Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
1 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 

O รูปนามแห่งความคะนึง .. O








Ernesto Cortazar - Emmanuelle



O รู้ใช่ไหม .. ความกระซิบจากลิบโพ้น-
แสนอ่อนโยนสุมสั่ง .. เพื่อหวังผล-
ให้อาวรณ์อาลัย .. คอยไหววน-
พาใจนั้นลิ่วหล่น .. อยู่อลเวง !
O จึงแม้นอนหลับฝันในบรรจถรณ์
ความออดอ้อนจักรุมเข้ากุมเหง-
ล้อมรัดรูปกล่อมขวัญ .. ไม่หวั่นเกรง-
การรุดเร่งรมยา .. ผ่านราตรี
O ภาพ-ข่มยิ้มเขินอาย .. ทำส่ายหน้า
เมื่อเผยขึ้นแจ่มจ้า .. ต่อหน้าพี่
ก็เมื่อนั้นรูปนามย่อมตามตี
การวาดวีวัฏฏะภพ .. ย่อมครบวง
O รูปน้อยเอย .. ครันครบแล้วภพชาติ
รอปูรับยุรยาตรผู้ชาติหงส์
พร้อมกับความหอมหวาน .. แผ่ซ่านลง
เมื่อรูปองค์รอพร้อมการกล่อมตระกอง
O ก่อน-สุ้มเสียงสั่นกระซิบจากลิบโลก-
ค่อยเสียดโศกอาลัย .. ผ่านใจสอง
โดยความนัยกระซิบซ้ำ .. เร่งทำนอง-
ความสอดคล้องนิมิตกรรม .. กลางค่ำคืน !
O ก่อนสุ้มเสียงกระซิบสั่นจะพลันแว่ว,
จากเบา-แผ่ว .. แทรกโสต .. จนโอดอื้น-
ค่อยเร่งเร้าชาติภพเข้ากลบกลืน-
การตอบตื่นกรรมบท .. ขึ้นจดกัน
O ยิ่งกว่าความงดงามทั้งสามภพ
เมื่อตระหลบรูปสะอางขึ้นขวางกั้น
แล้วตะล่อมรสพิสุทธิ์แห่งบุษบัน-
ประโลมขวัญสั่นสิ้นจิตวิญญาณ
O ย่อมงามกว่า .. ฝุ่นฝนยามหล่น .. หลั่ง
ที่ล้อมกักเหนี่ยวรั้ง .. ร่วมสังสาร
วัฏฏะวงไหวสั่น .. แต่วันวาน-
คล้าย-หมุนรอบเหวี่ยงด้าน .. ทุกด้าน .. รอ !
O รอ-ภพชาติบรรจบตระหลบต้อน
เยี่ยง-เกสรเรณู .. เหยียด .. ชู .. ล่อ-
ผึ้งภู่ .. ร่อนโผแนบลงแอบออ-
ร่วมเคล้าคลอรสประทิ่นด้วยยินยอม
O กลีบช่อมาลย์ช้อยชู .. รอ ภู่ผึ้ง-
ลงเคล้าคลึงแทรกผ่านรสหวานหอม
เหมือนงามชี้ .. กำหนด .. ฤๅ-อดออม-
การถนอมอ้อมตระกองที่พ้องกัน ?
O แว่วยินไหม .. ความ-กระซิบกระซาบสู่-
ด้วยแรงชู้อยู่พร้อมแวดล้อมขวัญ
แว่วยินไหม .. ความคำที่รำพัน-
ปลอบ-เสียงสั่นสะท้านอยู่ .. ของผู้ใด ?
O เมื่อมาลย์หอมพร้อมมวล .. อบอวลอยู่
จะกี่ภู่ผึ้งผ่าน .. ฤๅต้านไหว
ยิ่งหอมมาลย์ – คือหวงคือห่วงใย-
เพียงรูปในอกอ้อม .. ที่หอมล้น
O จะผ่านพ้นฤๅสิ้น .. ประทิ่นรส
เมื่อเพียงจด .. หอมปวงก็ร่วงป่น
เหลือเพียงขวัญอวลหอมให้ยอมตน-
ตฤปหวานล้นหวานอยู่ .. แต่ผู้เดียว
O รูปน้อยเอย .. หอมตระหลบเมื่อจบต้อง-
พร้อมข้อแขนผุดผ่องเจ้าคล้อง .. เกี่ยว
รับรู้แววสบสื่อ .. เมื่อมือเรียว-
ค่อยโน้มเหนี่ยวแทรกฝัน .. ด้วยขวัญน้อย !




