|
O หนาวลมร่ำ .. O

อัศวลีลา - ลาวดวงดอกไม้
-1- O ใกล้ฤดูลมหนาวล่องข้าวแล้ว พร้อมหวีดแว่วเสียดรวง-วันช่วงฉาย สรวงบนฝูงนกว่อน .. ปีกร่อนราย- หยอกล้อสายลมเช้า .. ใต้เงากาล O แก้วดอกขาวหอมอ่อนกำจรกลิ่น ผ่านรื่นรสรวยรินล้อมถิ่นฐาน เกสรรูปช้อยช่อร่ำรอ-ฆาน- สัมผัสหวานหอมพรม .. กลางลมโรย O อ่อยเอื่อยลมลูบไล้ล้อใบข้าว รวงเม็ดพราว, สูรย์แผ้ว, ลมแผ่วโผย หอมรูปนามปรารถนา .. ก็ปร่าโปรย- อยู่ในสายลมโชย .. แห่งรุ่งเช้า O เหน็บหนาวกลางลมเหนือ, สูรย์เรื่อแสง- โลมหล้าแหล่งโน้มเหนี่ยวความเปลี่ยวเปล่า คำนึงก็โลมลูบด้วยรูปเงา- ของวัยเยาว์กอปรยิ้มมาพิมพ์ใจ O เอิบอิ่มแก้มแย้มมานัยน์ตารื่น แววตอบตื่นราวซ่อนความอ่อนไหว- ของร่องรอยปรารถนาแรงอาลัย- ที่ขับไขคุณค่าเต็มตาแล้ว O คลื่นลมหนาวล่องฟ้า .. ผ่านป่าฝน ริ้วลมวนเวียนโชย .. แม้นโผยแผ่ว- หาก-รวงข้าวยังค้อมยอดพร้อม-แวว- ตาฝันงามผ่องแผ้ว .. ไม่แล้วลา O คลื่นอาวรณ์พลันล่วงฝ่าห้วงคะนึง เอื้องามซึ้งหวานพร้อม .. ละม่อมหน้า อยู่ร่ำรอพฤติขวัญ .. รูปจรรยา ร่วมบรรสารเสน่หาสู่อารมณ์ O งดงามกลางดอกดวงลดามาศ แลโอภาสปลาบปลั่งลงถั่งถม คุณค่าเฝ้าเปรียบเปรยรอเชยชม ก็พลิ้วผ่านสายลมลงห่มครอง O จึง-ฤดูลมหนาว .. รอบหนาวนี้ อุ่นยังมีบ่ายโบกสู่โลกผอง อ้อนแอบแววเนตรพรับ .. ให้จับจอง- ความนัยของแววชม้าย .. ทำคล้ายเมิน O แม้-ฤดูลมหนาว .. ในคราวนี้ แววเนตรที่ลอบชม้าย .. จะคล้ายเขิน เมื่อสายลมผ่านระลอกคล้ายหยอกเอิน ใครหนอนั่นสั่นสะเทิ้นทั้งแววตา O อบร่ำริ้วหนาวลม .. เมื่อพรมผ่าน ถ้วนปวงความอ่อนหวานก็ปานว่า- โหมแรงลงบรรสารรอบมารยา เติมแต้มอาวรณ์ชู้ให้รู้ชม O แก้วดอกขาวหอมอ่อนกำจรกลิ่น พารสรินรื่นสู่ให้รู้สม งามท่วงทีลักขณารูปปรารมภ์ นั้นยิ่งฉมชื่นกุสุม .. เร้ารุมทรวง
-2- O นบนิ้วเพ่งไตร่ตรอง .. ครรลองพุทธ ไว้ฉวยฉุด-เฝ้าคอย, ละห้อยหวง- ด้วยรูปนาม เพ็ญสะคราญที่ปานดวง- ใจ .. ต้องบ่วง - รัดรึง .. เช้าถึงเย็น O นิ้วองค์พระเรียวงอน .. ดูอ่อนช้อย เช่นร่องรอย"รูปเผย" .. ที่เคยเห็น ช่างอ่อนช้อยพริ้มเพรา .. ลำเพาเพ็ญ เมื่อหลีกเร้นก็ละห้อยแต่คอยรอ O หวังปล่อยวางโลกเช่น .. ที่เป็นอยู่ ผ่านด้วยนัยองค์รู้ .. ท่านผู้ขอ รูปเอยกลับเผยอยู่ไม่รู้พอ มาอยู่ล้อต่อความ .. อย่างย่ามใจ O แทนเรียวนิ้วองค์พระ .. กลับคละเคล้า- ด้วยเรียวร่างรูปเยาว์ .. ของเจ้าได้ โค้ง .. คอด .. ผุดผ่องเนื้อ .. จะเหลือ-ใคร- หักอาลัยฝ่าคราญ .. ได้ผ่านพ้น ? O เพ่งดวงจิตบำบวง .. หวังปวงธรรม- หยุดรอบกรรมชี้สั่งอีกครั้งหน เพ่งรูปพระ .. แล้วภาพก็วาบ-วน