Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
สิงหาคม 2556
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
28 สิงหาคม 2556
O เจ้าอ่อนเอย .. O
All Blogs
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O จากบัดนั้น .. O
O สิ้นสวาดิ .. O
O แววในดวงตา .. O
O เช้านี้ .. O
O อาวรณ์ .. O
O มธุรสลีลา .. O
O ยิ้มแรก .. O
O หนาวแรก .. O
O ปลายฝน .. O
O ซ่อนเร้น .. O
O งามรูปนั้น .. O
O เจ้าเอย .. O
O ฟ้าคร่ำลมครวญ .. O
O ยอมเถิด เจ้า .. O
O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O
O ปรารมภ์ .. O
O ลมรำเพย .. O
O เหมันตะกาล .. O
O ดวงตาคู่นั้น .. O
O รูปเอย .. O
O ในค่ำหนาว .. O
O คำนึง .. O
O สิ้นเยื่อใย .. O
O ค่ำนี้ .. O
O เพียงเจ้า .. O
O กรรตุวาท .. O
O รูปธรรมในค่ำฝน .. O
O ฉันทาสมัย .. O
O จันทร์ .. O
O ห้วงเสน่หา .. O
O ยามเช้า .. O
O หอม .. O
O อีกไม่นาน .. O
O นาทีนั้น .. O
O วิสาขะสมัย .. O
O กลางริ้วลม .. O
O หวง .. O
O .. เช้านั้น .. O
O แรงอาลัย .. O
O แสงสรวงในทรวงนี่ .. O
O อุปาทานรูป .. O
O ยอมเถิด .. ดวงใจ ! O
O คิมหันตะสมัย .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O ขาบเขียวแห่งเรียวขน .. O
O เมื่ออุษาสาง .. O
O ครวญคร่ำแห่งคำวอน .. O
O เมื่อลมหนาวล่อง .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O น้องสาว .. ที่แสนดี O
O รูปนามเจ้าเอย .. O
O ใต้ปีกนกฟ้า .. O
O มีเจ้า .. O
O น้ำปลายฝน .. O
O เรื่อรุ้ง..บนคุ้งฟ้า O
O ก่อนอุษาสาง .. O
O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
O เดือนลอยดวง .. O
O สาวเอย .. O
O ฟองคลื่นแห่งรมยา .. O
O ฝากจันทร์ .. O
O แก้วตาพี่ .. O
O ก่อน .. วิสาขะมาส .. ! O
O หอมนี้ .. O
O รูปธรรมในคำนึง .. O
O รูปนามเอย .. O
O จันทร์เพ็ญรูป .. O
O รูปพรรณในบรรจถรณ์ .. O
O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
O นางใจ ... O
O ถวิละรูป .. O
O บวงทิพที่ลิบโพ้น .. O
O รูปในคำนึง .. O
O ลมร่ำ .. เมื่อย่ำรุ่ง .. O
O น้ำค้างยามรุ่ง .. O
O คอยเจ้า .. O
O เพรงวาสน์ เมื่อพาดช่วง .. O
O เหมันตะกาล .. O
O บุหลันลอยเลื่อน .. O
O รื่นลมหนาว .. O
O ลมร่ำในค่ำหนาว .. O
O เสน่หา .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O อาลัย ที่ไหววน .. O
O งามละมุน .. กับกรุ่นข้าวหอม .. O
O ปีกนก กับ อกคน .. O
O หอม .. เสน่หา .. O
O ซ่อนเร้น และ เอ็นดู .. O
O น้ำค้างเดือนสิบ .. O
O ลมหนาวและดาวเดือน .. O
O ปริศนาแห่งท่าที .. O
O จันทร์เอย .. O
O คนดี .. O
O แรงถวิลหา .. O
O สุดหัวใจ .. O
O ขวัญเอย .. O
O ปีกนก และ อกคน .. O
O จันทร์เจ้า .. O
O วานนั้น .. จนวันนี้ .. O
O สุดรอคอย O
O ลมร่ำและฝนโรย .. O
O คอยเถิดเจ้า .. O
O ปลายฝน .. ต้นหนาว .. O
O รูปอาวรณ์ .. O
O กลางฝุ่นฝน .. O
O ตราบชั่วนิรันดร .. O
O สร้อยดอกโศก .. O
O สู่กลางใจเธอ .. O
O เพียงคำเดียว .. O
O หอมดอกลำดวน .. O
O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
O ชั่วฟ้าดินสลาย .. O
O ข้าวร่วมขัน .. O
O พิรุณพิลาปร่ำ .. O
O ห้วงแห่งคำนึง .. O
O วันคอย .. O
O แค่เสี้ยวธุลีความ .. O
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
O บ่วงอาวรณ์ .. O
O หอมหัวใจ .. O
O คอยเจ้า .. O
O อาลัย ที่ไหวรับ .. ! O
O คำข้าว .. และใจคน .. O
O พวงผกา .. แห่งป่าฝน .. O
O กล่อมขวัญ .. O
O พินทุกล แห่ง สุคนธรส .. O
O คำมั่นคำสัญญา .. O
O รูปนามแห่งยามสาง .. O
O รื่นวรรษา .. O
O โสมกลางสรวง .. O
O ท่ามกลางละอองรื่น .. O
O รูปธรรมเพื่อจำนน .. O
O เมื่อลมร่ำ .. O
O หอมกลิ่นแก้ว .. O
O คิดถึง .. O
O ฝนห่มลมเห่ .. O
O ฤดูลม .. O
O บ่วงปฏิพัทธ์ .. O
O นิรมิตะรูป .. ? O
O แววตาผู้อาวรณ์ .. O
O รูปในคำนึง .. O
O กลาง - ลม .. ฝน .. O
O บุพสัญญา .. O
O ลมทะเล .. O
O เตรียมเถิด .. ใจ ! O
O เมื่อดาวลอยดวง .. O
O กลางลมร่ำ .. O
O หอม-อุ่น .. กลางฝุ่นฝน .. O
O อัปสระรูป .. O
O ขวัญพี่ .. O
O .. หัวใจที่ร่ำรอ .. O
O เพลงพยาน .. O
O พรรณาแห่งอารมณ์ .. O
O รื่น..ลมร่ำ .. O
O แก้วเอย .. O
O คอย .. O
O ดาวดื่นในคืนแรม ... O
O เภรีและคีตา .. O
O รูปนฤมิต .. O
O ก่อน .. มาฆะมาส .. O
O เพรงภพบรรจบล้อม .. O
O กลางวสันตะสมัย .. O
O ดั่งลมร่ำ .. O
O ปริศนาแห่งนารี .. ? O
O จินตะภพ .. แห่งพลบสมัย O
O คือ ความรัก .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O เหมันตะสมัย .. O
O หอมดอกแก้ว .. O
O หอมกลิ่นโมก .. O
O พินทุแห่งกุสุมา .. O
O สัญญาใจ .. O
O รูปนามนั้น .. O
O ลมหนาวร่ำ .. O
O ฟ้าหลังฝน .. O
O วรรษาสมัย .. O
O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O