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2555
9 comments
Last Update : 31 พฤษภาคม 2566 7:50:22 น.
Counter : 3621 Pageviews.

 



คอยด้วยเจ้าค่ะ...

คอยกลอนบทนี้จบ :'))

คงถึงกรุงเทพฯแล้ว... พักผ่อนก่อนนะคะ

 

โดย: witch IP: 118.172.108.212 2 ธันวาคม 2555 16:58:10 น.  

 

.

กว่าจะจบดึกนะ .. คอยด้วยไหวแน่นะ ? อิๆๆ

ถึงกรุงเทพแล้วโดยสวัสดิภาพด้วยเวลา 6 ชั่วโมง 12 นาที .. อันเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่เคยทำได้

พักผ่อนยังไม่ได้ค่ะ .. เดี๋ยวบทนี้ไม่จบ
คนคอยด้วยจะง่วงแย่เลย

 

โดย: สดายุ... 2 ธันวาคม 2555 19:13:06 น.  

 



"ด้วยเวลา 6 ชั่วโมง 12 นาที .. อันเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่เคยทำได้"


แพ้!! อิอิ

แม่มดขับไปชะอำกับน้องชาย ออกจากบ้าน 06.00 ไปถึงชะอำ 12.40 น. วันนั้นจำได้ว่า โดนดุซะ หาว่าขับเร็วเกินไป แต่เข้าทาง มโนรมณ์ นะคะ ไม่ผ่าน กทม.

วันนี้พี่พาคุณแม่ไปรพ.ตำรวจแล้วไปหาน้องต่อ กลับเข้าบ้านน่าจะบ่ายๆสินะคะ คงพอดีกับแม่มดประชุมเสร็จพอดี...

เดินทางปลอดภัย และทำธุระสำเร็จทุกอย่างนะคะ

มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: witch IP: 118.172.108.212 3 ธันวาคม 2555 9:05:42 น.  

 

น้องเล็ก

พี่แพ้เพราะสมรรถภาพรถค่ะ .. รถเครื่องยนต์แค่ 1600 เหยียบ 150 ก็หวิวแล้ว .. แต่หากเป็น แคพติว่า .. ต้องมาวัดกันดูใหม่ เจ้าค่ะ .. อิๆๆ

การขับรถในวันฟ้าครามแดดใส .. เป็นสิ่งที่พี่โปรดปราน .. เหลือแต่ "ที่นั่งเบาะข้าง" ที่ยังว่าง บรรยากาศในรถจึงยังเงียบไปหน่อย

รอเจ้า ..


 

โดย: สดายุ... 3 ธันวาคม 2555 15:13:16 น.  

 


สดายุ..

มาทำ"สิ่งที่เป็นประโยชน์" เพื่อช่วยกันรักษา ศิลปะในการใช้ภาษาที่งดงาม

"O รูปน้อยเอย .. ครันครบแล้วภพชาติ
รอปูรับยุรยาตรผู้ชาติหงส์
พร้อมกับความหอมหวาน .. แผ่ซ่านลง
เมื่อรูปองค์รอพร้อมการกล่อมตระกอง"

ตระกอง...

