Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
5 กุมภาพันธ์ 2558
 
All Blogs
 
O ในคำนึง .. O








Secret Garden - Half A World Away



O อีกครั้งและอีกคราว .. เนตรวาวแสง-
ราวฝากแฝงความนัย .. เผยให้เห็น
อีกครั้งที่แก้มอิ่มและยิ้มเย็น-
ดั่งเฝ้าคอยบีบเค้น .. ไม่เว้นวาง
O เมื่อมีรูป .. มีใจ .. หวั่นไหวรูป
จิตวิญญาณถูกสูบด้วยรูปสร้าง
ใดเล่าอาจยอขวัญ .. ขึ้นกั้นกลาง
แล้วล่มล้างปรารถนาแห่งอารมณ์ ?
O เมื่อมีใจ มีรูป, ความวูบไหว-
ก็เหมือนได้แรงหวัง .. เข้าสั่งสม
แววในตารำร่าย .. ดั่งสายลม-
หอบความฉมชื่นมาลย์ .. พลิ้วผ่านมา
O งามปีกผีเสื้อลาย .. บินว่าย .. วน
ฤๅ- ต่างหัวใจคน .. เฝ้าค้นหา-
ความอ่อนหวานอ่อนไหว .. แวว-นัยน์ตา
เพื่อยกยอคุณค่าสู่อารมณ์
O พลิ้วปีกบางโบกบินล้อมกลิ่นมาลย์
เสพรสหวานเรณู .. เข้าสู่สม
วูบไหวพลิ้วแผ่วมา .. แววตาคม-
ราวรอล่มความคิดอีกจิตใจ
O กี่รสหวานกลิ่นหอมแวดล้อมที่-
ฤๅ- เท่าหอมหวานนี้ .. เขามีให้
ปีกผีเสื้อบอบบางที่กลางไพร-
ฤๅ-อาจโบกปีกไหว .. เท่าใจคน
O ชั่วเพียงความเร้นพราง .. นั้นจางหาย
เนตรที่ฉายแววช่วง .. คล้าย-ร่วงหล่น-
ลงรับรองใจชาย .. พาว่าย-วน
ร่วมสืบค้นจุดหมายที่ปลายจร
O ลม-พร้อมปีกผีเสื้อบินเหนือที่
ก็-วาดวี กล่อมเห่ .. ช่อเกสร
ละม่อมรูป .. แววตา .. ความอาวรณ์-
ก็-สืบตอนต่อเนื่องเกินเปลื้องปลง
O ลมแผ่วล้อมวาดวี, ปีกผีเสื้อ-
ก็ลอยเหนือกลิ่นฉมด้วยลมส่ง
สบ-แววตา .. อาวรณ์ก็ย้อนลง-
แนบ-อกคงคาอยู่ .. เกินรู้คลาย
O ใกล้เพียงช่วงคำนึง, แววซึ้งหวาน-
ก็เผลอผ่านแววล่วง .. ออกช่วงฉาย
ชั่วเพียงแววเสน่หา .. จากตาชาย-
สบ- เขินอาย .. ก็วูบไหวอยู่ในแวว
O กลางสรรพเสียงพากย์ถ้อยที่คอยล้อม-
ก็พรั่งพร้อมรูปพิไลอยู่ในแถว
โอ นั่น ความอ่อนโยน .. เมื่อโชนแวว-
ฤๅ-อาจแล้วรมย์รื่น .. ทั้งตื่นตา
O นั่น-แววยิ้มซ่อนเร้น .. มองเห็นอยู่
ทอดแววสู่ .. เหลือบคอย .. ชม้อยหา
แววอ่อนหวานลึกล้ำก็ค้ำคา-
อยู่แนบในสัญญา .. ผู้อาวรณ์
O ดูเถิด .. รูปเอวองค์ที่ตรงหน้า
แววที่พร่าพรายเต้น .. แม้นเร้น - ซ่อน-
หาก-เหมือนคอยรุมเร้า .. นัยเว้าวอน-
ให้ช่วงตอนอภิรมย์ ทับถมตัว
O ทุกครั้งและทุกคราว .. เนตรวาวแสง-
ราวฝากแฝงอ่อนหวาน .. ออกผ่านยั่ว
ฤๅ-หมายใจทั้งนั้นต้องสั่นรัว-
แกว่งไหวกลั้วเกลือกหวานที่ผ่านรอ ?
O ต่อสู้ขัดขืนงาม .. รุกลามทรวง-
ที่เหมือนบ่วงบาศก์ชู้ .. เขาชูจ่อ-
คล้องดวงใจรุมเร้าพะเน้าพะนอ-
แล้วเติมต่อแรงถวิลให้ดิ้นรน !
O ต่อสู้ขัดขืนงาม .. จนยามผ่าน-
เลื่อนกรอบกาลฝ่าเลศของเหตุผล
หนึ่งในความมอดดับ .. คืออับจน-
ด้วยการขวนขวายอยู่ .. ไม่รู้วัน
O เมื่อวางรูปตรึงแนว .. ทุกแววตา-
เหลือเพียงว่ารูปใคร .. ทุกไหวสั่น-
จักเผยให้โลกดู .. แล้วรู้กัน-
ว่า-ผูกพันด้วยรูป .. เพียงรูปเดียว !



Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 3 พฤษภาคม 2567 18:10:01 น. 6 comments
Counter : 3916 Pageviews.

 
รมยาแห่งราตรีค่อยคลี่คลุม
เมื่อความรุมเร้าใจค่อยไหวผ่าน
สัญญาความผูกพันแห่งวันวาน
ค่อยวาบความอ่อนหวานไหวผ่านตา


โดย: สดายุ... วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:6:37:29 น.  

 
ในห้วงคิดคำนึง-ภาพหนึ่งนั้น-
คือดวงขวัญเฝ้าคอยชม้อยหา
สบ,สัมผัสดาลเหตุดลเวทนา
ลงแนบติดสัญญาให้ตราตรึง


โดย: สดายุ... วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:6:44:24 น.  

 
ท่ามกลางลมระลอก, ช่อดอกมาลย์
ภาพวันวานผ่านให้อาลัยถึง
ตาเหลือบค้อน, แก้มก่ำ-แทรกคำนึง
เพรียกหวานซึ้งฉาบแล้วทั้งแววตา


โดย: สดายุ... วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:6:52:00 น.  

 
มีเจ้า .. รูปเยาว์เอ๋ย-เหมือนเคยมี
จากวันที่อบอุ่นพร้อมคุณค่า
ได้ก่อรูปแวดล้อมไม่ยอมลา
และค้างคาอยู่พร้อมให้ยอมตัว


โดย: สดายุ... วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:6:56:19 น.  

 
นับคาบยามคืบคลาน ..สู่วานวัน
ที่คาบนั้นโลกแต้มรอยแย้มหัว
ลมแผ่วพลิ้วบุษบัน .. ช่อสั่นรัว
ย่อมโลมทั่วหัวใจผู้วัยเยาว์


โดย: สดายุ... วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:21:27:39 น.  

 
อารมณ์หวานจดจ่อ .. เฝ้ารอคอย-
แววตาเหลือบลอบชม้อยแฝงรอยเหงา
ลมพลิ้วผ่านดอกแก้วเพียงแผ่วเบา
หอมก็เข้าคลุมฆานแต่กาลนั้น


โดย: สดายุ... วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:5:09:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.