Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
30 กันยายน 2556
 
All Blogs
 

O คันธบท .. แห่งรสสุมาลย์ .. O






ทานตะวัน บรรเลงเดิม




"นมแมว"เหลืองอ่อนอ้อน - - - อิงใบ
หอมกรุ่นยามลมไหว - - - แวดล้อม
นึก-หอมกรุ่นรูปใน - - - อ้อมอก
อิงแอบออดอ้อน, อ้อม - - - กอด-ร้างได้หรือ ?
.
.
.

"จำปา"เหลืองส้มเชิด - - - ชูทรง
รอ-ภู่น้อมกายลง - - - เกลือกใกล้
ต่างฤๅเมื่อรูปองค์ - - - อิงแอบ
รอ-อกแขนโอบไล้ - - - ลูบเนื้อนวลถนอม
.
.
.

"จำปี"แย้มกลีบเชื้อ - - - เชิญภมร
หอมกรุ่นรอแทรกซอน - - - เสพลิ้ม
เรียวรูปปากเผยอวอน - - - เว้าอยู่ นี้นา
แขนโอบ, ตาหลับพริ้ม - - - แผกแย้มสุมาลย์ไฉน ?
.
.
.

"กุหลาบมอญ"กลิ่นฟุ้ง - - - ฝากสมัย
กลางปีกภู่ภมรไหว - - - ว่อนล้อม
งามรูป, พฤติใน - - - จิตพี่ แม่แม่
ยิ่งกว่าปีกภมรห้อม - - - ห่วงละห้อยแต่หอม
.
.
.

เหลือบเหลืองใต้ร่มไม้ - - - ใบบัง
กลีบ"ลำดวน"คลี่อัง - - - อุ่นร้อน
นึกนาสิกแนบฝัง - - - ฝากอุ่น แก้มนา
แก้มย่อมแดงก่ำซ้อน - - - ซ่านให้สูดหอม ฯ
.
.
.

"ลำดวน"กลีบดอกงุ้ม - - - งาม,หอม
บังร่มใบคล้ายออม - - - แอบเนื้อ
โดยรูปชอบแต่ถนอม - - - แนบอก นะแม่
จากสบรูปงามอะเคื้อ - - - แต่ละห้อยห่วงหา
.
.
.

"บุหงาส่าหรี"ทิ้งช่อ - - - ชวนหอม นั้นนา
อาจหยุดใจจนออม - - - อดได้
กรทิ้งรูปเรียวประนอม - - - ประนังโอบ นี้เนอ
อาจหยุดการลูบไล้ - - - แต่ด้วยลมสลาย
.
.
.

"การเวก"แย้มกลีบเกลี้ยง - - - กลางสมัย
เมื่อขาบเขียวเรียวใบ - - - ระบัดล้อม
เกลี้ยงเกลานิ่มเนื้อใคร - - - คอยอยู่ นะแม่
คอยช่วงอกแขน, อ้อม - - - กอดสร้างเดียงสา
.
.
.

"ช้องนาง"ชูช่อช้อย - - - ชวนชม
ขาวเหลื่อมเหลืองสวยสม - - - ศักดิ์เจ้า
ยื่นดอกยั่วภมรดม - - - ดอมกลิ่น
ฤๅต่างแม่ยั่วเย้า - - - ยื่นหน้ารอถนอม
.
.
.

"นางแย้ม"ดอกแยกแย้ม - - - เป็นพวง
กลแยกแย้มสุดาดวง - - - เด่นหน้า
เห็น..เรียมห่วงฤๅหวง - - - เหือดอก นะแม่
กับท่าทีทายท้า - - - ทอดไว้ให้ถวิล
.
.
.

นั่น"สายน้ำผึ้ง"เชิด - - - กลีบเรียว
หอมอ่อนเพรียกปีกเปรียว - - - ปราดห้อม
อีกรูปเพรียกตาเหลียว - - - เหลือบสบ
สบรูป, รูปจึ่งล้อม - - - ล่ามล้อแรงคะนึง
.
.
.

"มณฑาทอง"กลีบแย้ม - - - ยั่วภมร
รอปีกเรียวแทรกซอน - - - เสพลิ้ม
เช่นรูปทอดเรียวกร - - - กระชับโอบ
ปากแยกแย้ม, ตาพริ้ม - - - หลับคล้ายรอคอย ?
.
.
.

"สายหยุด"หอมหยุดสิ้น - - - แต่สาย
หอมบ่หยุดหอมกาย - - - กลิ่นแก้ว
กี่ช่วงภพชาติวาย - - - วางสุด หนอแม่
หอมอยู่ไม่รู้แล้ว - - - แต่เช้าตราบคืน ฯ
.
.
.

"แอบรัก"แอบช้อยรูป - - - ขึ้นรอ-
รับแดดเช้าทอดทอ - - - กระทบไล้
ดั่งตาสบรูปลออ - - - เนื้ออ่อน แม่แม่
สบรูปแล้ว, เลือนได้ - - - แต่ม้วยมรณัง ฯ
.
.
.

"ซ่อนกลิ่น"ออมกลิ่นไว้ - - - รอหอม
ช้อยช่อยั่วภู่ดอม - - - ดอกแย้ม
ซ่อนกลิ่นกลิ่นฤๅยอม - - - ซ่อนอยู่
ดูแต่นวลซ่อนแก้ม - - - กลิ่นเนื้อหอมไฉน
.
.
.

"ชมนาด"แย้มกลีบช้อย - - - รอชม
เสียดช่อขึ้นรับลม - - - ลูบไล้
อีกรูปเพรียกอารมณ์ - - - รุดเร่ง
แนบรูปแนบรสไว้ - - - หว่างละล้าละลังเหลียว
.
.
.