O คอยเถิดนะ .. O
O กรุ่นกลิ่นประทิ่นมาลย์ .. O
O อาวรณะสมัย .. O
O รูปแพงเอย .. O
O คอยเถิด .. รูปแพงเจ้า .. O
O มณีเดียว .. O
O ภิรมย์สมัย .. O
O ร่ำรสเกสรา .. O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
O ลมเอย .. O
O กลางฝนโปรยปราย .. O
O อหังการ .. แห่งน้ำค้าง .. O
O กลางพระลบ .. บรรจบล้อม .. O
O หนาวลมร่ำ .. O
O จากเดือนเร้น .. จนเพ็ญรูป .. O
O แต่บัดนั้น .. จนบัดนี้ .. O
O เสภา .. กลางราตรี O
O โสมส่องแสง .. O
O ฝุ่นน้ำฟ้า .. O
O ศรัทธาสองภพ .. O
O ด้วยแรงอธิษฐาน .. O
O เม็ดฝน ใต้ม่านฟ้า .. O
O พันธนาการแห่งรูป .. O
O น้ำผึ้งเดือนเจ็ด .. O
O ฝนเดือนเก้า .. O
O อาลัยที่ใฝ่เฝ้า .. O
O ลีลาและท่าที .. O
O เดียงสาเจ้า .. O
O มณฑาทิพ .. O
O ห้วงอาวรณ์ .. O
O คือ .. เจ้า .. O
O รักเอย .. O
O ชายฟ้าเลื่อน .. O
O เพียงหนึ่งคำ .. O
O ละห้อยหา .. O
O ในห้วงคำนึง .. O
O หยาดเพชรเมื่อเพ็ญรูป .. O
O ใจเอย .. ! O
O ลมรัก .. O
O ผืนทรายและปลายฟ้า .. O
O รูปนามแห่งความคะนึง .. O
O รักสุดใจ .. O
O เชิญขวัญ .. O
O แต่ปางใด ..? O
O ฝากลมร่ำ .. O
O ห้วงเหมันตะสมัย O
O หลังเหมันต์ .. O
O บุหรง .. รำแพน .. O
O ใจเจ้าเอย .. ! O
O งามนั้น .. O
O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O
O แรกอรุโณทัย .. O
O หนาวลมฝน .. O
O หลัง .. อัสดงคต .. O
O รอ .. O
O ดวงเด่นกลางนภา .. O
O จันทร์ขจ่างฟ้า .. O
O กรุ่นแก้วกำจาย .. O
O ฟ้าสองฝั่ง .. O
O ก่อน .. นางครวญ...O
O หงส์ร่อน .. มังกรรำ .. O
O อาวรณ์ .. ที่ซ่อนเร้น ..? O
O สิ้น .. วาสนา .. O
O บุพเพสันนิวาส .. O
O เลื่อมลายรุ้ง...O
O สิ้น - ดวงวิเชียรฉาย...O
O นางครวญ O
O เจ้าอ่อนเอย .. O
Secret Garden - Appassionata
-1-
O เยี่ยงไรหนอคิดย้อน .. แล้วร้อนรุ่ม-
กับเพลิงขุมอาวรณ์ .. เกินผ่อนหาย
หน้าผากเนียนแก้มหน้า .. นัยน์ตาชาย-
สบ-แพ้พ่าย .. ละห้อยเห็น .. อยู่เช่นนั้น
O อาจรู้ฤๅ .. คะนึงหาบรรดามี-
จากวาดวีห้วงใจ .. ค่อยไหวสั่น-
จนคล้อยเคลื่อนความสู่ .. ให้รู้กัน
ด้วยสุดกั้นกีดงามที่ลามทรวง
O หวังถึงเนตรอ่อนโยน .. แววโชนฉาย
จักวาบคล้ายโลดแล่น-ด้วยแหนหวง
เพื่อว่ารอบบุญบาป .. จักทาบทวง
ผูกเป็นบ่วงรัดขวัญ .. ล้อม-พันธนา
O ลับรูป .. หากคะนึงยังตรึงอยู่
จากรับรู้ .. เฝ้าคอย .. ละห้อยหา
