Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
14 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O








Giovanni Marradi - Angelitos Negros



O เผยออกมาสักทีจะดีไหม
ซ่อนเร้นอยู่ทำไม .. หนอ-ใจนั่น ?
เมื่อต่างก็มีใจมอบให้กัน
พร้อมใฝ่ฝันเฝ้าอยู่ .. อย่างรู้คอย
O คิดถึง .. ละห้อยเห็นเมื่อเร้นหน้า
กับแววตาว่างเปล่า-แสนเศร้าสร้อย
เพียงภาพเคยจับจอง .. ที่ล่องลอย-
สร้างรูปรอยแล่นเลื่อนขึ้นเตือนใจ
O ไย-ถึงต้องแฝงเร้นอยู่เช่นนั้น
กดข่มความผูกพัน .. ห้าม-สั่นไหว
ก็เมื่อแววในตา .. แสนอาลัย
นึกหรือว่าความนัย .. ปิดได้พ้น ?
O วาบวามความอ่อนหวาน-เมื่อผ่านช่วง
ก็รับรู้แหนหวงที่ร่วงหล่น-
ลงในการร่ายรำ .. แววจำนน-
ที่เอ่อล้นเผยล่วงผ่านดวงตา
O กี่ครั้งแล้วแววตา-เกินกว่าซ่อน
เผลอ-เผยความอาวรณ์ออดอ้อนหา
รับรู้แววอ่อนหวานส่งผ่านมา
ย่อมรู้ว่าเกินคิดจะปิดบัง
O เพียงแววตาฉายทอจะพอหรือ
ว่านั่นคือรูปรอยให้คอยหวัง
แล้วหัวใจเต้นแผ่วจะแว่วดัง-
ให้รับฟังเสียงสั่น .. เอาวันใด ?
O เพียงแววตาฉายทอ .. ไม่พอหรอก
จะพูดบอกความถวิล .. จนสิ้นได้
หากต้องมีพจน์พากย์คอยฝากนัย
จึงอาจรู้อาลัยที่ในทรวง
O ซ่อนเร้นด้วยขัดเขินมาเนิ่นนาน
จน-รับรู้อ่อนหวาน .. เมื่อผ่านช่วง
โดยพจีงดงาม, ถ้อยความปวง-
ย่อมลามล่วงสู่ใจผู้ใฝ่คอย
O คล้ายเนิ่นนานหนักหนากับท่าที-
แฝงไมตรีปรุงเปรียบ .. อย่างเงียบหงอย
จนความหมายสืบสร้าง .. ไม่พรางรอย-
แล้ว-จึงค่อยนำวาง .. ลงกลางใจ
O เมื่อท่าที, บทบาท-ไม่ขาดช่วง
ย่อมยากล่วงเลือนกัน .. จากกันได้
ด้วยต่างคอยรับรู้ .. ว่าผู้ใด-
ส่งรับแรงอาลัย .. มีให้กัน
O หยุดเถิด-ความอาวรณ์ที่ซ่อนเร้น
หยุดบีบเค้นหัวใจ, ความใฝ่ฝัน
ด้วยว่าความทรมาน .. จากนานวัน
จักค่อยผันผ่านช่วง .. จนล่วงพ้น
O หยุดเถิด-รอบดวงใจที่ไหวสั่น
ด้วยว่านั่นเป็นช่วงการร่วงหล่น-
ของอาวรณ์อาลัยที่ในตน
อย่างจำนน, รอพร้อม-อุ่นอ้อมทรวง !
O หรือจะให้คำนึงมีถึงกัน
ต้องถูกกั้นกีดชาติจนขาดช่วง
หรือจะให้แรงกรรมเคยบำบวง
ต้องเลือนล่วงสูญเปล่า .. ไม่เข้าที
O ก็แค่เผยความนัย .. ออกให้รู้
เป็นนัยชู้พร้อมสรรพสำหรับที่-
จะใช้เป็นสายใยแห่งไมตรี
โอบรัดชีวิตสองมาพ้องกัน
O คอยเถิด .. วงแขนโลภ .. รอโอบกอด
เมื่อร่างทอดลงทับ-การรับขวัญ
อกอุ่น, แรงปราโมช คือโทษทัณฑ์-
ไว้กักกันอาวรณ์ .. เคย-ซ่อนเร้น !
O หรือจะให้คำนึง .. แม้หนึ่งช่วง-
จังหวะดวงใจคอยละห้อยเห็น-
ต้องแกว่งไกวรอเฝ้า ทั้งเช้าเย็น
เพราะถูกรักซ่อนเร้น .. บีบเค้นเอา ?