"บานชื่น"บานช่อช้อย - - - ชวนดู
เรียวกลีบสีชมพู - - - พิศพ้อง-
กับเรียวปากอิ่มตรู - - - ตรึงรูป รอเนอ
รอจบจุมพิตต้อง - - - ตอบน้ำใจเสนอ
.
.
.

ผึ้งภู่บินเร่งร้น - - - รุมพะยอม
ฤๅต่างเรียมตฤปดอม - - - "ดอกแก้ว"
โหยแลห่วงกลิ่นหอม - - - หายห่าง
แก้มอิ่มอุ่นจบแล้ว - - - จักแล้วไฉนหนอ
.
.
.

แม้น"โมก"อวลกลิ่นเร้า - - - รุมใจ
ยังยากเปรียบกรุ่นไอ - - - อ่อนเนื้อ
อกแต่เนตรนุชไข - - - ความตอบ พี่แม่
ดาลระลอกอุ่นเอื้อ - - - เอ่อให้คระโหยหอม
.
.
.

ชมพูเหลืองแย้มดอก - - - ดำเกิง
"กุหลาบเมาะลำเลิง" - - - แดดไล้
ปรารมภ์กับรื่นเริง - - - โดยรูป, คำแม่
คำจากรูปอ้อนไว้ - - - หว่างห้วงเสน่หา
.
.
.

งาม"โมกแดง"เด่นล้ำ - - - รูปทรง
ให้กิ่งก้านเขียวรงค์ - - - รอบล้อม
แย้มกลีบอย่างบรรจง - - - รอภู่ ผึ้งนา
ฤๅต่างเจ้ารออ้อม - - - กอด-นี้คอยถนอม
.
.
.

แย้มรูปเรียงกลีบซ้อน - - - เป็นดวง
หอมกลิ่น"สามปอยหลวง" - - - รื่นล้ำ
อีกรูปอีกหอม-ทวง - - - ถามแต่ ถวิลเนอ
เอารสเอารื่นค้ำ - - - อยู่ค้างคาสมัย
.
.
.

"กรรณิการ์"อวลกลิ่นฟุ้ง - - - ประโลมฝัน
เมื่อกลีบดอกแย้มบรร - - - เจิดพร้อม
อีกรูปล่ามผูกพัน - - - ตรึงอก นี้นา
เผยนิ่มเนื้อเข้าล้อม - - - ฉุดรั้งปรารถนา
.
.
.

"รสสุคนธ์"ชูช่อล้อ - - - ภุมริน
รอปีกบางโบกบิน - - - ว่อนล้อม
ต่างฤๅเมื่อโฉมยุพิน - - เผยรูป ลักษณ์เนอ
ทั้งจริตอิริยาพร้อม - - - ย่อมพร้อมถวิลหวัง
.
.
.

"เขี้ยวกระแต"แย้มกลีบ - - - รอชม
หอมกรุ่นเมื่อสายลม - - - ลอบเคล้า
อีกรูปยั่วอารมณ์ - - - คะนึงอยู่
หอมกรุ่นทั้งค่ำเช้า - - - อาจรั้งหยุดหรือ
.
.
.

"ชงโค"เชิดดอกช้อย - - - งอนชู
เรียวกลีบบางชมพู - - - เพริศแพร้ว
อีกรูปเชิดพักตร์ดู - - - งามอยู่
ตาลอบเหลือบนั่นแล้ว - - - จักแล้วเลือนไฉน
.
.
.

"พุดซ้อน"เสียดกลีบซ้อน - - - เป็นวง
ขาวสดเวียนเป็นทรง - - - แทรกซ้ำ
เจ้าเอยแทรกรูปลง - - - ตาพี่
หวานก็ส่งหยอดย้ำ - - - หยาดให้ถวิลหา
.
.
.

หอมไกล"หอมหมื่นลี้" - - - ลำยอง
นวลบุปผากลีบกรอง - - - กลิ่นฟุ้ง
งามพฤติฤต่างผอง - - - ผกากลุ่ม เจ้าเอย
หอมย่อมเกินเขตคุ้ง - - - ขอบฟ้าลิบไกล
.
.
.

"พิกุล"หอมรื่นล้ำ - - - ประโลมใจ
อวลกลิ่นรับลมไหว - - - ระหว่างเช้า
เช่นรูปละม่อมใคร - - - ค้างคู่ ตาแฮ
พากรุ่นหอมรุมเร้า - - - ใฝ่เฝ้าแต่หอม
.
.
.

"กาหลง"ขาวกลีบไร้ - - - ราคี
หลงกลิ่นหอมกรุ่นมี - - - มอบไว้
กาหลงถิ่นหลงที - - - ท่ากลับ รังเนอ
หลงพี่หลงลืมไร้ - - - สติรั้งจากสมร
.
.
.

กลีบแดงเรื่อขดไว้ - - - เป็นวง
"เทียน"ระบัดรูปทรง - - - แทรกซ้อน
อกเรียมถูกแทรกลง - - - ด้วยรื่น แล้วนา
แต่เมื่อแม่เหลือบค้อน - - - อยู่คล้ายถวิลหา
.
.
.





 

Create Date : 30 กันยายน 2556
1 comments
Last Update : 27 ธันวาคม 2564 14:37:48 น.
Counter : 5224 Pageviews.

 

ขอบคุณค่ะที่มอบความรื่นรมย์รักสวนดอกไม้นี้จัง

 

โดย: สายน้ำร้องเพลง IP: 110.169.238.33 2 ตุลาคม 2556 21:15:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.