Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
10 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
O คอยเถิดเจ้า .. O








ชัยภัค ภัทรจินดา - จระเข้หางยาว (ทางสักวา)



O น้ำใจผู้แฝงเร้น .. คอยเป็นห่วง
ก็เหมือนบ่วงบาศก์รัดเกินตัดบั่น
ลอบเร้นแอบแฝงรอย .. เฝ้าคอยวัน
ก้าวฝ่าฝันแฝงเร้น .. ให้เห็นตัว
O เฝ้ารอคอยรูปคราญมานานนัก
รอวงพักตร์เนียนแก้ม .. มาแย้มยั่ว
รอแววตาคู่นั้น .. จะสั่นรัว
และรอหัวใจคน .. เต้นอลเวง
O เอ็นดูรูปคราญน้อยจะหงอยเหงา
หวังว่า-เงียบเปลี่ยวเปล่า .. จะเร้าเร่ง-
ข่มข้ามความหมองมัว .. ใจตัวเอง
ว่าคร่ำเคร่งถวิลอยู่ .. ด้วยผู้ใด
O แม้นยังไม่ปรากฎ .. เผยบทบาท
ฤๅ-อาจคลาดแคล้วความ .. ทุกความได้ ?
ย่อมรับรู้ความ .. คำ ทั้ง-น้ำใจ
ที่เฝ้าคอยพิรี้พิไร .. อยู่ไม่วาง
O แม้นยังไม่ฝ่าฝัน .. มาวันนี้
ก็คงมีสักวันจะผันร่าง-
มายื่นก้อยออกเกี่ยว .. ย่ำเที่ยวทาง
ก้าวเคียงข้างสู่หมายที่ปลายจร
O กลอนจักคอยตอกย้ำ .. เย็น ค่ำ เช้า
ทั้งคอยเร้าแรงชู้ ไม่รู้ถอน
ความจักคอยกล่อมเกล้า .. อยู่เว้าวอน-
แทนอ้อมอกออดอ้อนทุกตอนความ
O เพื่อยามดาวลอยดวงบนสรวงโพ้น
ใจอ่อนโยนจักทราบรสวาบหวาม-
ของอาวรณ์ตอบรับที่วับวาม
ต่อ .. รูปนามผ่องแผ้ว .. กลางแววตา
O เจ้าอ่อนเอยอย่าคิดจนจิตหมอง
หากไตร่ตรองความสู่ .. จักรู้ว่า-
ยอมรับ-หอมหวานซึ้งที่ตรึงตรา
เจ้าผ่านมาโอบรับอยู่กับใจ
O คิดถึงมากใช่ไหมหัวใจนั้น
หาก .. ผูกพันอาวรณ์เกินผ่อนไหว
เผยออกเถิด .. มีอยู่ต่อผู้ใด
อย่าเก็บไว้ .. รับรู้แต่ผู้เดียว
O เชื่อเถิดนะ .. ความวอนเจ้าอ่อนน้อย
ทุกคำถ้อยกอปรกรอง .. โปรดลองเหลียว-
มารับรู้ปรารมภ์ .. รอกลมเกลียว-
กับทุกเสี้ยวส่วนใจ .. ของใครนี้
O เชื่อเถิดนะอาวรณ์..เจ้าอ่อนน้อย
เกินกว่าคล้อยเคลื่อนห่าง หรือย่างหนี
ในแววตารุมเร้าตัวเจ้ามี
เพียงภาพพี่กล่อมขวัญ .. เท่านั้นเอง
O ยอมเถิดนะอาลัยที่ใฝ่เฝ้า
ยอม-รูปเงาเร้ารุม .. ลงกุมเหง
ปลดปลงเถิดหม่นมัว .. อย่ามัวเกรง
ปล่อยแววเปล่งปลาบซึ้งส่งถึงกัน !
O ในท่ามกลางแวดล้อมของอ้อมแขน
รูปพักตร์แหงนเงยพร้อมรอกล่อมขวัญ
อาจแว่วเสียงหัวใจแกว่งไกวพลัน
พร้อมเรียวร่างอุ่นนั้นเจ้าสั่นสะท้าน
O ในท่ามกลางอกแขน .. หนุนแทนหมอน
จะแว่วเสียงออดอ้อนแสนอ่อนหวาน
และในเสียงตอบตื่นของชื่นบาน
เสียงจบแก้มเนิ่นนาน .. ย่อมผ่านคอย
O น้ำใจผู้แฝงรอยจะค่อยเผย
ออกชิดเชยงดงาม .. ในความ, ถ้อย
แววตาเอยคงจะเต้นไม่เว้นรอย
ยามร่างน้อยแนบหนุน .. ไออุ่นทรวง !
O ยอมเถิด .. ให้อาวรณ์สุมซ่อนอยู่
เผย-รับรู้ .. ทุกรอยละห้อยหวง
ยอม-ให้ทุกความคำเมื่อบำบวง-
ตั้งจิตหน่วงเหนี่ยวกัน .. นิรันดร์ไป !



Create Date : 10 กันยายน 2557
Last Update : 14 เมษายน 2566 7:45:00 น. 3 comments
Counter : 3063 Pageviews.

 
สดายุ..

"O น้ำใจผู้แฝงเร้น .. คอยเป็นห่วง
ก็เหมือนบ่วงบาศก์รัดเกินตัดบั่น
ลอบเร้นแอบแฝงรอย .. เฝ้าคอยวัน
ก้าวฝ่าฝันแฝงเร้น .. ให้เห็นตัว"

นอกจากจะมีน้องเล็กให้ภาคภูมิใจ ยังจะมี ...
"น้ำใจผู้แฝงเร้น .. คอยเป็นห่วง" ด้วยนะ..
ร่ำรวยซะจริงจริง !


โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 10 กันยายน 2557 เวลา:13:17:08 น.  

 
สดายุ...

"O แม้นยังไม่ปรากฎ .. เผยบทบาท
ฤๅ-อาจคลาดแคล้วความ .. ทุกความได้ ?
ย่อมรับรู้ความ .. คำ ทั้ง-น้ำใจ
ที่เฝ้าคอยพิรี้พิไร .. อยู่ไม่วาง"

ตัวเองนั่นแหละ เผยออกมาให้ใครใครรู้...
ระวังน้า ....น้องเล็ก 555


โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 10 กันยายน 2557 เวลา:14:36:58 น.  

 
มินตรา ..

มิใช่น้องเล็ก อย่าไปพูดเดี๋ยวเขาเสียหาย ..
ผมยังไม่มีใคร


โดย: สดายุ... วันที่: 25 กันยายน 2557 เวลา:18:50:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.