Create Date : 14 มิถุนายน 2554
Last Update : 3 เมษายน 2566 18:27:56 น. 18 comments
Counter : 5403 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ...

ไพเราะ... ทั้งเพลง ทั้งบทกลอน เพลงนี้ฟังบ่อยๆ ทำไมวันนี้ถึงไพเราะกว่าทุกวันน๊า... เพราะเข้ากับบทกลอนบทนี้ นี่เอง...


แต่งกลอนได้ ตรง กับความรู้สึกของคนหลายๆคนนะคะ เชื่ออย่างนั้น... เหมือนๆกับ เคยอ่านมาแล้วบ้าง จำไม่ได้ค่ะ ว่าบทไหน คุ้นๆ... ^^

คุณเจ้าของบล๊อคเคยพูดว่า "บางคนอ่านแล้วชอบคิดเข้าข้างตัวเอง" ก็กลอนแบบนี้คงไปตรงกับอีกหลายๆคนนี่คะ ให้คิดไปให้ตาย secret ก็คือ secret ค่ะ...

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทกลอน และเพลงที่แสนจะเข้ากัน...

มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: secret IP: 216.66.59.184 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:7:53:27 น.  

 
ฟ้ามายิ้มทักทายด้วยไมตรีจิตให้..คุณสดายุค่ะ..

เวลานี้คุณคงสบายใจดีขึ้นมากแล้วใช่ไหมค่ะ?..

คุณสดายุค่ะ..นี่ถ้าฟ้ามีกลอนเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ของฟ้าพิรุณร่ำลอยขึ้นข้างๆแบบคุณบ้างน่าจะดีเนอะ!

แต่ฟ้าก็แต่งกลอนไม่ได้เรื่อง..ทำให้อักษรลอยๆแบบนั้น

ก็ไม่เป็นค่ะ..ได้แต่แอบชื่นชมของคุณด้วยความสุขใจค่ะ แหะๆๆ

คนสวยมักทำอะไรไม่ค่อยเป็น (ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยค่ะ อิๆๆ)





โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:9:28:51 น.  

 
Secret....

สวัสดีครับ...อยู่ไกลอีกคนนะนี่...Milpitas เงียบสงบดีอยู่หรือครับ

กลอนบทนี้เขียนขึ้นจากความรู้สึกคุ้นเคยกับ"จริตแห่งอารมณ์"ของสาวไทยเป็นการเฉพาะเจาะจง...การเก็บอารมณ์ไม่ยอมให้ "คู่กรณีอีกฝ่าย" ได้รับรู้เลยนั้น ..ดูๆจะเป็นลักษณะเด่นของสาวไทย....เข้าใจว่าฝรั่งจะไม่มี ใช่ไหมครับ ?

ความรู้สึกที่เริ่มเกิดขึ้นก่อน...เป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาถึง"การตอบสนอง" ของอีกฝ่าย...ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง มันเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยาก....โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากหญิงสาวเป็นคนที่มีสถานภาพดีทั้งการศึกษาและฐานะ...การปิดบังซ่อนเร้นความรู้สึกเชิงเสน่หาจะยิ่งซับซ้อน...ประมาณ ลับ ลวง พราง นั่นทีเดียว....

และจนกว่าความรู้สึกแห่งอารมณ์นั้นจะมีมากจนสามารถ"เอาชนะความเขินอาย" ได้แล้วนั่นแหละ....ดอกพิกุลถึงอาจจะร่วงออกจากปากได้...ใช่ไหม ?

ผมชอบเล่นกับอารมณ์คนอ่านครับ...ยิ้ม







คุณฟ้า....
สวัสดียามสายครับ....
ผมอ่านที่เขียนมาแล้วต้องยิ้มกับตัวเองครับ....ว่าสุภาพสตรีคนนี้ช่างสามารถเจรจาโดยแท้...อิๆๆ

เรื่องกลอนนั้น...ผมไม่คิดว่าคุณฟ้าเขียนไม่ดีแต่อย่างใด....เพียงแต่อาจไม่ค่อยได้เขียนบ่อยนักใช่ไหมครับ...ส่วนเรื่องการทำให้กลอนเลื่อนขึ้นด้านข้างๆนั้น มีโค๊ดสำหรับสั่งให้มันเลื่อนครับ....

