุน ฯ O อกเอยอุโฆษครื้น - - - เกินควร เหมือนรื่นรมย์เริงขบวน - - - บุกเร้า ที่ถูกย่อมต้องทวน - - - ธรรมบท กลับถูกรูปยั่วเย้า - - - เยี่ยมหน้านวลเสนอ ฯ O แรมหนึ่ง, รูปหนึ่งโน้ม - - - จินตนา ดั่งโลกโน้มจันทรา - - - เคลื่อนห้อม จันทร์ฤๅผลักวงพา - - - ผ่านหลุด พ้นเนอ ใจจักหลุดวงล้อม - - - รูปนั้นทำไฉน ฯ O ข้าว, ใจ, ช่อดอกไม้ - - - ล้วนหอม รอบาตร, รอใครยอม - - - เยี่ยมหน้า ข้าว, มาลย์มอบผู้ออม - - - อัตภาพ มอบอีกใจวุ่นว้า - - - หว่างเงื้อมมือสมร ฯ O คำข้าวเจ้าคดน้อม - - - นำวาง ทำอีกใจริมทาง - - - ทุกข์ร้อน เกรงบุญช่วยบังพราง - - - ผูกจิต ใครนา หวั่นเนตรปลาบไม่ช้อน - - - ฉ่ำซึ้งขึ้นผสาน ฯ O จีวรพระพลิกพลิ้ว - - - พะนอลม เมื่ออกหนึ่งพะนอคม - - - เนตรค้อน ธรรมสัจจ์และรูปสม - - - รอสืบ เสาะนา สืบบท, เสาะหวานย้อน - - - อยู่เลี้ยงอาลัย ฯ O กำสรดสร้อยฟ้าคลี่ - - - คลุมขวัญ หวังแต่รูปถวิลบรร - - - ลุ-รู้ คร่ำครวญฝากดวงวัน - - - วามส่อง แลแม่ จักกลับคืนถนอมชู้ - - - ไป่ช้าเลยโฉม ฯ O พร้อมพรัด-นรนารถน้อย - - - นางเมือง กรอมโศกกำสรดเนือง - - - เนิ่นช้า ร้างรูปรสบรรเทือง - - - ถนอมแอบ อิงนอ อ้อมอกอุ่น-แต่ว้า - - - เหว่ไว้รองถวิล ฯ O เข้าบ่าย, แดดบ่ายย้อม - - - โพยมบน เมื่อโลกต่ำ-ทางถนน - - - แน่นด้วย- รถราวิ่งสับสน - - - สู่ที่ หมายเนอ ธรรมพระฤๅอาจฉ้วย - - - กระชากร้อนสิ้นแรง ฯ O เรื่อยเรื่อยรถเลียบเส้น - - - ทางจร เมื่อรูปผู้อาวรณ์ - - - วาบให้- เอ็นดูแต่เมื่อตอน - - - โอบตอบ เรียวปาก, แก้ม-จบไว้ - - - หว่างอ้อมอกแขน ฯ O พิมพ์ดวงเจ้าอ่อนด้อย - - - เดียงสา ตื่น-รับรู้รมยา - - - ยั่วเย้า แก้มเรื่อหากดวงตา - - - พริ้มหลบ ไหวหวั่นที่รุมเร้า - - - อาจเร้นเลือนหรือ ฯ พระธาตุดอยสุเทพ - เชียงใหม่ O ถึงเชียงใหม่รถอ้อม - - - เลี่ยงเมือง ถิ่นที่วัฒนารุ่งเรือง - - - รอบล้อม หลีกหงุดหงิดขุ่นเคือง - - - จากรถ ติดแล เพื่อมุ่งไปกราบ, น้อม - - - มนัสซึ้งนัยธรรม ฯ O พระธาตุดอยสุเทพตั้ง - - - ตระหง่านองค์ รอจิตผู้ลุ่มหลง - - - โลก-ไหว้ เยี่ยงแสงส่องรอ-บง - - - กชโผล่ ต้องนา จักเบ่งบานโลมไล้ - - - แดดนั้นไฉนหนอ ฯ O หยั่งรอยหยัดรูปชี้ - - - ชวนใจ ทองเหลื่อมเรื่อ, แดดใส - - - ส่องต้อง ลมแผ่วผ่าน, แผ่นใบ - - - โพธิ์แกว่ง คือรูป, คือความ-ฟ้อง - - - ฝากรู้ลุอารมณ์ ฯ ร่าย O ศรีสวัสดิเดชะ - - - ยอธรรมะบรรยาย ยกความหมายขึ้นตรอง - - - ในครรลองเหตุผล หวังทุพพลสบภาษ - - - พ้นจากทาสมิจฉา ดั่งชนกาลามะ - - - หมายสัททะเป็นฐาน สืบสันดานกล่าวอ้าง - - - เพื่อสืบสร้างทางชอบ พระจึงตอบจึงตั้ง - - - สิบทางรั้งลุ่มหลง เพื่อธำรงพรหมจรรย์ - - - กล่อมเกลาขวัญดวงมาน ชั่วกัปกาลโลกนี้ - - - คอยช่วงชี้โลกหน้า ล่มบอดบ้าหลงผิด - - - เพื่อสอบจิตสอบใจ บ่งความนัยแห่งพุทธ - - - หวังฉวยฉุดงมงาย ทุบทำลายโฉดเชื้อ - - - ดลเนตรนั้นก่อเกื้อ ตรึกรู้แก่นธรรม - - - ท่านนา O ครวญคิดตอนก้มกราบ - - - องค์พระ เป็นห่วงธรรมสัจจะ - - - จักสิ้น จากนัยแห่งพุทธะ - - - ที่บิด เบือนนา สืบทอดมาแหว่งหวิ้น - - - ยากรู้แท้เทียม ฯ O บูชิตบูชนียะผู้ - - - พ้นผลาญ ยกอรรถบุพาจารย์ - - - จับปลิ้น ให้เห็นเลศแทรกลาญ - - - หลักพุทธ จนผิดความหมายสิ้น - - - สู่รู้รจนา ฯ O พระเปรียบธรรมดั่งไม้ - - - มวลพนา เพียงหยิบมือนำมา - - - มอบให้ แต่ส่วนโทษทุกขา - - - ควรกร่อน จำแนกเหตุผลไว้ - - - ครบถ้วนกระบวนความ ฯ O อรรถะ, สัททะ, ทั้ง - - - ศรัทธา สิ้นเนอ แทรกส่วนของอัตตา - - - แต่งแต้ม ตามภูมิแห่งปัญญา - - - ตั้งอยู่ ถ้อยยกบรรยายแย้ม - - - จึ่งเพี้ยนแผกผัน ฯ O สืบเสียงพระพุทธผู้ - - - เหนือพรหม ช่วยปราชญ์รับปรารมภ์ - - - ร่วมชี้ ให้เห็นแง่เงื่อนปม - - - จุดเปลี่ยน แทรกอยู่ในธรรมนี้ - - - แน่นแฟ้นเหลือฝืน ฯ O ธรรมใดอุบัติตั้ง - - - แต่เหตุ พระตรัสธรรมแจงเลศ - - - เริ่มต้น ตรัสความดับฤทธิเดช - - - โดยขจ่าง ตรัสมรรคาฝ่าพ้น - - - พิษร้อนผ่อนสลาย ฯ O กรรมพราหมณ์บังพุทธแย้ม - - - บรรยาย วงวัฏฏ์มิอาจสลาย - - - สลัดพ้น วนรอบ-เกิด, แก่, ตาย - - - ว่าหนึ่ง เดียวเวย ชีพหยุด, วิญญาณด้น - - - แหวกฟ้าหาภูมิ ฯ O กรรมเก่าคงยากย้อน - - - ยล-ยิน พ่อเอย ยากผ่านสภาพ-อจิน - - - ตยะได้ เชื่อหรือภาษวศิน - - - อวดวิเศษ ล้วนมิจฉาแทรกไว้ - - - หว่างถ้อยเดียรถีย์ ฯหมายเหตุ.. อจินไตย [จินไต] ว. ที่พ้นความคิด, ไม่ควรคิด, สิ่งที่เป็นอจินไตยมีอยู่ ๔ อย่างด้วยกัน คือ ๑. พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๒. ฌานวิสัยของผู้ได้ฌาน ๓. วิบากแห่งกรรม ๔. ความคิดเรื่อง โลก (ป.=ประโยค=บาลี, อจินฺเตยฺย; ส.