เป็นภาพใครงามล้น .. เกินป่นแล้ว O พร้อม-แว่วเสียงออดอ้อน, เนตรค้อนคม ฝ่าเสียงลมหายใจ .. ทอด-ไหว-แผ่ว ใกล้เพียงเห็นเนตรผกาย .. เจ้าฉายแวว- งามผ่องแผ้วราวประสงค์ .. แข่งองค์พระ O ครึกครื้นรูปผ่องผาย .. รำร่ายอยู่ พร้อมนัยชู้ตอบตั้ง .. ตามจังหวะ ความอ่อนหวานบรรดา .. เริ่มภาวะ ผูกพันธะล่ามจิต .. สุดปลิดปลง O ตั้งขึ้นแล้วจำพราก .. แสนยากนัก เรือนรูปพักตร์เนียนปราง .. เรียวร่างหงส์ พร้อมรอบกรรมจากอดีต .. ที่ขีดวง ร่วมหนุนส่งชาติภพบรรจบเจอ O นบจิตเพ่งไตร่ตรอง .. ครรลองพุทธ คอยฉวยฉุดอกใจทุกไพล่เผลอ เมื่อต้องหวาน .. เกรงเพริศกับเลิศเลอ- แล้วพร่ำเพ้อถึงเจ้าทั้งเช้าเย็น O ร้างสิ้นแล้วนัยธรรมไว้รำงับ เมื่อเนตรพรับเผลอฟ้อง .. ให้มองเห็น ก็รับรู้รุมเร้า .. อกเจ้า-เป็น สุดหลีกเร้นเต้นระรัว .. อีกหัวใจ O นิ้วองค์พระเรียวงอน .. ดูอ่อนช้อย เมื่อรูปรอยอาวรณ์สุดถอนไหว ช่างอบอุ่นอ่อนหวานทุกด้านไป และจักไหวหวามอยู่ เพียงผู้เดียว !
-3- O ลมวรรษาพลิ้วผ่านแต่วานก่อน เมื่ออาวรณ์แฝงฝากเริ่มกรากเชี่ยว แต่สบทั้งวงหน้ารูปตาเรียว แรงกอดเกี่ยวรูปนาม ก็ล่ามคา O สร้อยสุมาลย์บานช่อ .. เพื่อรอหอม อวลกลิ่นล้อมภู่ภมรเวียนว่อนหา รูปเอยแต่ลอบเล็ม .. อยู่เต็มตา แม้หลับลืมก็ยังคา .. อยู่ทั้งคน O เมื่อโคมฟ้าลอยดวงขึ้นช่วงแสง ค่อยทอดแรงเรื่อรองขับหมองหม่น ก็เมื่อภู่ .. ภุมรินเริ่มบินวน- สีสันกลีบกุสุมบน .. ที่เบ่งบาน O ปีกวิหคแผ่กาง .. ลอยร่าง-ร่อน สูงต่ำตอนเสาะหาภักษาหาร ท่ามกลางเสียงนกแว่ว .. ลมแผ่วพาน กุสุมาลย์ก็ลอยช่อให้รอชม O แต่พบกัน .. อาวรณ์ก็ร่อนคว้าง อยู่ท่ามกลางรูปลออ .. มาลย์ช่อ-ฉม เสริมกำลังปรารถนา .. แรงปรารมภ์- เข้าสั่งสมสืบทราบ .. รอบบาปบุญ O ฤๅพบกัน .. จากกรรมชี้นำทิศ เหนี่ยวสองจิตยื้อยุด .. ช่วยอุดหนุน เพรงสัญญาก่อนเห็นจักเป็นทุน เข้าเจือจุนจิตเจ้า .. ฟังเว้าวอน O ผกายน้ำเนตรรับ .. วับวับไหว สื่อความให้พร่ำพลอด .. ความออดอ้อน ค่อยค่อยถ่ายคะนึงหา .. ความอาวรณ์ ค่อยสุมซ้อนความรัก .. ให้ตักตวง O ราวหวานหอมทั้งหล้า .. น้อมมาให้- คอยชิดใกล้ล้อมอยู่ไม่รู้ล่วง เจตนาผ่านเนตร .. ไร้เลศลวง ใจทั้งดวงหวานฉ่ำ .. อยู่ค่ำเช้า O เมื่ออกใครเต้นระส่ำ .. คล้ายคร่ำครวญ จากแปรปรวนส่วนเสี้ยว .. ความเปลี่ยวเปล่า ก็เมื่องามอ่อนไหว .. จากวัยเยาว์- ค่อยค่อยเร้างามรุกไปทุกตอน O บุปผาเชิดเรณูเหมือนรู้เชิง- ให้ภู่เหลิงห้อมเห่ .. หยาดเกสร เช่นอกคนครวญคร่ำ .. ถ้อยคำวอน ด้วยหลงเหลิงออดอ้อน .. สะท้อนสะท้าน O นุ่มนวลเนียนเนื้อ .. ก็เหลืออ้าง