หนังสือ : Altar of Edenผู้เขียน : James Rollins สนพ. : Orion (14 Oct 2010) จำนวนหน้า : 402 หน้าภาษา : อังกฤษ บนปกหน้าณ จุดเริ่มต้นนั้นคือจุดจบ...รายละเอียดจากปกหลังเมื่อสัตวแพทย์ ลอร์นา โพล์ค (Lorna Polk) ถูกเรียกตัวจากห้องวิจัยไปที่เกิดเหตุเรือจับปลาล่ม เธอแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เธอได้พบ บนเรือเต็มไปด้วยสัตว์แปลกๆ จากต่างประเทศ เห็นได้ชัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการลักลอบค้าสัตว์ แต่มีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับสัตว์เหล่านี้ พวกมันต่างมี "ความพิการ" ที่แปลกประหลาด อย่างเช่น นกแก้วไร้ขน ลิงแฝดตัวติดกัน งูหลามมีขา พวกมันมีอะไรที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือ ความฉลาดเฉลียวที่เกินสัตว์เพื่อที่จะค้นหาความจริงเกี่ยวกับต้นตอของการขนส่งสัตว์ครั้งนี้ และความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวกับการก่อการร้าย ลอร์นาจะต้องร่วมมือกับแจ็ค มีนาร์ด (Jack Menard) ชายหนุ่มผู้ที่รับรู้อดีตดำมืดของเธอ ทั้งสองจะต้องแก้ปริศนาที่ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นแห่งมวลมนุษยชาติ แต่พวกเขาจะสามารถจะหยุดสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นที่แท่นบูชาแห่งอีเดนได้หรือไม่จากไอซ์ :สารภาพว่าแอบหงอยนิดหน่อยกับ Altar of Eden เพราะอยากอ่านชุด Sigma ต่อแล้วอะค่ะ รอคอยจนคอยืดยาว เล่มสุดท้ายที่รีวิวไปก็คือ The Doomsday Key สนุกมากกกกก >_< อยากอ่านต่อใจจะขาดรอนๆ ((เข้าใจนักอ่านที่เร่งให้ไอซ์เขียนภาคต่อของเล่มที่ออกไปแล้วเลยทีเดียว ฮา)) สำหรับเล่ม Altar of Eden จะเป็นเล่มเดี่ยวๆ แนวจะย้อนกลับไปสมัยที่พี่จิม ((James Rollins)) ยังไม่ได้เขียนชุด Sigma ก็เลยจะเป็นการบู๊สนั่นค่ะ และเล่มนี้ตัวเอกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ ซึ่งเป็นอะไรที่พี่จิมซึ่งเป็นสัตวแพทย์อยากเขียนมานานแล้ว ^^เนื้อเรื่องจะเป็นประมาณปกหลัง ไม่มีอะไรพลิกผันหรือมีการแก้รหัสเหมือนชุด Sigma ... ลอร์นาเป็นนักวิจัยที่ชำนาญด้านสัตว์จากต่างประเทศถูกแจ็คซึ่งเป็น Boarder Control เนื่องจากมีเรือหาปลาล่ม และในนั้นมีสัตว์แปลกๆ มากมาย สัตว์ที่ดูเหมือนว่าพันธุกรรมจะย้อนกลับไป อย่างเช่น นกแก้วไร้ขน งูมีขา หรือเสือเขี้ยวดาบ แต่มีความเฉลียวฉลาดมากขึ้น ปัญหาก็คือ...