< marquee width=400 height=550 direction=up scrollamount=1 >
ข้างบนนี้คือโค๊ดส่วนบนสำหรับให้กลอนเลื่อนขึ้น....ผมเอามาลงนี่ต้องแยกวงเล็บหัวท้ายออกห่าง ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นคำสั่ง....หากคุณฟ้าเอาไปใช้ก็เลื่อนวงเล็บหัวท้ายให้ชิดกันกับโค๊ดนะครับ

< /font >< /marquee >
นี่คือโค๊ดส่วนล่าง เอาปิดท้ายกลอน...แต่หากไม่มีอะไรมาต่อท้ายกลอนก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ...
อย่าลืมเลื่อนวงเล็บมาชิดโค๊ดเสมอนะครับ

ส่วนรูปหากเราต้องการใส่ด้วยก็ต้องลดขนาดลงให้เล็กก่อน...

ทั้งหมดนี่เราต้องไปใส่ใน "แก้ไข Profile ส่วนตัว" เมื่อคุณฟ้าล็อคอินเข้าไปอยู่หน้าจัดการบล็อคแล้ว....และเอาไปใส่ในส่วน "ข้อความแนะนำตัว" ครับ

ในกล่อง"ข้อความแนะนำตัว"...เราใส่รูปได้...ใส่สีอักษรได้...ใส่ความหนาตัวอักษรได้...ตามปกติครับ

คนสวย..ไม่ต้องทำอะไรมากครับ...มาเยี่ยมบล็อคนี้บ่อยๆก็เป็นความกรุณาอย่างสูงแล้ว
ขอบคุณกุหลาบขาวแสนสวย ขอรับ แม่หญิงพิรุณร่ำ






โดย: สดายุ... วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:10:16:48 น.  

 


แย่เลยค่ะ..ต้องวิ่งกลับมาจาก louisiana เพื่อมา Milpitas มาตอบคำถาม ขอโทษด้วยค่ะเพิ่งหยุดพักเอง...

Milpitas คงไม่สงบเท่าประเทศไทย แต่ช่วงนี้ประเทศไทยคงไม่สงบเท่าไรมังคะ?...

คิดว่าอารมณ์ของสาวไทยบางคนไปไกลกว่าสาวฝรั่งแล้ว เท่าที่เห็นนะคะ แต่...ยังมีอยู่บ้างอาจจะอีกมากก็ได้ที่เป็นอย่างที่คุณบอก... ถ้าเธอโตมาแบบ ครอบครัวอบอุ่น ที่ไม่จำเป็นต้องไปวิ่งหาความรักที่ไหน หรืออีกนัย เธอ อาจจะ กลัว เพราะถ้าคุณบอกว่า..

" หญิงสาวเป็นคนที่มีสถานภาพดีทั้งการศึกษาและฐานะ"

ตรงนี้ค่ะ ที่ทำให้เธอ มองอะไรอย่าง ตรึกตรอง ไม่ใช้อารมณ์ และความรู้สึก เพราะความรู้สึกที่เธอ คิดว่า "อาจจะ" รึเปล่านะ?

อารมณ์เข้าข้างตัวเองแบบนี้ อย่างที่คุณพูดบ่อยๆ ว่า "คนอ่านแล้วคิดเอา" อันนี้อันตรายสำหรับเธอเหล่านั้นค่ะ...

เพราะฉะนั้นแล้ว ทางออกที่ดีของเธอเหล่านั้น คือ นิ่ง ทำเฉยเหมือนไม่รับรู้ แต่...คุณทราบรึเปล่า เพราะอะไร? เพราะเธอไม่ไว้ใจ อารมณ์ของผู้ชายเช่นกันค่ะ...

คุณเชื่อรึเปล่าว่า คุณจะไม่เห็น...

"ความรู้สึกแห่งอารมณ์นั้นจะมีมากจนสามารถ"เอาชนะความเขินอาย" ได้แล้วนั่นแหละ....ดอกพิกุลถึงอาจจะร่วงออกจากปากได้...ใช่ไหม ?"

เพราะเธอเหล่านั้นจะไม่แสดงอะไรออกมาก่อน จนกว่าเธอจะแน่ใจ เพราะเธอเหล่านั้นคงกลัว คนที่ชอบเล่นกับอารมณ์ของหญิงสาวเช่นกันค่ะ... ต่อให้เธอเหล่านั้น เก็บความรู้สึกไว้มากขนาดไหนก็ตามค่ะ...

เพราะฉะนั้น อย่า"เล่น" เลยค่ะเพราะอาจทำให้หลายๆคน "เจ็บหัวใจ" ได้ เป็นบาปนะคะ... ^^



โดย: secret IP: 216.66.59.16 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:13:36:34 น.  

