Group Blog
 
<<
มกราคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 มกราคม 2557
 
All Blogs
 
O กลางวสันตะสมัย .. O








Johann Sebastian Bach - Air



O แต่เมื่อความอาวรณ์ที่ซ่อนเร้น
ค่อยบีบเค้นให้คอยละห้อยหา
แต่รูปพักตร์ผ่องแผ้วสบแววตา
หอมหวานก็ปานว่า .. ยั่ว-ท้าทาย
O แต่เผยรูปเผยลักษณ์มากักล้อม
เหงาเคยพร้อมเพียบพูนก็สูญหาย
ระดับหนาวเย็นเยียบอยู่เทียบกาย
ก็ผ่อนคลายล้อมรัดในบัดนั้น !
O หอมกลิ่นแก้ว-เมื่อนกปีกโบกคว้าง-
ในท่ามกลางแรกเช้าอันหนาวสั่น
ที่อกคนครวญคร่ำถ้อยจำนรรจ์
และในขวัญครวญคะนึง .. เพียงหนึ่งคน
O โอภาสดวงศศินลับสิ้นแล้ว
รอพร่างแพร้วรพีช่วงกลางห้วงหน
แววในตาวับวามเมื่อยามยล-
ยังวกวนตรึงมั่นในสัญญา
O ถวิลถึงก็วิตกสะทกสะท้อน
ทิฆัมพรเฝ้าแต่ชะแง้หา
หรือ .. ตักบาตรร่วมขันด้วยกันมา ?
จึงเกินฝ่าผ่านพ้น .. ด้วยจนใจ
O เช้าจดเย็น .. ในทางที่ขวางอยู่-
คือรูปผู้เพ็ญลักษณ์จำหลักให้-
แรงถวิลห่วงหาด้วยอาลัย-
ตรึงอกไว้บีบเค้นทุกเส้นทาง
O เยี่ยงดาว .. แสงกระพริบอยู่ลิบพู้น
เรื้องจำรูญรุมเร้าจนเข้าสาง
เผยช่วงแสนงดงามในท่ามกลาง-
เวิ้งฟ้ากว้างรองรับ .. ความวับวาว
O รุ่งเรื้องเริงผกาย .. รำบายสู่
ให้โลกรู้รอบพิมลกลางหนหาว
เช่นน้ำใจหนุนเนื่องต่อเรื่องราว
ย่อมคู่ควรคำกล่าวทุกคราวไป
O งามผกายดาวเรื่อ .. อยู่เหนือฟ้า
ฤๅเท่างามเบื้องหน้า .. เมื่อปราศัย
เพียงจะหลอมโลกต่ำด้วยน้ำใจ
หนุนส่งให้คุณค่า .. แนบปรารมภ์
O ระยิบเอย .. แววตาใต้ฟ้าต่ำ
คอยแต่น้ำใจหลั่ง .. เข้าสั่งสม
เพื่อเสพแสงเรื้องสล้างที่พร่างพรม-
ลงห้อมห่มจิตไว้ .. ด้วยไมตรี
O ค่ำคืนฝันยาวนาน .. แห่งกาลก่อน
เหมือนกลับย้อนแจ่มจ้า .. ด้วยราศี-
รูปนามผู้-เร้าถวิลให้ยินดี-
ต่อความ .. มี .. เป็น .. อยู่ .. อันคู่ควร
O เปล่งผกาย .. สำหรับให้นับเนื่อง
ก่อนรุ่งเรื้องดวงตะวันจะทันหวน
แว่วคล้ายเสียงนกค่ำ .. นั้นคร่ำครวญ
เมื่อคล้ายส่วนเสี้ยวใจ .. เริ่มไหวตัว
O ในคาบยามรัตติภพ .. พระลบล้อม
คล้ายเพียบพร้อมแสงระยับ .. พริ้มพรับ-ยั่ว
เมื่องดงามปลาบปน .. ด้วยหม่นมัว
งามถ้วนทั่ว .. ก็ผุดเผยให้เงยมอง
O สู่คาบยามรัตติภพ .. คำรบนี้
เช่นลมวีวาดโบก .. โลมโลกผอง
อำรุงรื่นรมย์สรรพ .. ให้จับจอง-
ความผุดผ่องเบื้องหน้า .. ต่อตาชาย
O จนดาว .. ลอยดวงในทรวงหนึ่ง
เนตรหวานซึ้งวับวามด้วยความหมาย
แผ่วผ่านด้วยศัพท์เสียงความเอียงอาย-
ค่อย-รำบายให้สดับ .. รู้-รับรอง
O ดูเถิด .. ดาวโรจน์เรื้อง ที่เบื้องหน้า-
งาม, แจ่มจ้า .. สำทับให้จับจ้อง
ชั่วพริ้มพรับรับตอบ .. ก็ครอบครอง-
ใจทุกห้อง ก็สุดสิ้นการดิ้นรน !



