Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
พฤศจิกายน 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
21 พฤศจิกายน 2557
O คือ .. เจ้า .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O คือ .. เจ้า .. O
ชัยภัค ภัทรจินดา - พระอาทิตย์ชิงดวง
จากรมย์รื่นแห่งวสันต์ ..
O ซอด้วงหวีดเสียงแว่วเจื้อยแจ้วสู่
กล่อมใจผู้รอคอยละห้อยเห็น-
รูปที่คอยรุมเร้าอยู่เช้าเย็น
ทั้งบีบเค้นรอบถวิลให้ดิ้นรน
O ลาวคำหอม .. เจื้อยแจ้วเสียงแว่วฝ่า-
เสียงลั่นเลื่อนโหมมาของห่าฝน-
เหมือนหมายกลบเสียงประณีต .. สังคีตดล
กลางช่วงอลเวงตรองทำนองนัย
O พร่างพรู .. ปวงเม็ดฝนร่วงหล่นหยาด
กรรทบฟาดปฐพินทร์ก่อนรินไหล
โดยกรรทบภพชาติพิลาสพิไล-
ดลอาลัยก่อตัว .. เพียงชั่วยาม
O พรายพร่าง .. เม็ดช่อฝนลิ่วหล่นร่วง
รูปจบช่วงนัยน์ชู้ .. ฤๅ-รู้ข้าม ?
พร้อมห้วงหาว .. เบิกบทแสนงดงาม
คือใจถูกคุกคาม .. ด้วยงามนั้น !
ถึงเหมันตะเหน็บหนาว ..
.
O เมื่อม่านหมอกขาวหม่น .. คลุมหนทาง
หยดน้ำค้าง ลมไล้ .. เริ่มไหวสั่น
พร้อมคาบยามเลื่อนช่วงของดวงวัน
ความเฉิดฉันบนสรวง ก็ช่วงชาย
O จน-เมื่อแววตาชม้ายนั้นชายเหลือบ
หวานก็เคลือบอารมณ์เกินข่มหาย
ตราบจนความเหินห่างค่อยวางวาย
หลัง-ส่งรับความหมาย .. ผ่านสายตา
O ด้วยวิญญาณจักขุ .. บรรลุรู้-
งามที่อยู่เผยรอย เหมือนคอยท่า
บัดนั้น .. งามทุกงาม .. เคยงามตา-
กลับเหลืองามเบื้องหน้า .. เพียงหน้าเดียว !
O บรรยากาศเคลื่อนคล้อย .. อย่างอ้อยอิ่ง
ตากลับยิ่ง .. สบตอบ .. หลบ .. ลอบเหลียว
เมื่อหวานหอมโอบไล้ .. หัวใจเดียว-
ย่อมรัดเหนี่ยวหวานหอม .. ให้ล้อมลน
O หลัง-ความหมายแฝงนัย ผ่านให้คว้า
ความเหว่ว้าทั้งปวง .. ก็ร่วงป่น
ด้วยเหมันตะกาลแรก .. ที่แทรกปน-
รสสุคนธะประทิ่นล้อมถิ่นทาง
O บรรยากาศกรุ่นกลิ่นประทิ่นรส
ก็อวลบทบาทพร้อมเข้าล้อมขวาง
โดย-เนตร .. พักตร์เหลือบเบือน .. ย่อมเหมือนวาง-
บ่วง .. ให้ย่างก้าวลง .. กลาง-วงนั้น !
O ลมเหมือนแผ่วผ่านไล้ลูบไอแดด
เมื่องามแวดล้อมให้หัวใจสั่น
จักเบือนหลบเลี่ยงได้ .. เยี่ยงไรทัน
กับแววหวั่นไหวช่วงในดวงตา ?
O หรือ-เพื่อเผยเอางามผูกล่าม .. จิต
ให้แต่พิศรูปองค์ที่ตรงหน้า
ก่อนแนบรูปงามซึ้งลงตรึงตรา
ให้คอยหาละห้อยเห็นไม่เว้นยาม ?
O น้ำในแก้ว .. พร่องผ่านไปนานเนิ่น
เมื่อ-ขัดเขินสะเทิ้นอยู่ .. สุด-รู้ข้าม
ทุก-แววตาพริ้มพรับ .. เมื่อ-วับวาม
ก็-รัดล่ามทุกครั้ง .. ให้ฝังใจ
O รูปธรรมก้ำเกิน .. จำเริญรอบ
ก่อนเคลื่อนกรอบวัฏฏะวง .. หมุนวงให้-
อุปาทาน-ก่อเกื้อ .. ทอเยื่อใย-
เพรียกอาลัยพิสวาดิ .. รองชาติภพ !
