O ปีกนก และ อกคน .. O
Sergey Grischuk - Rain... Rain... O ปักษีเสาวเลขล้วน .. เสียงครวญคร่ำกลางลมร่ำเย็นรื่นโลมผืนสินธุ์ปลายปีกกางเย้ยโลกขึ้นโบกบินเมื่อกรุ่นกลิ่นกุสุมาลย์หอมซ่านมาO อบอุ่นด้วยรูปแพงเจ้าแฝงเลศ-โดยแววเนตรปริบปรอย .. เฝ้าคอยท่าเผยรูป-พฤติ .. งดงามลงล่ามคา-จิตวิญญาณปรารถนา .. ให้อาลัยO ลมพลิ้วจบริ้วขน .. ที่บนฟ้าพร้อมแววตาจบรูป .. แล้ววูบไหวล่องลอยช่วงชีวาผ่านฟ้าไกลต่าง-ฤๅ .. การล่องไหลของใจคนO รับรู้ความอาวรณ์แสนอ่อนโยนคอยถ่ายโอนมอบกันหมื่นพันหนเยี่ยงไรหนอแรงถวิล .. จึงดิ้นรน-เฝ้าแต่ขวนขวายชู้ .. ไม่รู้พอ ?O ปีกนกโบกเบียดฟ้า .. แววตานั้น-ก็ไหวสั่นรูปรอย .. ขึ้นคอยล่อ-หลอก-หัวใจ .. ยั่วเย้าพะเน้าพะนออยู่แอบออกล่อมขวัญ .. ค่ำยันเช้าO ชั่ว-ผ่านหวานแต้มเติมลงเพิ่มพูนความผ่องแผ้วดวงกูณฑ์ก็สูญเปล่าชั่ว-แววตาทอดทับอยู่กับเงาพรายแสงเพรางายผอง ฤๅ-ต้องการ ?O ถ้วนสิ้นความผ่องแผ้ว .. ในแววตาก็คล้ายว่ารายล้อมด้วยหอมหวานทั้งเนียนแก้มเอิบอิ่ม .. รอยยิ้มพาน-เหมือนกลีบมาลย์ช้อยรอ .. ภู่ออรสO หลบได้หรือแววชม้อยชม้ายยั่วเมื่อเผยความสั่นรัว .. อยู่ทั่วบทเนตรวาวน้ำวามอยู่ .. ไม่รู้ลด-ทอน-หวานอด-ออมแววให้แล้วเลือนO หลบได้หรือรูปลออ .. เมื่อคลอเคล้า-แววตาเร้ารุมหมายลงป่ายเปื้อนอิริยารูปจริตเมื่อติดเตือน-จะแล่นเลื่อนล่วงไปอย่างไรพ้นO ชั่วเพียงตาจบจูบด้วยรูปเงา-ความว่างเปล่าในทรวงก็ร่วงป่นรอบอาวรณ์อาลัย .. จึงไหววน-เวียน-อยู่บนคาบยาม .. งดงามนั้นO อยู่ในรอบวงวัฏฏ์ของสัตว์โลกผ่านสุขโศก .. ขวาง-ขวาก .. ต้องบากบั่นย่อมเพื่อรอบันลือความดื้อรั้นก่อรูปฝันแฝงเร้นให้เป็นจริงO ปีกนกยังโบกบินกลางถิ่นสรวงแววนัยน์ตาแหนหวงก็ช่วงยิ่งดูเถิดความอาวรณ์ .. ราวอ้อน-อิง-แอบแววกลิ้งเกลือกชู้ .. ให้รู้การO โล้ลมล่องลอยร่างอยู่กลางหาวเนตรวับวาวออดอ้อน, ความอ่อนหวาน-ก็เผยแววหยอกเอินอยู่เนิ่นนานโลมความซ่านซึ้งทั่วทั้งหัวใจO ปลายปีกบางคว้างลิ่ว .. ล้อริ้วลมเมื่อสุดข่มอาวรณ์ .. ออดอ้อนไหวจำต้องยอมให้งามรุกลามนัยเข้าโลมไล้ถ้วนสิ้นจิตวิญญาณO เจ้าเอยรู้ไหมว่าใครอาวรณ์ ?กับท่วงทีออดอ้อนแสนอ่อนหวานรู้หรือไม่ .. รูปลออเจ้า-ทรมาน-อกชายชาญรุมร้อนยากผ่อนลงO แต่เมื่อวางชาติภพ .. บรรจบช่วงเหมือนเงื่อนบ่วงทอด-วาง .. ให้ย่างหลง-เพื่อรัดรึงผูกพันจนมั่นคงสองปลายลงเงื่อนตาย .. ยากคลายคลอนO แต่เมื่อวางภพชาติลงพาดช่วงความแหนหวงนัยชู้ .. เกินรู้ซ่อนเสน่หาทั้งปวง .. ทุกช่วงตอน-ก็สุมซ้อนทอดทับให้รับรองO โอนงดงามนามรูป .. เข้าสูบสิ้น-ทั้งเจตจินต์ทุกข์โศกแห่งโลกผองจึงเหลือความหวานล้ำ .. เร่งทำนอง-ร่วมพร่ำพร้องเสน่หา .. แรงอาลัยO ปีกบอบบางกางว่อนช่วงตอนฟ้าแววนัยน์ตารื่นชู้ก็รู้ไหว-วาบผกายดื่มด่ำ .. แห่งน้ำใจกระเพื่อมไหลล่องแววไม่แล้วลาO เพียงถ้อยคำรำบาย .. เข้ารายล้อมหมายหล่อหลอมอบอุ่นก่อคุณค่า-ตรึงติดแนบดวงขวัญ .. คอยบัญชา-เสน่หาให้ช่วง .. กลางห้วงใจO เพียงรำพันรำบายลงป่ายเปื้อนเพื่อแล่นเลื่อนนัยชู้จนรู้ได้-ว่ามีเพียงแต่เจ้า .. รูปเยาว์วัยพี่อาลัยเกินจิตจักบิดเบือนO ปักษีเสาวเลขหวน .. เสียงครวญคร่ำลมยังร่ำรินสาย .. จนคล้ายเหมือน-ว่ารอกล่อมรื่นเย็น .. จนเห็นเดือน-ดาว-ลอยเลื่อนทอแสงแต้มแต่งฟ้าO พร้อมเกสรกุสุมาลย์หอมซ่านกลิ่นรอบถวิลหอมหวานยิ่งซ่านกว่าหมายจดรูปแหนหวงในดวงตา-ก่อนเอื้อมคว้าโอบกอด .. เอวคอด .. ประคอง !
"O พร้อมเกสรกุสุมาลย์หอมซ่านกลิ่น
รอบถวิลหอมหวานยิ่งซ่านกว่า
หมายจดรูปแหนหวงในดวงตา-
ก่อนเอื้อมคว้าโอบกอด .. เอวคอด .. ประคอง ! "
ไปดู "งามรูปกาย" ก่อน สักพัก..
จะได้มี "เอวคอด" ให้ใคร..
มา"..เอื้อมคว้าโอบกอด .. เอวคอด .. ประคอง ! " บ้าง