|
O ข้าวร่วมขัน .. O

ชัยภัค ภัทรจินดา - ลาวคำหอม
-1- O แต่ .. ร่วมบุญตักบาตร .. อาวาสเหนือ เพ่งจิตเพื่อรอบกุศลแต่หนหลัง ได้สืบสานตอกย้ำเสริมกำลัง ลงหยัดหยั่งทอนค่า .. อัตตาตน O ลงสองเข่ากรประนม .. คอก้มต่ำ บำบวงธรรมตรึกตรองครรลองผล แว่วคำพระกล่าวกล่อม .. เข้าล้อมลน ก็แช่มชื่นเหลือล้นอยู่บนใจ O เรียวนิ้วงามจับของประคองถวาย แล้วหมอบกายหน้าก้ม, น้ำพรมใส่ เป็นน้ำมนต์บริกรรมพากย์ธรรมนัย ป้องอาลัยอาวรณ์ให้ทอนแรง O ราวหอมรื่นพัสตร์ห่ม .. บังบ่มผิว ร่ำลมริ้วผ่าวแนบ .. เข้าแอบแฝง นาสิกใกล้หอมอยู่ .. ฤๅรู้แปลง- เปลี่ยนจากแหล่งพักตร์ละม่อม .. กรุ่นหอมนั้น O กลิ่นธูปและควันเทียน .. ไหวเวียนอยู่ เมื่อตารู้ .. งามพิไลเริ่มไหวสั่น ประกายวับวามอยู่เกินรู้-กัน จนกราบพระคล้อยหัน .. ก็พลันพบ O งดงามนักเจ้าเอย .. เมื่อเผยสู่ สบเนตรนิ่งงันอยู่เกินรู้หลบ เกศินีนวลปรางสะอางครบ จะเลือนลบจากใจอย่างไรพ้น O แว่วพระสวดธรรมบท .. ปรากฎเสียง ความเรื่อยเรียงให้สดับ .. อยู่สับสน วงพักตร์หวาน, ธรรมนัย-แว่วไหววน พร้อมอกหนึ่งอึงอล .. อยู่บนยาม
-2- O มาไหว้พระทำบุญ .. เพื่อหนุนชาติ หวังบำราศทุกข์โศกแห่งโลกสาม ให้นัยธรรมหลอมเหลว .. ส่วนเลวทราม พาข่มข้ามขวากขวางที่วางรอ O ด้วยศักดิ์ศรีชายผู้ .. ไม่คู้ต่ำ ไม่อาจย่ำทางสู่ .. ท่านผู้ขอ ตรองข้อธรรมร้อยเรียงย่อมเพียงพอ จักเติมต่อวิชชาเป็นอาภรณ์ O มาทำบุญถวายพระ .. สังฆทาน ให้พระผ่านนัยธรรมขึ้นย้ำสอน แจ่มกระจ่างโศกสุขไปทุกตอน แล้วรับพรรื่นล้ำ .. พร้อมน้ำมนต์ O หอมกรุ่นรูปพัสตรา .. เบื้องหน้านั้น ก่อนค่อยผันพักตร์เหลียว .. มาเกี่ยวผล- จากรูปเผยสบต้อง .. ตาของคน ลุกลามอลวนไหวที่ในทรวง O โพธิ์ยังคงระบัดใบ .. เมื่อใจล่อง- สู่พักตร์ผ่องเนตรวามที่ลามล่วง- มาจับจองนัยคำ .. ถ้อยบำบวง- ให้โชนช่วงรอบกรรม .. มุ่งบำเพ็ญ O ศักดิ์สิทธิ์เสียจริงหนอ .. คำขอนี้ จึงมือที่ผู้ใดมองไม่เห็น คล้ายจับจูงชาติภพ .. บรรจบ-เป็น- นัยแฝงเร้นจดจ่อ .. เฝ้ารอคอย