=สันสกฤต, อจินฺตฺย) O หมกมุ่นสิ่งยากรู้ - - - รุงรัง ใจเอย แปรเปลี่ยนเป็นอนิจจัง - - - บอกแจ้ง เกิด, โต, แก่, ตาย-ฝัง - - - ร่างฝาก ดินนา รูปดับ, จิตเลือนแล้ง - - - ละร้างสัญญาสลาย ฯ O เสียงเพรียกเสียงพร่ำพร้อง - - - พะนอบุญ เสียงย่อมอ่อนหวานละมุน - - - ละเมียดแจ้ว เหนี่ยวสรวงแนบพิรุณ - - - ร่วมหยาด ทิพกระพริบพร่างแพร้ว - - - ผ่านให้ใจเห็น ฯ O ตู้บุญ, ตู้บาปตั้ง - - - ตำตา รอ-หมู่ผู้ละลา - - - กิเลศใช้ หลุมขวากหล่มศรัทธา - - - ทวยเหล่า สร้างวัตถุขวางไว้ - - - หว่างถ้อยรอยธรรม ฯ O อิ่มอกใจคลับคล้าย - - - ลอยโพยม บาปล่ม, บุญหล่อ-โสม - - - ะนัสแผ้ว หวังตัดอัตตาโซรม - - - ลดเสพ ตรองเนอ หรือ-มุ่งภพพร่างแพร้ว - - - ภาคหน้าดังไฉน ฯ O เมื่อเอาอนัตตลักษณ์ตั้ง - - - เทียบตน แต่-เกิดวิวัฒน์, วน - - - ว่าง, สร้าง รูปจิตเปลี่ยนแปรจน - - - ผิดแผก ใครเล่าอาจเอ่ยอ้าง - - - ชีพนั้นเดิมเดียว ฯ O อารามอร่ามเรื้อง - - - องค์พระ กรรมพิธีวาทะ - - - ท่วมท้น สนทนาวิสาสะ - - - เสนาะอยู่ พ่อเอย ตาบอด-คลำช้าง, ด้น - - - ดุ่มหน้าสาธยาย ฯ O สมณะศักดิ์เสนาะล้ำ - - - เลิศนาม ท่านเอย สมเด็จ, พรหม, เทพ-ตาม - - - แต่ตั้ง เหนี่ยวโลกกอดแน่นหวาม - - - หวิวอก ใครเล่าอาจหยุดยั้ง - - - ศักดิ์ย้อมพรหมจรรย์ ฯ O พระจอมคนละแล้ว - - - บัลลังก์ เกียรติศักดิ์พระฝากฝัง - - - สู่พื้น ก่อนจำพรากจากวัง - - - วงศ์ราช เพียงจะพลิกหทัยฟื้น - - - ฝ่าห้วงสงสาร ฯ O ลูกชาวบ้านยากแค้น - - - ขัดสน บวชพระปฏิบัติตน - - - แต่ง, สร้าง อามิสอาบห้วงกมล - - - กระมิด- กระเมี้ยนเนอ เรือนอยู่ไม่ว่างร้าง - - - วิจิตรล้ำปรนเปรอ ฯ O น้อมมโนชุลิตผู้ - - - จอมภพ ภาษพระ-ผ่าน, มารสบ - - - สยบสิ้น ต้น, กลาง, จวบปลายครบ - - - ความบอก หลั่งล่มใจเดือดดิ้น - - - กร่อนร้อนทารุณ ฯ โคลง ๒ O สืบสัจจ์หนุนโลกนี้ - - - สาปส่งมดเท็จชี้ ก่อนกี้สำแดง O วิชชาแหว่งสิ้นแล้ว - - - แต่มิจฉาเจื้อยแจ้ว เผือดแผ้วทางเพียร O มรรคาเธียรมุ่งพ้น - - - ตาบอดคลำช้างด้น ท่วมท้นศรัทธา O บ่งโลกหน้าโลกนู้น - - - ไกลห่างด้านก่อนพู้น ผ่องหน้าสาธยาย โคลง ๓ O โลกในกายวกเวียน - - - แลพากเพียรบีบคั้น จักกร่อนเกรียนกีดกั้น - - - หั่น, ห้ำ-ฤๅหาย ? O เสพรูปหมายงดงาม - - - ด้วยตาตามจับจ้อง เสพส่ำเสียงโสตพ้อง - - - เพราะ, พร้อง-ฤๅเลือน O หอมเอยเตือนนาสิก - - - ฤๅจักพลิกหักห้อม สัมผัสนุ่มเนื้อพร้อม - - - อุ่นอ้อมอกเอย O หวานชิดเชยสุขสม - - - ทุกปรารมภ์ไขว่คว้า หมายเสพใจห่อนล้า - - - วุ่นว้าวนเวียน O เรื่องราวเพียรคิดย้อน - - - รำลึกตอนโกรธ, ยิ้ม ใจตื่น, ตาหลับพริ้ม - - - เสพลิ้มอาการ O เพียงเพื่อตัดทุกข์สิ้น - - - สูญสลาย ใช่เพื่ออัตตาขยาย - - - ขยับตั้ง ศักดิ์สิทธิ์ที่มากมาย - - - มอมโลก ล่อหลอกเขลาเหนี่ยวรั้ง - - - จิตให้หฤหรรษ์ ฯ O บัวบานดอก-ล่อล้อ - - - ภุมริน หอมอบหวานเวียนถวิล - - - ว่อนล้อม ใจเอยแต่เมื่อจิน - - - ตนาส่าย ซัดเนอ ฤๅต่างภู่ผึ้งน้อม - - - นอบสร้อยเกสร ฯ O โอ..ภาพ, โอภาสพ้น - - - พันแสง พจน์พร่ำพระธรรมแสดง - - - รอบรู้ ลิ่มลมระดมแถลง - - - ไหลหลั่ง ผุดพลุ่งเข้ากอบกู้ - - - เหล่าผู้กิเลศเผา ฯ O สอนสั่ง-ให้มอดม้วย - - - อาตมา มุ่งบั่นวิจิกิจฉา - - - อื่นผู้ ดำรงมั่นคงสภา - - - วะปราชญ์ ทุกคำตอบรอบรู้ - - - เร่าร้อนสื่อสาร ฯ O ไวพจน์ธรรมท่วมทั้ง - - - ธานี ยึดจับพุทธวิถี - - - ท่องก้อง สอดแทรกพระบาลี - - - ประโลมอก โอ-เผ่านกผกร้อง - - - แซ่ซ้องยุคสมัย ฯ O ธรรมภาษล้วนเพริดแพร้ว - - - พิสดาร ถ้อยถกก็โอฬาร - - - ลึกล้ำ ปุชฉาวิสัชนาการ - - - ซึ้งกล่าว โอ-เยือกเย็นเปรียบน้ำ - - - ย่อมน้ำลายกระเซ็น ฯ O ว่า-กาลามสูตรตั้ง - - - เป็นทิศ ไย-บุพกรรมนิรมิต - - - หมดสิ้น เห็น-บุญ, บาป-วิปริต - - - รับส่ง ได้ฤๅ ตาทิพย์หรือปากปลิ้น - - - เป่าฟุ้งจรุงขวัญ ฯ O ไกลพู้นแต่ก่อนสร้าง - - - สังขาร ใครเล่ามีจักขุทวาร - - - วกย้อน อภิญญาหก-บรรสาร - - - เสียง, ภาพ กระนั้นฤๅ ฤๅ-วิชช์สาม, เหลื่อมซ้อน - - - ภพพู้นจึงเผย ฯ O พระผู้มีพระภาคเจ้า - - - จอมคน พระสั่งสอนทุพพล - - - หยุดสร้าง เหตุแห่งอัตตาตน - - - ตามตัด กรรทบผลป่นมล้าง - - - ลบสิ้นเลือนสูญ ฯ O สับสนจากสู่รู้ - - - รจนา ไตรเพทพราหมณ์นำมา - - - แทรกให้- พระร่วงพร่ำถ้อยกถา - - - เทียมต่อ นานเนอ ครอบจิตเขลา, ปิดไว้ - - - ระหว่างเวิ้ง-นรก, สวรรค์ ฯ O สองกึ่งสหัสวรรษพ้น - - - พุทธกาล แทรกส่วนอรรถาจารย์ - - - จาบจ้วง ตู่ด้วยพละการณ์ - - - เองกล่าว เมื่อขาดการทักท้วง - - - ที่รู้-คือหลง ฯ O หากกรรมเก่าก่อเกื้อ - - - บงการ เหตุอยู่ภพก่อนวาน - - - วก-แก้ สู่เหตุ, ล่วงภพ-อฐาน - - - จักเกิด ได้นา ฤๅ-ชาติภพที่แท้ - - - แค่ห้วงอึดใจ ฯ O ไม่มีตาทิพย์ให้ - - - เห็นกาล ก่อนเวย ฟัง-อ่านคำจดจาร - - - จับอ้าง กาลามสูตรหรือลาญ - - - เลือนลับ แล้วพ่อ จึงเชื่อ-ไม่คัดง้าง - - - แง่เนื้อความหมาย ฯ O ต้นทุนอริยะคล้าย - - - คมคิด ครวญใคร่"ความ"ตามติด - - - เหตุตั้ง มองผลลัพท์เป็นทิศ - - - ตรวจสอบ สุข, ทุกข์-ทุกคราวครั้ง - - - หยุดได้ไฉนหนอ ฯ O ไกลห่างด้านก่อนพู้น - - - ฤๅพาน ไกลห่างด้านหน้า-อฐาน - - - ยากรู้ มีแต่ปัจจุบันทวาร - - - เวียนเสพ กามแฮ กับหนึ่งวิญญาณผู้ - - - พ่าย, พ้น-โลกวิสัย ฯ O วันทาวรโพธิไหว้ - - - เติมหวัง พี่แม่ กราบพระ, จิตเพ่งประนัง - - - นิ่งช้า เหมือนธรรมแว่วให้ฟัง - - - ฝากคิด กล่อมจิตใจวุ่นว้า - - - ระหว่างเคลิ้มคลอถวิล ฯ O เรื้องแสงสุริเยศเมื้อ - - - เมฆบน เหลื่อมละลานอำพน - - - แผ่นฟ้า แว่วสังคีตประณีตดล - - - โสตสดับ แทรกศัพท์เสียงเหว่ว้า - - - หว่างละห้อยคอยเห็น ฯ O อาวรณ์ถวิลผ่านฟ้า - - - เฟือนวัน หมายส่งข้ามฝั่งฝัน - - - ฝากชู้ แทรกความกล่อมทรวงขวัญ - - - เฝ้าใฝ่ คอยนา จนรัก-นั้นรับรู้ - - - ว่าล้นความเฉลย ฯ O อาสูรรูปสวาดิสร้อย - - - สายสมร ด้วยกิจจึ่งพราก-จร - - - จากหน้า บัดนี้รอบอาวรณ์ - - - เวียนอยู่ หวังอ่อนน้อยคอยถ้า - - - เทียบเนื้อให้ถนอม ฯ O ยอดพระธาตุเหยียดชี้ - - - ชูธรรม ให้หมู่ชนได้สัม - - - ผัส-พร้อม- ครวญความไตร่ตรองทำ - - - นุจิต ตนนา กรรทบชอบ, ชัง-ล้อม - - - รอบแล้ว-รู้สลาย ฯ O ยอดพระธาตุเหยียด-คล้าย - - - คอยคน หยัดรูปหยั่งนาม, สน- - - ธิ-ให้- ปวง-ชาติภพบัว-บน - - - น้ำ-สื่อ รู้เนอ แทนรูปองค์, ดุจไต้ - - - จุดสะท้อนส่องทาง ฯ O นึก-แผ่นน้ำเรียบกว้าง - - - ลิบไกล ลมแผ่วผ่านโลม, ไหว - - - กระเพื่อมพื้น บรรจบเหตุ-เผลอใจ - - - จับยึด อยู่นา ย่อมกระเพื่อมครึกครื้น - - - ต่างน้ำไฉนหนอ ฯ O แววตานั่น-คล้ายกระเพื่อม - - - พร้อมคะนึง แฝงฝากความถวิลถึง - - - ออกสะท้อน ยอรูปหยั่งความ-ตรึง - - - ตราอก เตรียบท่าทีเหลือบ, อ้อน - - - ออด-ให้ห่วงหวง ฯ O กลางวัตถุเตรียบไว้ - - - ประโลมหวัง แรงกระเพื่อมคล้ายประนัง - - - หนักแล้ว อาวรณ์อ่อนน้อย-ยัง - - - ยากข่ม รูปพักตร์รูปพิมพ์แก้ว - - - กักล้อม-ผ่านฤๅ ฯ O น้อมมนัสชุลิตผู้ - - - พ้นมาร ไว้ต่อกร-สังขาร - - - ขัดค้ำ- พิษสงแห่งรูปคราญ, - - - ตราบข่ม ได้เนอ สบเลศ-ในเนตร, ล้ำ - - - ล่วง-พ้นแผดเผา ฯ O ทางโค้งทอดคดเคี้ยว - - - บนเขา เคลื่อนรถ, คล้ายรูปเยาว์ - - - ยั่ว-ยิ้ม ทิวไม้ทอดร่มเงา - - - งำเที่ยว ทางเนอ ตาเพ่ง, อีกตา-พริ้ม - - - หลับ-พะเน้าพะนอคะนึง ฯ ถนนคนเดิน ประตูท่าแพ - เชียงใหม่ O จันทร์ทอ, อาทิตย์อ้อม - - - อัสดง ม่านหม่นคลี่ตัวลง - - - ครอบหล้า เงียบเหงาแต่ห่าง-นง - - - พาล-นิ่ม เนื้อแม่ เตรียบอกใจเหว่ว้า - - - ระหว่างข้าวของ-ขาย ฯ O ท่าแพ-คนแน่นคล้อย - - - คลาขบวน เดินทอดน่อง, ชี้ชวน - - - แวะซื้อ ความอบอุ่น-อบอวล - - - อยู่รอบ เสียงต่อรอง, ยุดยื้อ, - - - แว่วย้อมรัตติยาม ฯ O คะนึงมวลแชล่มน้อย - - - นงคราญ คล้อยขับศัพท์เสียงสนาน - - - เสนาะแท้ แต่รูปหนึ่งรำบาญ - - - เบียดแนบ อกเอย พันหมื่นคราญ-ฤๅแก้ - - - กลบซึ้งเลือนสูญ ฯ O จันทร์พ้นอุรภาคเพี้ยง - - - ภินทนา หมายรูปในคะนึงหา - - - ห่วงละห้อย ยามแพรแถบพัสตรา - - - คลี่ห่ม เนื้อเนอ ใจจักคิดเคลิ้มคล้อย - - - ว่าอ้อมกอดตระกอง ฯ O บง-โอฆ, อากาศ-ล้วน - - - ลมบน เผยรอบเข้าล้อมลน - - - โลกหล้า คะนึงนึกรูปนฤมล - - - เมื่อสบ เผยรูปล้อม-ซึ่งหน้า - - - สุดหน้าจะหลีกหนี ฯ O วงจันทร์จำรัสห้อง - - - หนหาว เนื้อนิ่ม-เนตรดุจดาว - - - ประดับฟ้า ห่วงเมื่อนิทรา-คราว - - - อยู่เดี่ยว นะแม่ จักละห้อยคอยถ้า - - - อกสะท้อนสะท้านไฉน ฯ O ครั้งรูปนาริศน้อม - - - แนบทรวง โอบตระกอง, อิ่มดวง - - - ฤดิล้น ปรางนั่น-กรุ่นหอมพวง - - - ผกาเปรียบ ได้ฤๅ จบจูบแล้ว, อาจพ้น - - - ผ่าน-ได้ฉันใด ฯ O ครั้งร่างยุพเรศน้อม - - - แนบอิง อ้อมอกยกให้พิง - - - ผ่อนล้า เกษินีกรุ่นหอมหญิง - - - ราวยั่ว ให้จบจูบนิ่งช้า - - - เนิ่นช้าถนอมโฉม ฯ O ครั้งนิลเนตรช้อนสบ - - - ซึ้งผสาน บ่งบอกเดียงสาคราญ - - - ใคร่รู้ ว่าระทึกดวงมาน - - - ในแม่ นั้นเนอ ด้วยตระกองกอดชู้ - - - เช่นนั้น-ฤๅไฉน ฯ O รูปเอย-รูปแน่งน้อย - - - ในคะนึง เผยรูปเหนี่ยวจิตตรึง - - - ตอกไว้ ผองพากย์พี่รำพึง - - - ฝากผ่าน ลมเอย ลมช่วยผ่านโลมไล้ - - - ลูบเนื้อถนอมนวล ฯ O รูปเอย-ขออาจเอื้อม - - - โดยใจ ฟังเถิดฟังความ-ใน - - - อก-ฟ้อง ขวากหนามมรรคาใด - - - มุ่งฝ่า เช้าค่ำจักพร่ำพร้อง - - - ผ่านร้อยพจีเรียง ฯ O ถวิลสร้อยเสาวภาคเนื้อ - - - นวลนาง สถิตที่บรรจถรณ์กลาง - - - กล่าวอ้อน อ้อมกอดโอบสรรพางค์ - - - เพียรกระชับ อกอุ่น, สองแขนช้อน - - - กระชับเนื้ออุ่น-ถนอม ฯ O ปักษีเสาวเลขล้วน - - - ลือประโคม แต่ผ่านพิศรูปโฉม - - - ช่วยซ้อง อกเอยเมื่ออุ่นโลม - - - รอยร่าง ย่อมแต่ครวญพร่ำพร้อง - - - พากย์ล้ำเสียงลือ ฯ O แสนสัตว์นาเนกล้วน - - - ระลอกสินธุ์ ทราบทุกข์เมื่ออกภินท์ - - - พ่ายแพ้ ไฟฟอนที่ในจินต์ - - - โจมจู่ สุดจิตนี้อาจแก้ - - - กลับร้อนรอนแรง ฯ O ดาวเดือนกระดากฟ้า - - - เฟือนสี จวนรุ่งดวงรัชนี - - - เริ่มคล้อย คะนึงโฉมจำพราก, มี - - - แต่เงียบ เหงาแม่ เย็นหยาดน้ำค้างย้อย - - - ยะเยือกขั้วหัวใจ ฯ O สางรุ่งสุริยะเรื้อง - - - ราศี ลมแผ่วผ่านลำ, วี - - - วาดไม้ อกครวญรำลึกศรี - - - เสาวภาค พี่เอย แต่รูป-เผยรูปไว้ - - - อาจเว้น-ฤๅถวิล ฯ O เข้าสาย, แดดส่อง-แจ้ง - - - ขจ่างไกล รถเคลื่อน, รูปอำไพ - - - ผุดล้อม ริมทางยอดเรียวใบ - - - ไม้-ระบัด รูปเนอ หมายอ่อนน้อยรอ-น้อม - - - แนบหน้าให้ถนอม ฯ O ถึง-อ่อนน้อย, โอบเนื้อ - - - นวลประคอง ดูเถิดเนตรใครนอง - - - หยาดน้ำ โผหาอกอุ่นตระกอง - - - ก่ายกอด แก้มเกลือกกลิ้งอก, ย้ำ - - - ยาก-เว้นวางถวิล ฯ O แขนเรียวกอดร่างไว้ - - - เวียนซบ หน้าแล รอปากโน้มลงจบ - - - จูบแก้ม ตาเรียวรูปช้อนสบ - - - ซึ้งอยู่ นั้นนา รอปากน้อมแตะแต้ม - - - ตอบรู้แรงภิรมย์ ฯ O หน้าแนบเนื้อ, กรุ่นเนื้อ - - - นวลพรรณ- หอมอบอวล, อบขวัญ - - - ฝ่าชู้ เรียวปากอิ่มจบ, พลัน - - - เหนี่ยวรูป- โอบกอดไว้-รับรู้ - - - รสเนื้อกลิ่นนวล ฯ O เจ้าเอย, จนดับ, ทิ้ง - - - ทรมาน หรือตราบรอบสังขาร - - - หยุดสร้าง เอกภพจักรพาฬ - - - พาล่ม ลาญแล ไฟนอกโลกแล่นล้าง - - - ห่อนล้างอาลัย ฯ O กฤษฎางค์ชุลิตน้อม - - - นอบกร ปรุงภาษเป็นอนุสรณ์ - - - สืบไว้ สองใจตราบม้วยมรณ์ - - - ขอมั่น รักนา อย่าจืดจางร้างได้ - - - ชั่วฟ้าดินสมัย ฯ
Create Date : 01 ธันวาคม 2554
62 comments
Last Update : 9 ธันวาคม 2559 13:22:15 น.
Counter : 8970 Pageviews.
สวัสดีค่ะ คุณสดายุ...
แม่มดชอบโคลงนะคะ และขอ นุญาต นำไปลงเฟสฯเด็กๆนะคะถ้าจบแล้ว...
แม่มดรอให้จบน่ะค่ะ มาอ่านทุกวัน ไม่ได้ทัก... ^^
คิดถึงคุณมินตราเธอนะคะ ป่านนี้กลับรึยังไม่ทราบ...
คุณสดายุ... รักษาสุขภาพนะคะ อากาศเย็นลงๆ
และมีความสุขมากๆนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