อบอุ่นด้วยอ่อนหวานวาบผ่านตา
ที่เหมือนว่าสื่อสู่ .. จนรู้ทัน
O ลบเลือนฤๅ .. เพียงพรับคล้ายกับว่า
เรียวรูปหน้าผุดขวางขึ้นกลางฝัน
จะฝ่าพ้นอาลัย .. เยี่ยงไรกัน
เมื่อกางกั้นทิศทาง .. ทุกย่างเดิน
O พร้อมกับที่-หมดสิ้นแรงดิ้นรน-
คือตาคนสัมผัส .. แววขัดเขิน
พ่ายแพ้ แรงอุ่นล้ำ .. ที่ก้ำเกิน
ก่อนลุกลามจำเริญ .. อยู่เนิ่นนาน
O โหดร้ายกันจริงหนอ .. ลออลักษณ์
เผยรูปพักตร์เนียนละม่อม .. เพรียกหอมหวาน-
ให้อบอวลอารมณ์จนซมซาน
จนสุดต้านทานอยู่ .. แม้น-ครู่เดียว
O สุดป้องแล้วนฤมิต .. จริต-โฉม
ดลรอบโสมนัสเคลือบ .. ทุกเหลือบเหลียว
เร้าอาวรณ์เลื่อนแล่น .. ดั่งแขนเรียว-
โอบ - รั้งเหนี่ยวคลอเคล้า .. ให้เฝ้ารอ
O ผ่านมาให้อบอุ่นและคุณค่า
เร่งฤทธาลามช่วง .. เป็นบ่วงช่อ-
สายเยื่อใยสวาดิเยาว์-พะเน้าพะนอ
ก่อนทอดทอแรงรักจำหลักลง
O จึง-ทุกห้วงคำนึง .. แม้นกึ่งคาบ
ราวเพรงสาปเคยสุม .. พาลุ่มหลง-
ตามช่วงลมหายใจ .. สั่นไหว-บง-
การ-เรื้องแรงจำนง .. ข้ามวงวัฏฏ์
O แหนหวงการพร่ำพลอด .. ความออดอ้อน-
แผ่ว-เว้าวอนเพราะพร้อง .. เกินป้อง-ปัด
เผยอารมณ์ซ่อนเร้นออกเห็นชัด
ก่อนร้อยรัดแรงถวิล .. ลงจินตนา
O เอ็นดู-ความอาวรณ์แสนอ่อนไหว-
อันแฝงนัยบ่งชี้ .. ในทีท่า
แหนหวงความหอมหวานแห่งมารยา
เจ้าเอยรู้ไหมว่า .. ใคร-อาวรณ์ ?
-2-
O คำนึงรูปปรารมภ์ .. กลางลมแผ่ว
ที่เหมือนแว่วความพลอด .. แสนออดอ้อน
ล้อมอารมณ์ .. คลอเคล้า- กับเว้าวอน-
และเหลือบค้อนผ่องแผ้ว .. แห่งแววตา
O แม้น .. ภพชาติเวิ้งว้างมาขวางคั่น
ใช่อาจกั้นกีดเล่ห์สิเนหา
แม้น .. วงรอบการอุบัติแห่งอัตตา-
ใช่อาจพร่า หวานล้ำ .. จากคำนึง
O นานแล้วที่ความนัยห้วงใจนี้
ผ่านวาทีล่องไหล .. ส่งไปถึง
แฝงฝากสายลมร่ำ .. แทนรำพึง-
อันหวานซึ้งมอบสู่ .. ให้รู้คอย
O ที่-สิ้นสุดระลอกน้ำ .. เย็นฉ่ำ-ไหล
คือที่ไร้รันทด .. กำสรดสร้อย
ที่-รื่นรมย์ฟูฟ่อง .. ขึ้นล่องลอย
คือเงียบหงอยเปลี่ยวเปล่า .. เริ่มเพลาแรง
O ณ ที่ขอบโค้งฟ้า .. จดวารี
คือถิ่นที่ใจแนบลงแอบแฝง-
หวานหอมรสรื่นล้ำ .. ร่วมสำแดง-
การเติมแรงอาวรณ์ .. ลงอ้อนซบ
O เพื่อว่าความอ่อนหวานจักซ่านสู่-
ดวงใจผู้ร่วมฝัน .. พาบรรจบ-
ความเชื่อมั่นผูกพัน .. ตราบครันครบ-
กลางอรรณพแดนดิน .. และถิ่นฟ้า
O เพียงจะผ่าน .. สุจริตในจิตหนึ่ง
เพิ่มซาบซึ้ง .. อาวรณ์ซอกซอนฝ่า-
เข้าโอบกล่อมถนอมขวัญ .. ด้วยพรรณนา
สื่อผ่านฟ้าครวญคร่ำแทนคำบวง
