Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O








Ernesto Cortazar - Morir de amor



O ลมยามเช้าแผ่วพลิ้วโลมริ้วน้ำ
เมื่อมืดดำเลือนลางค่อยจางหาย
คลื่นก่อแนวแล่นริ้ว .. ดูพลิ้วพราย-
เป็นวงว่ายวิ่งระลอกกระฉอกกระชั้น
O ค่อย-ยกก้าวเหยียบย่าง .. ในสางตรู่
พรั่งพร้อมอยู่ .. คือใจที่ไหวสั่น
ด้วยอารมณ์เหนี่ยวดึง .. จดถึงกัน
กับเจ้าขวัญอ่อนน้อยผู้กลอยใจ
O แต่เมื่อสบ-รอยพักตร์จำหลักรูป
วิญญาณราวถูกจูบ .. จนวูบไหว
แถวผู้ขอก้าวย่าง .. ผ่านทางไป
ที่สุดผ่านพ้นได้ .. คือใจคน
O จาก-แถวท่านผู้ขอ .. หยุด .. รอ .. เคลื่อน
ใจนั้นเหมือนแกว่งสั่นนับพันหน
จาก-คำข้าวคดพร้อม .. แล้วน้อมตน
ก็งดงามเหลือล้น .. อยู่บนใจ
O แววในเนตรวับวามด้วยความสุข
ราวจะปลุกปลอบโลก .. พ้นโศกไข้
แก้มอิ่มเนียนแต้มเรื่อ .. จะเหลือใคร-
อาจฝ่าความแจ่มใส – รูปวัยนั้น
O ทิวแถวท่านผู้ขอ .. เคลื่อน .. รอ .. หยุด
ก็เมื่อสุดต้านงาม-รุกลามขวัญ
จีวรปลิวปัดปลาย .. ก็คล้ายทัณฑ์-
จากปางบรรพ์ผูกบ่วง .. รัดดวงใจ
O คำข้าว .. ช่อดอกไม้ .. ถวายพระ
ตอบภาวะศรัทธาที่อาศัย
รูปนาม .. ทัศนา .. สองตาใคร-
ราวจะไหวเวียนอยู่ไม่รู้แล้ว
O สัมผัสบทงดงามแห่งยามเช้า
ของรูปเยาว์, หัตถ์พรหม, สายลมแผ่ว
สบชำเลืองเหลือบมา .. เหมือนว่าแวว-
ตาคู่นั้นผ่องแผ้ว .. สุดแล้วเลือน
O ปลายปีกนกโบยโบก .. สู่โลกไกล
เมื่ออาลัยรำบายลงป่ายเปื้อน-
หัวใจหนึ่งต้องพิษ .. จนบิดเบือน
สุดคล้อยเคลื่อนนิรมิตที่ติดตรึง
O ผมหล่นล้อมวงหน้า .. เมื่อหน้าน้อม-
ลงจบ-พร้อมอีกใจ .. เฝ้าใฝ่ถึง
มีความนัยพร้องพร่ำ .. และรำพึง-
แฝงความซึ้งอาลัย .. อยู่ในคำ
O ก่อนแฝงฝากสายลม .. ให้พรมผ่าน
สู่อีกด้านริมทาง .. ผู้ย่างย่ำ-
เหยียบโลกให้ตื่นต้อง .. กับจองจำ-
ของลมร่ำแรงชู้ .. เข้าจู่โจม
O มาตักบาตรทำบุญ .. เพื่อหนุนชาติ
กลับมาพลาดพลั้งจิต .. ด้วยฤทธิ์โฉม-
คราญเจ้านั้น .. เผยเงามาเล้าโลม
พาคลื่นโสมนัสช่วง .. กลางห้วงใจ
O หรือว่าบุญหนุนชาติ .. มาพาดผ่าน-
ให้รูปคราญแทรกขวัญ .. จนสั่นไหว
แถวพระก้าวลับล่วง .. เมื่อทรวงใคร
ละห้อยเห็นรูปพิไล .. อยู่ในวัน
O หล่นลงแล้วรุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า
เมื่อรูปปรากฏพร้อม .. รอ-กล่อมขวัญ
ข้าวรอพระก้าวผ่าน .. เนิ่นนานครัน
เมื่อรูปฝันผ่านผกาย .. เนตรพรายยิ้ม !
O หล่นลงแล้วรุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า
ที่เหมือนว่าผ่านแต้ม .. เนียนแก้มอิ่ม
ราวว่านัยแฝงเลศ .. ก่อนเนตรพริ้ม-
ผ่านลงพิมพ์รอยทั่ว .. ทั้งหัวใจ
O แผ่วลมเช้าป่ายริ้วโลมผิวน้ำ
หากที่คร่ำครวญอยู่เกินกู้ไหว
คืออกท่วมเสน่หา .. แรงอาลัย-
จากเลศนัยแฝงเร้น .. บีบเค้นลง
O ใช่ไหม-ที่ต้องคิด .. รับผิดชอบ
ด้วยการมอบรักรุม .. ให้ลุ่มหลง
ใช่ไหม .. หวาน หอมล้ำ .. ที่จำนง-
ต้องร่วมปลงใจรับ .. แนบกับใจ .. ?



Create Date : 21 มกราคม 2558
Last Update : 1 พฤษภาคม 2566 5:18:55 น. 0 comments
Counter : 4933 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.