จอมคนทาเครุ : หัวใจและภาระยิ่งใหญ่ของ "ราชา"
ปกติอ่านการ์ตูนไม่ค่อยรีวิวค่ะ แต่ตอนนี้กำลังเล่นเกมแข่งทะลายกองดองอยู่ เลยมารีวิวบ่อยนิดนึง
สำหรับเรื่องนี้อ่านตอบโจทย์ HHR สองข้อเลยค่ะ
ข้อแรก
20-2. [หนิงๆ (peiNing) + กุลธิดา] 6 มิถุนายน วัน D-Day (วันยกพลขึ้นบกสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง): ให้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับสงคราม หรือ อ่านหนังสือเกี่ยวกับการปฏิวัติที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ทั้งไทย ทั้งเทศ (ขอเน้นสภาพสังคม จะเป็นนวนิยาย หรือบันทึกก็ได้ แต่ไม่เอาประเภทวิเคราะห์สาเหตุ หรือมีประเด็นที่ก่อให้เกิดการถกเถียงด้านการเมือง)
หนังสือ : จอมคนทาเครุ (Haou Densetsu Takeru) ภาค 1 เรื่องและภาพโดย : Yuzaru Shinazaki จำนวน : 10 เล่มจบ
ปกติไอซ์จะไม่ค่อยหยิบหนังสือมาอ่านซ้ำค่ะ แต่การ์ตูนนี่หยิบมาอ่านซ้ำได้เรื่อยๆ เรื่อง "จอมคนทาเครุ" เป็นการ์ตูนเรื่องยาวที่ไอซ์โปรดปรานมากๆ หยิบมาอ่านซ้ำปีละครั้งสองครั้งทุกปี
เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งนะคะ แต่คิดว่าน่าจะอิงสมัยที่ญี่ปุ่นยังแบ่งเป็นเมืองเล็กๆ เจ้าเมืองต่างสู้รบกันเพื่อครองความเป็นใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนตาดำๆ เดือดร้อนและทุกข์เข็ญมากๆ
เจ้าเมืองไม่ค่อยจะทำนุบำรุงสภาพความเป็นอยู่ของราษฎร ที่นาแห้งแล้งจนเพาะปลูกแทบไม่ได้ แถมยังถูกรีดนาทาเร้น ขึ้นภาษี แย่งชิงผลผลิต
เมื่อมีการสู้รบ คนที่ลำบากที่สุดก็คือประชาชนอีก ผู้ชายถูกนำไปเกณฑ์เป็นทหาร ผู้หญิงถูกนำไปเป็นข้ารับใช้ เมื่อเมืองถูกบุกรุก ประชาชนก็ถูกปล้น ฆ่า ข่มขืน
จิตใจของผู้คนมีแต่ความหวาดกลัว แห้งแล้ง หวาดระแวงซึ่งกันและกัน
"โอโทริ เท็นเซ็น" เป็นเจ้าเมืองผู้ปกครองแคว้นโอโทริ ... ท่ามกลางไฟสงคราม ท่านเท็นเซ็นปกครองเมืองด้วยความเมตตา ประชาชนเป็นสุข เท็นเซ็นมีลูกสาวคนหนึ่งคือ "ชิโอริ" และลูกชายอีกคนคือ "ทาเครุ"
เท็นเซ็นผิดหวังในตัวลูกชายทาเครุมาก เพราะทาเครุเป็นคนที่ขาดความเข้มแข็ง ไม่มีฝีมือในการสู้รบ เป็นคนที่เกลียดสงคราม รักธรรมชาติ ความสงบสุข ซึ่งเท็นเซ็นรู้สึกว่า จะไม่สามารถปกครองประเทศให้อยู่รอดในกลียุคเช่นนี้ได้
เท็นเซ็นมีขุนศึกคู่ใจคือ "ทาซึมิ ไก" เขาเป็นเด็กกำพร้าซึ่งเท็นเซ็นเก็บมาเลี้ยงจนกลายเป็นนายทหารผู้เก่งกาจ จนได้รับฉายาว่า "เทพเจ้าแห่งสงคราม" ผู้สามารถต่อสู้กับข้าศึกนับพันได้ด้วยตัวคนเดียว