O แต่แววตา .. รูปพักตร์ จำหลักรู้
อาวรณ์ชู้หวานหอมก็ล้อมตระหลบ
จริตรูปอ่อนหวาน .. เคยผ่านพบ-
ราวถูกกลบเกลื่อนสิ้นจากจินตนา
O ยุติธรรมแล้วหรือ .. การยื้อยุด-
ด้วยงามผุดผ่องให้ .. อาลัยหา
ยุติธรรมเยี่ยงไร .. รูปในตา-
แม้ติดนานนักหนา .. ยังตราตรึง !
O ยุติธรรมแล้วหรือ .. การยื้อยุด-
ด้วยความผุดผ่องนั้น .. ให้ฝันถึง
ทุกถ้อยความครวญคร่ำ .. เฝ้ารำพึง
คือหวานซึ้งตรึงอยู่ไม่รู้แล้ว
O คล้ายพันแสงทอดรอ .. ลออรูป
ก่อนแรงลูบลมริ้ว .. โรยพลิ้ว .. แผ่ว
เลศในตาสะเทิ้นเห็น .. ก็เต้นแวว-
ความผ่องแผ้วพริ้มพรับ .. ขึ้นรับรอง
O น้อมรับ .. ความอบอุ่นละมุนละม่อม
กลางแวดล้อมงามที่ .. ไม่มีสอง
น้อมรับ .. รูปคราญเจ้าให้เข้าครอง-
ความผุดผ่องถ้วนแนว .. ในแววตา
O ซอด้วงยังหวีดแว่ว .. เสียงแผ่วหวาน
ร่วมพร้องผ่าน-กล่อมเห่ .. ห้วงเวหา
เพรียกริ้วลม .. ห่มขวัญด้วยคันธา-
รส-เพื่อตราตรึงรัก .. จำหลักทรวง
O และแล้วก็มองเห็นความเป็นไป-
ของอกที่โหยไห้ .. อาลัย-หวง
แววอาวรณ์โลมไล้อยู่ในดวง-
ตา .. ที่ห่วงใยอยู่แต่ผู้เดียว
O สายหยุดเจ้าหยุดกลิ่นแต่สิ้นสาย
เมื่อตาชายเฝ้าแต่ชะแง้ - เหลียว
บนฟ้า .. นกร่อนคว้าง .. เมื่อร่างเรียว-
เจ้ากอดเกี่ยวสายตา .. ล้ออารมณ์
O โบกบินปีกนกกางร่อนกลางหาว
เมื่อเนตรวาววามชู้ .. เกินรู้ข่ม
โลมลูบแดดอุ่นอาย .. ด้วยสายลม
กลิ่นชื่นฉมกุสุมาลย์ .. ก็หว่านล้อม
O อบอุ่นแดดยามสายโชนฉายสู่
เมื่อลมชู้พลิ้วผ่านทุกย่านหย่อม
โดยแววตาผ่านนัย .. โดยใจยอม-
ร่วมหล่อหลอมนัยชู้ .. ร่วมดูแล
O ดูเถิด .. รูปเรียวร่าง .. คิ้วคาง..แกม-
ริ้วเลือดแต้มสองปราง .. ดุจร่างแห-
เหวี่ยงลงครอบคลุมใจ .. เกินไหว-แปร-
เปลี่ยน-แกะแก้, ผูกพันจนมั่นคง
O โอ-แววความออดอ้อน .. ยากซ่อนเร้น-
เหมือนคอยเต้นตอบตา .. เพื่อ-พาหลง-
สู่เงื่อนบ่วงผูกวาง .. ให้-ย่างลง-
รับเรียวร่างเอวองค์ .. ได้แอบอิง !
O เปล่งเถิด-ความอ่อนหวานให้ .. ซ่านแวว
จนยากแล้ว-อาลัย .. ที่-ใหญ่ยิ่ง
เตรียมพร้อม .. แรงอาวรณ์ .. รับ-ผ่อนพิง-
ของผู้กลิ้งเกลือก-ร่าง .. ที่กลางทรวง !
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 8 เมษายน 2566 11:58:41 น.
19 comments
Counter : 3668 Pageviews.
Share
Tweet
ดายุ...
"O ยุติธรรมแล้วหรือ .. การยื้อยุด-
ด้วยงามผุดผ่องให้ .. อาลัยหา
ยุติธรรมเยี่ยงไร .. รูปในตา-
แม้ติดนานนักหนา .. ยังตราตรึง !
O ยุติธรรมแล้วหรือ .. การยื้อยุด-
ด้วยความผุดผ่องนั้น .. ให้ฝันถึง
ทุกถ้อยความครวญคร่ำ .. เฝ้ารำพึง
คือหวานซึ้งตรึงอยู่ไม่รู้แล้ว "
ทันสมัยจัง...กวีเรียกร้อง"ความยุติธรรม"ในความรัก...
อย่างนี้ ต้องเรียกว่า"กวีร่วมสมัย"ซินะ...
ร่วมสมัยกับ นักศึกษาดาวแดง กลุ่มกิจกรรม ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ
นักศึกษาวนศาสตร์ กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557 เวลา:14:40:54 น.