 

แก้คำผิด "คนอ่านแล้วคิดเอา" คือ ** "คนอ่านแล้วคิดเอาเอง"


โดย: secret IP: 216.66.59.16 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:13:40:34 น.  

 
secret...

คุณอาจเข้าใจคำที่ผมเขียนได้ระดับหนึ่งในข้อที่ว่า..."ผมชอบเล่นกับอารมณ์คนอ่าน" แต่เข้าใจไม่ทั้งหมด....

อย่างแรกคือต้องเข้าใจว่า"คนอ่าน"นั้นสำหรับผมแล้ว...มีแค่ร่องรอยการเข้ามาผ่าน pageview เท่านั้นเอง...ร่องรอยลักษณะนี้ไม่สามารถแยกแยะเพศและวัยได้....และบทกลอนที่เขียนทั้งหมดในห้องนารีปราโมช....ย่อมมิใช่เพื่อผู้ชาย...ย่อมมิใช่เพื่อเด็กหญิงที่ยังไม่ถึง 17-18 ย่อมมิใช่ผู้หญิงอายุเกิน 35 แต่อย่างใด....

ดังนั้นหากเราคิดออกมาเป็น % ของความน่าจะเป็นของจำนวน pageview แล้ว...อาจมีน้อยมาก อาจมีไม่ถึง 50% ที่อยู่ในข่าย...นั่นประการหนึ่ง

คนอ่านที่ไม่ปรากฏตัว...ย่อมเหมือนไม่มีตัวตนสำหรับผม...เหมือนบุคคลในที่มืด...ไม่มีการรับรู้ของผู้เขียนว่ามีอยู่...ดังนั้นจึงย่อมมิใช่บุคคลที่จะสื่อถึงผ่านนัยแห่งบทกลอนถึงแต่อย่างใด....ดังนั้น 50% ที่ว่าในประการแรก...อาจเหลือไม่ถึง 20% ในที่สุด...นี่อีกประการหนึ่ง

คนเขียนอยู่ในที่แจ้ง...และคนอ่านที่ไม่ปรากฏตัวย่อมเหมือนอยู่ในที่มืด...และสำหรับในความคิดคนเขียนแล้วย่อมไม่มีอยู่ในการรับรู้...จึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหากเขาจะคิด..จะตีความ..จะตัดสินเนื้อหาเอาโดยพละการ...จริงไหม นี่อีกประการหนึ่ง

และสำหรับประโยคที่ยกมานี้..."ความรู้สึกแห่งอารมณ์นั้นจะมีมากจนสามารถ"เอาชนะความเขินอาย" ได้แล้วนั่นแหละ....ดอกพิกุลถึงอาจจะร่วงออกจากปากได้..."....คุณเชื่อไหมว่าผมเห็นมาแล้ว....ผมเขียนจากสิ่งที่พบเจอ...ไม่ใช่นั่งเทียนเขียน...

ที่จริง"ชื่อบทกลอน"นี้อาจใช้เฉพาะกับหญิงที่มีลักษณะอ่อนโยนอ่อนหวาน โรแมนติกอยู่สักหน่อยเท่านั้น....คงไม่ใช่สำหรับหญิงทุกคน


โดย: สดายุ... วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:14:42:19 น.  

 


ค่ะ...รับทราบ ว่าเข้าใจผิด...

คิดไว้เหมือนกัน ว่าจะออกมาแบบนี้ค่ะ...

ถ้าได้มาคอมเม้นท์ เพราะความคิดเห็นของเรา จะต่างกัน
180 องศาเลยทีเดียวค่ะ...

มีความสุขมากๆนะคะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: secret IP: 69.22.186.13 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:15:09:00 น.  

 
คุณฟ้า....
พอดีว่าผมเคยเขียนอยู่บทหนึ่งชื่อ..."ฝนพรม..สายลมร่ำ"....บริบทยามฝนคร่ำลมครวญ...จึงเอามามอบตอบแทนความมีน้ำใจความปรารถนาดี...ที่เอาช่อดอกไม้สวยๆมาให้บ่อยๆ...ขอรับ...



