Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
O คือ .. เจ้า .. O








Eldar Mansurov - Give me life



O สุดรอคอย .. ค่อยเห็นว่าเป็นเจ้า
กี่ภพกาลผ่านเล่าที่เฝ้าหา
เหมือนพิมพ์ภาคฝากมั่นลงสัญญา
ให้ตรึงตราแต่ในน้ำใจเดียว
O เกิดแต่เมื่อ .. ออดอ้อนเจ้าอ่อนน้อย
ที่เฝ้าคอยโต้ตอบให้ลอบเหลียว
สายใย-อย่างแฝงเร้น .. ฟั่นเป็นเกลียว
เข้ารั้งเหนี่ยวใจตื่น .. รับชื่นบาน
O จนเร้ารุมสุมซ่อน .. ความวอนว่า-
ผ่านพรรณนาเว้าวอน .. แสนอ่อนหวาน
เพื่อผ่านเผยความปวงแห่งดวงมาน
ที่เฝ้าแต่ทรมาน .. นับนานมา
O สืบผ่านความสุจริตในจิตที่-
อ่อนหวานอ่อนโยนมีในทีท่า
วางความสัตย์ในจิตเป็นฤทธา
แลกคุณค่างามพร้อม .. ห่มห้อมใจ
O สืบผ่านการรอคอย .. ละห้อยเห็น
รุมเร้าเป็นรูปประทับ .. ยามหลับใหล
จนลำดับงดงามของความนัย
คือซาบซึ้งอาลัย .. เริ่มไหวตัว
O จากอ่อนหวาน .. อ่อนละมุน .. แปรคุณค่า
เป็นดวงแสงแจ่มจ้า .. กลางฟ้าหลัว
เมื่อ .. ในอกแฝงเร้นการเต้นรัว
ย่อม - เมื่อหัวใจคน .. วก-วนคิด
O หลังผ่านช่วงวรรษา .. สิ้นห่าฝน,-
ไฟคำรนบนสรวง, กลางดวงจิต-
ก็แจ่มจ้ารูปน้อย .. ให้พลอยพิศ
ก็ตรึงฤทธิ์ตราอยู่ .. ให้รู้นัย
O สุดวิสัยแห่งการจะต้านหน่วง
คลี่คลายบ่วงอาวรณ์จนผ่อนไหว
ก็เมื่อในนิรมิตแห่งจิตใจ-
จะยามใด .. ถวิลอยู่แต่ผู้เดียว
O ท่ามกลางสายลมหนาว .. เมฆขาวฟ่อง
ก็เฝ้าคอยพร่ำพร้อง .. การข้องเกี่ยว
ใจเอย .. ราวปลิดปลิว .. ด้วยนิ้วเรียว-
เจ้าเอื้อมเหนี่ยวเด็ดวางลงกลางมือ
O ร้างรูปน้ำค้างใสเกาะใบหญ้า
ลมลูบฟ้าโรยริ้ว .. เสียงหวิวหวือ
คล้ายแว่วทรวงเลื่อนลั่น .. เสียงบรรลือ
เมื่อใจถูกยุดยื้อ .. อย่างดื้อดึง
O ด้วยแววเนตรลึกล้ำ .. สบ .. สัมผัส
เผยจำรัสอ่อนหวาน .. ส่งผ่านถึง
เสียงออดอ้อนเสน่หา .. ย่อมตราตรึง-
ล้อมคำนึงบีบเค้นไม่เว้นวาย
O ด้วยแววเนตรวาบหวาน .. สืบผ่านนัย
เพียงจะให้ความพิสุทธิ์เป็นจุดหมาย
มอบ .. อบอุ่นวาบ-วกในอกชาย
สรวงก็คล้าย .. ชะลอเทียบให้เหยียบยืน
O แต่ละครั้ง .. แต่ละคราว .. ลมหนาวล้อม
หัวใจคน, กลิ่นพะยอม .. ก็หอมรื่น
แววนัยน์ตาออดอ้อน .. ก็ย้อนคืน-
กลบเสียงใจเต้นตื่น .. ระรื่นรับ
O จึงครั้งคราวคาบสมัย .. หัวใจระส่ำ
คืออ่อนหวานแทรกซ้ำเป็นลำดับ
มีอ่อนโยน .. เอ็นดู .. เกินรู้นับ
เข้าจู่จับคำนึง .. ใครหนึ่งนี้
O ย่อมเกินการณ์บ่ายบี่ยง .. เกินเลี่ยงพ้น
กับอึงอล .. สั่นไหวหัวใจนี่
เสน่หา, อาลัย, ห่วง, ใยดี-
ก็โหมลีลาตื่น .. ครึกครื้นนัก
O สุดรอคอย .. ค่อยเห็นว่าเป็นเจ้า
ที่รุมเร้ารูปละม่อม .. เข้าล้อมกัก
สดับเถิด-อ่อนน้อย .. ทุก .. ถ้อย .. วรรค-
ล้วนแต่รัก .. ถวิลอยู่ .. แต่ผู้เดียว !



Create Date : 05 มกราคม 2556
Last Update : 30 เมษายน 2566 10:23:57 น. 0 comments
Counter : 3894 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.