1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
O ค่ำนี้ .. O
VIDEO Giovanni Marradi - Land Of Dreams O ฟังเถิดผู้ ปากยิ้ม .. ตาพริ้มหลับ จะพร้องศัพท์ละเมอถ้อย .. ว่าคอยพี่ บรรสารความปรารถนาในวาที ให้โสตที่เฝ้าถวิลพลอยดิ้นรน O หวังถึงเนตรอ่อนโยน .. แววโชนฉาย แฝงเอียงอายอ่อนละมุนกลางฝุ่นฝน จักเผยพาดอาลัยหัวใจคน แล้ววกวน-ล้อมขวัญ, รัด-พันธนา O ลับรูป .. หากคะนึงยังตรึงอยู่ จากรับรู้ .. เฝ้าคอย .. ละห้อยหา อบอุ่นด้วยอ่อนหวานวาบผ่านตา ที่เหมือนว่าสื่อสู่ .. จนรู้ทัน O ลบเลือนฤๅ .. เพียงพรับคล้ายกับว่า เรียวรูปหน้าผุดขวางขึ้นกลางฝัน จะฝ่าพ้นอาลัย .. เยี่ยงไรกัน เมื่อกางกั้นทิศทาง .. ทุกย่างเดิน O พร้อมกับที่-หมดสิ้นแรงดิ้นรน- คือตาคนสัมผัส .. แววขัดเขิน พ่ายแพ้ แรงอุ่นล้ำ .. ที่ก้ำเกิน ก่อนลุกลามจำเริญ .. อยู่เนิ่นนาน O โหดร้ายกันจริงหนอ .. ลออลักษณ์ เผยรูปพักตร์เนียนละม่อม .. เพรียกหอมหวาน- ให้อบอวลอารมณ์จนซมซาน จนสุดต้านทานอยู่ .. แม้น-ครู่เดียว O สุดป้องแล้วนฤมิต .. จริต-โฉม ดลรอบโสมนัสเคลือบ .. ทุกเหลือบเหลียว เร้าอาวรณ์เลื่อนแล่น .. ดั่งแขนเรียว- โอบ - รั้งเหนี่ยวคลอเคล้า .. ให้เฝ้ารอ O ผ่านมาให้อบอุ่นและคุณค่า เร่งฤทธาลามช่วง .. เป็นบ่วงช่อ- สายเยื่อใยสวาดิเยาว์-พะเน้าพะนอ ก่อนทอดทอแรงรักจำหลักลง O จึง-ทุกห้วงคำนึง .. แม้นกึ่งคาบ ราวเพรงสาปเคยสุม .. พาลุ่มหลง- ตามช่วงลมหายใจ .. สั่นไหว-บง- การ-เรื้องแรงจำนง .. ข้ามวงวัฏฏ์ O แหนหวงการพร่ำพลอด .. ความออดอ้อน- แผ่ว-เว้าวอนเพราะพร้อง .. เกินป้อง-ปัด กุมอารมณ์แนบน้อม .. ละม่อมลักษณ์ ผู้จำหลักแรงถวิล .. ลงจินตนา O เอ็นดู-ความอาวรณ์แสนอ่อนไหว- อันแฝงนัยบ่งชี้ .. ในทีท่า แหนหวงความหอมหวานแห่งมารยา เจ้าเอยรู้ไหมว่า .. ใคร-อาวรณ์ ?
Create Date : 10 สิงหาคม 2559
Last Update : 13 เมษายน 2566 20:55:36 น.
28 comments
Counter : 3471 Pageviews.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 10 สิงหาคม 2559 เวลา:16:42:37 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 10 สิงหาคม 2559 เวลา:19:37:41 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 11 สิงหาคม 2559 เวลา:21:17:21 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 12 สิงหาคม 2559 เวลา:8:52:32 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 12 สิงหาคม 2559 เวลา:13:49:30 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 12 สิงหาคม 2559 เวลา:19:14:55 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 13 สิงหาคม 2559 เวลา:1:18:35 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 13 สิงหาคม 2559 เวลา:11:00:38 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 13 สิงหาคม 2559 เวลา:12:24:12 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 13 สิงหาคม 2559 เวลา:18:40:55 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 13 สิงหาคม 2559 เวลา:19:40:05 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.240.145 วันที่: 14 สิงหาคม 2559 เวลา:1:43:06 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 14 สิงหาคม 2559 เวลา:8:54:24 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 14 สิงหาคม 2559 เวลา:9:45:31 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.240.145 วันที่: 14 สิงหาคม 2559 เวลา:13:03:19 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 14 สิงหาคม 2559 เวลา:19:24:09 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 15 สิงหาคม 2559 เวลา:1:52:33 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 15 สิงหาคม 2559 เวลา:6:27:26 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.240.145 วันที่: 15 สิงหาคม 2559 เวลา:15:10:45 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.240.145 วันที่: 15 สิงหาคม 2559 เวลา:22:09:41 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 16 สิงหาคม 2559 เวลา:6:03:32 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.201.164 วันที่: 16 สิงหาคม 2559 เวลา:16:44:50 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:6:45:02 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.240.145 วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:11:26:47 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:6:51:02 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.240.145 วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:10:02:21 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:14:45:05 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 188.165.240.145 วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:15:32:25 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [? ]
O สิ้นสวาดิ .. O O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้ อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้ O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่ สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ? O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา- ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่ ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !
"ค่ำนี้.." พี่จะมี ใครเคียงข้าง
หนาวน้ำค้าง เหน็บจิต ให้คิดห่วง..." 555