Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
2 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
O กลางฝุ่นฝน .. O








Ernesto Cortazar - Dancing on the clouds



O ฉับพลัน .. บนฟ้าล้วนห่าฝน
ร่วงลิ่วหล่นล้อลมที่พรมผ่าน
ก่อนเกลือกเม็ดไหลรินแทรกดินดาน
รวมเป็นธารกรากเชี่ยวแห่งเกลียวน้ำ
O ลมต้นฝนแผ่วพลิ้วเป็นริ้วรื่น
กลางแสงคลื่นส่ายเส้น .. รับเย็นฉ่ำ
กิ่งก้านไม้โยกต้นรับฝนพรำ
แทนแดดกรำเกรียมกรอบอยู่รอบใบ
O ต้องฝน .. ไม้ย่อมตื่นรับคลื่นฝน
เช่นแววในตาคนเมื่อวนไหว
ต้องงาม .. ย่อมรับรู้ .. ว่าผู้ใด-
พกพาความสดใส .. แทรกนัยน์ตา !
O พอไม้ต้องฝนลูบ .. ลมวูบผ่าน
ความอ่อนหวานอ่อนโยนก็โชนค่า
โซ่ตรวนแสนงดงามก็ล่ามคา-
อิริยารูปละม่อม .. ที่ล้อม .. รับ
O ในแววตา ..
รอยความว้าเหว่ปวงคอยล่วงดับ
พร้อมฝั่งฟ้าพืดดาวพร่างพราวระยับ
งามก็จู่ลงจับกระชับพร้อม
O หลังห่าฝนหล่นสายรำบายรื่น
โลกก็ตื่นขึ้นรับการขับกล่อม
แววในตาปรากฎ .. ฤๅอดออม-
ความหวานหอมรึงรัด แต่บัดนั้น
O สิ้นฝน, แผ่นฟ้ามืด .. ล้วนพืดดาว-
ยอแสงวาวไกลลิบ .. กระพริบสั่น
เช่นแววตาตื่นดำ .. พร้องรำพัน-
ความอ่อนหวานโอบขวัญ .. ล้อม-พันธนา
O ก็คงอีกไม่นานนัก ..
การล้อมกักกุมใจ .. คอยใฝ่หา-
คงเร่งแรงเร้ารุกไปทุกครา-
ที่แววตามีรูปเข้าลูบโลม
O และเมื่อความอ่อนหวาน .. นั้นหวานกว่า-
หวานบรรดารูปเคยผ่านเผยโฉม
งามย่อมเช่นแสงช่วงแห่งดวงโคม
รอ .. เอื้อมโน้มเหนี่ยวตระกองด้วยสองมือ !
O ตาที่สบเสพงาม .. เมื่อ-ลามล่วง-
เป็นบาศก์บ่วงเงื่อนตาย .. อาจคลายหรือ ?
ใจที่แกว่งเต้นสั่น จักบันลือ-
ดังจนสื่อให้รู้ .. ว่า-ผู้ใด ?
O สายลมร่ำในค่ำนี้
ช่างเรื่อยรี้ .. ออดอ้อนพาอ่อนไหว
แสงดาวที่กระพริบอยู่ลิบไกล
ราวขับไขแสงช่วง .. แข่งดวงตา !
O และแล้วห้วงคำนึง .. ก็รึงรัด-
กับความขัดเขินมี .. ในทีท่า
ดาวสองดวงช่วงอยู่ไม่รู้ลา
เมื่อแจ่มจ้าอยู่ในหัวใจคน
O เมียงเมิน .. เขินหลบ .. แล้วสบอีก
ด้วยสุดหลีกสุดเลี่ยง .. แม้เพียงหน
รูปนามเอยเผยอยู่ ให้รู้ทน-
การสั่นอลเวงทั่วทั้งหัวใจ
O หรือผุดเผยรูปนาม .. เพื่อล่ามพัน-
รัดรึงรอบดวงขวัญ คอยฝันใฝ่
เร่งจังหวะละห้อยเห็นให้เป็นไป-
ตามอาลัยเวียนวกในอกนี้ ?
O เผยรูป .. มาสูบสิ้นห้วงจินตนา
ปรารถนาในคน .. ก็ล้นปรี่
ก่อนฝน .. ลมอ้อมเข้าล้อมตี
แววตาที่มองเบือน - ก็เหมือนลม
O ตระหลบแววตาตะล่อมรายล้อมอยู่
เลศนัยชู้ปลาบปลั่งคอยถั่งถม
กอปรจริตอิริยา .. ล้ออารมณ์
รับ - หัวใจจ่อมจมรู้ .. รมยา
O ดูเอาเถิด .. รูปละม่อม .. เหมือนล้อมอยู่-
รอสายตาสบสู่ .. รับรู้ว่า-
งามนั้น .. เมื่อโชนฉายต่อสายตา
ถ้วนคุณค่างามซึ้ง .. ย่อมตรึงใจ
O งามจึงเผยรูปขวางในทางเที่ยว
ล่มเปล่าเปลี่ยวทั้งสิ้นจนสิ้นได้
ก้าวย่างที่รออยู่ .. ของผู้ใด-
อยู่รอให้ก้อยเกี่ยว .. ร่วมเที่ยวทาง ?
O รู้หรือไม่ .. ว่างามเจ้าลามรุก
แล้วแทรกซุก .. อกใจของใครบ้าง ?
รู้หรือไม่ .. อาวรณ์ .. เร้นซ่อน .. พราง
ยามเลือดซับเนื้อปราง .. จักพรางฤๅ ?
O ฟ้ามืด .. ลมล่อง .. จันทร์ผ่องแผ้ว
รูปพักตร์, แววตาพร้อม.. ยินยอมสื่อ-
ตอบรับร่วมผูกพัน .. ว่านั่นคือ-
ร่วมยุดยื้อ .. งามนั้น .. ตราบวันวาย !