Create Date : 21 มกราคม 2557
Last Update : 1 มิถุนายน 2566 18:22:43 น. 2 comments
Counter : 3118 Pageviews.

 

ดายุ..

"O ดูเถิด .. ดาวโรจน์เรื้อง ที่เบื้องหน้า-
งาม, แจ่มจ้า .. สำทับให้จับจ้อง
ชั่วพริ้มพรับรับตอบ .. ก็ครอบครอง-
ใจทุกห้อง ก็สุดสิ้นการดิ้นรน !"

นี่เล่นประกาศพรก.ฉุกเฉิน..ให้มอบตัวซะดีดี ใช่ไหมนี่...
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่22 ซิ.
(บอกแล้วไงคะว่า อ่านอะไรที่ไหนก็ตาม จะตั้งตนเป็นนางเอก ประจำ..อินมาก )555


โดย: บุษบามินตรา IP: 178.12.206.8 วันที่: 22 มกราคม 2557 เวลา:2:07:13 น.  

 
มินตรา ..

ปกติความงามของหญิงวัยเยาว์มีหลายรูปแบบแล้วแต่จริตแต่ละคนจะชอบแบบไหน ..

นั่นว่าเฉพาะเรื่อง "รูป" ที่จะลบเลือนไปในเวลาไม่นานเมื่อย่างเข้าวัย 30 กลางขึ้นไป

ส่วนเรื่อง "นาม" นั้นค่อนข้างละเอียดอ่อนและลึกซึ้งกว่ามากนัก .. ยากเย็นเข็ญใจที่จะได้อย่างใจไปทุกเรื่อง
.. จริต
.. กิริยา
.. นิสัยใจคอ
.. รสนิยม
.. สติปัญญา
บางเรื่องเหมือนเรื่องเล็กๆ .. แต่เอาเข้าจริงแล้วมักเป็นจุดเริ่มของการไปกันไม่ได้ เช่นเรื่องรสนิยม เรื่องความหยาบละเอียดในชีวิตประจำวัน

บางคนอุ่นอาหารในไมโครเวฟแล้วไม่ปิดฝา ก็จะกระเด็นเลอะเทอะทั้งตู้ แล้วไม่ยอมเช็ด จนแห้งกรัง น่าเกลียดมาก .. อันนี้เหมือนเรื่องเล็ก แต่หากอยู่ด้วยกันแล้วเจอทุกวัน ก็หมดอารมณ์กลับบ้านแน่นอน 55

ฝรั่งถึงทดลองอยู่กันก่อน เพื่อดูว่าคนสองคนจะเข้ากันได้ไหมในชีวิตประจำวัน จึงเป็นเรื่องถูกต้อง แล้วค่อยไปประกาศชีวิตคู่ให้สังคมรับรู้ (แต่งงาน)

แต่งตัวเชย ไร้รสนิยมนี่ก็ไปด้วยไม่ไหวเหมือนกันนะมินตรา ..55

จริงไหม


โดย: สดายุ... วันที่: 22 มกราคม 2557 เวลา:6:08:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.