Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
6 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
O เภรีและคีตา .. O








เสน่หา


.
.
.. เภรี
O หลัง .. เสียงแผ่วแว่วหวานพลิ้วผ่านโสต
แรงปราโมทย์ในอก .. ก็ผกโผน
กระซิบความอาวรณ์แสนอ่อนโยน-
ค่อยผ่านโอนโอบขวัญนั้น - ขวัญเดียว
.
.
.. คีตา
O บรรยากาศเคลื่อนคล้อย .. อย่างอ้อยอิ่ง
ตากลับยิ่ง .. สื่อตอบ .. หลบ .. ลอบเหลียว
เมื่อหวานหอม - วนว่าย .. เริ่มคลายเกลียว
ใจย่อมเหนี่ยวหวานหอม .. เข้าล้อมลน
O หลัง-ความหมายแฝงนัย .. ผ่านให้คว้า
ความเหว่ว้าทั้งปวง .. ก็ร่วงป่น
ดั่งคิมหันตะกาลแรก .. ที่แทรกปน-
ด้วยสุคนธะประทิ่นล้อมถิ่นทาง
O บรรยากาศกรุ่นกลิ่นประทิ่นรส
เริ่มอวลบทบาทพร้อมเข้าล้อมขวาง
โดย-เนตร, พักตร์ .. เหลือบเบือนที่เหมือนวาง-
บ่วง .. ให้ย่างก้าวลง .. กลาง-วงนั้น !
O ลมเหมือนแผ่วผ่านไล้ลูบไอแดด
เมื่องามแวดล้อมให้ .. ความไหวหวั่น-
แทรกบทเข้าคุกคาม .. เกินห้ามทัน
กับแววสั่นไหวช่วงของดวงตา ?
O หรือ-เพื่อเผยเอางามผูกล่าม .. จิต
ให้แต่พิศรูปองค์ที่ตรงหน้า
แล้วแนบรูปงามซึ้งลงตรึงตรา
ให้คอยหาละห้อยเห็นไม่เว้นยาม ?
O เสียงคีตครวญ .. พ้นผ่านไปนานเนิ่น
เมื่อ-ขัดเขินสะเทิ้นอยู่ .. สุด-รู้ห้าม
ทุก-แววตาพริ้มพรับ .. เมื่อ-วับวาม
ก็รัดล่ามทุกครั้ง .. ให้ฝังใจ
O รูปธรรม .. ก้ำเกิน .. จำเริญรอบ
ค่อยเคลื่อนกรอบวัฏฏะวง .. หมุนวงให้-
อุปาทาน-ก่อเกื้อ .. ทอเยื่อใย-
เพรียกอาลัยพิสวาดิ .. รองชาติภพ !
O แต่แววตา .. สบพักตร์ จำหลักรู้
อาวรณ์ชู้หวานหอมก็ล้อมตระหลบ
จริตรูปอ่อนหวาน .. เคยผ่านพบ-
ราวถูกกลบเกลื่อนสิ้นจากจินตนา
O ยุติธรรมแล้วหรือ .. การยื้อยุด-
ด้วยงามผุดผ่องให้ .. อาลัยหา
ยุติธรรมเยี่ยงไร .. รูปในตา-
แม้ติดนานนักหนา .. ยังตราตรึง !
O แต่เมื่อรูปรอยพักตร์ .. กุมกักให้-
ทั้งความคิดจิตใจเฝ้าใฝถึง
ก็รับรู้หวานล้ำในคำนึง-
และหวานซึ้งวาบไหวทั้งใจกาย
O จนเมื่อแววตาชม้ายนั้นชายเหลือบ
หวานก็เคลือบอารมณ์เกินข่มหาย
ทั้งอ่อนไหว, อ่อนละมุน .. ทั้งวุ่นวาย-
เปล่งจากสายตานั้น .. ล่าม-พันธนา
O ปรุง-วิญญาณจักขุ .. บรรลุรู้-
ว่า-งามผู้เผยรอย - ให้คอยหา
ค่อยล่มงามทุกงาม .. เคยงามตา-
จนเหลืองามเบื้องหน้า .. เพียงหน้าเดียว !



Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 9 พฤษภาคม 2566 13:00:48 น. 2 comments
Counter : 3659 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ...

มาอ่าน ตัวน้อยเอย2 ไพเราะจังค่ะ อ่านไปอิตต๋าตัวน้อยไป ...

วันนี้อากาศเย็นกว่าเมื่อวาน กำลังสงสัยว่าพรุ่งนี้จะเย็นกว่าวันนี้มะ... ดีตรงที่หมอกควันไม่หนาเหมือนตอนปลาย มค. ไม่งั้นละแย่แน่ๆ ทัศนวิสัยในการขับขี่ไม้กวาดไม่ดี..

บ้านใหม่ ของคุณสดายุคงทำให้เหนื่อยกว่าเดิมนะคะ เพราะแม่มดขี่ไม้กวาดไปส่องมา 2 ชั้นนี่ ทำความสะอาดแย่เลยเนาะ?

บอกคุณตัวน้อยสิคะว่า อย่ามัวแต่แอ่ว ไปส่องทำไมรถไฟรางคู่ นั่งส่องลูกแก้วที่บ้านก็เห็นได้น่า เส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะผ่านอีก คงต้องวิ่งเหยียบกะลาเก่าๆไปก่อนที่จะรอถนนลูกรังจะหมดอะน๊า...