เท็นเซ็นตกลงใจมอบชิโอริ...ลูกสาว ให้แต่งงานกับ "ฮาชิดะ มาคิ" น้องชายต่างมารดา ผู้เป็นเจ้าเมืองหน้าด่าน และให้ไกคุ้มครองไป ... ในสมัยนั้น เจ้าหญิงของแต่ละแคว้นก็เหมือนกับเครื่องมือทางการเมือง พวกเธอไม่สามารถเลือกคู่ครองของตัวเองได้ ชิโอริตอบตกลงทั้งๆ ที่เธอและไกมีใจให้กันอยู่
แต่...การแต่งงานครั้งนี้กลับไม่สามารถสร้างพันธมิตรได้ เพราะมาคินั้นแค้นเคืองเท็นเซ็นมาตั้งนานแล้ว และต้องการเป็นใหญ่ ครองโลกแต่เพียงผู้เดียว ไกจึงพาชิโอริเข้าสู่กับดักโดยไม่รู้ตัว
เท็นเซ็นถูกมาคิตลบหลัง กองทัพถูกตีย่อยยับ และถูกจับเป็นตัวประกัน ให้ทาเครุซึ่งอยู่ในปราสาทยอมแพ้และเปิดประตูให้
ทาเครุในวัยเพียง 14 ปี ยิงธนูสังหารบิดาตัวเองทั้งน้ำตา ยอมจุดไฟเผาปราสาทเพื่อให้ราษฎรของตัวเองหนีไป
จากศึกครั้งนี้ การได้เร่ร่อนไปเห็นความยากลำบากของราษฎร ทำให้ทาเครุที่เกลียดสงครามมากอยู่แล้ว ยิ่งเกลียดสงครามมากขึ้นไปอีก เขาตั้งมั่นว่า จะต้องสร้างประเทศที่ปราศจากสงคราม เพื่อให้ประชาชนมีแต่ความสุขให้ได้
ทาเครุอาจจะไม่ใช่คนที่เก่งกาจด้านการรบ แต่ทาเครุมีความดีในจิตใจ เชื่อใจในความดีของมนุษณ์ ไม่มีความโกรธแค้น มีแต่ความรักให้เพื่อนมนุษย์ ซึ่งทำให้ผู้คนมากมายรักและยอมช่วยเหลือ
เรื่องนี้จะเล่าถึงการพยายามของทาเครุเพื่อสร้างชาติใหม่ที่ปราศจากสงครามนะคะ แน่นอนว่าจะต้องรวบรวมกำลังทหาร สร้างชาติ และทำลายมาคิให้ได้ ...
การเล่าเรื่องอดคิดถึงสามก๊กไม่ได้ค่ะ ทาเครุผูกมิตรกับแคว้นข้างเคียง สู้รบกับแคว้นศัตรู หาเงินทุน มีฉากการสู้รบ มีการใช้เสนาธิการหรือกุนซือในการวางแผนการรบ หลายๆ แผนการรบก็มาจากสามก๊กเลยทีเดียว เช่น วิธีการหาลูกธนูหนึ่งแสนดอกในหนึ่งคืน การเผาเรือรบกลางทะเล เป็นต้น
เนื้อเรื่องสนุก เต็มไปด้วยความหวัง ภาพลายเส้นก็สวยและมีลายละเอียดมาก ไอซ์ชอบเรื่องนี้มากๆ ค่ะ พยายามหางานเขียนของนักเขียนคนนี้มาอ่านอีก แต่ก็หาไม่เจอเลย นอกจากอีกเรื่องซึ่งเก่ากว่า ชื่อ The Star ที่พูดเกี่ยวกับนักแสดง
ข้อที่ 2
10-4. [nikanda + PToNZ_PRiNZz] ตัวละครหรือฉากในดวงใจ: อ่านหนังสือที่มีตัวละครที่ชื่นชอบจะเป็นตัวเอก ตัวประกอบ หรือ ใครก็แล้วแต่หรือฉากไหนก็ได้ ที่ตรึงความรู้สึกได้ดี รีวิวหนังสือและ ความคิดเห็น ความรู้สึกที่มีต่อตัวละครคนพิเศษว่า ชอบเขาหรือเธอเพราะอะไร
หนังสือ : จอมคนทาเครุ (Haou Densetsu Takeru) ภาค 2 เรื่องและภาพโดย : Yuzaru Shinazaki จำนวน : 10 เล่มจบ