"O ยิ่งกว่าความงดงามทั้งสามภพ
เมื่อตระหลบรูปสะอางขึ้นขวางกั้น
แล้วตะล่อมรสพิสุทธิ์แห่งบุษบัน-
ประโลมขวัญสั่นสิ้นจิตวิญญาณ"

ตระหลบ..ตะล่อม..
ครั้งนี้ สดายุใช้คำ ที่ทั้ง "ตระหลบตะล่อม"ล้อม เพื่อจะ"ตระกอง"กอดใครไว้ในอ้อมแขนให้ได้..นะ
เสมือนกับ ท่า รำวงของไทยเดิมเลย..จะมีรำดักหน้าดักหลัง ดักวงล้อม ด้วยอ้อมแขน..
แปลกที่ภาษา บอกภาพได้..
ว่าแต่ว่า "O รูปน้อยเอย .. หอมตระหลบ" เธอจะยอมให้ "ตระกอง"รึ..ในเมื่อเธอออกจะ "หอมตระหลบ" อยู่เช่นนั้น...


 

โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.199.231 4 ธันวาคม 2555 1:14:34 น.  

 


"ปลาอยู่ในน้ำ .. ย่อมมองไม่เห็นน้ำ
นกบินอยู่บนท้องฟ้า .. ย่อมมองไม่เห็นท้องฟ้า
คนอยู่ในเหตุการณ์ .. จึงมักมองไม่เห็นเหตุการณ์ได้ชัดเจนเยี่ยงคนรอบข้าง"

คงจริงค่ะ น้องน้อยหาของไม่เจอบ่อยๆทั้งๆที่อยู่ข้างหน้า... พ่อหาแว่นอ่านหนังสือไม่เจอทั้งๆที่คาดอยู่บนหน้าผาก อิอิ

ส่วน "ปลาในน้ำ ดาวบนฟ้า เธอในฝัน" ของเล็กเป็นเพลงค่ะ :'))

ที่พี่เล่าให้เล็กฟัง และคุณแม่ของพี่ท่านเล่า แสดงว่า เรา หมายถึง คุณแม่ พี่และเล็กยังมองเห็นสิ่งเหล่านั้นค่ะ แต่...เราเก็บไว้ ...ส่วนพี่เป็นคนจิตใจดีและคิดไม่ถึงเพราะอยู่ในเหตุการณ์อย่างที่เล็กบอก ถึงได้มอง "ลิเก" เป็นเรื่องจริง...

วันนี้ที่ลำปางอากาศเย็นค่ะ ...

เล็กกลับมาบ่ายๆนะคะ

 

โดย: น้องเล็ก IP: 118.172.111.52 4 ธันวาคม 2555 7:42:37 น.  

 


สดายุ..

"O จะผ่านพ้นฤๅสิ้น .. ประทิ่นรส
เมื่อเพียงจด .. หอมปวงก็ร่วงป่น
เหลือเพียงขวัญอวลหอมให้ยอมตน-
ตฤปหวานล้นหวานอยู่ .. แต่ผู้เดียว"

"จะผ่านพ้นฤๅสิ้น .. ประทิ่นรส" นั่นซิคะ..ดูแล้วกลอนครั้งนี้ หวานกร่อยกร่อย ยังไงไม่ทราบ..
เพราะดูท่า ว่า มินตราจะ"ตฤปหวานล้นหวานอยู่ .. แต่ผู้เดียว" ..เป็นแน่แท้..เพราะสิ่งแวดล้อมมิเอื้ออำนวย..ฮึ..ฮึ..
เอ..คำว่า"ตฤป"นี่ แปลว่า อะไรเอ่ย..ผ่านตาบ่อยทีเดียว..


 

โดย: บุษบามินตรา IP: 79.205.200.253 4 ธันวาคม 2555 12:39:25 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่กาย
อ่านเมื่อไรก็คงความไพเราะทุกเมื่อ
พี่กายสบายดีนะคะ ไม่ได้เข้ามานานมาก ม่านทำเรื่องขอจบเรียบร้อยแล้วนะคะ ปิดลิ้นชักนักศึกษาเสียที ทีนี้เปิดลิ้นชักนักการศึกษาได้เต็มตัวและ แวะทักทายเจ้าของบ้านก่อน และก็แว๊บไปอ่านกลอนให้จุใจ

 

โดย: ม่านแพร IP: 49.48.214.38 4 ธันวาคม 2555 16:33:23 น.  