O หมายใจผู้นิ่งสนิท .. ในนิทรา
สิเนหาตอบแทน .. ด้วยแหนหวง
ความสัตย์โอนผ่านคาบ .. ไว้ทาบทวง-
แทนเงื่อนบ่วงรัดล่าม .. เกินข้ามพ้น
O เหลือเพียงต้องร่วมชาติ .. ร่วมวาสนา
ไปจนกว่าชีวิตจะปลิดป่น
ฟันฝ่ารอบเพรงกรรม .. อย่างจำนน
ที่วกวนเวียนวาง .. ให้ย่างเท้า
O ใจเอยอย่ารวนเร .. ทำเหหัน
ด้วยผูกพันเกินลบ .. จากภพเก่า
ดาลอาวรณ์แนบขวัญ .. สุดบรรเทา
เถิด รูปเยาว์ .. เตรียบใจ .. เอาไว้รอ
O เมื่อความสัตย์มุ่งประพฤติ .. เฝ้ายึดถือ
จึงเหมือนเพลิงโหมกระพือเป็นสื่อล่อ
เมื่อจำนงส่งเสียง .. ดังเพียงพอ
ก็เกิด-ก่อ .. เป็นรักลงปักใจ
O ร่ำเรียงความอาวรณ์ .. ออดอ้อนชู้
หวัง-เมื่อรู้ .. เมื่อนั้น .. การสั่นไหว-
จักค่อยค่อยวาบ-วก .. รุมอกใคร
ปรุงอาลัยย้อนกลับ .. มารับกัน
O ฟังดูเถิด .. ศัพท์เสียงกระซิบโสต
ที่เหมือนโจทก์ .. รอพร้อมการล้อมกั้น
กระซิบแผ่วครวญคร่ำ-ฝากรำพัน-
ว่า-แรงสั่นในอก .. เกินยก-แล้ว !
Create Date : 28 สิงหาคม 2556
Last Update : 4 พฤษภาคม 2566 18:38:35 น.
5 comments
Counter : 3043 Pageviews.
Share
Tweet
งามคำ งามความ เช่นเคยนะคะ
ละหยาดหยดนัยคำสื่อรำบาย
แฝง-อ่อนโยนช่วงฉาย..โอบรายล้อม
มอบ-ออดอ้อน..อ่อนหวานให้ด่ำดอม
ตฤป-หวานหอมประณีตรสแห่งพจนา
๐๐๐๐๐
"มาลัยละมุนกลิ่นมอบมินตรา"
แทนมิตรภาพงดงามให้กับความน่ารักของคุณมินตรานะคะ
รับมาลัยไป แต่..เอ..มาโยนมันร้อน ๆ กับต้นไม้มีหนาม มาให้กันได้นะ :))
มาชมความงามของคำ ความ ของภาพ และ
มาชมบางความน่ารักของคุณมินตรา--พอแล้วค่ะ
มึความสุขมากๆ ทั้ง จขบ และ คุณมินตราค่ะ สวัสดีค่ะ
โดย: มาย IP: 171.96.102.222 วันที่: 28 สิงหาคม 2556 เวลา:23:29:41 น.
ดายุ..
"O แม้น .. ภพชาติเวิ้งว้างมาขวางคั่น
ใช่อาจกั้นกีดเล่ห์สิเนหา
แม้น .. วงรอบการอุบัติแห่งอัตตา-
ใช่อาจพร่า หวานล้ำ .. จากคำนึง"
ความต่างกันโดย"ชาติกำเนิด" หรือความ"มีอัตตาสูง"ของบุคคลนั้น เป็นปัญหาสากลที่ ประชาธิปไตยกำลังเผชิญอยู่ ทั่วโลกในขณะนี้...
ซึ่งนักวิชาการถือว่าเป็นเรื่องของ"ความแตกต่างโดยธรรมชาติ"ซึ่งในโลกมนุษย์ประกอบด้วยความแตกต่างที่เป็นความหลากหลาย(diversity)ในการเกื้อหนุนกันและกัน
กวีก็ถือว่า"ใช่อาจกั้นกีดเล่ห์สิเนหา" และ
"ใช่อาจพร่า หวานล้ำ .. จากคำนึง"
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.220.9 วันที่: 29 สิงหาคม 2556 เวลา:2:16:45 น.
มาย..
เวลาได้มีใครให้เย้าให้แหย่เล่น ..เด็กทุกคนจะมีความสุข..555
สำหรับศิลปิน หรือกวี..ชนกลุ่มนี้ต้องการ inspiration
โลกมนุษย์จะน่าอยู่ยิ่งขึ้นหากมีคนที่รักเพื่อนมนุษย์ มีเมตตาต่อกัน..
มาร่วมกันสร้างสรรสิ่งสวยงามทางวาจา ทางจิตใจ..
สิ่งเหล่านี้ธรรมชาติสร้างไม่ได้ ต้องอารยะชนเท่านั้น!
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.220.9 วันที่: 29 สิงหาคม 2556 เวลา:2:27:29 น.
มาย ..
ฟังอภิปรายของฝ่ายค้านในสภาเรื่อง วุฒิสภา ควรเลือกตั้ง หรือ ลากตั้ง ..
77 จังหวัด มีคน 65 ล้าน เลือกตัวแทนได้ 77 คน
และเทวดาที่รู้ผิดชอบชั่วดีมากกว่าคนทั่วไป 7 คนสรรหามาอีก 73 คน รวม 150 คน
แล้วนึกถึงบทกวีบทนี้ของ วิสา คัญทัพ
ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า
ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน
ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป
เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่
ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่
เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ
ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
คน 7 คนมีความชอบธรรมเทียบเท่า คน 65 ล้านคนได้อย่างไร .. ตรรกะไหนในโลกนี้สามารถรองรับตรงนี้ได้บ้าง .. พอบอกได้บ้างไหมขอรับ
มินตรา ..
ที่จริงเรื่อง ชาติกำเนิดนั้น ไม่มีความหมายอะไรหรอก .. เรามาสร้างอุปาทานกันขึ้นเอง ..
และพอดีกับว่า อุปาทานตัวนี้ จะมีมากในรูปกายที่ อัตตา รุนแรง !
หากจะยกตัวอย่างผู้กอปรด้วย "super ego" ในสายตามาให้เห็นแบบไทยๆ ก็คงไม่พ้น ..
สมัคร สุนทรเวช
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
จำลอง ศรีเมือง
สนธิ ลิ้มทองกุล
สุดารัตน์ เกยุราพันธ์
ทักษิณ ชินวัตร
เปรม ติณสูลานนท์
อุปาทานจะเกิดง่ายบน "มหาอัตตา-อภิอัตตา" เหล่านี้ .. โดยเฉพาะ อุปาทาน เกี่ยวกับ ความดีเลวของปัจเจกชนอันตั้งบนพื้นฐานของ "วัฏฏะสังขารบท" ..
ความยุ่งยากมิได้อยู่ที่การเกิดขึ้นของมัน แต่อยู่ที่พยายามให้บุคคลอื่นคล้อยตามการปรุงแต่งของมัน
สาธุ .. คุณโยม 555
โดย: สดายุ IP: 118.172.100.95 วันที่: 29 สิงหาคม 2556 เวลา:10:55:42 น.
สาธุ.. ท่าน มหาสดายุ..
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.206.192 วันที่: 29 สิงหาคม 2556 เวลา:14:06:38 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ละหยาดหยดนัยคำสื่อรำบาย
แฝง-อ่อนโยนช่วงฉาย..โอบรายล้อม
มอบ-ออดอ้อน..อ่อนหวานให้ด่ำดอม
ตฤป-หวานหอมประณีตรสแห่งพจนา
๐๐๐๐๐
"มาลัยละมุนกลิ่นมอบมินตรา"
แทนมิตรภาพงดงามให้กับความน่ารักของคุณมินตรานะคะ
รับมาลัยไป แต่..เอ..มาโยนมันร้อน ๆ กับต้นไม้มีหนาม มาให้กันได้นะ :))
มาชมความงามของคำ ความ ของภาพ และ
มาชมบางความน่ารักของคุณมินตรา--พอแล้วค่ะ
มึความสุขมากๆ ทั้ง จขบ และ คุณมินตราค่ะ สวัสดีค่ะ