O พิรุณร่ำ....O





O งดงามเอย..ช่อฝนเมื่อหล่นสรวง
ท่ามกลางช่วงสายลม..ห้อมห่มเสียง
ฉ่ำชื้นหยาดฝุ่นฝน..ร่วงหล่น-เพียง-
เพื่อบ่ายเบี่ยงรุ่มร้อนให้ทอนแรง

O วูบไหวล้อมรมยา..แววตาเต้น
ด้วยลอบเร้นรูปภาค..ใครฝากแฝง
เมื่อสายตาจบจูบด้วยรูปแพง-
ก็เติมแต่งหอมหวานลงซ่านทรวง

O อีกครั้งที่พรายเม็ด..หยาดเพชรแก้ว-
พรากผ่องแผ้วฟ้าบน..ให้หล่นร่วง
อีกครั้งที่อ่อนไหว..แววในดวง-
ตานั้น-ช่วงรุมเร้า..ความ-เว้าวอน

O วับวามความอ่อนไหว..เลศนัยชู้-
ตื่น-รับรู้พร่ำพลอด..แววออดอ้อน
รื่นหยาดฝนหล่นร่วง, อีกช่วงตอน-
ความอาวรณ์โหมช่วง..ไม่ล่วงแล้ว

O วับวามความหวานหอมที่ล้อมรอ
พร้อมช่วงช่อฝนห่ม..สายลมแผ่ว-
นั้น-เมื่อดาวสองดวง..โชนช่วงแวว-
เผยความแผ้วผ่องช่วง..แห่งดวงใจ

O งดงามความอบอุ่น..กลางฝุ่นฝน
ย่อมงามล้นเลอค่า..ให้อาศัย-
เป็นบ่วงบาศก์ล้อมกาย..เคลื่อนสายใย
ล้อมรัดไว้ถ้วนสิ้นจิตวิญญาณ

O ดวงใจเอย..เผยงามลงล่ามตรึง-
ห้วงคำนึง..รายล้อมด้วยหอมหวาน
ฝ่าทรวงสอดแทรกขวัญเข้าบันดาล-
ความซึ้งซ่านหลั่งหลอมให้ยอมตน

O จะกี่รอบน้ำหลั่งล้นฝั่งฟ้า
กี่ฉ่ำชื่นผ่านมาของห่าฝน
ฤๅเท่ารื่นคำนึงของหนึ่งคน
ที่หลั่งหล่นหล่อหลอมเข้าล้อมใจ

O วางชาติภพรายล้อมละม่อมหน้า
หลังดวงตาสบรูปจนวูบไหว
แววตื่นตอบลอบเร้น..ย่อมเป็นไป-
จากอาลัยอาวรณ์..สุมซ้อนลง

O รู้บ้างไหม..อ่อนหวานเจ้าผ่านสู่
กอปรนัยชู้เร้ารุม..จนลุ่มหลง
รู้ไหมว่า..ลึกล้ำแห่งจำนง-
คือรูปหงส์ทอดร่างอยู่กลางทรวง

O ปองเด็ดดวงดอกฟ้าลงมาหอม
โดยอุ่นอ้อมอกแขน..ความแหนหวง-
คอยอยู่พร้อมวาดหวัง..ใจทั้งดวง-
ก็โชนช่วงอาวรณ์เกินผ่อนคลาย

O งดงามด้วยรูปธรรม..ใครก้ำเกิน
ทั้ง-ขัดเขิน, อ่อนโยน..ที่โชนฉาย
อาจรู้ฤๅด้านในดวงใจชาย-
นั้นรำบายรอยร่าง..อยู่กลางดวง

O ท่ามกลางเสียงหลากหลายที่รายล้อม
เป็นอยู่พร้อมฝุ่นฝนที่หล่นร่วง
และ-แต่ล้วนพิมพ์ภาพคอยทาบทวง-
ความแหนหวง..ห่วงใยจากใจนั้น

O งดงามรูปนวลลออ..เม็ดช่อฝน-
หลั่งร่วงปรนเปรอให้, ความใฝ่ฝัน-
ละห้อยหา, ถวิลเห็นไม่เว้นวัน-
ผูกปมเงื่อนสัมพันธ์จนมั่นคง

O งดงามรูปนิ่มเนื้อ..นั้นเหลืออ้าง-
เอ่ยช่วงความแตกต่างด้วยร่างหงส์
รูปในฝันหล่นร่างที่กลางวง-
แขนให้เอื้อมโอบองค์..ร่วมวงกรรม

O ผ่านพ้นฤๅอกใจ..ผู้ไขว่คว้า
ท่ามกลางห่าฝนห่ม..สายลมร่ำ
ชั่วเพียงเจ้าเหลือบชม้ายแววร่ายรำ-
เหมือน-จองจำพี่แล้ว..ด้วยแววตา

O ดูเอาเถิด..แหนหวงเมื่อช่วงแวว
ราวผ่องแผ้วดวงกูณฑ์จักสูญค่า-
จากอาวรณ์แฝงฝันเข้าบัญชา-
ล่มลาญว้าเหว่ช่วง..จนล่วงรอย