มีเสือเขี้ยวดาบหลุดหายออกไป ลอร์นาและแจ็คจึงช่วยกันตามหา ระหว่างนั้นก็มีกลุ่มคนเข้ามาขัดขวาง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะทำลายหลักฐานให้หมด และกำจัดทุกคนที่รู้เรื่องนี้ลอร์นาและแจ็คจึงต้องร่วมมือกันไขปริศนาว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมของสัตว์เหล่านี้ย้อนการวิวัฒนาการ และทำไปเพื่ออะไรถ้าเทียบกับชุด Sigma แล้ว พล็อตมีความซับซ้อนน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เน้นธีมเรื่องธีมเดียวแล้วก็มีการบู๊แหลกเหมือนกับผลงานสมัยก่อนของพี่จิม รู้สึกว่าสำหรับเรื่อง Altar of Eden นี้ พี่จิมจะใจดีกับตัวละครมากกว่าชุด Sigma ชุดนั้นตายเป็นตายกันง่ายๆ ชุดนี้ยังพอมีรอดอยู่เยอะ ฮาสำหรับเรื่องวิทยาศาสตร์ที่นำมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับคลื่นสมองของคนและสัตว์ที่คล้ายๆ กับคลื่นแม่เหล็ก น่าสนใจทีเดียว ^^อ่านสนุกเพลิดเพลินและได้ความรู้เช่นเคยค่ะ เอาเป็นว่า...สำหรับนักเขียนคนโปรด เขียนอะไรก็ดีไปหมดค่ะ 555 แต่อยากอ่านชุด Sigma มากกว่าจริงๆ นะ >_<แน่นอนว่าท้ายเล่ม พี่จิมจะมีสรุปว่ามีอะไรที่เป็นข้อมูลจริงและมีอะไรที่เป็นเรื่องแต่ง ซึ่งส่วนมากก็เป็นข้อมูลจริงทั้งนั้น พร้อมกับบอกหนังสืออ้างอิงเช่นเคย ก็เลยเอามาลงไว้ด้วยค่ะ- เกี่ยวกับการฟื้นฟูสวนสัตว์ในกรุงแบกแดกBabylon's Ark: The Incredible Wartime Rescue of the Baghdad Zoo- ความสัมพันธ์ระหว่างคนและสัตว์The Parrot Who Owns Me: The Story of a Relationship- บทความเกี่ยวกับงูมีขาในประเทศจีน ซึ่งบ่งชี้ว่าการย้อนวิวัฒนาการนั้นสามารถเกิดขึ้นได้//www.telegraph.co.uk/earth/wildlife/6187320/Snake-with-foot-found-in-China.html- และอีกหัวข้อที่ไอซ์คิดว่าน่าสนใจมากๆ ก็คือเรื่อง Fractalสปอยล์ :- ลอร์นาเคยเป็นแฟนกับทอม น้องชายของแจ็คมาก่อน อดีตเมื่อตอนลอร์นาอายุ 15 เธอท้องและไปทำแท้งเถื่อน ... ตอนที่เธอออกมาจากคลีนิค เธอเกือบถูกข่มขืน แต่แจ็คมาช่วยเอาไว้ บอกให้เธอขับรถพาทอมซึ่งกำลังเมาหนีไป แต่เกิดอุบัติเหตุทอมตาย ลอร์นาและแจ็คปิดเรืองนี้กับครอบครัวของแจ็คเอาไว้- กลุ่มคนที่ทำการทดลองนั้นเป็นพวก freelance ที่ทำวิจัยด้านอาวุธให้กับรัฐบาลสหรัฐ ตอนแรกก็เริ่มทดลองกับสัตว์ก่อน โดยได้เชื้อไวรัสซึ่งเข้าไปเพิ่ม DNA ได้มาจากอิรัก ทำให้สัตว์ทั้งหมดมี DNA พิเศษเกินมาหนึ่งคู่ ... หลังจากนั้นก็ทดลองกับคน ทำให้ย้อนกลายเป็นคนสมัยก่อนยุคหิน ((ออกแนวใกล้ๆ กับลิง)) ... สมองของสัตว์-คนทั้งหมดถูกเชื่อมต่อกันด้วยพลังคลื่นสมอง เหมือนกับกลายเป็นสมองของสิ่งมีชีวิตเพียงอย่างเดียว คนและสัตว์เคลื่อนไหวโดยมีจุดสั่งการและจุดประสงค์อย่างเดียว- ลอร์นาถูกจับไป