 

มินตรา..

ตฤป [ตฺริบ] (แบบ) ก. อิ่ม, ให้อิ่ม, ให้กิน, เลี้ยง, กิน เช่น ตฤปตฤณ. (ส.; ป. ตปฺป).

คำนี้เป็นคำที่นายผี (อัสนี พลจันทร์ .. ผู้เขียนเพลงเดือนเพ็ญ) เป็นผู้ใช้ก่อน ในงานกวี ก็เลยเอามาใช้บ้าง

ดูในวงเล็บ .. ท้ายคำแปล .. ส. คือ สันสกฤต ส่วน ป. คือ ประโยคหรือบาลี นี่คือที่มาของคำ .. เวลาใช้ในฉันท์เราสามารถแยกอ่านได้เป็น .. ตริ-ปะ

ผึ้งล้อมและห้อมฉมะพะบู
นิระรู้ประจาคบิน
เสพหวานละลาน บ ละถวิล
ตฤ-ปะพินทุเกสร

เรื่อยเร่วเนจระพนัส
ทะลุตัดระหว่างตอน
หอมหวานสุมาลยะขจร
ขณะร่อนก็รับรู้

ภาษากลอนของไทย .. เป็นสุนทรียภาพแห่งความละเมียดละไมในการถ่ายทอดจินตภาพของผู้เขียนออกมา .. ผ่านรูปแบบที่ค่อนข้างมีลีลาเฉพาะตัว .. และผู้เสพรับจำต้องมีวุฒิภาวะทางภาษาในระดับที่ลึกซึ้งเพียงพอจะเสพรับสิ่งที่สื่อได้ .. จึงจะเป็นความลงตัวของเรื่องราว ..

หากเคยผ่านตา "พรรณนาโวหาร" ในจุฬาตรีคูณ ที่เขียนโดยนักเรียนมัธยมปลายสวนกุหลาบที่ใช้นามปากกา"พนมเทียน" มาบ้าง .. อาจสามารถประเมินคุณภาพทางภาษาไทยของคนยุคก่อนกับยุคนี้ว่าต่างกันมากมายเพียงไร ..






น้องเล็ก..
พรุ่งนี้วันที่ 5 .. พี่คงอยู่ในรถทั้งวันเที่ยวขากลับ .. มีเวลาน้อยมากสำหรับ"สาวน้อยจากทัสมาเนีย" ช่วงปีใหม่อาจลงมาอีกสักเที่ยว ..

กรุงเทพร้อนเป็นปกติ แต่ค่ำคืนแถวราชประสงค์ประดับไฟสวยงาม รับเทศกาล พร้อมหนุ่มสาวแต่งตัวทันสมัยเดินจูงมือชมไฟ+ถ่ายรูป .. กัน .. เห็นแล้ว-เอ็นดู ..อิๆๆ

ยังไม่มีโอกาสเพราะไม่มีเวลาพาทั้ง สว และ สน ไปตลาดน้ำสักที ..

ดูแลสุขภาพเจ้าค่ะ







ม่านแพร
จบดอกเตอร์แล้วสินะ .. พี่ขอแสดงความยินดีด้วย
หายหน้าหายตาไปจากบล็อคพี่นับนานจนนึกว่าเลิกท่องเนตแล้ว ..

แล้วตอนนี้ทำงานที่ไหน .. พี่จำได้ว่าครั้งล่าสุดอยู่โรงเรียนแถวสวนผึ้งราชบุรี .. ใช่ บ่

เรียนเก่ง และเรียนได้สูง ก็จะได้เปรียบคนอื่นในหน่วยงาน .. ขอให้ม่านประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจ

 

โดย: สดายุ... 4 ธันวาคม 2555 19:22:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.