มินตรา ..
รู้สึกว่าทหารผู้กล้าของเราจะขวัญอ่อน ตกใจง่ายไปหน่อย .. แค่เด็กๆแสดงออกเชิงสัญญลักษณ์นิดๆหน่อยๆ ก็ตกอกตกใจกันใหญ่โต 555
ทำให้นึกไปถึงประโยคในอดีต "สภาสัตว์ป่าแห่งเขาใหญ่" ที่ทำให้ผู้นำทหารที่เรียนมาทางรบทัพจับศึกแต่เสือกอยากนั่งบริหารบ้านเมืองแข่งกับลีกวนยูของสิงคโปร์ คือ ไอ้ตัวการที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา นั่นแหละ ถึงกับโกรธควันออกหู ..
มันโกรธเพราะอะไรรู้ไหม ?
เพราะนักศึกษาเปรียบสภาตรายางสมัยนั้นเหมือนสภาสัตว์ ป่า 555 .. และเผด็จการที่นั่งเมืองมา 8-9 ปีจนเหิมเกริมลุแก่อำนาจใครพูดนิดพูดหน่อยไม่ได้ ก็เอามาเป็นประเด็น !
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาทุกยุคทุกสมัยมาจาก ความเหิมเกริม ที่คิดว่าตัวเองใหญ่คับฟ้าทั้งนั้น แตะนิดแตะหน่อยเป็นสะดิ้ง
และพอล้มแล้วดังโครมครามทุกราย !
แปลกที่ครั้งนี้ปฏิกิริยาเกิดที่มหาวิทยาลัยบ้านนอก !
ขณะที่พวกที่เคยเป็นหัวขบวนอย่าง ธรรมศาสตร์ กลับเงียบกริบ !
เหลือเชื่อจริงๆ ..
O สามนิ้วเรียว .. น่าตระหนกยามยกชู
ทำแกล้วผู้อ่อนไหวถึงใจหาย
รูปพักตร์แสนพริ้มเพรายั่วเย้า-ปราย-
ตานั้นเหลือบลอบชาย .. เย้ยปลายปืน !
O ทำเอาแกล้วผู้กล้า .. แข้งขาสั่น
สามนิ้วนั่นบอกชัดว่าขัดขืน
ชูขึ้นยิ่งบอกชัด .. ขอหยัดยืน
เริ่มริ้วคลื่นวิ่งแหวกกระแทกดิน
O บอกชายผู้ถือปืน .. ขอยืนหยัด
ต้านอาสัตย์เลวทราม เย้ยหยาม-สิ้น
กรอกหัวหูชาติแกล้วให้แว่วยิน
ว่าเรียวนิ้วรูปยุพิน .. ขอ-หมิ่นแคลน !
โดย:
สดายุ...
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557 เวลา:19:35:43 น.
ดายุ...
น.ส.นัชชชา กองอุดม วัย 21 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่ถูกควบคุมตัวบอกกับเอพีว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมของเรา ผู้คนถูกกดขี่มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว พวกเขาต้องการต่อต้านและต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของตน การเดินทางไปชมภาพยนตร์เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างหนึ่ง ฉันมาที่นี่เพื่อปกป้องและเรียกร้องสิทธิของฉัน" (มติชนออนไลน์21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 09:33:00 น.)
นักศึกษานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ทำกิจกรรมช่วยเหลือชาวบ้านในเรื่องสิทธิทางกฎหมาย เป็นปกติ แทนการออกค่ายตอนปิดเทอม..
จึงนับว่า "นี่คือการทำกิจกรรมเสริมหลักสูตร"
ข่าวล่าสุดจากมติชนแจ้งว่า นักศึกษาขอพักการเรียนและ หาที่อยู่ใหม่เพื่อหลบภัย..."ภัยจากความยุติธรรม"
ความไม่เกรงกลัวต่อภัยใดใด ...
เกิดจาก"สำนึกในความเป็นคน"
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557 เวลา:19:56:36 น.
มินตรา ..
ลองอ่านบทวิเคราะห์นี้ดู
https://www.facebook.com/somsakjeam?fref=nf
โดย:
สดายุ...
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:04:04 น.
ดายุ...
"ประเพณีหรือพิธีกรรมที่เรียกๆกันว่า "สืบชะตา" (หรือบางทีก็เรียกเรียบๆว่า "ต่อชีวิต") ว่ากันว่า เดิมเป็นประเพณี(หรือความเชื่อ)จากล้านนา แต่สมัยนี้ ผมเข้าใจว่า มีการทำกันทั่วไปในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะ ทำบุญ ถวายทาน ไปจนถึง แกล้งนอนในโรงศพ อะไรทำนองนั้น ไอเดียคือทำแล้ว ช่วย "ต่ออายุ" ออกไปอะไรแบบนั้น"
อ่านแล้วค่ะ ....
