O คอยเจ้า .. O
VIDEO Secret Garden - Lament For A Frozen Flower O ด้วยถ้อยคำนำนัยแห่งใจเจ้า มารุมเร้าแนบชิด..ด้วยพิสมัย สุดที่จะแอบซ่อน..อาวรณ์ใคร จึงหวั่นไหวในอกสะทกสะท้อน O เจ้าเอยเมื่อ..เผยความก็งามนัก เข้ากุมกักใจอยู่ไม่รู้ผ่อน ให้เสพทราบเสน่หา..ให้อาวรณ์ ก็สุดทอนทัดทาน..หอมหวานนั้น O จำนรรจ์จากหัวใจของใครหนึ่ง บอกซาบซึ้งพิสมัย...บอกไหวหวั่น ส่งเว้าวอนผ่านย้ำถ้อยรำพัน ก็สุดกั้นกีดความ..ที่ลามทรวง O กำเริบความปรีดิ์เปรมด้วยเขมภาษ- อันพิลาสพิเราะแสน..จนแหนหวง- นั้นท่วมทับโถมถั่ง..ใจทั้งดวง จนสุดล่วงพ้นผ่าน..หอมหวานนี้ O เสียงออดอ้อน..ซ้อนซ้ำถ้อยคำรัก ก็จำหลักลงทรวง..เช่นบ่วงที่- ผูกล่ามร้อยรัดรึง..คำนึง-มี ให้ยินดี..ห่วงเห็นไม่เว้นวาย O ลมอุสุมพ้นผ่าน..ไปนานเนิ่น ให้เพลิดเพลินบทนิยามแห่งความหมาย จนวสันต์หม่นคล้ำ..เข้ากล้ำกราย ฟ้าพร่างพรายระเริงเต้น..ด้วยเส้นไฟ O จึงร้อยเรียงคำพากย์..นี้ฝากสู่ เพื่อรับรู้..งามนั้นว่าสั่นไหว เช่นวิชชุประภาพแผ่..เห็นแต่ไกล คอยขับไขงามสรรพให้รับรู้ O ผ่านอักษรตอนคำมาย้ำจิต บำบวงฤทธิ์แห่งอิฏฐาให้มาสู่ ผ่านรสความ..รสคำ..ความดำรู- จะชื่นชูปฏิพัทธ์..รุมรัดใจ O หอมหวานในความหวังจะปลั่งปลาบ จะแทรกซาบซึ้งสู่ให้รู้ได้ มนต์แห่งชายจะเหนี่ยวหน่วง..ความห่วงใย จนวาบไหววนเวียน...สุดเปลี่ยนแปลง O โอมเทพ..พึงสดับถ้อยลูกร้อยร่ำ ช่วยเสกซ้ำรำบาย..ความหน่ายแหนง แทรกสุจริตคมคำลูกสำแดง เถิด..ถ้วนแหล่งฟากฟ้า..จงอย่าเมิน O สำทับให้อย่าสิ้น..ถวิลหา.. ร่วมพร่ำพร้องเจตนา...เถิด-อย่าเขิน ให้เสน่หาก่อระลอกเข้าหยอกเอิน ร่วมเพลิดเพลินอภิรมย์ที่สมยอม O คอยเจ้า..เช่นกระต่ายที่หมายจันทร์ เพียงจะปันแสงปลั่ง..ร่วมหลั่งหลอม เช่นหยาดฝนชื่นล้ำ..ได้ด่ำดอม หยาดลงล้อมอุระผืนให้ชื่นเย็น O จัก..รอคอยเช่นนั้นนิรันดร์อยู่ ด้วยหัวใจชื่นชู..ให้รู้เห็น มองเถิด..ให้ทั่วถ้วน..อย่างควรเป็น ใจจะเต้น..สั่นอยู่ ไม่รู้ยาม !
Create Date : 12 กรกฎาคม 2557
Last Update : 18 เมษายน 2566 12:10:09 น.
5 comments
Counter : 3145 Pageviews.
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:14:58:34 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:18:11:28 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:5:44:40 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:10:58:51 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:18:04:19 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [? ]
O สิ้นสวาดิ .. O O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้ อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้ O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่ สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ? O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา- ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่ ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !
ขึ้นกลอน ก็ไพเราะเหลือเกิน..
อ่านแล้ว"มีสัมผัส"เลยว่า..
คั้นความ คั้นคำ...ออกมาจากขั้วหัวใจ
"O ด้วยถ้อยคำนำนัยแห่งใจเจ้า
มารุมเร้าแนบชิด..ด้วยพิสมัย
สุดที่จะแอบซ่อน..อาวรณ์ใคร
จึงหวั่นไหวในอกสะทกสะท้อน"
ว่าแต่ว่าทำไมมินตราจึงได้สิทธิพิเศษ ..
โดนตรวจคำ ตรวจความ..ที่โพสทุกครั้งนะ