O เสน่หา .. O
Giovanni Marradi - Free
O แยกแย้มพวงบุบผามณฑาทิพ งามสีกลางระยิบระยับแสง กรุ่นหอมอ่อน .. ลมร่ำ .. ก็สำแดง- ผ่านลมแฝงฝากกลิ่นให้ยินดี O โอภาสในชั้นสรวง .. โชนช่วงแล้ว เมื่อลมแผ่วผ่านหอมมาล้อมที่ รูปนามกลางภพชาติก็วาดวี ขึ้นช่วงชี้สัญญา .. ล้อมอารมณ์ O ช้อยช่อชู .. กลีบบาน-สุมาลย์สมัย เพื่อโลมไล้-ผึ้งภู่ .. เข้าสู่สม รูปพักตร์เนียนแก้มก่ำ .. เมื่อกรำลม- ฤๅ-กลิ่นฉม .. อาจล้างให้จางรอย ? O วูบวับแววเต้นไหวที่นัยน์ตา ที่เหมือนว่าเริ่มแล้ว .. จากแผ่วค่อย- ของอารมณ์ชื่นชู้ .. รับรู้-คอย- พรากเงียบหงอยเร้ารุมลงทุ่มทิ้ง O อยู่ท่ามกลางม่านหมอก .. ดวงดอกมาลย์- ต้องลมลูบโลมผ่าน .. ไหวก้านกิ่ง สายตาอ้อนออดแนบลง .. แอบอิง- ฤๅ-อาจนิ่งงันอยู่ .. แม้ครู่ยาม ? O ย่อมสะทกสะท้านไหว .. หัวใจนั้น- แล้วค่อยสั่นไหวทราบ .. รสวาบหวาม มีสายตาตื่นรับ .. รู้-วับวาม- แห่งรสความหวานชื่น .. ที่ตื่นตัว O อยู่ท่ามกลางคำนึง .. ใครหนึ่งนั้น พร้อมภาพฝัน .. ก่อระลอกคอยหยอกยั่ว- พาหอมหวานโลมขวัญจนสั่นรัว พร้อมหมองมัวในตา .. ถูกพร่าเลือน O คลื่นหอมหวานล้อมห่ม, สายลมร่ำ- ก็ล้อมแต้มแก้มก่ำ .. ลอบกล้ำเหมือน- ว่า .. อ้อมแขนอกอุ่น .. รออุ่นเรือน- ร่าง .. เรียวจนสุดเขยื้อนขยับพ้น O ถ้วนสิ้นความเป็นมี .. ในที่นั้น คือความหวั่นไหวชู้ .. เกินรู้ป่น- เผลอผ่านนัยออดอ้อน .. แทรกซ้อนจน- รอยหวานล้นเอ่อแล้ว .. ที่แววตา O ทุกช่วงความเป็นมี .. ของชีวิต ตรึง, แนบชิดทุกช่วงความห่วงหา อารมณ์ชู้ .. แรงถวิล .. รอบจินตนา- ค่อยหลามบ่ารวมพิสัยเป็นนัยเดียว O จนสูรย์พร่างพรายแสง, รูปแพงน้อย- ก็แฝงรอยรุมเร้าความเปล่าเปลี่ยว เยื่อใยม้วนซ่อนปลายก็คลายเกลียว- ล้อมรัดเหนี่ยวผูกขวัญ .. อย่างมั่นคง O ต่อต้านฤๅ .. เมื่องามรุกลาม .. ล้อม และหวานหอมเร้ารุมให้ลุ่มหลง รูปนาม, ใจดื่มด่ำ .. ร่วมจำนง- ช่วยรับส่งอาวรณ์สุมซ้อนไว้ O เหลือแต่ต้องยอมรับ .. ลำดับเรื่อง- การนับเนื่องสร้างฝันสู่วันใหม่ อารมณ์คร่ำครวญหา, ความอาลัย- จึงหยาดไหลโลมทรวงทุกช่วงตอน O เหลือแต่ต้องโอบกระชับ .. แนบกับอก สองแขนปกป้องงาม .. ฟัง-ความ .. อ้อน ตราบจนเสียงกระซิบเบา .. แผ่วเว้าวอน- เปลือยอาวรณ์บอกชู้ .. ให้รู้-ชม O แยกแย้มพวงบุบผามณฑาทิพ สูรย์ไกลลิบระยิบดวง .. กลางช่วงฉม เมื่อวงรอบเสน่หา .. รูป-ปรารมภ์- เคลื่อน, ห้อมห่มโลมไล้ .. ถึงในทรวง O น้อมรับระยับงามแห่งยามวัน อกอุ่น, ขวัญ, อ้อมแขน, ความแหนหวง- เหมือนอยู่รอร่วมผ่าน .. รสหวานปวง- สืบต่อช่วงอบร่ำ .. ในคำนึง O น้อมใจรับรูปนาม .. แต่ยามนั้น เมื่อแววหวั่นไหวช่วง .. ลามล่วงถึง ดุจสายน้ำกรากเชี่ยวนั้นเหนี่ยวดึง- จมซ่านซึ้งหวานหอม .. ที่ล้อมรอ O โอภาสในชั้นสรวง .. ยังช่วงแรง อาวรณ์แฝงเร้นรอย .. ก็คอยล่อ- โดยจริต .. รุมเร้าพะเน้าพะนอ- นั้น .. ฤๅพอเพียงใจคอยไขว่คว้า ? O รูปเอย .. รูปพิไล, ความใฝ่ฝัน- ก็เพียงเจ้าเท่านั้น .. ให้ฟันฝ่า- เพื่อวางรูปครอบครองทั้งสองตา พร้อมหัวใจเสน่หา .. เกินกว่าล้าง O รูปเอย .. รูปละม่อมในอ้อมกอด- ความจักพลอดพร่ำชู้ไม่รู้สร่าง นิ่มเนื้อเนียนผุดผ่องที่สองปราง- เหมือนยอรูปขึ้นขวางเส้นทางจร ? O ดูเถิด .. ตาปริบปรอยชม้อยชม้าย แต่เมื่อชายชำเลือง .. ฤๅ-เปลื้อง .. ถอน- รอบแรงปรารถนา .. ความอาวรณ์- อันรุมร้อนเร้ารุกไปทุกยาม O แยกแย้มพวงบุบผามณฑาทิพ เสียงกระซิบแผ่วสั่น .. ฤๅ-หวั่น .. หวาม ? บนฟ้าดวงวันระยับแสงวับวาม เมื่อรูปนามซบร่างที่กลางทรวง O งามเจ้าเอย .. ร้อยเรียงผ่านเดียงสา- ที่เหมือนว่า .. ผ่านสู่ไม่รู้ล่วง บนฟ้า .. สูรย์พร่างพร้อยยังลอยดวง ก็เมื่อช่วงแขนโลภ .. เริ่มโอบเนื้อ !
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 17 เมษายน 2566 8:14:36 น. |
|
3 comments
|
Counter : 3372 Pageviews. |
|
|
|
"O ทุกช่วงความเป็นมี .. ของชีวิต
ตรึง, แนบชิดทุกช่วงความห่วงหา
อารมณ์ชู้ .. แรงถวิล .. รอบจินตนา-
ค่อยหลามบ่ารวมพิสัยเป็นนัยเดียว"
ความรักเอย..เจ้าลอยลมมาหรือไร..