O แก้วเอย .. O
Orchester Anthony Ventura - Love Story O กรอบกาลเลื่อนเพ็ญจันทร์ขึ้นชั้นฟ้าเมื่อดวงภาณุมาศลับ .. รำงับแสงที่โค้งฟ้าจรดน้ำ .. สี-ก่ำแดง-ทอดลงแต่งระลอกคลื่น .. โลมพื้นน้ำO ปลายปีกนกฉีกกางลอยร่างร่อน-โผขึ้นกลางอัมพรแล้วย้อนต่ำแว่วสรรพเสียงผ่านลมที่พรมพรำ-พาหม่นมัวมืดดำ .. เข้าอำพรางO จะลืมฤๅได้สิ้นนะกลิ่นเจ้าเมื่อคอยเฝ้าถวิลอยู่แต่ตรู่สางในค่ำดึกหม่นมืด, .. หากจืดจาง-ก็แต่ความหมองหมาง .. ที่ร้างลาO ด้วยอาวรณ์ถวิลอยู่ .. ความรู้สึก-ในส่วนลึกเฝ้าแต่คอยละห้อยหากอปรความหมายอบอุ่นเจ้าหนุนมาก่อคุณค่าขึ้นขจ่างที่กลางใจO สื่ออาลัยใจคน .. ฝ่าหนหาวฝากแสงเดือนหมู่ดาว .. วับวาว-ให้-เชื่อมส่งผ่านเสน่หาจากฟ้าไกลสู่จิตใครร่วมสดับ .. ตอบ-รับรองO สืบส่งความมุ่งหมายรำบายบอกรอนระลอกวิปโยคแห่งโลกผองหวานหอมอบอุ่นนำ .. ท่วงทำนอง-ร่วมพร่ำพร้อง .. พิสมัยเป็นนัยเดียวO รอบอบอุ่นแทรกซ้ำอยู่ค่ำเช้าพาใฝ่เฝ้าคอยแต่ชะแง้เหลียวกลางเหน็บหนาวรอบฤดูลมกรูเกรียวก็โน้มเหนี่ยวอาวรณ์แนบนอนทรวงO พร้อมความหมายผ่านบอก หอมดอกไม้-ก็หอมให้เสพรับ .. ลำดับช่วงพร้อมหัวใจหอมล้ำ .. ถ้อยคำ-ปวง-ก็ย้อนช่วงความหวัง .. อีกครั้งคราวO วานนั้นลมร่ำไหล .. หัวใจตื่นอ้อยอิ่งอย่างแช่มชื่น .. กับคลื่นหนาวโคมบนสรวงช่วงระยับ ..แสงวับวาวเมื่อเรื่องราวบางตอน .. กลับย้อน-เยือนO จากหนาวเป็นรุมร้อน .. สุดผ่อนผันพร้อมรำพันเชิงชู้ .. ที่ดูเหมือน-แฝงความนัยซ่อนวาง .. อยู่รางเลือน-เพื่อจะเกลื่อนกลบหมายให้คลายลงO เช่นมาลย์หอม .. ผึ้งภู่ .. ก็รู้เคล้าคำกรองเย้ายั่วอยู่ .. ก็รู้สง-สัยคารมคมคำ .. และจำนงจึงเลยหลงสนเท่ห์ .. ตอบเล่ห์การณ์O เอ็นดูมากนักแล้ว .. นะแก้วเจ้าแต่คอยเฝ้ารายล้อมด้วย .. หอมหวานมธุรสเว้าวอน .. ออดอ้อนปาน-ทอถักสานเป็นบ่วงคล้องดวงใจO จนค่อยเผยความหมาย .. รำบายบอกผ่านท่วงทียั่วหยอก .. ล่อหลอกให้-ผู้ลอบเร้นอ่านอยู่ .. พึงรู้นัย-แฝงความไว้ .. รับขวัญ .. ด้วยพรรณนาO ใครหนอ .. แก้มเนื้ออิ่ม .. ซ่อนยิ้มอยู่รอเชิงชู้คำชาย .. รำบายหาหมายเสกสั่งใจคน .. ด้วยมนตราเต็มอยู่ด้วยเสน่หา .. ทุกท่าทีO สุมาลย์สอดกลีบสวย .. อำนวยให้-ภู่ผึ้งไหวว่อนถิ่น .. เคล้า-กลิ่น, สีตฤปร่ำรสหอมหวานสุมาลย์มีเมื่อใจนี้ร่ำขอ .. แต่รอคอยO วิหคเหินถลาลม .. เสียงขรมอยู่แว่วรับรู้ .. ว่าพิโยค .. เคยโศกสร้อย-ได้ล่มลาญจากทรวง .. จนล่วงรอยเหลืองดงามพร่างพร้อย .. ขึ้นคอยเคียงO ปีกบางภู่ภมร .. ไหวว่อนถิ่นเมื่อถวิลอาลัย .. เริ่มให้เสียงสดับเถิดความถ้อย .. ที่ร้อยเรียงก็เพื่อเพียงผ่านอุโฆษ .. ถึงโสตใครO เพื่อใคร .. ต่อแต่นี้ .. หากลี้หน้าจงท่วมทัณฑ์ทรมา .. จนกว่าได้-มอบอาวรณ์ยินยอม .. อย่างพร้อมใจวางลงไว้กลางมือ .. ให้ถือครองO ถ้วนองค์ทั้งอกฟ้า - - แลดินนบเทพทังสาวสินธุ์ - - สื่อรู้พระเอยสะโรชริน - - มนต์ร่าย ร่วมฤๅร่วมพากย์แจ้งใจชู้ - - ชื่นด้วยชายเดียว ฯ
ชายเดียว...
"O จะลืมฤๅได้สิ้นนะกลิ่นเจ้า"ทำให้นึกถึง งานของเจ้าพระยาพระคลัง(หน):
"รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้ เหมือนเมื่อไปร่วมภิรมย์ประสมศรี
ในสถานพิมานสิมพลี กลิ่นยังซาบทรวงพี่ทั้งวรกาย
นิจจาเอ๋ยจากเชยมาเจ็ดวัน กลิ่นสุคันธรสรื่นก็เหือดหาย
ฤๅว่าใครแนบน้องประคองกาย กลิ่นสายสวาทซาบอุรามาฯ"(กากี)
นึกขอบคุณคุณครูที่บังคับให้ท่องจำกลอนอันไพเราะได้...
สดายุ ลูกของพญาครุฑ นี่ คงจะอยู่ ฉิมพลี ด้วยซินะ..