-3- O อารามวัดเรือนไม้ที่ริมน้ำ อีกครั้งที่รอบกรรมและคำถ้อย พาบรรจบรูปแพงผู้แฝงรอย ให้คนพลอยถวิลเห็นไม่เว้นวาย O ใกล้เจดีย์โบสถ์เก่า .. อันเก่าคร่ำ คือคลื่นน้ำลมพลิ้วเป็นริ้วสาย บนเรือนไม้นัยธรรม .. แว่วรำบาย ความมุ่งหมายพิสมัยแห่งใจคน O รูปอดีตเจ้าหลวงนั้นตั้งเด่น ที่บวงเซ่นเถ้าปวง .. เริ่มร่วงหล่น คือวัดโกษาวาส .. ที่ชาติชน เคยสืบผลธรรมพุทธโดยดุษณี O ก้มกราบรูปองค์พระ .. รูปพระพุทธ เหลื่อมทองผุดผ่องตา .. เรื้องราศี พักตร์สงบงันอยู่ .. ช่วยชูชี- วาตม์ คนที่รุมร้อน .. ได้ผ่อนลง O ใกล้ใกล้ที่นั่งสงฆ์ .. ใกล้องค์พระ แว่ววาทะกล่อมจิตให้คิดบ่ง- เอาเสี้ยนแหลมแซมจิต .. พาปลิดปลง แล้วเสริมส่งรอบกรรมในสัมมา O กราบองค์พระลมรื่นใจตื่นพร้อม เมื่อคล้ายกรุ่นกลิ่นหอม .. ละม่อมหน้า- จะวาบไหวบริบทออกจดตา ใจเอยแต่ละล้าเหลียวหาเงา O เกษินีนวลปราง .. หันข้างอยู่ คล้ายรอกู้ส่วนเสี้ยว .. ความเปลี่ยวเหงา- แห่งอาวรณ์รูปนั้นให้บรรเทา ดูเถิด .. คำพระเจ้า-ยืดยาวจริง O แล้วก้มกราบรูปสงฆ์..บรรจงน้อม ผมหล่นล้อมวงหน้า .. จบหน้านิ่ง เพียงชั่วยามรูปพิไล .. หยุดไหวติง กลับนานยิ่งในคะนึงของหนึ่งคน O มาด้วยเพื่อนอีกสอง .. ผู้ปองธรรม เพื่อขัดค้ำครอบจิตจากพิษฉล งามรูปลักษณ์กิริยาก็น่ายล คล้าย-งามล้นล้ำล่วงถึงดวงใจ O เงยหน้าเจ้า .. หันหน้าเข้าหาเพื่อน เนตรคล้อยเบือนสบกัน .. ก็พลันไหว- วาบหวามละลามล่วงสู่ทรวงใน โอ้อกใครระทึกก้องดั่งกลองตี O สบแล้วเมินเมียงหลบ .. แล้วสบอีก ด้วยสุดตาจะอาจปลีก .. หลบหลีกหนี ชั่วเงียบงันหัวใจ .. กลับไหววี ราวมือที่แฝงเร้น .. บีบเค้นลง O ช่างอ้อยสร้อยอ้อยอิ่ง .. เสียยิ่งแล้ว เนตรผ่องแผ้ว .. แก้มคางเรียวร่างหงส์ ราวแทรกรูปดิ่งด่ำ .. ให้ดำรง แนบจำนงพาใจพลอยไขว่คว้า O ใกล้ใกล้ที่นั่งสงฆ์ .. ใกล้องค์พระ คล้าย-พันธะกุมกัก .. รอหัก .. ฝ่า ภาพหนึ่งแต่ปางบรรพ์ .. ในสัญญา- ค่อยแจ่มจ้าโชนช่วงกลางห้วงใจ
-4- .... มีร่มบังกันให้พ้นไอแดด ท่ามกลางแวดล้อมก้าวของบ่าวไพร่ ตาดแพรทองงามควรห่มนวลใย จึงผ่องใสหยัดอยู่ไม่รู้จาง .... .... มาร่วมบุญงานบวชฟังสวดพระ หวังลดละ..ทุกข์ผองสิ้นหมองหมาง แต่กราบก้มงามควรทุกส่วนนาง ตราบเยื้องย่างสง่าล้วนให้ควรมอง ....