อาจารย์สมศักดิ์ พูดเรื่อง ประเพณี ..น่ะเอง!
คนเป็นครูนะคะ..ย่อมชื่นอกชื่นใจเป็นธรรมดาที่เห็น
ลูกศิษย์ เรียนวิทยายุทธ ได้อย่างแตกฉาน...
เห็นอดีตนักการฑูตระหว่างประเทศ คุณจักรภพ เพ็ญแข ออกมาแสดงความคิดเป็นภาษาอังกฤษระดับระหว่างประเทศ ก็ชื่นใจค่ะ...
จอมยุทธ์ทางวิชาการทั้งนั้น ที่เรามี..
"O และแล้วก็มองเห็นความเป็นไป-
ของอกที่โหยไห้ .. อาลัย-หวง
แววอาวรณ์โลมไล้อยู่ในดวง-
ตา .. ที่ห่วงใยอยู่แต่ผู้เดียว" !
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา:8:31:36 น.
มินตรา ..
จักรภพ เขาได้ทุนสนับสนุนจากไหนในการมีชีวิตอยู่ในยุโรปนะ ..
ผมเข้าใจได้ว่าหากเป็นอาจารย์ที่จบดอกเตอร์มา อย่าง สศจ. อาจมีมหาวิทยาลัยในประเทศตะวันตกรับทำงานพอมีรายได้ยังชีพ .. แต่หากมิใช่เล่า เขาจะได้เงินจุนเจือกันจากไหน .. อันนี้อยากรู้จริงๆ
อย่างตอน โคไมนี อยู่ฝรั่งเศสก็อยู่ในลักษณะผู้ลี้ภัยทางการเมืองจากอำนาจพระเจ้าชาห์แห่งอิหร่าน .. เข้าใจว่ารัฐบาลฝรั่งเศสคงสนับสนุนค่าใช้จ่ายประจำวัน ใช่ไหม ?
แล้วสำหรับเยอรมันล่ะ .. เข้าใจว่ามีผู้ลี้ภัยทางการเมืองจาก ตุรกี ซเรีย อิรัค เต็มไปหมดใช่ไหม ?
โดย:
สดายุ...
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา:19:27:16 น.
ดายุ..
มินตราไม่ทราบว่า คุณจักรภพอยู่ยุโรป นะคะ
ทั้งทั้งที่เคยมีรัฐบาลในประเทศยุโรปเตรียมอ้าแขนรับ พร้อมเตรียมสถาบันเอเซียไว้ให้ทำงาน..
หรือสอนหนังสือในฐานะผู้เชี่ยวชาญ
แต่ คุณจักรภพไม่รับภายใต้เงื่อนไขว่า
เกี่ยวพันทางการเมืองไม่ได้..
ก็ยังห่วงใยอยู่..แต่เจ้าตัวน่าจะรู้ว่าควรทำอย่างไร..
ทุกประเทศจะมีเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ตามกฎบัตรสหประชาชาติ..
ให้ที่อยู่อาศัย อาหาร อาชีพ และ ยารักษาโรค..
ตอนนี้เยอรมันมีประชาชนจากประเทศยุโรปตะวันออกเข้ามาขอลี้ภัยมาก
และมีจากซีเรีย อิหร่าน อีกมากมายจนต้องประชุมใหญ่จัดระบบรองรับผู้ลี้ภัยพร้อมตั้งงบประมาณ เป็นร้อยล้าน ยูโร
แต่จะมีแบ่งว่า รับผู้ลี้ภัยจากเขตไหนเท่าไหร่..
มีบ้านผู้ลี้ภัยสำหรับ คนเอเซีย คนยุโรปตะวันออก..คนอาหรับ แบ่งไปตามลักษณะชีวิตในแต่ละภูมิภาค..
ตราบใดที่เป็นผู้ลี้ภัย ห้ามทำงาน รัฐคอยดูแล
แต่ต้องเรียนภาษาหรือวิชาชีพตามแต่ใจชอบ
โดยรัฐเป็นผู้ เสียค่าใช้จ่ายให้..
ก็มีคนเข้ามาทำเรื่องขอลี้ภัยอยู่..
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา:20:17:19 น.
มินตรา ..
3 คำถาม มีว่า ..
1. เงื่อนไขที่เข้าข่ายลี้ภัยได้ คืออะไร ?
2. ชีวิตความเป็นอยู่มีอิสระแค่ไหนหลังจากได้ลี้ภัยแล้ว ?
3. การเดินทางออกจากแผ่นดินเกิดโดยไม่ผ่านระบบเอกสารที่ถูกต้องจะเข้าเมืองที่จะขอลี้ภัยได้อย่างไร ?
โดย:
สดายุ...
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา:20:41:28 น.
ดายุ..
1. เงื่อนไขที่เข้าข่ายลี้ภัยได้ คืออะไร ?
