1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28
O คอย .. O
VIDEO Vari - Valzer di pioggia-7247-DNC O โหยแผ่วพาทย์พร่ำพร้องทำนองเสียง ค่อยเรื่อยเรียงอ่อนหวาน .. พลิ้วผ่านหา อ่อนละมุนรูปพิไล .. วาบไหวมา- ราวยั่วเย้ยปรารถนา .. ในอารมณ์ O แต่ละช่วงรอบประณีตสังคีตครวญ บางเสี้ยวส่วนความหลัง .. ที่สั่งสม ก็ค่อยผุดภาพเผยให้เชยชม เข้าห้อมห่มแนบชิดทั้งจิตใจ O งามรูปรอยยิ้มแย้ม .. พวงแก้มปลั่ง พร้อมแววเนตรคล้ายดั่งเกินหยั่งได้ ย่อมแฝงเร้นความหมายอยู่ภายใน จึงวาบไหวปริศนาทุกคราครั้ง O เถิด .. เก็บไว้ให้อยู่ความรู้สึก ซ่อนไว้ในส่วนลึก .. ให้นึกหวัง- ว่าความนัยดวงจิตที่ปิดบัง- จะแว่วเสียงยินดัง .. ให้ฟังความ O หวงไว้เถิดอารมณ์ .. กดข่มไว้ จงอย่าให้เสพทราบ .. รสวาบหวาม- จากถ้อยครวญความนัยอยู่ในยาม ที่คอยลามโลมทั่วเนื้อหัวใจ O เพื่ออยู่รอรับรู้ .. ความรู้สึก ด้วยสำนึกเพียงพอ .. ว่ารอไหว เพื่ออยู่รอให้รู้ .. ว่าผู้ใด- จะเผยนัยอาวรณ์ .. ขึ้นก่อนกัน O เพื่อจะรอแนบน้อม .. ความหอมหวาน ร่วมสืบสานจิตใจ .. ร่วมใฝ่ฝัน เพื่อรับส่งนัยคำ .. ที่รำพัน- ผูกเป็นความหมายมั่น .. ลงสัญญา O เพื่อรองรับหวานละมุน .. อบอุ่นนั้น ผ่านถึงกันเกื้อหนุนเป็นคุณค่า เพื่อเปลี่ยนแปรซาบซึ้งลงตรึงตรา- ในดวงจิตปรารถนา .. เร้าอาวรณ์ O ฝากลมร่ำคำถ้อย .. เรียงร้อยสู่ หวังรับรู้พร่ำพลอด .. ความออดอ้อน และเสพรสครวญคร่ำ .. แห่งคำวอน พาแทรกซ้อนเหนี่ยวนำแนบคำนึง O ในค่ำคืนแขลออ .. ขึ้นยอแสง จะกวัดแกว่งดวงจิต .. แต่คิดถึง ในทุกพากย์พจน์พร่ำ .. พี่รำพึง จะซ่านซึ้งละห้อยอยู่ไม่รู้เลือน O ในค่ำดึกลมรื่น .. แห่งคืนหนาว และเดือนดาวพราวอยู่ .. จะดูเหมือน- ว่าใจผู้รู้แต่จะแชเชือน นั้นสุดเคลื่อนคล้อยฝ่า .. แรงอาลัย O ทั้งสิ้นคือถ้อยคำ .. พี่บำบวง สู่ทิพสรวงเพื่อว่า .. ขออาศัย- ฤทธิ์เดชเข้าคุกคาม .. ปวงความนัย- จากด้านในจิตขวัญ .. ลอบพันธนา O โสตสดับบทเพลงบรรเลงสู่ เสียงยังอ้อยอิ่งอยู่เหมือนรู้ว่า- มีใจหนึ่งเสพรส .. แห่งพจนา อีกใจหนึ่งคอยท่า .. ทั้งราตรี O เพื่ออ่อนหวานอ่อนไหว .. ที่ใฝ่เฝ้า จักเร่งเร้าเสน่หา .. รูปราศี- เติมแต่งใจแหนหวงทุกท่วงที เยื่อใยมีส่งมอบ .. รับตอบกัน O รื่นรื่นแรงลมร่ำ .. ในค่ำหนาว หอบเรื่องราวหวานหอมเข้าล้อมขวัญ อีกกี่ค่ำคืนหนอ .. เฝ้ารอวัน- จะร่วมฝันฝากรื่น .. ทุกตื่นตา O ยังแว่วพาทย์พร่ำพร้องทำนองเสียง ที่เรื่อยเรียงอ่อนหวาน .. พลิ้วผ่านหา อ่อนละมุนรูปพิไล .. ผู้ไกลตา- คล้ายตอบรู้เสน่หา .. กลับมาแล้ว !
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 4 พฤษภาคม 2566 18:16:41 น.
14 comments
Counter : 3408 Pageviews.
โดย: บุษบามินตรา IP: 178.8.22.18 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:1:40:23 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:9:36:01 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 178.8.20.97 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:16:42:31 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:8:57:31 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 178.5.239.1 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:14:17:45 น.
โดย: สดายุ IP: 171.100.146.55 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:25:32 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 178.5.95.203 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:14:43:01 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 178.5.91.247 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:17:37:57 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 178.5.91.247 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:17:47:01 น.
โดย: ม่านแพร IP: 27.55.212.150 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:23:38:43 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 82.82.191.34 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:13:13:16 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:18:39:39 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:18:41:27 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 82.82.191.34 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:23:49:25 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [? ]
O สิ้นสวาดิ .. O O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้ อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้ O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่ สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ? O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา- ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่ ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !
ดายุ..
"O เพื่ออยู่รอรับรู้ .. ความรู้สึก
ด้วยสำนึกเพียงพอ .. ว่ารอไหว
เพื่ออยู่รอให้รู้ .. ว่าผู้ใด-
จะเผยนัยอาวรณ์ .. ขึ้นก่อนกัน"
โป้ง! 555