เรื่อง : LIFEscan มากกว่าที่ตาเห็นเขียนโดย : ผมอยู่ข้างหลังคุณปกหลังเขียนไว้ว่า..."ความเจ็บป่วยทางกาย" อาจตรวจวัดได้ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์สมัยใหม่ แต่ "ความทุกข์ทางใจ" ยังไม่มีเครื่องมือทางการแพทย์ชนิดไหนตรวจวัดได้ต่อให้อีกร้อยปีข้างหน้า เทคโนโลยีจะทันสมัยเพียงใด มนุษย์ก็ยังจำเป็นต้ออาศัยมนุษย์ด้วยกันไต่ถามสารทุกข์สุขดิบ เห็นอกเห็นใจ และพึ่งผู้เชี่ยวชาญเพื่อสืบเสาะปมความทุกข์เหล่านั้น....สำหรับคนที่เล่นเวปบอร์ดพันทิป โดยเฉพาะห้องเฉลิมไทย ก็น่าจะคุ้นชื่อของคุณหมอชื่อหลอนๆ ว่า ผมอยู่ข้างหลังคุณ กันบ้างนะคะผู้เขียน...ผมอยู่ข้างหลังคุณจบแพทย์ศาสตร์ จบวุฒิบัตรเฉพาะทางด้านจิตเวชทั่วไป และจิตเวชด้านเด็กและวัยรุ่น ผู้เขียนได้ตั้งกระทู้รีวิวหนังและกระทู้เกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ โดยหลายครั้งได้ใช้มุมมองด้านจิตวิทยาเข้ามาร่วมด้วย ... คุณผมอยู่ข้างหลังคุณรีวิวหนังถูกใจไอซ์ค่ะ เพราะหลายๆ ครั้งก็คิดแบบนั้นแหละ แต่เขียนไม่ได้ดีแบบนั้น ฮา กระทู้อื่นๆ ของคุณผมอยู่ข้างหลังคุณน่าสนใจนะคะ คุณผมอยู่ข้างหลังคุณออกหนังสือมา 4 เล่มแล้ว ไอซ์เลือกเล่มนี้ซึ่งเป็นเล่มล่าสุดมาอ่านเป็นเล่มแรก ((เล่มอื่นๆ ยังดองอยู่เลย ชอบอ่านของใหม่ ฮา))LIFEscan มากกว่าที่ตาเห็น เขียนโดยใช้ "ผม" ซึ่งผู้เขียนอุปโลกว่าเขียนบทความให้นิตยสาร LIFEscan ได้เดินทางไปรอบโลก ข้ามผ่านกาลเวลาไปสัมภาษณ์ตัวละครต่างๆ จากภาพยนตร์ถึงชีวิตของเขา และนำเอาจิตวิทยาเข้ามาวิเคราะห์ไอซ์ขอพูดถึงหนังสือเล่มนี้เป็นสองส่วนค่ะส่วนแรก - การอธิบายชีวิตของตัวละครจากภาพยนตร์ต่างๆ ด้วยจิตวิทยา ไอซ์ชอบไอเดียมากๆ ค่ะ การนำชีวิตของตัวละครมาเป็นกรณีศึกษาทำให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน ผู้เขียนอธิบายโรคต่างๆ ด้วยภาษาง่ายๆ อ่านแล้วก็เข้าใจง่าย และถ้าใครสนใจอะไร ก็สามารถนำคีย์เวิร์ดไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้อีกไม่ยากคนอ่านไม่จำเป็นต้องดูหนังทุกเรื่องที่ผู้เขียนใช้มาเป็นตัวอย่างก็อ่านได้เข้าใจค่ะ อย่างไอซ์เองเคยดูอยู่ไม่กี่เรื่องเอง บางเรื่องอาจรู้ข้อมูลเพราะเคยอ่านหนังสือมาบ้างเท่านั้น แต่อ่านจบแล้วก็อยากหาอีกหลายๆ เรื่องมาดูนะคะตรงส่วนนี้ไอซ์คิดว่าผู้เขียนทำได้ดีเลยล่ะ บางบทความอ่านแล้วคุ้นๆ เหมือนเคยอ่านจากกระทู้แล้ว แต่ผู้เขียนก็นำมาขัดเกลาให้เหมาะกับการตีพิมพ์เป็นหนังสือค่ะส่วนที่สอง - การสร้าง "ผม" และคนรอบข้างขึ้นมาดำเนินเชื่อมต่อบทความส่วนตัวไอซ์อ่านแล้วทะแม่งๆ นิดหน่อย ฮา ... อาจเป็นเพราะ "รู้" อยู่แล้วว่า มันเป็นไปไม่ได้ ทำให้อ่านแล้วลึกๆ รู้สึกต่อต้านเล็กน้อยในส่วนของ "ผม" และคนรอบข้าง อย่าง เก๋ แม่ พี่สาว ฯลฯ ผู้เขียนดูเหมือนจะสร้างเป็น "เรื่องราว" ขึ้นมาซ้อนอีกทีหนึ่ง ซึ่ง...ตรงส่วนนี้แหละ ที่ไอซ์เอาเขียนเป็นหัวบล็อกว่า "ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว น่าจะเขียนให้เป็นเรื่องไปด้วยเลยนะ"คือ...ผู้เขียนได้ "สร้าง" ตัวละครเหล่านี้ให้ออกมาโลดแล่นในหนังสือแล้ว แต่ก็ปล่อยให้มันลอยๆ อยู่อย่างนั้น ไม่มีการเชื่อมต่อ ไม่มีความสัมพันธ์ ไม่มีบทสรุป เข้าใจว่าผู้เขียนสร้างตัวละครเหล่านี้มาเพื่อสร้างบทสนทนาให้ดึงเข้าหาบทความที่จะเขียนเกี่ยวกับตัวละครเป็นหลัก แต่...อ่านแล้วอดรู้สึกไม่ได้ว่า แล้วจะสร้างมาทำไม((ฟะ))เนี่ย ไม่มี "ความจำเป็น"จะต้องสร้างขึ้นมา มันเป็นความฟุ่มเฟือยที่ใช้ไม่คุ้มค่ะ ฮาส่วนตัวแล้วคิดว่า ถ้าผู้เขียนนำเรื่องราวของ "ผม" "เก๋" และคนอื่นๆ ในเรื่องมาผูกเป็นเรื่องให้แน่นกว่านี้ หนังสือเล่มนี้โดยรวมจะน่าประทับใจกว่านี้ค่ะ จุดเริ่มต้นมีแล้วค่ะ แต่ไม่มีจุดสิ้นสุด บทสุดท้ายก็ปล่อยให้มันลอยๆ จบแบบงงๆ ด้วยเรื่องของแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์ซะงั้น...สรุปว่า ... ชอบในส่วนของบทความมากค่ะ อ่านแล้วมองอะไรได้กว้างขึ้น เปิดมุมมองใหม่ๆ ดี แต่สำหรับในส่วนของ "ตัวละคร" กลายเป็นจุดอ่อนของหนังสือเล่มนี้ในความรู้สึกของไอซ์ เพราะรู้สึกว่ามันลอย เวลาอ่านเกิดความรู้สึกขัดแย้งอยู่ตลอดว่า "มันไม่สมจริง" ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ อาจจะเป็นเพราะไอซ์เป็นคนเขียนนิยายก็ได้ค่ะ มองอะไรเป็นพล็อตไปหมด ฮาแต่โดยรวมก็ชอบหนังสือเล่มนี้นะคะ แนะนำสำหรับคนชอบอ่านบทความด้านจิตวิทยาแบบง่ายๆ มีข้อคิดดีๆ ค่ะ ^^
ปล.หนังสือที่อ่านห้องน้ำคือ "การ์ตูน" เพราะธรไม่สามารถอ่านนิยายได้ในห้องน้ำ เพราะว่ามันจะนานเป็นชั่วโมง 55+