ตอบ: ต้องเป็นผู้ต้องโทษ หรือมี"ภัยทางการเมือง"
ในกรณีคุณจักรภพ
ต้องมีหนังสือส่งตัวถึงประเทศที่สาม
หากเคยลี้ภัยในประเทศที่สองแล้ว..
ประเทศที่ลี้ภัยต้องทำเอกสารเดินทางให้
2. ชีวิตความเป็นอยู่มีอิสระแค่ไหนหลังจากได้ลี้ภัยแล้ว ?
ตอบ:ในระหว่างดำเนินเรื่องต้องพำนักในที่ที่
รัฐบาลเยอรมันจัดให้ โดยห้ามทำงานหารายได้
จนกว่าจะมีแคว้นใดแคว้นหนึ่งของเยอรมันรับ
ให้อยู่ในแคว้นและดูแลให้ที่อยู่อาศัย.. เงินใช้
และ สวัสดิการต่างต่างรวมทั้งประกันสุขภาพ
ในระหว่างทำเรื่องลี้ภัย จะออกจากแคว้นที่อยู่ได้
ต้องแจ้งทางเจ้าหน้าที่ก่อนเพื่อออกเอกสาร
เดินทางให้ (หมายความว่า รัฐต้องรู้เผื่อมี
เหตุ เภทภัย)
เท่าที่ทำอยู่ส่วนใหญ่จะมีทนายความซึ่งชำนาญเรื่องลี้ภัยทำเรื่องจนขึ้นศาลให้..ยังไงก็ต้องผ่านขบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบ
จากนั้นก็มีสิทธิ แบบคนเยอรมัน ที่รับสวัสดิการรัฐ เดินทางไปไหนได้ตามต้องการ
3. การเดินทางออกจากแผ่นดินเกิดโดยไม่ผ่านระบบเอกสารที่ถูกต้องจะเข้าเมืองที่จะขอลี้ภัยได้อย่างไร ?
ตอบ: ก็จะซื้อตั๋วสายการบินไม่ได้..
มีกฎข้อหนึ่งระหว่างประเทศคือ เมื่อเท้าแตะพื้นดินนั้นแล้ว หรือล้อเครื่องบินแตะแผ่นดิน เจ้าหน้าที่รัฐของประเทศนั้นนั้น "ไม่มีสิทธิจะไล่เราออกจากดินแดนนั้นได้ "
หลายประเทศจึงวางมาตรการตั้งที่พักไว้ที่สนามบิน ไม่ให้เข้าในประเทศ...ได้ ..
ทำอย่างไรก็ตามเพื่อให้เท้าแตะแผ่นดินในประเทศนั้นนั้นให้ได้..
มิฉะนั้นตามขบวนการ จะมีเวลาอยู่เป็นสองสามปีกว่าศาลของประเทศนั้นนั้นจะสั่งให้ออกได้.ซึ่งยากมาก
ในกรณีคุณจักรภพนี่ มีผู้พร้อมจะรับรองอยู่แล้ว.. คงมีคนเตรียมขบวนการต่างต่างและเดินทางไปรับได้.. แบบที่หลายคนกำลังทำอยู่..
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:20:52 น.
มินตรา ..
ในกรณีผู้ที่ต้องคดีตาม มาตรา 112 ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องอาชญากรรม .. เป็นเพียงแนวคิดทางรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ที่ต่างกับฝ่ายความมั่นคงซึ่งกุมอำนาจในประเทศอยู่ ..
ในทางสากลถือว่าเป็นภัยทางการเมืองหรือไม่ ?
เพราะบางกลีบเนื้อสมองมันปรุงแต่งไปถึงว่า "การจาบจ้วงกษัตริย์สมัยอยุธยา" ที่เป็นราชวงศ์อื่น ก็ผิดด้วย !
โดย:
สดายุ...
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:45:16 น.
ดายุ..
กรณี ๑๑๒ ของไทยนี่ล่ะค่ะ ได้เลย...
ยิ่งหากมีใครทางนี้ รับรองทำเรื่องให้ได้เลย..
เมื่อวานเดินไปถามคนซีเรียที่อพยพ มาอยู่ที่นี่เมื่อสิบปีที่แล้ว ตอนนี้มีร้านซ่อมแซมเสื้อผ้าของตน ..มีครอบครัวลูกเล็กตามมาอยู่ด้วย..
ส่วนใหญ่จะไม่มีเอกสารเพราะบ้านแตกสาแหรกขาดมา..
ทางนี้ก็จะออกหนังสือให้ตามชายแดนเลย แต่ยุ่งยากมาก
แล้วจึงส่งเข้าเขตที่กำหนด..ซึ่งของประเทศไทย จะเป็นเขตแคว้นทางเหนือของเยอรมัน บ้านใหม่ น่าอยู่ ..
