Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
O เหมันตะกาล .. O








ชัยภัค ภัทรจินดา - ลาวสองคอน



O คิดถึงมากเพียงไหนหนอใจเจ้า-
กับยั่วเย้าความสู่ - เคยรู้ไหม
แล้วที่คอยสั่นรัวทั้งหัวใจ-
เพราะความใครออดอ้อน .. นะ-อ่อนน้อย ?
O รู้หรือไม่รอบคะนึง .. หวานซึ้งเจ้า
เวียนรอบอยู่แล้วเล่า .. ยามเหงาหงอย
นั้น-จากอารมณ์ชู้ .. ที่รู้คอย-
เฝ้าละห้อยห่วงหา .. ด้วยอาวรณ์
O ไม่ต้องข่มเอียงอาย .. ทำส่ายหน้า
เมื่อหวานซึ้งในตา .. เกินกว่าซ่อน
เมื่อ-ทุกความคำเย้ายั่ว .. เว้าวอน
แววเหลือบค้อนส่งมา .. แววตาใคร ?
O โอนั่น – รูปแก้มเผย .. ไยเฉยอยู่
หรือเลือดเรื่อซ่านสู่ .. ข่ม-อยู่ไหว?
กระนั้นแล้วแรงชู้ .. เมื่อจู่ใจ-
แววตาเผยความนัย .. ข่มได้ ฤๅ
O ค่ำดึกดื่นดวงฤดีอย่าลี้หลบ-
การบรรจบ .. โดยทิพกระซิบสื่อ
ความอบอุ่นโอบอุ้ม .. เมื่อกุมมือ-
เปรียบว่าคือ ปรารมภ์แห่งคมคำ
O จักกล่อมเจ้าหลับฝันในบรรจถรณ์
ทั้งอาวรณ์อาลัยเมื่อได้สัม-
ผัส .. ความหอมหวานรส .. ถ้วนบทบำ-
รุง .. หัวใจชื่นล้ำผ่านค่ำคืน
O สุ้มเสียงความเว้าวอน .. คำอ้อนออด-
จักคอยพลอดพร่ำสู่ .. เกินรู้ขืน
จนม่านหม่นแห่งพลบค่อยกลบกลืน-
แววระทึกตอบตื่นในผืนตา !
O ใช่ไหมที่ .. คำนึงมีถึงกัน-
นับหมื่นพันภพชาติ .. เพรียกปรารถนา
ใช่ไหมที่ .. คอย-รอ .. ด้วยทรมา
รอ-การผูกพันธนา .. ด้วยอาวรณ์
O เมื่อเหน็บหนาวลมร่ำ .. ผ่านค่ำคืน
อกควรขืนหนาวร้ายให้คลาย .. ถอน-
ด้วยอบอุ่นอาลัย ดั่งไฟฟอน-
รอ-สุมซ้อนแทรกสู่ .. ไม่รู้วาย !
O ใช่ไหมที่ .. บริบทแสนงดงาม
ค่อยแผ่ซ่านลุกลาม .. สืบความหมาย
มีอารมณ์อาลัยแห่งใจชาย-
คอยเวียนว่าย รองรับ .. เลศ- วับวาว !
O แล้วร่องรอยงดงาม .. แห่งความนัย
ค่อยเผยให้ล้อมห่มสายลมหนาว-
ที่ร่ำโรยผ่านเยือน .. แสงเดือนดาว-
ก็พร่างพราวนักแล้ว - ในแววตา
O อ่อนหวานละเมียดละมุน .. อบอุ่นแสน
จึง-โลดแล่นล้อมใจผู้ใฝ่หา
ให้ออดอ้อนหอมหวาน .. แห่งมารยา-
ที่เหมือนว่าสุมสั้ง .. ไม่รั้งรอ
O ทิพเอย .. ทิพแถนทั้งแดนสรวง
รับรู้เถิดความปวง .. เฝ้าบวงขอ
ช่วยเผยผ่านความหมาย .. ให้ฉายทอ
ล้อมหัวใจจดจ่อ .. โลมล้อกัน
