O หอมดอกแก้ว .. O

Secret Garden - Chaconne
O กลางริ้วลมโรยระลอก .. หอมดอกแก้ว คล้ายเสียงหนึ่งผ่านแว่ว .. ดังแผ่วหวาน ค่อยรุมเร้าเจตจินต์ .. เหนี่ยววิญญาณ- เสพรับความทรมาน .. ที่ผ่านคอย O อ้อยอิ่งสังคีตครวญ .. เสียงหวนไห้ กลางกลิ่นไอ .. เย็นเยียบแสนเงียบหงอย สื่อส่งความพร่ำพร้อง .. ฝาก-ร่องรอย- ผ่านแววตาเหลือบชม้อย .. ชม้าย .. เมิน O อ่อนหวานทั้งอ่อนไหว .. หัวใจหนอ กับเนียนแก้มนวลลออ .. ที่พอเขิน- ก็ซับเลือดเรื่อก่ำ .. ขึ้นก้ำเกิน- ยั่ว-หยอกเอินปรารถนา .. ในตาชาย O เผยรูปพักตร์งดงาม .. คุกคามอยู่ กอปรนัยชู้ลุกลาม .. สื่อความหมาย นัยเร้นซ่อนวับวาม .. ทุกยามปราย- แววเนตรคล้ายพร้องพร่ำ .. รับจำนง O ละครั้งคราว .. ลมพัดสะบัดริ้ว ขลุ่ยก็พลิ้วเสียงขับ .. ขึ้น .. รับ-ส่ง สายเยื่อใยพาดพัน .. ก็-บรรจง- ล้อมเป็นวงผูกเงื่อนที่เรือนใจ O อ้อยสร้อยขลุ่ยโหยหวน .. ความครวญคร่ำ เฝ้าคอยบำเรอขวัญ .. ผู้หวั่นไหว ผ่าน .. แตะ .. ตื่นเสน่หา, ความอาลัย- ก็ผ่านนัยออดอ้อน .. ไม่ผ่อนเพลา O กรุ่นกลิ่นแก้วหอมร่ำ .. ขลุ่ยคร่ำเสียง ซ้ำซ้ำเพียงพอให้ .. หัวใจเหงา- รื่นรมย์ด้วยโลมลูบ .. แห่งรูปเยาว์ ที่คอยเร้ารุมหวานมาผ่านคอย O แววอุทธัจ .. ขลุ่ยผิว .. รอบริ้วลม ราวห้อมห่มหล้าโลก .. พ้นโศกสร้อย ยอ-งดงามทั้งผอง .. ให้ล่องลอย- เหนี่ยวแรงหวังตั้งคอย .. ผ่านร้อยเรียง O ลมระบัด .. ขลุ่ยหวาน .. พลิ้วผ่านโสต ดาลปราโมทย์ถ้วนสิ้น .. แต่ยินเสียง ในความหมายตอกย้ำ .. แห่งสำเนียง- คือหวานหอมเกินเลี่ยงหรือเบี่ยงพ้น ! O ขลุ่ยยังคงคร่ำครวญ .. เสียงหวนไห้ หากหมองไหม้ในทรวงกลับร่วงป่น เยี่ยงใบไม้บอบบางร่วงคว้างบน- ริ้วลมวน-วกระลอก .. คอยหยอกเย้า O อ่อนหวานทั้งอ่อนไหวหัวใจนั้น ค่อยผูกพันรัดเหนี่ยวพาเปลี่ยวเปล่า- ลบเลือนจากเส้นทางจนร้างเงา ให้เหลือเพียงรูปเยาว์ .. ที่เฝ้ารอ O ริ้วลมหนาวผ่านสาย .. เมื่อสายแล้ว โลมลูบแก้วระริกไหว .. ก้าน .. ใบ .. ช่อ ต้องลมหนาวล้อมรุมทั้งพุ่มกอ ต่างฤๅพักตร์นวลลออ .. ร่ำรอชม O โอ .. เลือดฝาดแต่งแต้มเนียนแก้มอิ่ม หรือ-สบยิ้มอ่อนหวาน .. แล้วซ่านสม ? โอ .. ท่วงทีเอียงอายกลางสายลม- ฤๅ-อาจข่มขับล้างให้จางรอย ? O เข้าสาย .. ลมอ่อยเอื่อย, นกเจื้อยแจ้ว เมื่อลมร่ำโลมแก้วอย่างแผ่วค่อย ต่างฤๅอารมณ์ชู้ที่รู้คอย- เฝ้าแหนหวงอ่อนน้อย .. รูปรอยนั้น O แก้ว .. ปีบ .. โมกดอกขาว .. อะคร้าวรูป ต้องลมลูบโลมไล้ .. ก็ไหวสั่น แววในตาสบหมายย่อมคล้ายกัน ต้องเลศนัยไหวหวั่น .. สุดบั่นทอน O ขลุ่ยสังคีตยังครวญเสียงหวนไห้ เมื่ออาวรณ์อาลัยเกินไถ่ถอน รับรู้เถิดใจเจ้า-ความเว้าวอน- ย่อมออดอ้อนอยู่พร้อมอย่างยอมใจ O กลางริ้วลมโรยระลอก .. หอมดอกแก้ว- ก็หอมแล้วหอมอีก .. เกินหลีกไหว อาจรุมเร้าเจตจินต์ .. ตราบสิ้นไป- แห่งเปลวไฟลุกช่วง .. ทุกดวงดาว !
Create Date : 13 ธันวาคม 2556 |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2566 21:31:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3137 Pageviews. |
 |
|
|
|
|