O ดูเอาเถิด..อกใจผู้ใฝ่หา
ปรารถนารอบชู้..ฤๅรู้ถอย
ความออดอ้อน, เคล้าคลอ..ผู้รอคอย-
ย่อมละห้อยระโหยอยู่..ไม่รู้วัน

O งดงามเอย..ช่อฝนยังหล่นร่วง
เมื่อความหวงแหนชู้โหมสู่ขวัญ
แววอาวรณ์อาลัยของใครกัน-
ช่วงโลมฝันแฝงอยู่ไม่รู้เลือน

O งดงามเอย..รุ้งลออหล่นล้อตา
ล้อมคุณค่าความหมาย..ลงป่ายเปื้อน
พิมพ์รูปรอยรูปจริต..ลงติดเตือน-
เอางามเลื่อนลงล้อมให้ยอมตน

O วูบไหวช่วงรมยา..แววตารู้-
รับนัยชู้อบอุ่นกลางฝุ่นฝน
รู้เถิดว่าหวานหอม..เจ้าล้อมลน-
นั้น-ล้อมจนเกินการต่อต้านแล้ว !




โดย: สดายุ... วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:15:18:04 น.  

 
คุณสดายุค่ะ..

ฟ้าหอบช่อดอกไม้มาขอบคุณ..ที่กรุณาช่วยแนะนำวิธีทำอักษร

เลื่อนและมอบกลอนพิรุณร่ำที่แสนจะไพเราะมาให้นะคะ..

นับว่าเป็นความโชคดีของฟ้าอย่างที่สุด..

ที่ระดับ..บรมครูกลอน..อย่างคุณสดายุ

มารจนาไว้ให้..ขอขอบคุณจากใจฟ้าจริงๆค่ะ






โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:15:50:24 น.  

 
ตามคุณฟ้ามาทักทายค่ะ
กลอนอ่อนหวานมากค่ะ เพลงก็ช่างชวนฝันชอบจัง


โดย: pranfun วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:16:42:47 น.  

 
สวัสดีครับคุณฟ้า....

กลอนบทนั้นผมเขียนในบริบทที่มีต่อหญิงสาวผู้หนึ่งในกาลเวลาที่ผ่านมาครับออกจะยืดยาวอยู่บ้าง....เดี๋ยวว่าจะลองบทสั้นๆดูบ้างสัก 5-6 บท

เป็นแค่คนเขียนกลอน...ยังไม่คู่ควรต่อคำว่า...บรมครูหรอกครับ

ขอบคุณช่อดอกไม้แสนสวย....ขอรับ





คุณพรานฝัน....
สวัสดี และยินดีต้อนรับครับ....กลอนบทนี้เป็นกลอนบทเก่าที่เอามาปรับใหม่...
ส่วนเพลง...ฌป็นเพลงบรรเลงสากลที่ผมชอบที่สุดครับ


โดย: สดายุ... วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:17:48:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ

...ขอใช้ชื่อนี้เข้ามานะคะ...ชอบความหมายชื่อตัวเองมาก...
เพราะแม่เป็นคนตั้งให้...

.....และอยากจะบอกว่า.....เจ้าของบ้านเป็นครูได้ค่ะ...แต่บรมไหม? ไม่แน่ใจ...

...ส่วนใหญ่เราจะพบว่าคุณครูส่วนใหญ่ ชอบติดคำพูดที่ว่า...จริงไหม...เข้าใจไหม...และนึกภาพออกไหมค่ะ....


...ครูค่ะ...ที่ชอบพูดภาษาแบบนี้.เจ้าของบ้านน่าจะจัดอยู่ในลักษณะประเภท ....ครูนอกระบบโรงเรียนหรือครูที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย นะคะ


โดย: แสงสว่าง IP: 10.24.1.118, 202.28.66.25 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:18:11:39 น.  