จะเริดร้างห่างไป .. สุดใจหาญ คงเกินใจมุ่งมั่น .. อาจบันดาล เกินต่อต้านปรารถนา .. เกินฝ่าพ้น O กลีบพะยอมนิ่มเนื้อ .. นั้นเหลือนุ่ม ลมผ่าวรุมไหวระรัว .. ก็กลัวหล่น ค่อยโน้มแนบด่ำดอม .. กรุ่นหอมปรน- เปรอใจวนว่ายหอม .. ไม่ยอมร้าง O ล่องลอยเอย .. มาลย์สรวงเมื่อร่วงหล่น กลีบลิ่วสู่ภูวดล .. พลิกบน-ล่าง ฝ่าลำลมพลิ้วผืนอยู่ครืนคราง ก่อนกลีบบางวางซบลงกลบดิน O ครวญคร่ำวิชชุแล่น .. บนแผ่นฟ้า จะทาบทาหม่นหมองให้ล่องสิ้น เช่นคร่ำครวญอันละห้อยระโหยยิน จะรวยรินถิ่นทรวง .. เกินล่วงลา O หอมหวานครั้นผ่านเนตร .. เป็นเลศลับ ค่อยค่อยพรับระยับดวง .. บอกห่วงหา ค่อยค่อยเผยความหมาย .. ผ่านสายตา ชม้อยชม้ายหมายว่า .. ดูท่าที O ภู่ภมรว่อนเวียน .. พากเพียรนัก ใจเอยก็สุดหักไปห่างศรี กุสุมา .. พรั่งพร้อม .. หวานหอมมี และใจที่หวงหอม .. ก็ยอมตัว O ภู่ภมรว่อนอยู่ .. ไม่รู้ร้าง ยิ้มท่ามกลางห่วงละห้อย ก็คอยยั่ว รูปนามเอย .. กระซิบนั้น-เพื่อสั่นรัว- ของอีกหัวใจผู้ .. รับรู้นัย !
Create Date : 12 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 11 มิถุนายน 2566 7:16:38 น. |
|
11 comments
|
Counter : 3901 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:18:50:37 น. |
|
|
|
โดย: บุษบามืนตรา IP: 87.174.103.101 วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:3:54:09 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ IP: 118.172.105.146 วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:9:09:31 น. |
|
|
|
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.192.187 วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:12:21:52 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:13:15:14 น. |
|
|
|
โดย: ม่านแพร IP: 1.10.231.67 วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:16:56:16 น. |
|
|
|
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.192.187 วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:17:57:09 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:21:19:30 น. |
|
|
|
โดย: มาย IP: 171.96.51.165 วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:22:42:05 น. |
|
|
|
โดย: ม่านแพร IP: 125.27.183.115 วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:10:11:24 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:13:20:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]

|
|
|
|
|
|
|
|