Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
O สาวเอย .. O








Ernesto Cortazar - Muñequita Linda



O ยอมรับแล้วใช่ไหม .. หัวใจนั้น-
ว่าผูกพัน, อาวรณ์ .. เกินซ่อนไหว
ทุกการเต้นสั่นรัว .. ของหัวใจ
เหมือนมือใครบางคนคอยด้นดึง
O โลกไม่ได้ล่มลง .. ที่ตรงหน้า
กับเพียงว่าหัวใจ-แอบใฝ่ถึง
เก็บไว้เถิด .. เงื่อนงำ-ไว้คำนึง-
ในอกซึ่งอาลัย .. เริ่มไหวตัว
O แว่วยินไหมนัยคำ .. กรอง-ร่ำร้อย
หมายผ่านความล่องลอยเฝ้าคอยยั่ว
เพียงเพื่อ”บางคน”นั้นจะสั่นรัว-
หลังรับความ, ถ้วนทั่ว-ทั้งหัวใจ
O เพลงสังคีตหวีดแว่ว .. จะแล้วหรือ-
เมื่อคอยยื้อยุดขวัญ .. เฝ้าสั่นไหว
โอ-หนอดาวกระพริบ .. ที่ลิบไกล-
เหมือนร่วมล้ออาลัยที่ใจคน
O สายลมค่ำพรมแล้ว .. เพียงแผ่ว-ผ่าน
แผ่ว-เพียงหวานหอมปวง .. คล้ายร่วงหล่น-
ลงเกลือกกลั้วอาลัย .. พาไหววน
กับดิ้นรนแฝงเร้น .. ความเป็น – มี
O ฤๅ – ลมค่ำพรมผ่านอยู่นานเนิ่น
เพื่อหยอกเอินรูปลักษณ์แห่งศักดิ์ศรี
ฤๅ – จังหวะหัวใจ .. อาจไหววี
ฝากเรื่อยรี้ลมร่ำ .. รู้-คร่ำครวญ
O สังคีตออดอ้อนเสียง .. นั้นเพียงเพื่อ-
คอยอุ่นเอื้ออาวรณ์ให้ย้อนหวน
ความ .. คำ .. หมายรุมเร้าคอยเย้ายวน-
ความซ่อนเร้นทุกส่วนให้ปรวนแปร
O หวังโดยแรงนิรมิต, ดวงจิตนั้น-
รู้-รำพันร้อยเรียง .. ใช่เพียงแค่-
คารม-อันสั่นพลิ้วเช่นริ้วแพร
เพื่อเย้าแหย่ยั่วความเอาตามใจ
O หมายว่าความละห้อยเห็น .. ที่เป็นอยู่
จากแรงชู้อาวรณ์ .. แสนอ่อนไหว
จักเผยออกให้รู้ .. ว่าผู้ใด
แฝงเร้นไว้แนบกาล .. นับนานมา
O สดับเถิด - คีตะกานท์ .. เสียงหวานแว่ว-
แทนเสียงแผ่วจากใจผู้ใฝ่หา
ยิ่งกว่าขลุ่ยครวญเสียง .. นั้น-เสียงอา-
รมณ์ – ผู้ยังปรารถนาในอาวรณ์
O ใช่ไหมว่า .. สังคีตประณีตรส-
ราวเบิกบทอารมณ์ .. เคยข่ม-ซ่อน
ขลุ่ยโหยเสียงโลมรุกไปทุกตอน
หวังช่วยถอนถ่ายรื้อความถือตัว
O ใช่ไหมว่าลมร่ำ .. แห่งค่ำนี้-
คล้ายวาดวี .. วก-วน .. กลางหม่นหลัว
โลมลูบความแฝงเร้นให้เต้นรัว
โดยหยอกยั่วอกคนอยู่อลเวง
O คล้ายว่าบางงดงาม .. เฝ้าลาม .. รุก
โดยสอดซุก-รูปจริต .. ให้พิศเพ่ง
ผ่านรูปเงาเร้ารัว .. ไม่กลัวเกรง-
การรุดเร่งอกใจ .. คอยไขว่คว้า
O เหน็ดเหนื่อยสักเพียงไหน .. ดวงใจนั่น
กับผูกพันเฝ้าคอยละห้อยหา
อาวรณ์ใครหนอช่วงในดวงตา
พร้อมเหว่ว้าเหมือนช่วง .. ที่ดวงใจ
O ยอมรับเถิด-อาวรณ์ .. หากซ่อนเร้น-
จัก-บีบเค้นลุกลามเกินห้ามไหว
ความคิดถึง, เสน่หา .. แสนอาลัย-
จักเหมือนไฟสุมอก .. เกินยกพ้น !
O ยอมเถิด-วางใจมอบ .. เพื่อตอบรับ-
แสงประดับพู้นสรวงจักร่วงหล่น-
ลงแทรกช่วงปริศนาในตาคน
ให้เอ่่อล้นหอมหวาน .. ณ กาลนี้ !



Create Date : 21 กรกฎาคม 2558
Last Update : 18 เมษายน 2566 17:59:16 น. 0 comments
Counter : 4025 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.