 

แสงสว่าง....
ผมเป็นครูที่ดีไม่ได้หรอกครับ...เพราะอารมณ์ไม่เย็นพอ...และถ่ายทอดอะไรก็ไม่ได้เรื่อง
คนเป็นครูได้ดีควรจะมีลักษณะใจเย็นและเข้าใจวิธีการถ่ายทอดความรู้ให้คนได้ในหลากหลายระดับ....และความสามารถทางการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของอาชีพครู...ตรงนี้ผมก็ตกครับ






คุณฟ้า...
บทนี้ผมเขียนตามมุมมองของผมเอง...เพียง 6 บท สำหรับตอบแทนมิตรไมตรี ขอรับ

O พิรุณร่ำ...O




O ละเม็ดคว้าง, คว้างหล่นแตกบนพื้น
พาโลกชื่นฉ่ำละมุนกับฝุ่นฝน
วิชชุลั่นเลื่อนเส้น..แล้วเต้นวน-
เมื่อแผ่นฟ้าเบื้องบน..มืด-อนธกาล

O กระหน่ำเม็ดหล่นคว้าง..ระหว่างเม็ด-
คล้ายสร้อยเพชรหล่นเส้นก่อนเร้นผ่าน
พารื่นเย็นพรมระลอก..เหนือดอกมาลย์
เลื่อนภาพอันตระการ..มาผ่านคอย

O พิรุณ..พิลาปร่ำ..แห่งค่ำนี้
บดบังดวงรัชนี..จนลี้-ถอย
เช่นงามทุกยามเอ่ย..เมื่อเผยรอย-
ยิ่งกว่าสร้อยพิรุณร่ำ..กลางค่ำคืน

O หยาดน้ำฟ้าร่วงหล่น..แล้วพ้นผ่าน
ให้ทุกการพบเห็นได้เย็นรื่น
หาก-น้ำใจล้อมรัดให้หยัดยืน-
อกใจคนย่อมฟื้น..จนคืนตัว

O แสงเดียววาบสว่างที่กลางฝน
ย่อมงามล้นแก่ตากลางฟ้าหลัว
หยาดน้ำใจอบร่ำกลางค่ำมัว
ย่อมงามทั่ว-ต้นสาย..ถึงปลายจร

O พิรุณพิลาปร่ำในค่ำผ่าน
จึงละลานงามตาเกินกว่าซ่อน
คล้ายแว่วเสียงกระซิบเบา..แผ่ว..เว้าวอน-
ว่าทุกตอนที่งาม..ช่างงามนัก !




โดย: สดายุ... วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:20:09:14 น.  

 
สวัสดีรอบที่สองของวันนี้นะคะ

.....ถ้าเป็นบทร้อยแก้ว ภาษาพูด เอฟติดลบ วัดจากการอ่านและคุยกับท่านมานานขึ้นปีที่หก
..แต่ร้อยกรองนี่ ต้องให้เอบวก

ชอบอ่านค่ะ ที่สำคัญเวลามีคนมีเขียนคอมเมนต์ใกนกระดานบอร์ดนี่ล่ะ ไม่ต้องดูละคอนหลังข่าวเลย มีครบทุกรส
มีทั้งนางเอก พระเอก ตัวอิจฉา (กำลังฝึกจินตนาการ..เผื่อจะเขียนบทร้อยกรองเก่งๆบ้างนะค่ะ)

การอ่านคอมเมนต์ที่นี่สนุกดีค่ะ ได้เรียนรู้วิธีคิด ธรรมชาติของคนได้ดี แต่ละคนมีความหลากหลาย..สงสัยต้องทำวิจัยเรื่องนี้ซักที

น่าสนใจ... คงต้องอ่านคนที่...มาคอมเมนต์ในเวปท่านตาแฉะแน่เลย....เอาไว้คิดชื่อเรื่องวิจัยเท่ห์ได้เมื่อไรจะมาบอกนะคะ รับลองว่าจะจะหมวดหมู่ให้เห็นชัดเลยว่า ประเด็นใดที่คนเข้ามาคุยด้วยมากที่สุด มีอารมณ์ และความพึงพอใจในประเด็นใดบ้าง ฯลฯ ดีจัง เดี๋ยวเอาไปให้ลูกศิษย์ทำดีกว่า.......... ท่านใจดี ท่านอนุญาตให้ทำอยูแล้วเนอะ

....ขอขอบคุณคนที่มาคอมเมนต์ในเวปท่านล่วงหน้านะคะ

บ้ายบายคะ


โดย: สวัสดีค่ะ IP: 10.32.1.241, 182.52.160.138 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:22:30:43 น.  

 
...แย่มากเลยพิมพ์ผิดเยอะเลย อ่านแล้วเดาเดาเอาบ้างล่ะกันนะคะ ขี้เกียจแก้คำผิดแล้ว


โดย: จิดา IP: 10.32.1.241, 182.52.160.138 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:22:34:43 น.  

 
ฟ้ามาอรุณสวัสดิ์กับคุณสดายุนะคะ..

ขอบคุณในน้ำใจที่แสนงดงาม..ที่ช่วยทำให้ฟ้ามีกลอนเป็น

เอกลักษณ์เป็นของตัวเองอย่างเพราะพริ้ง..