ปัญหาเยอะเพราะพวกอยู่ในกะลามองไม่เห็นโลกกว้างน่ะค่ะเลยติดยึดกับวรรณคดีมากไป คงอินไปกับพระนางในวรรณคดีเหล่านั้น ทั้งๆที่ตัวก็มาจากคนชั้น "ขี้ข้า" 555+


โดย: witch IP: 118.172.111.26 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:9:09:20 น.  

 
ตัวน้อย ..
โลกจะกว้างใหญ่ หรือ คับแคบแบบใต้กะลาก็อยู่ที่สายตาที่เราเรียกว่า "ทัศนวิสัย"

อะไรที่ไม่สอดรับกับสามัญสำนึก นั่นคือ การปรุงแต่งแสร้งทำทั้งสิ้น .. หรือ ดัดจริต

เช่น รักเทิดทูนบูชาใครสักคนราวเทวดา ทั้งๆที่เป็นไปไม่ได้ที่จะมี the perfect one ในชีวิตจริงให้พบเห็น

คนพวกนี้จึงจมอยู่ใน"โลกเสมือนจริง" อันมีพื้นเพมาจาก จริตในตน (ที่แบ่งตามจริต 6)

...........

๑.ราคจริต คือผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางราคะ รักสวยรักงาม ละมุนละไม ชอบสิ่งที่สวยๆ เสียงเพราะๆ กลิ่นหอมๆ รสอร่อยๆ สัมผัสที่นุ่มละมุน และจิตใจจะยึดเกาะกับสิ่งเหล่านั้นได้เป็นเวลานานๆ

๒.โทสจริต คือผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางโทสะ ใจร้อน วู่วาม หงุดหงิดง่าย อารมณ์รุนแรง โผงผาง เจ้าอารมณ์

๓.โมหจริต คือผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางโมหะ เขลา เซื่องซึม เชื่อคนง่าย งมงาย ขาดเหตุผล มองอะไรไม่ทะลุปรุโปร่ง

๔.วิตักกจริต หรือวิตกจริต คือผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางฟุ้งซ่าน คิดเรื่องนี้ทีเรื่องนั้นที เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่สามารถยึดเกาะกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานๆ
วิตก แปลว่าการยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ หรือการเพ่งจิตสู่ความคิดในเรื่องต่างๆ ไม่ได้หมายถึงความกังวลใจ วิตกจริตจึงหมายถึง ผู้ที่เดี๋ยวยกจิตสู่เรื่องโน้น เดื๋ยวยกจิตสู่เรื่องนี้ ไม่ตั้งมั่น ไม่มั่นคงนั่นเอง

๕.ศรัทธาจริต หรือสัทธาจริต คือผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางศรัทธา น้อมใจเชื่อ เลื่อมใสได้ง่าย ซึ่งถ้าเลื่อมใสในสิ่งที่ถูกก็ย่อมเป็นคุณ แต่ถ้าไปเลื่อมใสในสิ่งที่ผิดก็ย่อมเป็นโทษต่างจากโมหจริตตรงที่โมหจริตนั้นเชื่อแบบเซื่องซึม ส่วนศรัทธาจริตนั้นเชื่อด้วยความเลื่อมใส เบิกบานใจ

๖.ญาณจริต หรือพุทธิจริต คือผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางชอบคิด พิจารณาด้วยเหตุผลอย่างลึกซึ้ง ชอบใช้ปัญญาพิจารณาตามความเป็นจริง ไม่เชื่ออะไรโดยไม่มีเหตุผล

โดยความเป็นจริงแล้ว คนเรามักมีจริตมากกว่า 1 อย่างผสมกัน เช่น ราคโทสจริต ราคโมหจริต โทสโมหจริต ราคโทสโมหจริต สัทธาพุทธิจริต สัทธาวิตกจริต พุทธิวิตกจริต สัทธาพุทธิวิตกจริต เป็นต้น เมื่อรวมกับจริตหลัก 6 ชนิด จึงได้เป็นบุคคล 14 ประเภท หรือ 14 จริต

............

จะมีด้านไหนมากน้อยก็เป็นดัชนีชี้วัดมาแต่เด็ก เช่น ..

.. ไม่ชอบวิชาคำนวณเพราะมีจริตไม่ชอบเหตุผลและไม่ชอบลำดับขั้นตอน
.. จินตนาการเก่ง เพราะมีจริตเป็นพวกรักสวยรักงามและชอบความง่าย การแค่นึกเอามันง่ายที่สุดแล้ว

ดังนั้น หัวโบราณ-อนุรักษ์นิยม จะชอบรถไฟความเร็วสูงได้อย่างไร .. แต่หากให้มานั่งรถม้าที่ลำปาง อาจเป็นที่ถูกจริตมากกว่า - 55

หนังละคอนก็จะชอบแบบ หล่อ รวย สวย วันๆไม่ทำอะไรตบตีแย่งผู้ชายกันไป .. แบบครูบ้านนอกหนังแนวอุดมการณ์อาจหนักสมองไปสำหับคนที่ไม่ชอบคิดเชิงสาระ

เราเลี่ยงคนเหล่านี้ไม่พ้น - พยายามหลบๆเอาก็แล้วกัน .. อิๆๆ

นะ-ตัวน้อยของ ..


โดย: สดายุ... วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:00:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.