แจ็คกับทีมก็เลยตามไปช่วย- การทดลองที่ทำนั้นโหดร้ายกับสัตว์-คนมากๆ แถมยังแยกลูกอ่อนไปอีก พวกนี้ก็เลยต้องการเอาลูกอ่อนคืน ... ตอนแจ็คไปช่วยลอร์น่าก็เลยได้พวกนี้ช่วยด้วย ... เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยลุ้นนิดนึง ง่ายไปหน่อย ฮา- จบค่อนข้างจะแฮปปี้มากๆ เลย เกาะระเบิดพร้อมกับสัตว์-คนทดลอง เด็กที่ถูกทดลองหนีออกมาได้ และได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ซึ่งผู้ให้ทุนทดลองที่ตอนหลังกลับใจช่วยออกทุนให้- ลอร์นากับแจ็ค...อ่า...รักกันตอนไหนหว่า 555 เข้าใจในสถานการณ์ที่ทำให้คนผูกพันกันง่ายๆ นะคะ แต่รู้สึกว่าบทระหว่างสองคนนี้น้อยไปหน่อยสำหรับที่จะรักกันตอนจบน่ะค่ะ ^^
สปอยล์ :- ลอร์นาเคยเป็นแฟนกับทอม น้องชายของแจ็คมาก่อน อดีตเมื่อตอนลอร์นาอายุ 15 เธอท้องและไปทำแท้งเถื่อน ... ตอนที่เธอออกมาจากคลีนิค เธอเกือบถูกข่มขืน แต่แจ็คมาช่วยเอาไว้ บอกให้เธอขับรถพาทอมซึ่งกำลังเมาหนีไป แต่เกิดอุบัติเหตุทอมตาย ลอร์นาและแจ็คปิดเรืองนี้กับครอบครัวของแจ็คเอาไว้- กลุ่มคนที่ทำการทดลองนั้นเป็นพวก freelance ที่ทำวิจัยด้านอาวุธให้กับรัฐบาลสหรัฐ ตอนแรกก็เริ่มทดลองกับสัตว์ก่อน โดยได้เชื้อไวรัสซึ่งเข้าไปเพิ่ม DNA ได้มาจากอิรัก ทำให้สัตว์ทั้งหมดมี DNA พิเศษเกินมาหนึ่งคู่ ... หลังจากนั้นก็ทดลองกับคน ทำให้ย้อนกลายเป็นคนสมัยก่อนยุคหิน ((ออกแนวใกล้ๆ กับลิง)) ... สมองของสัตว์-คนทั้งหมดถูกเชื่อมต่อกันด้วยพลังคลื่นสมอง เหมือนกับกลายเป็นสมองของสิ่งมีชีวิตเพียงอย่างเดียว คนและสัตว์เคลื่อนไหวโดยมีจุดสั่งการและจุดประสงค์อย่างเดียว- ลอร์นาถูกจับไป แจ็คกับทีมก็เลยตามไปช่วย- การทดลองที่ทำนั้นโหดร้ายกับสัตว์-คนมากๆ แถมยังแยกลูกอ่อนไปอีก พวกนี้ก็เลยต้องการเอาลูกอ่อนคืน ... ตอนแจ็คไปช่วยลอร์น่าก็เลยได้พวกนี้ช่วยด้วย ... เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยลุ้นนิดนึง ง่ายไปหน่อย ฮา- จบค่อนข้างจะแฮปปี้มากๆ เลย เกาะระเบิดพร้อมกับสัตว์-คนทดลอง เด็กที่ถูกทดลองหนีออกมาได้ และได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ซึ่งผู้ให้ทุนทดลองที่ตอนหลังกลับใจช่วยออกทุนให้- ลอร์นากับแจ็ค...อ่า...รักกันตอนไหนหว่า 555 เข้าใจในสถานการณ์ที่ทำให้คนผูกพันกันง่ายๆ นะคะ แต่รู้สึกว่าบทระหว่างสองคนนี้น้อยไปหน่อยสำหรับที่จะรักกันตอนจบน่ะค่ะ ^^
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
เล็งแล้วเล็งอีก 5555
แต่เห็นรูปงูมีขาแล้วกลับรู้สึกสงสารมากกว่านะเนี่ย