Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
29 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O








Ernesto Cortazar - Waiting For You



O เจ้าอ่อนเอย .. คำกระซิบจากลิบโลก
เพื่อคอยโยกคลอนจิตให้คิดถึง
ในทุกทุกความคำ .. พี่-รำพึง-
แต้ม-หวานซึ้งตรึงอยู่ .. เกินรู้ล้าง
O เจ้าอ่อนน้อย .. ดวงใจ-ผู้ใดเล่า
คอยใฝ่เฝ้าถวิลอยู่ไม่รู้สร่าง
อิริยา, นัยคำ .. เหมือนนำทาง-
สบลายหางงามล้ำ .. ยูง-รำแพน
O ดวงใจพี่ .. ความวอน-ออดอ้อน, หรือ-
การยุดยื้อด้วยบ่วง .. ความหวงแหน
จักเริ่มกาลเบิกบทเข้าทดแทน-
อุ่นวงแขน, รูปเนื้อ .. โอบ, แอบอิง
O ที่รอคอย .. อยู่พร้อมละม่อมพักตร์
คือแรงรักอาลัยอันใหญ่ยิ่ง
จิตวิญญาณอาวรณ์ .. หวังผ่อนพิง-
เพื่อถ่ายทิ้งทรมาน .. ลบลาญลง
O สงสารกัน .. บ้างไหมดวงใจเจ้า
ฤๅ-เพียงเฝ้าเร้ารุมให้ลุ่มหลง
รู้บ้างไหม .. ลึกล้ำ-แห่งจำนง-
คือรูปองค์ .. รั้งเหนี่ยวด้วยเรี่ยวแรง !
O อาวรณ์และอาลัย .. หัวใจนั้น
เถิด .. ค่อยสั่นค่อยเต้นอย่างเร้น-แฝง-
รอช่วงเนตรพริ้มพรับ .. เพื่อปรับแปลง-
หวานเติมแต่งรุมเร้า .. พะเน้าพะนอ
O ถวิลถึงก็วิตกสะทกสะท้อน
ฑิฆัมพร .. จะคว้า-ได้ .. เยี่ยงไรหนอ
จมในฝันดื่มด่ำ .. เพียงร่ำรอ-
อยู่เคียงเงาเคล้าคลอ .. เปลื้องทรมาน
O ให้เว้าวอนสำทับ .. การรับรู้
จับจูง-สู่ฟากฝั่งแห่งสังสาร
หลอมรวมเอาเจตจินต์และวิญญาณ
ล่วงพ้นผ่านกรอบเกณฑ์แห่งเวรกรรม
O อาวรณ์และอาลัย .. หัวใจนี้
จักวาดวีทั่วส่วน .. การครวญคร่ำ
แผ่วโหยสังคีตบท .. พร้อมรสคำ-
จะแฝงฝากลมค่ำ .. พลอยร่ำไร
O เจ้าอ่อนเอย .. ถ้อยคำตอกย้ำอยู่
เพื่อแรงชู้โอบขวัญ .. จนสั่นไหว
รับรอง .. การฝ่างามเอาตามใจ
ที่อาลัยอุ่นร้อน .. จักย้อนรอย
O เพื่อหัวใจเร่งรุด .. จนสุดที่-
เส้นทางมีให้คืบเข้าสืบสอย
ทั่วทั้งใจพี่แล้ว .. ที่แน่วคอย-
ความพร่างพร้อยแห่งเพชร .. เพียงเม็ดเดียว !



Create Date : 29 เมษายน 2556
Last Update : 21 มิถุนายน 2566 5:44:01 น. 0 comments
Counter : 3781 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.