O แรกเช้ามาลย์ช้อยกลีบ.....ก้านรอ- รับแดดอ่อนทอดทอ............กระทบไล้ เมื่อลมรื่นแอบออ-..............โอบผ่าน งามย่อมงามอยู่ได้..............แต่ด้วยใจเกษม ฯ
O มาลีอวลกลิ่นเชื้อ-...........เชิญภมร จนกระพือปีกสลอน.............สลับสล้าง หมายเสพรสเกสร...............หวานสุด เกินจะร่ำลาร้าง...................รสน้ำหอม-หวาน ฯ
O อำไพโอภาสเรื้อง............รอยสูรย์ ยอโลกรับจำรูญ.................แรกเช้า ข่มหมองหม่นอาดูร.............ดับมอด เชื้อแฮ เหลือรื่นรมย์รุมเร้า..............ร่วมคล้อยเคลื่อนสมัย ฯ
O ยามสายสุริยะแปล้...........ปลาบสรวง พระธาตุลำปางหลวง............เหลื่อมสะท้อน ถ้อยคำเทียบความบวง-........บอกทิพ เทพนา ขอทุกคำ-ความย้อน............แทรกย้อมใจขวัญ ฯ
O กบมือกุมมาศน้อม...........วันทนา นิ่งนึกขอเมตตา..................ช่วยแต้ม- แต่งรสเล่ห์เสน่หา................ละห้อยห่วง ให้ทุกคำคอยแย้ม...............จิตย้อมแรงถวิล ฯ
O หวังสามโลกรับรู้.............แรงถวิล แต่อ-บายจ-รดดิน..............ตราบฟ้า แรงช่วงแห่งดวงทิน-............กรแผด เผาเฮย ฤๅเทียบแรงไขว่คว้า............ฝากถ้อยอธิษฐาน ฯ
O กรประนมก้มกราบ...........กอปรพร พระเอย หวังช่วยอำนวยกลอน..........กล่าวให้- จับจิตจับใจอร....................อวลแต่ ความนา คำทุกคำกล่าวไว้................อย่ารู้เลือนสลาย ฯ
O คงกรรมพาร่วมพ้อง..........พบกัน จึงภาษกรองรำพัน..............แผ่ล้อม ขวยเขินแต่โลมขวัญ............ฝากเลศ นัยแม่ ใจเมื่อหวามจึ่งน้อม.............แนบเนื้อความเสนอ ฯ
O จำรูญจำรัสเบื้อง..............บูรพา เมื่อหัตถ์ทิพนำพา...............พบพ้อง โอนฤทธิ์แห่งอิฏฐา..............ทอดบท สัมผัสเนื้อความต้อง............แต่ละห้อยคอยเห็น ฯ
O รอคอยแต่ภพเบื้อง...........บุพกาล เริ่มเมื่อชีวาตม์ลาญ..............ลับเจ้า จำพรากสู่ทรมาน ..............มืดหม่น ลอยช่วงวิญญาณเฝ้า............ฝ่าเวิ้งไฟสวรรค์ ฯ
O รูปเอยหวังอาจเอื้อม..........โดยใจ รอเถิดรอความใน-...............อกฟ้อง ขวากหนามมรรคาใด.............มุ่งฝ่า เช้าค่ำจักพร่ำพร้อง...............ผ่านถ้อยถวิลถึง ฯ
O ล่องลอยผ่านฟากฟ้า..........สู่ขวัญ ผู้ผ่านรังสีพรรณ....................พิลาสให้ คำนึงแต่วงจันทร์..................จางรูป โอนอบอุ่นแอบไว้.................หว่างห้วงคะนึงหา ฯ
O สุดรอคอยค่อยแย้ม...........เยือนตา งามรูปงามลักขณา................นุชเจ้า ลอยรูปทุกอัสสา-.................สะช่วง แม่เอย จิตย่อมถูกรุมเร้า...................สุดรู้ขัดขืน ฯ
O ใจเอยต่อแต่นี้..................นับนาน พิมพ์หนึ่งจักเบ่งบาน..............บีบเค้น ชะลอรูปลงผลาญ.................เผาอก จนสุดทางลอบเร้น................ล่วงพ้นพิสมัย ฯ
O ข้ามโค้งฟ้าฝากถ้อย...........ถวิลถึง ผ่านรูปพยางค์รำพึง...............พจน์ไว้ เนตรสบอักษรตรึง-...............ความติด จิตนา หวานจักหวานมาให้...............ห่วงละห้อยคอยเห็น ฯ