O ทิพเอย .. ทิพแถนทั้งแดนฟ้า
ปรารถนาความปวง .. ในทรวงขวัญ-
จงสื่อนัยออกสู่ .. ให้รู้ทัน
ว่าดวงใจหนึ่งนั้น .. จักมั่นคง
O กลาง-เหน็บหนาวรอบฤดู .. ลมกรูเกรียว
ทุกส่วนเสี้ยว-ข่ายขุม .. แรงลุ่มหลง-
เหมือนตรารอยลึกล้ำ .. ตอกย้ำลง
เป็นจำนงตั้งอยู่ .. เกินรู้ล้าง
O กลางออดอ้อนรอบชู้ .. ฤดูลม-
ก็พัดข่มขับแทรกความแตกต่าง
ใบไม้แห้งหลุดร่อนลงว่อนวาง-
เช่นขวากขวางในอก .. ถูกยกทิ้ง
O แค่หัวใจรับรู้ .. ยอมอยู่เคียง-
หวานย่อมเพียงพอรุก .. ข่มทุกสิ่ง
ในความหมายอ้อนแอบ .. รอแนบอิง-
ย่อมจากดวงใจหญิง .. เจ้าทิ้งลง
O อกเอย .. แม้นหนาวอยู่ .. ฤดูนี้-
อุ่นกลับมีตวงเติม .. คอยเสริมส่ง
จากใจหนึ่งมอบนำ .. แรงจำนง
งามจึงคงคาอยู่เกินรู้เลือน
O อกเอย .. แม้นหนาวอยู่ .. ฤดูลม
ที่ห้อมห่มล้อมอยู่ .. กลับดูเหมือน-
เป็นอบอุ่นอ่อนหวาน .. ใคร-ผ่านเยือน
หมายให้เคลื่อนเข้ารับ .. แนบกับใจ
O เพื่อเคลี่อนขับหนาวล้น .. ให้พ้นผ่าน
ด้วยอุ่นร้อนแผ่ซ่าน .. จนต้านไหว
ฤดูลมร่ำสาย .. มีสายใย-
ม้วนปลายไว้ผูกมั่น .. เป็นพันธนา
O เมื่อจันทร์ลอยขึ้นฟ้า .. อวดราศี
ความรุ่มร้อนเคยมี .. ย่อมลี้หน้า
เหลือแสงรื่นเย็นยามงดงามตา
สิเนหาสองใจ .. คือ - นัยเดียว
O รู้ไหมว่า .. ดาวช่วงในห้วงฟ้า
ยาก-เทียมตาตื่นตอบ .. ยามลอบเหลียว
รู้ไหมว่า .. ไม้ลู่ .. ลมกรูเกรียว
ยาก-เทียมเสี้ยวส่วนใจ .. สั่น .. ไหวคอย..!



Create Date : 19 ธันวาคม 2557
Last Update : 1 พฤษภาคม 2566 18:05:50 น. 1 comments
Counter : 4069 Pageviews.

 

"คิดถึงมาก"

คิดถึงมาก อยากให้รู้ สู่ผิวเนื้อ
เคยล่องเรือ ลอยล่อง ส่องนำ้ใส.
เคยชี้นก ชมผกา...สง่าใบ
ที่ต้นไม้ ใกล้เชิงผา ดาราพราว
อ่อนละออ หนอคำอ้อน เคยสอนจิต
ดังเข็มทิศ โปรยทาง ครั้งหน้าหนาว
ดอกไม้งาม เคยส่งให้ ไหนเรื่องราว
ถ้วนทุกก้าว เก็บกุม สุมทางเดิน
เพลงหวานพลอด กอดไว้ แนบในอก
ลาวดวงเดือน เดือนตก ระหกเหิน
เคยมองเจ้า เคยเคล้าคลอ ก็สายเกิน
ตะวันเมิน ห่างไกล ไปทุกที........


โดย: กฤษณา เวชศิลป์ IP: 171.5.147.225 วันที่: 16 ตุลาคม 2558 เวลา:22:53:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.