รัฐจ่ายค่ากินอยู่ให้หมด ดูเหมือนจะให้เงินติดกระเป๋า200 มีคนไทยไปเยี่ยมก็ไปพักด้วยได้...
ส่วนใหญ่รัฐจะพยายามหาคนไทยที่รู้จักให้ เพื่อดูแล...
ทนายกำลังทำเรื่องลี้ภัยให้ มีค่าทนายเหมาจ่าย
ไม่กี่พันยูโร..ดำเนินเรื่อง เป็นปี กว่าจะขึ้นศาลจบ..
แต่รัฐก็มีเสื้อผ้าที่อยู่อาศัย ให้ตามอัตภาพ
เยอรมันเป็นประเทศที่คนในยุโรปต้องการลี้ภัยมาก...แต่ส่วนใหญ่ต้องการลี้ภัยทางเศรษฐกิจ ซึ่งมิใช่ภัยการเมือง หลังจากขบวนการยุติธรรม เมื่อศาลสั่งไม่ให้ลี้ภัย..ก็ติดใจชีวิตที่นี่แล้ว..ก็ยุ่งยาก...เพราะทำไม่ได้จริงจริง..
แต่กรณี คุณจักรภพ คฑาวุธ นี่มีชื่อในสหภาพยุโรปแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาว่าไม่ได้...ยิ่งมีคนที่นี่รับรองให้ ดำเนินเรื่องให้ ก็ยิ่งง่าย.. น่าจะติดต่อคนทางนี้มา..
แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับปากว่า ได้หรือไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับศาล...ศาลเยอรมันนะ...
ห้ามทำเอกสารปลอมเด็ดขาด เยอรมันไม่ชอบคนเจ้าเล่ห์
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:47:01 น.
มินตรา ..
ส่วนตัวผมแล้วมองว่าเยอรมันน่าอยู่ก็จริง แต่คนเยอะแล้วเมื่อเทียบกับขนาดประเทศ ร่วมๆ 90 ล้านคน ..
หากเป็นผม มองไปที่สวีเดน หรือ นอรเวย์ สองประเทศนี้นะ .. แผ่นดินใหญ่โตแต่คนน้อยมากไม่ถึง 10 ล้านคน ..
เพียงแต่ไม่มีคนรู้จักเลย 55
ความคิดที่ชอบอยู่ในดินแดนที่ ..
.. คนมีการศึกษา เข้าใจวิทยาศาสตร์ได้ดี
.. คนเข้าใจเหตุผลดี
.. คนไม่งมงาย
.. คนไม่มีศรัทธาแบบมืดบอดเพียงเพราะถูกเป่าหูมาตั้งแต่เกิด
.. มีกฎหมายที่บังคับใช้กับทุกคนมาตรฐานเดียว
.. สะอาดสะอ้านในทุกท้องถนนไม่ว่าบ้านนอกหรือในเมืองหลวง
.. สังคมที่ settle แล้วในทุกด้าน
ผมมองว่าความต้องการที่พูดมา มันน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 100 ปีขึ้นไปเพื่อจะเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย
คงไม่มีโอกาสเห็นในแผ่นดินไทย ในชั่วชีวิตนี้ ..
มินตราโชคดีที่หลุดพ้นไปจากภาวะการณ์อันน่าอดสูที่กล่าวมาทั้งหมด
โดย:
สดายุ...
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:01:28 น.
ดายุ..
ทางเหนือของเยอรมัน มีคนอยู่หลวมมาก น่าอยู่
เวลาตัดที่ดินขายจะขายเป็นสองพันตารางเมตรต่อหนึ่งบ้าน
ในราคาที่ทางส่วนกลางของประเทศได้เพียงห้าร้อยตารางเมตร
แถบชายฝั่งทะเลเยอรมัน ฮัมบวร์ก เบรเมน นี่
ใช้กฎหมายพื้นฐานเหมือนอังกฤษและกลุ่มสแกนดิเนเวียคือ Hansa Law อัธยาศัยก็จะง่ายง่าย ไม่เหมือนพวก ภาคพื้นยุโรป(continent)
ในกลุ่มสแกนดิเนเวีย สวีเดน ดูจะมีความเจริญมากทางวิชาไฟฟ้า นี่เป็นเขตแหล่งวัตถุดิบของเยอรมันเลย
มีคนไทยอยู่เยอะนะ น่าจะติดต่อกันได้ ขอลี้ภัยง่าย
คนแถบนี้ จะใกล้ชิดติดต่อกับ อังกฤษและสแกนดิเนเวีย..
พื้นฐานทางภาษาก็ใกล้เคียงกัน
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:50:26 น.
มินตรา ..
ผมเคยไปสวีเดนตอนช่วงปีใหม่ หนาวมาก หิมะท่วมถึงเข่า .. แต่ก็ชอบ ต้องใส่เสื้อถึง 4 ชั้นถึงจะเอาอยู่ ..