O จำหลักในจิตล้วน..............อาวรณ์ จักเหนี่ยวดึงถอดถอน............ยากแท้ ดั่งนทีสิทันดร......................ดึงร่าง ลอยล่วงห้วงวัฏฏ์แม้..............มอดม้วยยังหมาย ฯ
O งามเอยงามพักตร์พริ้ง........พรายตา สบเนตร, เลศนัยพา..............เพ่ง-รู้ เหลือบ-สบ, หลบ-เส-คา........รูปอยู่ อกหนึ่ง, อาวรณ์ชู้.................ตื่น-รู้อภิรมย์ ฯ
O รื่นรมย์กำเริบคล้อย...........รอยคำ แต่รสพจนารถสัม-................ผัสพร้อง ธีระอภิวากย์บำ-...................รุงรูป รูปที่ใจร่ำร้อง......................รบเร้ารอคอย ฯ
O แม้นห่างอย่าห่วงน้อย.........คำนึง เพียงรูปพอตอกตรึง..............ติดย้ำ ผ่อนเพียงแผ่วรำพึง...............พร่ำคู่ ใจเอย แผ่วพร่ำอยู่ซ้อนซ้ำ...............ตรู่เช้าตราบคืน ฯ
O โอนฤทธิ์ออรูปให้ ...........ถวิลเห็น อกดั่งหยาดฝนเย็น...............หยดแต้ม แต่ภาคอำไพเพ็ญ................เผยออก ใจยิ่งมาลย์แยกแย้ม.............กลีบแย้มรอฝน ฯ
O ฤๅทิพหนุนส่งให้...............เห็นงาม ย่อมจักสมพยายาม.............เยี่ยงนั้น ตรึงอกแต่สบทราม..............สวาดิรูป แก้วเนอ จักหลบเลี่ยงดื้อรั้น...............ดั่งไร้แรงขืน ฯ
O รุมรุมห้วงอกล้วน.............อาลัย แต่ลับภาคปราศัย...............สืบถ้อย ลำดับที่ความนัย.................เนาอยู่ เฉกลำดับความร้อย............รับรู้เถิดสมร ฯ
O คงสุดทางซ่อนแล้ว..........รอยใจ จักเก็บกดอย่างไร...............ยากรั้ง แต่เนตรบ่งเยื่อใย...............ระยับผ่าน ผ่าวผ่านกี่คราวครั้ง..............ทุกครั้งย่อมเผย ฯ
O แรงสุดดินสมุทรฟ้า..........รวมกัน ยังมิอาจพรากขวัญ..............จากแก้ว เมื่อใจหนึ่งผูกพัน................เพียงหนึ่ง อาจพรากให้คลาดแคล้ว.......แต่ม้วยมรณัง
ดายุ..
ตรงนี้ชอบการใช้คำ..
"O คนสองคน, สองใจ .. ความนัย-หนึ่ง
มีซาบซึ้ง, รอคอย, ละห้อยหา-
มีแหนหวง, ห่วงใย, เมื่อไกลตา
อาจพรรณนา .. ฤๅถึง-สักครึ่งใจ"
ตรงนี้ชอบที่ส่งความ..
"O โสตเอย .. เมื่อสดับ .. ย่อมรับรู้-
ที่เต้นอยู่ .. แว่วสั่น .. จากหวั่นไหว-
อันเร่งรัวเร้าสิทธิ์ .. สู่จิตใคร
กระซิบส่งความนัย .. เพื่อให้รู้"
ตรงนี้ชอบเนื้อความ..
"O เมื่อลับเลยรูปรอย .. ก็คอยหา
ปรารถนา .. รับรู้-ว่าอยู่ไหน
เมื่อห่างเห็นเร้นกาย .. เหมือนหายไป
ห้วงอกใคร .. ราวจะหาย-วอดวายตาม
O ถวิลถึงก็แต่ทอดฤทัยถอน
หลังอาวรณ์เคลื่อนรุดจนสุดห้าม
ครวญคะนึงแววระยับที่วับวาม
ที่วาบหวามซึ้งอยู่ .. แต่ผู้เดียว"
ตรงนี้ชอบความเจ้าชู้..
"O แม้น .. แสนทุกข์ สุดทุกข์กว่าทุกครั้ง
เพราะสุดยั้งคิดถึง-ประหนึ่งเหมือน-
ว่า -เดิน, ยืน, นั่ง, นอน, ยังย้อนเตือน
จักกลบเกลื่อน .. คะนึงหา - เกินกว่าคิด"
ขอเลือกทั้ง..ก. ข. ค. ง.ได้ไหมเอ่ย..555
(ทำข้อสอบแล้วสอบไม่ผ่านเพราะ.."ถูกทุกข้อ" ..นี่ล่ะค่ะ)