O ราวว่าจินตภาพฟ้องให้มองเห็น งามเกินเว้นตาพรับเมื่อจับจ้อง กระโปรงผ้าสีพื้น, แพรผืนทอง- คล้ายเหลื่อมสองภาพซ้อน .. แต่ตอนนั้น O ในสายตา-ท่วงที .. ราศีรูป- เหมือนคอยลูบโลมให้ห้วงใจสั่น แพรผืนทองพาดบ่า, ภูษาพรรณ- เบื้องหน้าพลันเหลื่อมเนื้อ .. เป็นเนื้อเดียว O ภาพนั้น .. แววขัดเขินจำเริญรูป เทียนควันธูป .. เปลวลอย .. คนคอยเหลียว และเบื้องหน้าลมพลิ้ว .. เมื่อนิ้วเรียว- คล้ายรอเหนี่ยวอกใจ .. พลอยไหวตาม O ภาพนั้น .. แววอุทธัจเผยชัดแจ้ง และเลศแฝงในตา .. เกินกว่าห้าม เบื้องหน้านี้ธรรมบท, รูปงดงาม- ค่อยลุกลาม .. เข้าล้อมให้ยอมตน ! O ภาพแววตาอ่อนละมุน .. คอยหนุนเสริม- ให้อาวรณ์ฮึกเหิม .. ได้เริ่มต้น- เร่งกำลังหวานหอมเข้าล้อมลน พาหวานล้นเอ่อแล้ว .. ทั้งแววตา- O เช่นภาพการเยื้องย่างของร่างหงส์- เข้าทับซ้อนรูปองค์ที่ตรงหน้า เลื่อนหัวใจเลื่อนขวัญรับบัญชา- ตอบคุณค่าน้ำใจด้วยนัยเดียว O แต่เมื่อเดินเข้ามาให้ตาเห็น อย่างลอบเร้นใจละห้อยแต่คอยเหลียว ตาสบรูป .. อารมณ์ก็กลมเกลียว- เข้ากอดเกี่ยวรูปพรรณในสัญญา O หรือหัตถ์พรหมลอบเร้น .. จัดเส้นทาง ให้ยกย่างเหยียดก้าวมุ่งเข้าหา แล้วรอการสัมผัส .. รูป-ทัศนา ก่อคุณค่าจับวางลงกลางใจ O แต่บัดนั้น .. รุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า- ก็เหมือนว่าทอดโค้งยึดโยงให้- ความขัดเขินอ่อนหวานที่ด้านใน- ของอกใจ .. กับผกายแห่งสายตา O ยิ้มรับความสดใสแห่งวัยเยาว์ เช่นยามเช้าสุมาลย์ช้อย .. ช่อ-คอยท่า- ภุมรินผึ้งภู่ .. จะรู้มา- ตฤปรสผาณิตหอม .. อย่างยอมตน O ยิ้มรับความอ่อนไหว .. ของใครนั้น กับแวววามไหวสั่นนับพันหน เอ็นดูความขัดเขินหยอกเอินคน หวามที่ล้นเอ่อแล้ว .. ผ่านแววตา ! O เหมือนว่างามลามรุกไปทุกบท ชี้ .. กำหนด .. รูปรอยให้คอยหา และเหมือนงามลามรุกไปทุกครา- กับท่วงท่าเหลือบค้อน .. ตาซ่อนยิ้ม ..?
Create Date : 10 สิงหาคม 2557 |
Last Update : 11 มิถุนายน 2566 7:12:07 น. |
|
2 comments
|
Counter : 3278 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: น้องเล็ก IP: 192.99.5.126 วันที่: 10 สิงหาคม 2557 เวลา:12:06:50 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 10 สิงหาคม 2557 เวลา:12:43:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]

|
|
|
|
|
|
|
|
พี่กาย วันนี้พาคุณแม่ไปไหนคะ เล็กไปไหว้ สารทจีนมาเพิ่งกลับค่ะ