Create Date : 02 กันยายน 2557
Last Update : 18 เมษายน 2566 12:19:08 น. 8 comments
Counter : 3745 Pageviews.

 

ไพเราะค่ะ...

เหนื่อยรึเปล่า? ปัญหาเรื่องคนงาน ค่อยๆแก้ไขไปนะคะ

เล็กเข้ามาให้กำลังใจออกสื่อค่ะ ถึงแม้จะเพิ่งวางสายไปก็เถอะค่ะ ...



โดย: น้องเล็ก IP: 192.99.14.34 วันที่: 2 กันยายน 2557 เวลา:12:22:05 น.  

 
สดายุ..

"O ก็คงอีกไม่นานนัก ..
การล้อมกักกุมใจ .. คอยใฝ่หา-
คงเร่งแรงเร้ารุกไปทุกครา-
ที่แววตามีรูปเข้าลูบโลม"

"ก็คงอีกไม่นานนัก .. " ตอนนี้ เห็นตามเวปไซด์ และตามเฟสบุ๊ค ต่างต่าง มากมาย..บ่อยบ่อย..
เสมือนใครใครกำลังคอย...เวลา...
เวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง..

สดายุ ก็คงคอยบางสิ่งบางอย่างที่จะเกิดขึ้น..ใช่ไหมเอ่ย..
สาวสาวทางสวีเดน .." "ก็คงอีกไม่นานนัก .. " นี่นะ..
(ไปอ่านเวปสวีเดน มาน่ะค่ะ)



โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 กันยายน 2557 เวลา:14:14:43 น.  

 
ตัวน้อย ..

ขอบคุณนะคะที่มาให้กำลังใจ .. ปัญหาเรื่องคนงานไม่มีวันจบตราบที่ยังต้องอาศัยแรงงานพวกต่างด้าว .. พอดีที่กลุ่มค้าปลีกรายใหย่มาเปิดใกล้ๆ แย่งคนงานกันน่าปวดหัว

ตกลงพี่พาไปทานยำถั่วพูนะคะ














โดย: สดายุ... วันที่: 2 กันยายน 2557 เวลา:20:14:51 น.  

 
มินตรา ..
ที่ยกมาน่ะถูกแค่ครึ่งเดียว .. ที่ถูกต้องครบถ้วนคือสองบทรวมกัน ..!

O ก็คงอีกไม่นานนัก ..
การล้อมกักกุมใจ .. คอยใฝ่หา-
คงเร่งแรงเร้ารุกไปทุกครา-
ที่แววตามีรูปเข้าลูบโลม

O และเมื่อความอ่อนหวาน .. นั้นหวานกว่า-
หวานบรรดารูปเคยผ่านเผยโฉม
งามย่อมเช่นแสงช่วงแห่งดวงโคม
รอ .. เอื้อมโน้มเหนี่ยวตระกองด้วยสองมือ !

ส่วนเรื่อง ความเปลี่ยนแปลง ที่กำลังจะมาถึง เขียนไว้ล่วงหน้าแล้ว ..เมื่อสองปีที่แล้ว

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=17-07-2012&group=41&gblog=39


โดย: สดายุ... วันที่: 2 กันยายน 2557 เวลา:20:27:02 น.  

 
สดายุ..

แปลกนะ เวลาสดายุคุยกับ "คนในหัวใจ" นี่..
จะไม่หวาน..ทั้งทั้งที่ใช้คำหวาน..

แต่เวลาคุยกับมินตรานี่ ทั้งทั้งที่เราคุยเรื่องวิชาการ หรือการเมือง..ศาสนา หนักหนักนี่
คล้ายจะมีอะไรระหว่างบันทัดที่อ่อนโยนนะ..ว่าไหม..

ที่แน่แน่คือ"ชายเดียว"ของมินตรา มิได้ชื่อ สดายุ นะ..

ต้องทำ ..ความทรงจำในความเข้าใจให้ตรงกันก่อน..
Memorandum of Understanding (MOU) 555



โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 กันยายน 2557 เวลา:2:52:35 น.  

 
มินตรา ..