ผมมองว่าพวกติดทะเลเหนือที่ส่วนมากถือ โปรเตสแตนท์จะเจริญทางวิทยาการต่างๆ มากกว่าทางใต้ที่ติดเมดิเตอเรเนียน ที่งมงายกับแคธอลิกมากไปหน่อย รวมทั้งมาตรฐานชีวิตจะเหนือกว่ามาก ..
ความประทับใจในความสะอาด สงบ นี่เองจึงเป็นที่มาของเรื่องนี้ .. แห่งห้วงมหรรณพ .. ใน ินราศเรื่องยาว
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=19-07-2011&group=24&gblog=20
โดย:
สดายุ...
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:13:39:27 น.
ดายุ...
แม้นเยอรมันจะจุกจิกกับกฎและระเบียบในการอยู่ร่วมกันแต่แคว้นทางชายฝั่งทะเล ทางเหนือจะมีวิวัฒนาการความรู้ความเจริญ จนถึงชนบท
ประเทศทางสแกนดิเนเวียที่อยู่ตามเกาะ หรืออยู่กันเป็นหมู่บ้าน จะมีความเป็นธรรมชาติ เหมือนเหมือนกัน
แต่ตามข่าวและสถิติ นะ ในสแกนดิเนเวียมีคนชนชั้นกรรมกรอยู่มากกว่าพวกปัญญาชนเพราะ ภาษีของรัฐจะไปเป็นเงินช่วยสังคมมากจนพวกกรรมกรจะมีรายได้มากกว่าพวกมีปริญญา ...
นี่พวกที่มีปริญญาที่ย้ายมาอยู่สวีเดนกัน บ่น นะ จะเท็จจริงอย่างไรมินตรายังไม่เคยไป 555
เพราะเคยจะไปทีไร ก็มีใครใครออกมาค้านว่ามีแต่ป่า ไม่มีอะไรให้มินตราดู
หมายถึงไม่มีตึกสวยสวย หรือสวนงามงาม หรือวัฒนธรรมอย่างทางภาคพื้นยุโรป ให้ชม
แต่ที่ชัดชัดคือ เยอรมันควบคุมค่าครองชีพขั้นพื้นฐาน น้ำตาล แป้ง ไข่ไก่ ได้ดีพอที่จะทำให้ประชาชนคนธรรมดา อย่างมินตราไม่เดือดร้อน แถม มีการเปลี่ยนราคาหมู ไก่ เนื้อ ปลา ในราคาที่ คนชอบกินของแพงอย่างมินตรา มีปัญญาได้หารับประทานด้วย
ซึ่งสินค้าในสแกนดิเนเวีย จะมีน้อยกว่าราคาก็สูงกว่า จนต้องทัวร์เยอรมันเพื่อหาซื้อเสื้อผ้ารองเท้ากันในเยอรมัน..
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:22:16 น.
มินตรา ..
หากจะขอลี้ภัยไปอยู่เยอรมัน ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
1.
2.
3.
4.
โดย:
สดายุ...
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:18:07:50 น.
ดายุ..
หากชื่อ จักรภพ เพ็ญแข ก็ติดต่อ สไกปมาได้เลย..
แต่หากไม่ใช่ :
1.ต้องเข้ามาเหยียบดินแดน เยอรมัน
2. หากไม่มีเอกสารใดใด ติดตัวมาเลย ต้องเตรียมตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาก ซึ่ง จุดที่ต้องตอบให้ผ่านคือ เป็น "ผู้ลี้ภัยทางการเมือง" มิใช่"ผู้ลี้ภัยทางเศรษฐกิจ"
3.เจ้าหน้าที่จะตั้งคำถามว่าทำไมมาเยอรมัน.. ซึ่งหากเรามีคนรู้จักหรือญาติพี่น้องที่พร้อมจะรับเราได้..รัฐบาลจะพิจารณากรณีนี้ เป็นพิเศษ...
(นี่ แอบรู้มาจากเจ้าหน้าที่ ...เพราะ จะมีคนคอยดูแลเราทางสภาพจิตใจ ให้ปรับตัวได้ โดยไม่ว้าเหว่ คิดถึงบ้าน...ไม่ต้องจ้างจิตแพทย์มาดูแลสภาพจิต เราอีก)
4. ต้องทำใจว่า ขบวนการขอลี้ภัย ใช้เวลา สองหรือสามปี ซึ่งรัฐจะดูแลอย่างดี แต่ห้ามทำงาน...
5. คนที่ลี้ภัยกันอยู่ขณะนี้ จ้างทนายความให้ดำเนินเรื่อง ตั้งแต่เขียนเอกสารขอลี้ภัย ดูแลสิทธิทางกฎหมายให้ จนถึงส่งคดีขอลี้ภัยขึ้นศาล และศาลอนุญาตให้ลี้ภัยได้..