ถ้าลำพังตัวเองแต่งเอง..คงจะหาความงามเช่นนี้ไม่ได้กระมังค่ะ

ระดับเทพแบบคุณนี้..เพียงแค่ตวัดอักษรไปมาก็ร่วงพรูงามระยับ

เหมือนเพชรร่วงแล้วค่ะ..เยี่ยมสุดยอด!ชมจากใจจริงค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับมิตรภาพ...อันอบอุ่นที่ควรค่าแห่งการจดจำ

ไป...ตราบนานเท่านานค่ะ...ฟ้า




โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 16 มิถุนายน 2554 เวลา:7:00:03 น.  

 
สวัสดีค่ะ

รายละเอียดจะคุยทางเมล์นะคะ....

คิดว่าเป็นวิทยาทาน เพราะที่นี้เป็นพื้นที่สาธารณะ

ใช้นามแฝงกัน ไม่น่าจะเป็นปัญกาอะไร อีกอย่างถ้าเป็นข้อความแบบเจ้าของบ้านมีจิตปฏิพัทธ์กับสาวคนไหน หรือสาวคนไหนมีจิตปฏิพัทธ์กับเจ้าของบ้าน ข้อมูลตรงนี้จะถูกเซ็นเซอร์ค่ะ ไม่ต้องห่วง...

เพราะโดยอาชีพของตัวเองคือสอนคนที่มีอาชีพเป็นครู.....เจ็ดสิบเปอร์เซนต์ เช่นสอนผอ.และบุคลากรในสำนักงานเขตทั้งมัธยมประถม ครูเทศบาล ผอ.และครูโรงเรียน ดังนั้นการใช้ภาษาสื่อสารต่างๆนิสิตที่เป็นครูเหล่านี้ต้องมีความเข้าใจ เเพราะส่วนหนึ่งจะต้องนำไปพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่เป็นเด็กรวมไปถึงวัยรุ่น
......มันเหมือนกับเรากำลังแนะนำเกษตรกรที่กำลังเพาะดอกกล้วยไม้ ถ้าเค้าเพาะได้เก่ง กล้วยไม้จะออกดอกได้เร็ว และมีคุณภาพ ซึ่งการจัดการศึกษาก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน


โดย: จิดา IP: 10.32.1.241, 182.52.160.138 วันที่: 16 มิถุนายน 2554 เวลา:9:47:12 น.  

 
จิดา...แสงสว่าง....สวัสดีค่ะ....ฯลฯ

ผมแค่พูดให้ฟัง...ไม่ได้สนใจจะเรียนรู้อะไร...คงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องพูดทางอื่น....
ความเห็นก็คือความเห็น...มันจะเป็นความรู้ไปไม่ได้..ตราบใดที่เรายังไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง...ดังนั้นความคิดเห็นต่างๆทั้งหลายของคนเรา...บ้างก็ได้จากประสบการณ์เพียงคนเดียวไม่ใช่ค่าเฉลี่ยที่จะเอามาใช้กับผู้อื่นได้....และผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมันนัก...

ความคิดเกิดจากการใคร่ครวญพินิจพิจารณาพฤติกรรมที่ผ่านมาให้รับรู้....แล้วลงเป็นความเห็น...มันเป็นธรรมชาติของพฤติของจิต...เท่านั้นเอง....เป็นสภาพธรรมฝ่ายนามธรรมที่หาใช่สัจจะอะไรไม่....เพียงแต่แวดล้อมเราอยู่เท่านั้น...






คุณฟ้า...
สวัสดีครับ....ก็หวังว่าคุณฟ้าจะชอบกลอนที่ผมเขียนให้....
คนเขียนกลอนไม่มีอะไรจะตอบแทนน้ำใจไมตรีผู้คนดีเท่ากับการเขียนกลอนอันเป็นความถนัดมอบให้....

ผมชอบรูปฝนตกที่คุณฟ้าเอากลอนมาใส่มากเลย....ตัวอักษรแบบเดียวกับด้านบนบล็อคผมก็สวยงามมากเวลาเอามาเขียนบทกลอน....เข้าใจว่าเป็นอักษรภาพใช่ไหมครับ....ผมเองพยายามมาหลายครั้งยังทำไม่เป็นสักที....อิๆๆ

ทำงานให้สนุกและรักษารูปร่างให้ผอมเพรียวตลอดไปนะครับ...


โดย: สดายุ... วันที่: 16 มิถุนายน 2554 เวลา:10:07:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.