กับสาวน้อยของผม เราจะหวานกันยามอยู่กันลำพังเท่านั้น ขอรับ .. 555
.
.

ส่วน
" .. สาวสาวทางสวีเดน .." "ก็คงอีกไม่นานนัก .. "
นี่หมายถึงอะไรนะ ?

ไม่เข้าใจว่า ..
ใครคือ สาวๆทางสวีเดน ?
และ."อีกไม่นานนัก" .. จะเป็นอย่างไร ? จะทำอะไร ?







โดย: สดายุ... วันที่: 3 กันยายน 2557 เวลา:6:01:38 น.  

 
สดายุ..

คืองี้นะคะ..
มินตราสนใจทฤษฎีที่ใช้ในทุกสาขาวิชาการในศตวรรษที่ 21 คือ Systems Theory อยู่
มิว่าจะใช้ในทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม ชีววิทยา การบริหารจัดการ ทุกสาขาวิชาชีพ ไปจนถึง...
องค์การที่ใหญ่โตส่งยานอวกาศไปนอกโลกเช่น NASA...

สาขาวิชาอื่นจะทดลองในแลป( Laboratory)ได้ นอกจาก สาขาสังคม การเมือง ซึ่ง แลปนั้นต้องใช้ รัฐ ใช้ประเทศที่มีคน เกี่ยวกับคน เป็นแลป..
และ คน คือ ตัวทดลอง

แผ่นดินไทยเช่นเดียวกับประเทศอื่นกำลังเกิดการปฎิวัติใหญ่ตามมา...
จากผลของ การค้นพบเทคโนโลยีในการสื่อสาร..
Medienrevolution

เหมือนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หลังจากการค้นพบ แท่นพิมพ์
ชาวเยอรมัน Johannes Gensfleisch, ที่เรียกว่า Gutenberg ( ประมาณ 1400 - 1468 )เป็น ผู้ค้นพบ

ทำให้ไม่ต้องมานั่งวาดลายมือผลิตหนังสือทีละเล่มไว้ให้เฉพาะชนชั้นมีความรู้อ่าน..
ใครใครก็มีสิทธิจะอ่านเพราะซื้อหาง่ายขึ้น..Massmedia

World Wide Web (Web หรือ //www. ที่มีกำเนิดมาจาก แลปโครงการวิจัยทางนิวเคลียร์ของยุโรปในสวิส "CERN" ก็ เช่นเดียวกัน
ที่ทำให้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปเช่นเดียวกับ"แท่นพิมพ์"
เป็น Medienrevolution

มินตรา จึงสังเกตุ คนไทย ทั้งในและนอกประเทศ ด้วยการตาม ใน เวป น่ะ..
แล้วสดายุเองก็เคยบอกว่าสนใจจะอยู่ในประเทศ แถบสแกนดิเนเวีย..สวีเดน ก็มีเวปคนไทย..
ก็เลยจับมารวมกันในระบบเดียวกัน..555
เพราะเคยอ่านกลอนที่แต่งชมสาวนัยน์ตาสีเขียว ด้วย

เอวังก็มีด้วยประการะฉะนี้ แล....




โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 กันยายน 2557 เวลา:10:31:03 น.  

 
มินตรา ..

เหตุผลที่ผมชอบประเทศแถบสแกน มีว่า ..
1. ประเทศแถบสแกน พัฒนาแล้ว
2. ไม่มีวัฒนธรรมเก็บกด และ บังคับให้รัก คือจะรักใครก็รักเอง ไม่ต้องมาชี้นำ
3. ความเท็จ ตอแหล ดัดจริต ไม่ท่วมเมือง
4. ระบบสังคมเขา settle ดีแล้ว ไม่เสียเวลารอคอย
5. สาวๆ สูงยาวเข่าดี ไม่อ้วนใหญ่เป็นตึกแบบ เยอรมัน 55 แถมผมบรอนซ์ขนานแท้ไม่ต้องย้อมแบบยุโรปใต้ติดเมดิเตอเรเนียน

อัลเฟรด โนเบิล ผู้ก่อตั้งรางวัลโนเบิล อันทรงเกียรติที่สุดในโลก ผู้คิดค้นระเบิดไดนาไมต์ เป็นสวีเดน

ส่วนความรู้จากการสังเกตุคนไทยของมินตรา .. ผมเกรงว่าจะเสียเวลาเปล่านะ เพราะความจริงไม่เคยออกจากปากคนไทยภายใต้"การแสดง" เชิงโวหารภาพพจน์

ผมคิดว่าอีก 100 ปี ประเทศไทยก็ยังพัฒนาไม่เท่าสวีเดนชั่วโมงนี้นะ มองจากองค์ประกอบหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พฤติของ hyper royalist ที่ค่อนข้างประสานประโยชน์กันยึดครองอำนาจรัฐได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด .. ประเทศจึงจะยัง "ทันสมัยแต่ไม่พัฒนา" ไปตลอดกาล ..



โดย: สดายุ... วันที่: 3 กันยายน 2557 เวลา:20:23:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.