6.เมื่ออนุมัติให้ลี้ภัยได้ ก็ยังไม่มีสิทธิทำงานในเยอรมันฉะนั้นต้องเรียนภาษาและวิชาชีพ ซึ่งรัฐจ่ายค่าเรียนให้..
หมายความว่า
จะมีขบวนการที่จะปรับตัวเข้ากับสังคมเยอรมัน(Integration process) คือรัฐจะประคองให้เราปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้โดยไม่มีปมด้อยน้อยใจใดใดเกิดขึ้น..
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:18:34:14 น.
มินตรา ..
โอเค .. เขียนให้เข้าใจง่าย
1. ต้องหลบไปทางพม่า หรือ ลาว ก่อนแล้วค่อยๆขี่อูฐผ่านเส้นทางสายไหม คือ จีน ธิเบต อดีตสหภาพโซเวียต ยุโรปตะวันออก จนถึงโปแลนด์ แล้วหยุดรอ มินตรามาจูงอูฐข้ามแดนไปเยอรมัน
2. ตอบคำถามเกี่ยวกับความเห็นทางการเมืองที่สอดคล้องกับเงื่อนไขการขอลี้ภัย เพราะมินตราแอบบอกข้อสอบไว้ล่วงหน้าแล้ว
3. ที่มาเยอรมันเพราะมีคนรู้จักคนหนึ่งที่นี่ รู้จักกันมา 4-5 ปีแล้ว ชื่อ บุษบามินตรา พร้อมเปิดกระทู้นารีปราโมชยืนยันการสนทนาในช่องความเห็นต่างๆหลายกระทู้ .. เป็นหลักฐานยืนยัน
4. ไม่ต้องทำงาน 2-3 ปีแล้วมีที่อยู่ที่กิน ทีนี้จะเขียนกลอนกาพย์โคลงฉันท์ ได้เยอะเลย .. จะเขียนมหากาพย์โอดิสซี่เป็นฉันท์ลงบล็อคได้อีกเรื่อง
5. บุษบามินตราจะช่วยดำเนินการให้เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล รวมทั้งเขียนเอกสารภาษาเยอรมันด้วย ..
6. จะตั้งใจเรียนภาษาเยอรมันจนถึงขั้นเขียนกลอนเยอรมันได้ รวมทั้งต่อวิศวะเครื่องกลเลยเพราะเรียนหลักสูตรเขามาอยู่แล้ว
หมายความว่า จะหาสาวเยอรมัน ผมบลอนด์ ตาสีฟ้า สูงสัก 170 cm น้ำหนักประมาณ 47 กก สักคนมานั่งสอนวิถีชีวิตของเยอรมัน ทำอาหารเยอรมัน
ประมาณนี้ใช่ไหม มินตรา ?
555
โดย:
สดายุ...
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:19:27:50 น.
ดายุ...
ค่ะประมาณนี้..
แต่หากขี่อูฐมาถึงโปแลนด์แล้ว ขอเข้าเจอท่านฑูตไทยประจำโปแลนด์เลยค่ะ มินตราไม่รู้จักท่านหรอก
แต่มีโพรเฟสเซอร์ วิศวกรไทย น้องภรรยาท่านบอกว่าท่านต้องการรู้จักมินตรา...
มินตราจะอนุญาตให้ท่านฑูตพา มาเจอได้ 555
(ขออนุญาตกร่างค่ะ...นานนานจะมีโอกาส)
ถูกต้องหมดทุกข้อ นอกจาก..
"ข้อ5. บุษบามินตราจะช่วยดำเนินการให้เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล รวมทั้งเขียนเอกสารภาษาเยอรมันด้วย .."
จะมีทีมงาน แดงยุโรป ทำงานให้พร้อมทนายความเยอรมัน.. มินตราโทรศัพท์เป็นอย่างเดียว...
ไม่มีใครมีโอกาสเจอมินตรานะ..ไม่สวยพอที่จะเปิดตัว 555
นอกนั้น เป็นความสามารถส่วนบุคคลค่ะ
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:20:00:29 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
"O ยุติธรรมแล้วหรือ .. การยื้อยุด-
ด้วยงามผุดผ่องให้ .. อาลัยหา
ยุติธรรมเยี่ยงไร .. รูปในตา-
แม้ติดนานนักหนา .. ยังตราตรึง !
O ยุติธรรมแล้วหรือ .. การยื้อยุด-
ด้วยความผุดผ่องนั้น .. ให้ฝันถึง
ทุกถ้อยความครวญคร่ำ .. เฝ้ารำพึง
คือหวานซึ้งตรึงอยู่ไม่รู้แล้ว "
ทันสมัยจัง...กวีเรียกร้อง"ความยุติธรรม"ในความรัก...
อย่างนี้ ต้องเรียกว่า"กวีร่วมสมัย"ซินะ...
ร่วมสมัยกับ นักศึกษาดาวแดง กลุ่มกิจกรรม ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ
นักศึกษาวนศาสตร์ กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม