O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O

Secret Garden - Sanctuary
-1- O หอมรสรื่นรวยริน .. ของกลิ่นโมก รำบายโบกแผ่วเบา .. รุมเร้าหา ลำเพาพักตร์นวลลออ .. ก็คลอตา- ด้วยสัญญากุมกัก .. สุดหักล้าง O ลิบลิบกระพริบช่วงแห่งปวงดาว ก็ดูราววิบไหว .. แสนไกลห่าง- จากโลกหล้า, เปลื้องปรุงแสงรุ่งราง- คงอยู่ค้างฟ้าทะมื่นในคืนแรม O ลิบลิบดารดาษดวง .. ในสรวงฟ้า เช่นนัยน์ตาวามแสงเมื่อแต่งแต้ม- ด้วยรูปรอยรอบอุทธัจ .. ระบัดแกม คาบนั้น-แซมสอดหมาย .. รำบายความ O เพียงแสงช่วงปวงดาว .. เห็นวาววับ เนตรพริ้มพรับเบื้องหน้า .. ฤๅ-ฝ่าข้าม โลกทั้งดวงดูเหมือน .. จะเลื่อนตาม และวาบหวามหวานหอม .. ก็ล้อม-ลน O จึงน้อมรับระยับช่วง .. สองดวงดาว ที่ช่างวาววาบปลั่งอีกครั้งหน ความอ่อนหวานอ่อนไหวแห่งใจคน ต่างฤๅโซ่พันวน .. เกินด้นดึง O ระทึกและสั่นไหว .. อกใครหนอ- หลังเติมต่ออาลัยส่งไปถึง ร่วมครอบครองคุณค่าอันตราตรึง เสพหวานซึ้งซ้ำอยู่ไม่รู้เลือน O นึก-ระทึกวาบหวิวจนริ้วแก้ม- ราวเกลี่ยแกมเลือดฝาดเข้าปาดเปื้อน- เพื่ออยู่รอ-สายตา .. ผ่านมาเยือน รอ-ด้วยใจสั่นสะเทื้อนสะทกสะท้าน O เลือดในอกร่ำรอ .. เมื่อหล่อเลี้ยง อุ่น-ฤๅอาจหลีกเลี่ยง .. ลำเลียงผ่าน ขัดเขินสักเพียงใด .. หนอใจคราญ จักซึ้งซ่านเพียงไหน .. หนอใจนั้น ? O ชั่วเคลิ้มคิดคล้อยตาม .. กับความว่า ภาพ-แววตาซ่อนนัย .. ก็ไหวสั่น- เป็นภาพความละห้อยเห็น .. ไม่เว้นวัน- ทุกช่วงสัญญาคนวก-วนคิด O ชั่วเคลิ้มคิดคล้อยตาม .. ถ้อยความสื่อ ตรองเถิดหรือ .. ความปวงจากดวงจิต- ล้วนเร่งรอบอาลัย .. มาใกล้ชิด เพื่อถือสิทธิ์รูปนาม เอาล่ามพัน O แม้นหนทางขวางกั้น .. ด้วยอรรณพ อาจบรรจบด้วยใคร .. แต่ในฝัน ยังยอมอยู่เปล่าเปลี่ยว .. ใต้เสี้ยวจันทร์ ด้วยใจหนึ่งนี้นั้น .. ดื้อรั้น-คอย O ดึกสงัดพราวพร่าง .. น้ำค้างหยด ลมตอบบท .. แขเปลื้องแสงเงื่องหงอย แรงคำนึงถวิลชู้ .. ที่อยู่คอย- เพียงรูปรอยพักตร์พิไล .. พริ้มนัยน์ตา O ในฝัน .. ฝันว่าฝน .. นั้นหล่นสาย เนื้อ, อุ่นอาย, อ้อมแขน..ที่แม้นว่า- หากโลกนี้แหลกยับไปกับตา ยอม .. ชีวาดับล่วง .. กับทรวงนั้น ! O ในฝัน .. ฝันว่าฝน .. ค่อยหล่นร่วง และแววหวงอาลัย .. ก็ไหวสั่น สองแขนเรียวเยี่ยงโจทก์ .. จองโทษทัณฑ์- รัด ผูกพัน ให้ประโลมผู้โฉมเพ็ญ !
-2- O ขวัญเอย .. ขวัญพี่ แต่วันที่ผ่านมาให้ตาเห็น ก็ตรึงกลางห้วงฤดี .. อย่างที่เป็น คอยบีบเค้นคะนึงอยู่ไม่รู้เลือน O แต่บัดนั้นจนบัดนี้อย่างที่เห็น สุดจะเร้นรูปรอยให้ถอยเคลื่อน ทุกหลับฝันคอยนิมิต .. รูปติดเตือน จะเกลี่ยเกลื่อน .. เคลียคลอก็ทรมาน O เคยหรือใจ-หยุดคิด-แม้นิดหนึ่ง หยุดซาบซึ้งแนบน้อมความหอมหวาน เกรงหยุดแล้ว .. จะเดือดดิ้นทั้งวิญญาณ เกรงจะผลาญพร่าหวัง .. จนพังยับ O เมื่อมีรูป .. มีใจ-หวั่นไหวรูป เหมือนโดนสูบอารมณ์ .. สุดข่ม-ขับ ละห้อยหา, แหนหวง .. เกินหน่วงนับ ก็โถมลงสำทับให้รับรู้ O อาวรณ์ในสำนึก .. ที่ลึกล้ำ ก็ค่อยเผยนัยคำ .. เฝ้าย้ำสู่ หมายเนตรผู้อาทร .. แอบซ่อนดู เสพทราบอยู่ด้วยใจ .. หวั่นไหวตาม O เติบเต็มเป็น .. คุณค่าขึ้นปรากฎ ด้วยรูปรสประณีตลักษณ์ .. สุดหักห้าม หนึ่งคน .. หนึ่งดวงใจก็ไหววาม- ไหวอยู่กลางคาบยามแห่งความรัก O เวิ้งว้างห้วงมหรรณพ .. ภาคภพนี้ พรหมขีดชี้ .. ดวงชะตาเกินฝ่าหัก แต่รูปหนึ่งเลื่อนเลยมาเผยพักตร์ ก็จำหลักอาวรณ์ .. เกินซ่อนนัย O จากหนาว-ร้อน-แล้ง-ฝน .. แล้วจนหนาว- อีกครั้งคราว, บ่วงรักเกินหักได้ กี่ฝุ่นฝนหล่นล่วง .. หนอดวงใจ- ที่เยื่อใยผูกพัน .. จักมั่นคง O สดับเถิดคำกรองทำนองพากย์ จักแฝงฝากพิสวาดิด้วยชาติหงส์ พินิจเถิดนัยคำ .. ว่าจำนง- นี้-มั่นคง งดงาม .. ทุกความนัย O .. ว่าอ้อมอก .. อาทร .. รออ้อนซบ- แนบหน้าอบอุ่นขวัญ .. ทอนหวั่นไหว จะกล่อมเกล้าโอบกาย .. คลี่สายใย รัดพันไว้ .. สุดวิถีแห่งชีวัน O หาก-เมินเฉยซ่อนเร้น .. ไม่เห็นหน้า ใคร-อาจท่วมทรมาถึงอาสัญ หากรอคอย .. ละห้อยเห็น ไม่เห็นกัน จะโศกศัลย์สุดเทวษทวีทรวง O รับรู้เถิด .. รอถนอมละม่อมพักตร์ รอโอบกอดกุมกัก .. ด้วยรัก-หวง เพียงหนึ่งที่วาดหวัง .. ใจทั้งดวง พึงเลื่อนล่วง .. สำทับ .. แนบกับใจ O ขวัญเอย .. ขวัญพี่ ค่ำคืนนี้ .. ดาวดับเดือนหลับใหล อ้อมแขนอุ่น, เสียงครวญ, เนื้อนวลใย- จักดลฉันทะสมัยมา .. ให้ตระกอง !
Create Date : 08 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 15 เมษายน 2566 13:17:02 น. |
|
14 comments
|
Counter : 4444 Pageviews. |
 |
|
|
สดายุ!
"O หาก-เมินเฉยซ่อนเร้น .. ไม่เห็นหน้า
ใคร-อาจท่วมทรมาถึงอาสัญ
หากรอคอย .. ละห้อยเห็น ไม่เห็นกัน
จะโศกศัลย์สุดเทวษทวีทรวง"
"แม้นมิไปช่วยจะม้วยมอด ด้วยสังข์ทองไม่ถอดรูปเงาะป่า
จำจะยกพหลพลเทวา ลงไปล้อมพาราสามนต์ไว้"(สังข์ทอง)
555