เนื้อเรื่องในภาคสองนี้เริ่มต้นหลังจากจบภาคแรกซึ่งทาเครุปราบมาคิได้ ตั้งตนเป็นราชา รวบรวมแคว้นต่างๆ สถาปนาเป็นประเทศโอโทริซึ่งมีแต่ความสงบสุขไปแล้ว 36 ปี
โอโทริ ทาเครุ ผู้ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นราชาในหมู่ราชาไม่ได้เป็นผู้ปกครองประเทศโอโทริแล้ว แต่กลับกลายเป็น "บุไร" ซึ่งยกตัวเองเป็นราชาองค์ที่สอง
บุไรนั้นเคยทำงานรับใช้ราชาทาเครุอยู่ช่วงหนึ่งค่ะ แต่ทำเลวไว้เยอะ แทนที่ทาเครุจะประหารเสีย แต่ดันเนรเทศไปแทนด้วยความใจดี แทนที่บุไรจะสำนึกบุญคุณ กลับไปซุ่มสร้างกองทัพใหม่ และใช้เล่ห์เหลี่ยมยึดครองอำนาจไปจนได้
บุไรไม่เหมือนทาเครุ เขาเป็นชายผู้ชั่วร้าย ไม่ได้ปกครองประเทศด้วยความรัก ไม่เห็นประชาชนภายใต้การปกครองเป็นมนุษย์ แต่เห็นเป็นเพียงสิ่งไร้ความหมายที่ให้เขาเหยียบย่ำ สร้างความสุขให้กับตัวเอง
ประชาชนเข้าสู่ยุคเข็ญ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ยากจน อดอยาก หิวโหย เต็มไปด้วยความทุกข์อีกครั้ง
"ทาเครุ" เติบโตมาในหมู่บ้านเล็กๆ ใช้ชีวิตแบบลูกชาวนาทั่วๆ ไปจนเติบใหญ่ จนกระทั่งวันหนึ่ง "ทาซึมิ ไก" ได้ตามหาเขาจนพบ และบอกว่า เขาเป็นรัชทายาทของราชาองค์ก่อน และก็ได้รับการยืนยันจาก "แม่" ที่เลี้ยงดูมา บอกความจริงก่อนตายเพราะถูกทหารของบุไรฆ่าว่า เธอเป็นคนรับใช้ของราชาทาเครุ และพาเขาซึ่งเป็นรัชทายาทหนีรอดออกมาได้
ทาเครุไม่ได้สนใจว่าเขามีสายเลือดของใคร แต่สิ่งที่เขาตั้งมั่นก็คือ บุไรเป็นคนเลว และจะต้องถูกขจัด
เนื้อเรื่องจะต่างจากภาคแรกตรงที่ภาคนี้จะเป็นสงครามการก่อกบฎของทาเครุรุ่นลูก เพื่อกำจัดบุไร และสร้างประเทศที่มีแต่ความสุขสงบอีกครั้ง
ตัวละครโปรดในเรื่องมีมากมายค่ะ แต่ขอโปรโมทพระเอกหน่อยละกัน
"โอโทริ ทาเครุ" รุ่นลูก
ทาเครุรุ่นลูกในภาคสองเป็นพระเอกที่ถูกใจกว่ารุ่นพ่อในภาคหนึ่งมากค่ะ ... ตอนอ่านภาคหนึ่งยังคิดอยู่ว่า ความอ่อนโยน เห็นใจ และขาดความเด็ดขาดของเขาจะต้องนำความเดือดร้อนและความล่มจมมาแน่ๆ เพราะเอาความดีสู้กับความเลวนั้น การมอบความไว้วางใจให้คนเลวกลับตัวนั้น ไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป
ทาเครุรุ่นลูกเติบโตแบบลูกชาวนา จึงออกจะห่ามๆ หยาบคายนิดๆ เป็นคนตรงไปตรงมา ใจดี อ่อนโยน แต่เข้มแข็งและเด็ดขาด มีความรักให้กับคนรอบข้าง เชื่อใจคนอย่างมีสติ กล้าคิด กล้าเสี่ยง และกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง กล้าหาญ รักเพื่อนพ้อง ให้ความสำคัญกับคนรอบข้าง รักประชาชนยิ่งกว่าตัวเอง ... แถมคนวาดยังวาดได้หล่อบึกบึนอีกต่างหาก 555 เรียกได้ว่า มีคุณสมบัติราชายิ่งกว่าทาเครุภาคหนึ่ง
ได้อารมณ์ผู้นำที่มีทั้งปัญญา มีทั้งสติ และความกล้าหาญ ที่สำคัญ...มีความรักแบบไม่เห็นแก่ตัวให้แก่ราษฎรและประเทศชาติจริงๆ ค่ะ ฮีโร่มากๆ ^^
ฉากที่ชอบมีเยอะมากๆ แต่ขอยกตัวอย่างฉากระหว่างทาเครุกับนางเอกก็แล้วกันค่ะ
นางเอกเรื่องนี้คือ "ซาร่า" ... เป็นลูกสาวคนเดียวของบุไร เธอเป็นคนที่สวย อ่อนโยน ใจดี ถูกเลี้ยงมาแบบไข่ในหิน บุไรสร้างภาพให้เธอคิดว่า ตัวเองเป็นคนดี ประเทศมีแต่ความสงบสุข จึงอ่อนต่อโลกมากๆ
พ่อของเธอส่งให้เธอไปแต่งงานกับเจ้าชายของประเทศชีน่า ((น่าจะเมืองจีน 555)) เพือต้องการให้ประเทศชีน่าช่วยปราบกบฎ แต่ระหว่างทางเดินทางไปที่ท่าเรือ ขบวนของเธอถูกโจรปล้น คนอื่นๆ ถูกฆ่าตายหมด ส่วนตัวเธอนั้นทาเครุช่วยเอาไว้ และจะพาไปส่งที่ท่าเรือ
ระหว่างการเดินทางเธอได้เห็นสภาพความเป็นจริงว่า บุไรพ่อของเธอเป็นพระราชาที่โหดเหี้ยมมากแค่ไหน ประชาชนอดอยากแร้นแค้น
ตอนที่เธอขึ้นเรือไปแล้ว เธอคิดได้ว่า การที่จะช่วยประชาชน คือการที่จะต้องอยู่ร่วมต่อสู้กับประชาชน ไม่ใช่ไปใช้ชีวิตสุขสมอยู่ต่างประเทศ เธอจึงจะกระโดดลงจากเรือเพื่อไปหาทาเครุ
เธอมองหน้าเจ้าชายประเทศชีน่า ยกดาบขึ้นตัดผมตัวเองทิ้ง และบอกว่า
"ตลอดมา ข้าคิดอยู่เสมอว่า ข้าจะทำอย่างไร จะทำยังไงได้บ้างเพื่อแผ่นดินเกิดของตัวข้าเอง ข้าเคยตัดสินใจไปครั้งหนึ่งแล้ว นั่นก็คือการไปเป็นภรรยาของท่าน เป็นคนประเทศของท่าน เพราะข้าคิดยับยั้งไม่ให้ท่านมารุกรานประเทศโอโทรินี้
แต่ว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิด ตอนนี้ข้ารู้ชัดแล้ว
ถ้าข้าไปไกลจากที่นี่ ข้าจะทำอะไรได้ มันก็มีแต่จะยิ่งขาดความรับรู้ ความทุกข์ยาก และไม่รู้ว่าคนที่นี่คิดอะไรกันบ้างเท่านั้น
ถ้ารักประเทศนั้นจริงๆ ละก็ ถ้าเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญละก็ ต้องไปอยู่ด้วยกัน รับรู้ความทุกข์ยากลำบากเดียวกัน ต้องร่วมกันเหนื่อย ร่วมกันหลั่งน้ำตา และร่วมต่อสู้"
เจ้าชายประเทศชีน่าตกตะลึงและพูดว่า
"ที่ประเทศของข้า ราษฎรกำลังเตรียมงานมงคลเพื่อราชินีแสนสวย ข้าเตรียมสร้างวังใหม่และนางกำนัลไว้หลายพัน ถ้าเจ้าอยู่กับข้า เจ้าจะได้ทุกสิ่งตามที่ต้องการ ถ้าเจ้าจะไปจริงๆ ละก็ ข้าจะนำทหารบุกประเทศของเจ้าเสียตอนนี้"
ซาร่าจ้องตาเขาและพูดว่า
"ถึงแม้โลกทั้งโลกจะตกอยู่ท่ามกลางกองเพลิง ข้าก็จะปกป้องความรักของข้าให้รอดพ้นจนได้"
แล้วเธอก็กระโดดลงจากเรือ ว่ายน้ำไปหาทาเครุ ~>_<~
....
ภาคสองยังมีประโยคและฉากที่น่าประทับใจอีกเยอะค่ะ
....
ตอนย้อนความหลังที่บุไรพยายามจะขืนใจชิโอริ และชิโอริไม่ยอม
ชิโอริบอกว่า "ที่จริงเจ้านั้นเก่งกาจอยู่ ถ้ามีความเก่งกาจนั้นอาจจะครองฟ้าได้ก็จริง แต่ว่า...ใจที่ไร้ความรักนั้นจะไม่มีทางสร้างอะไรได้ ตราบใดที่เจ้ายังไม่รู้จักความรัก เจ้าก็มีแต่จะทำลายตัวเองเท่านั้น"
...
ทาเครุพยายามเชิญเสนาธิกามาด้วยความยากลำบาก คือ อาโออิ ชิเม ... แต่...คนที่เชิญมาได้ไม่ใช่ตัวจริงค่ะ ทาเครุบอกกับเขาว่า
"จะตัวจริงหรือตัวปลอมยังไงก็ช่าง ข้าคิดว่าคนเราทุกคนเกิดมาในระนาบเดียวกัน จะต่างกันก็ตรงที่ใครจะพยายามวิ่งไปได้ไกลกว่ากันเท่านั้น คุณค่าของคนเราจะตัดสินกันที่ ใครจะสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการให้เป็นจริงได้แค่ไหน ถึงจะลำบากก็ต้องฝ่าฟัน คนที่ทำงานจนลุล่วงไปได้นั่นแหละ คือตัวจริง"
....
คำพูดของทาเครุตอนจบ
"ข้าเห็นบุไรแล้วก็รู้สึกได้ว่า สงครามมันเกิดขึ้นเพราะความโลภของคนเพียงคนเดียว ถ้าหากเราให้คนอื่นเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับตัวเองละก็ ถ้าหากทำให้เค้ารู้สึกถึงความรักในฐานะมนุษย์ที่อยู่ร่วมบนโลกเดียวกันละก็ ตอนนั้นแหละ มนุษย์ก็จะสามารถกำสันติภาพที่แท้จริงในมือได้
สันติภาพตลอดกาล ข้าเชื่อว่ามันไม่ใช่แค่ความฝัน แต่เป็นความจริงที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้"
....
ยิ่งใหญ่เนอะ ^^
ไอซ์ชอบภาคสองมากกว่าภาคหนึ่งค่ะ อยากให้ได้อ่านกันจัง >_<
ดู Index รายชื่อหนังสืออื่นๆ ที่ไอซ์ได้รีวิวไปแล้วตามลิงก์ข้างล่างค่ะ
- หนังสือภาษาอังกฤษ Index Bookshelf : English Books
- หนังสือแปล Index Bookshelf : Translated Books
- หนังสือภาษาไทย Index Bookshelf : Thai Books
Create Date : 21 เมษายน 2553 |
|
12 comments |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2553 10:25:53 น. |
Counter : 6844 Pageviews. |
|
|
|